เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 534 เด็ก? / ตอนที่ 535 เธอยอมรับแล้ว
ตอนที่ 534 เด็ก?
เขาขมวดคิ้ว พยายามที่จะทำให้ตัวเองสงบลง
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถกำจัดความร้อนใจที่มีอยู่ได้เลย ทำให้เขารู้สึกอยากจะโยนคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกไปให้หมด
แต่ไม่ทันไรเขาก็ต้องเปลี่ยนความคิด
กลุ่มหมอที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา มีคนๆหนึ่งอุทานขึ้นมาเบาๆ ถึงแม้ว่าเสียงจะเบา แต่เขาก็ได้ยินมันในทันที เข้าสาวเท้ายาวเข้าไป จ้องไปยังคนๆนั้นแล้วเอ่ยถาม “มีอะไร?”
สีหน้าของหมอแต่ละคนดูไม่สู้ดีนัก พวกเขามองหน้ากัน ไม่กล้าพูดออกมาสักที
สีหน้าของชายหนุ่มเย็นชาขึ้นทันที “พูดความจริงออกมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
หมอคนหนึ่งในกลุ่มที่มีความกล้ามากที่สุดถึงได้พูดออกมา “หญิงสาวคนนี้…มีภูมิคุ้มกันที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ดังนั้นจึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ ถ้ายังเป็นแบบนี้ละก็ อาจจะ…อาจจะส่งผลต่อเด็กที่อยู่ในท้องของเธอด้วยครับ”
“เด็ก?”
วินาทีนั้น หมอคนนั้นได้เห็นกับตาว่าพอชายหนุ่มได้ฟังสิ่งที่ตนเองพูดแล้วสีหน้าของเขาก็ดูน่ากลัวขึ้นมาทันที ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากนี้เขาจะต้องฉีกตนออกเป็นชิ้นๆแน่
ตนกลืนน้ำลายลงคงเงียบๆ และอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลัง
ร่างทั้งร่างของชายหนุ่มแผ่ไอความเย็นออกมา และค่อยๆเดินเข้ามาตรงหน้าตน เสียงที่เต็มไปด้วยแรงกดดันดังขึ้นข้างหูตนเอง “คุณกำลังจะบอกว่าในท้องของเธอมีเด็กอยู่งั้นเหรอ?”
เตนพยักหน้าให้อย่างยากลำบาก “ใช่…ใช่ครับ ตรวจดูแล้วอายุครรภ์น่าจะราวๆสามเดือนแล้ว แต่เนื่องจากร่างกายของคนเป็นแม่ที่ไม่ค่อยแข็งแรง จึงทำให้เกิดสภาวะตกเลือด ถ้าหากว่าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจจะทำให้เธอแท้งได้ครับ”
ตนสามารถเชิญคนที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาได้ ความสามารถของผู้เชี่ยวชายไม่มีอะไรที่ต้องสงสัย ดังนั้นถึงแม้ว่าจะถูกสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าควบคุมอยู่ แต่พอได้พูดถึงความสามารถของตนเองขึ้นมาแล้วก็ทำให้ลืมความกลัวไปได้ และพูดออกไปอย่างที่อยากพูด
ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆเฉียวซือมู่ ดวงตาสีเข้มจ้องมองไปที่เธอ ในใจมันรู้สึกสับสนไปหมด
เขาพยายามหาโอกาสที่จะคว้าเธอมาอยู่ข้างกาย ที่จริงเขาควรที่จะดีใจสิ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเซอร์ไพรส์เขากลับด้วยเรื่องแบบนี้
ในนาทีนี้ หัวใจของเขามันเหมือนถูกฉีกคราดเป็นชิ้นๆอย่างเจ็บปวด
กลุ่มหมอที่อยู่ข้างหลังเขาหันหน้าเข้าหากัน และพอที่เดาออกถึงความเงียบของเขา คนที่กล้าที่สุดในกลุ่มจึงเอ่ยขึ้นเบาๆข้างหูเขา “ถึงแม้ว่าตอนนี้เด็กในท้องจะเริ่มโตแล้ว แต่ว่าหากจะทำการผ่าตัดก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้นะครับ…”
ตนไม่ได้พูดออกไปตรงๆ แต่ชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็พอจะเข้าใจในความหมาย
เขามองมองไปที่เธออย่างไม่ลดละ ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจ
“พวกคุณเตรียมตัวเถอะ ต้องรักษาเธอให้ดีที่สุด” พูดจบก็เงียบไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดต่อด้วยความยากลำบาก “รวมถึงเด็กในท้องด้วย”
พูดจบก็ทำตัวเหมือนว่าไม่อยากจะเห็นเฉียวซือมู่อีก เขาเดินออกจากห้องไป ไม่ทิ้งความอาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย
หมอทั้งกลุ่มหันหน้าเข้าหากัน รู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินนัก สองหูของพวกเขาใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินเรื่องภายนอก แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าเด็กที่อยู่ในท้องของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงนั่นไม่ใช่ลูกของเขา แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอก็ไม่ใช่สิ่งที่มองออกยาก ดังนั้นในใจของพวกเขาจึงพร้อมที่จะทำการผ่านตัดให้กับเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะได้ยินอะไรแบบนั้น?
รักษาเธอ และเด็กงั้นหรือ?
พวกเขาได้แต่มองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลยสักอย่าง สุดท้ายหนึ่งในหมอที่มีประสบการณ์มากที่สุดก็เอ่ยเตือนขึ้น “พอแล้ว เจ้านายพูดอย่างไรก็ทำตามนั้น เร็วเข้า ถ้าเลือดของยังไหลอยู่แบบนี้ละก็เด็กคงไม่รอดเข้าจริงๆ”
ตอนที่ 535 เธอยอมรับแล้ว
แค่ประโยคเดียวก็สามารถเรียกสติของทุกคนได้ พวกเขารีบดำเนินการทันที ใครมีหน้าที่หยิบยาก็หยิบ ใครมีหน้าที่ปรุงยาก็ทำไป ห้องทั้งห้องมีความเร่งรีบขึ้นมาทันที
แต่เฉียวซือมู่กลับนอนนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวจนแทบจะมองทะลุได้ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ราวกับว่าแม้จะสลบไปแล้วแต่ก็ยังมีแต่ความเจ็บปวด
ในขณะที่ฝั่งนี้กำลังวุ่นวาย แต่ในบ้านของจิ้นหยวน ในห้องรับแขกที่แสนสวยงาม แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดันจนน่ากลัว
หลังจากที่จิ้นหยวนได้รับสายที่ดูร้อนใจไม่น้อยของผู้ดูแลบ้านเขาก็รีบกลับมาทันที แต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าว
ตอนเขาเข้ามาถึงในบ้านก็เจอแต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสะใจของผู้เป็นมารดา แต่กลับไร้ซึ่งร่องรอยของเฉียวซือมู่
ในนาทีนั้น เขานึกถึงเรื่องที่ได้ยินจากผู้ดูแลบ้าน สีหน้าของเขามันเรียบเฉยเสียจนน่ากลัว
“แม่ เธอละครับ?”
ฉินเพ่ยหรงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงใหญ่ของลูกชาย ในใจรู้สึกแค่ว่าความรู้สึกเบื่อหน่ายที่ทนมานานในที่สุดก็มลายหายไปสักที รู้สึกสบายสุดๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเห็นว่าสีหน้าของจิ้นหยวนกำลังดูไม่ดีแต่ก็ไม่ใส่ใจ ได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็เอ่ยตอบเรียบๆ “เธอไปแล้ว”
“ไปแล้ว? ไปไหนครับ?”
“แม่จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ” ฉินเพ่ยหรงมองเขาแวบหนึ่ง พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ผู้หญิงแบบนั้นลูกจะไปสนใจอีกทำไม? เธอขโมยข้อมูลของบริษัทลูกไปให้ประธานบริษัทฉีซื่อ แถมยังไปมีความสัมพันธ์กับมันอีก แม้แต่เด็กในท้องก็ไม่ใช่ของลูก แล้วตอนนี้ยังจะมาถามหาผู้ไร้ยางอายแบบนั้นกับแม่อีกเหรอ?”
จิ้นหยวนจ้องมารดาตัวเองเขม็ง ในแววตานั่นเหมือนกำลังมีคลื่นลูกใหญ่กำลังก่อตัวขึ้น เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนน่ากลัว “ใครเป็นคนบอกเรื่องพวกนี้กับแม่? ทำไมเรื่องที่แม่พูดผมถึงไม่รู้เลยสักอย่าง?”
แววตาของเธอเริ่มมีความลุกลี้ลุกลนขึ้นมาเล็กน้อย เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะข้างๆ “ลูกสนใจว่าแม่ไปรู้เรื่องพวกนี้มากจากไหนงั้นเหรอ ลูกน่ะเหรอจะไม่รู้? ไม่รู้งั้นเหรอว่าเมื่อคืนลูกทะเลาะกับแม่นั่นเพราะอะไร?”
จิ้นหยวนค่อยๆเดินเข้าไป แล้วจ้องไปที่เธอตรงๆ “แม่ซื้อคนรับใช้ของผมงั้นเหรอ?”
ไม่อย่างนั้นเธอจะรู้ไดยังไงว่าเมื่อคืนเขากับเฉียวซือมู่ทะเลาะกัน?
ฉินเพ่ยหรงตะลึงงัน สีหน้าเริ่มเผยความหวั่นใจออกมา “ทำไมถึงได้พูดแบบนั้น ลูกเป็นลูกของแม่ หรือว่าแม่จะถามเรื่องทั่วๆไปในชีวิตของลูกไม่ได้งั้นเหรอ? ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จริงจังกับลูกเลยด้วยซ้ำ แต่ลูกก็ยังหลงเธออีก แล้วการที่แม้จะเป็นห่วงลูกมันผิดนักหรือไง?”
“ผมไม่ได้บอกว่ามันผิด” จิ้นหยวนสูดหายใจเข้าลึก และพยายามอธิบายให้เธอฟัง “ถ้าแม่อยากรู้อะไรก็ถามผมได้ จะมาแอบซื้อคนของผมเพื่อให้คอยรายงานแบบนี้ไปทำไม? ถ้าเรื่องพวกนี้มันรู้ไปถึงข้างนอกจะทำยังไง?”
“แล้วจะกลัวอะไรล่ะ ลูกเป็นลูกของแม่ แม่จะถามอะไรแล้วมันจะทำไมกัน? แล้วอีกอย่าง แม่ก็จัดการกับผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปลูกก็เป็นอิสระ แล้วแม่จะแนะนำผู้หญิงที่ดีกว่านี้ให้ก็แล้วกัน” พูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป
ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าตอนเขากลับมาแล้วไม่เจอใครจนสั่งคนไปตามหาเธอละก็ เธอก็คงไม่มานั่งรอจนเขากลับมาแบบนี้
จิ้นหยวนได้ยินแบบนั้นหนังตามันก็กระตุก คำพูดนั้นมันหมายความว่ายังไง? อะไรคือจัดการเรียบร้อยแล้ว?
เขาก้าวเท้ายาวเข้าไป และดึงตัวเธอเอาไว้ “แม่ช่วยพูดให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไหม ว่าทำไมเด็กในท้องของเธอถึงไม่ใช่ลูกของผม แล้วตกลงเธอไปไหนกันแน่?”
ฉินเพ่ยหรงมองลูกชายที่สูงกว่าตัวเอง ใบหน้าเผยสีหน้าที่แสนเข้มงวดขึ้น เป็นใบหน้าที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก “ลูกดูตัวเองสิ จนถึงตอนนี้ลูกก็ยังเอาแต่ถามหาเธอ แม่จะบอกให้รู้ไว้นะ แม่นั่นบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าเด็กนั่นไม่ใช่ลูกของลูก แม่นั่นยอมรับเอง ลูกเองก็ควรจะตัดใจได้แล้วนะ”