เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 540 แฟนสาวของคุณช่างมีความสุข / ตอนที่ 541 ที่นี่คือคฤหาสน์ของคุณฉี
- Home
- เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย
- ตอนที่ 540 แฟนสาวของคุณช่างมีความสุข / ตอนที่ 541 ที่นี่คือคฤหาสน์ของคุณฉี
ตอนที่ 540 แฟนสาวของคุณช่างมีความสุข
ความกังวลใจที่มีนั่นทำเอาเขาที่มองดูอยู่รู้สึกเจ็บขึ้นมา เขารีบเบนสายตาหนี ไม่อย่างนั้นแล้วเจาก็กลัวว่าตัวเองจะพรั่งพรูทุกสิ่งทุกอย่างออกมาแน่ๆ
“ติดต่อเขาอย่างนั้นเหรอ?” ในใจของเธอมันร้อนขึ้นมาอีกครั้ง แต่พอนึกถึงฉินเพ่ยหรงที่มีรูปร่างหน้าตาสง่างามแต่มีคำพูดคำจาที่แสนร้ายกาจในตอนนั้นแล้ว หัวใจของเธอมันก็เย็นเฉียบขึ้นมาอีก
เธอส่ายหน้า “ไม่ ไม่ต้องบอกเขาหรอกค่ะ”
พอเธอพูดจบก็เห็นได้ทันทีว่าสีหน้าของเขามีความงุนงงแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา
เขาพยักหน้า “โอเคครับ ผมเคารพในการตัดสินใจของคุณ แต่ถ้าวันไหนคุณเปลี่ยนความคิด ก็บอกผมได้ ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ”
ในใจของเธอมันรู้สึกซาบซึ้งชายหนุ่มที่แสนอบอุ่นตรงหน้านี้มาก เธอตอบ “ค่ะ” ออกไปเบาๆ
เขาลุกขึ้นยืน แล้วลูบศีรษะของเธอ จากนั้นก็หันไปรินน้ำใส่แก้ว
เธอรับมันมาแล้วดื่มเข้าไปทีเดียวรวด ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมายาว
เขาเห็นเธอรีบร้อนดื่มลงไปแบบนั้นแล้ว ก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา “ผมขอโทษ เมื่อกี้ไม่ทันได้คิด ผมน่าจะเทให้คุณเร็วกว่านี้”
เธอส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ ได้ดื่มตอนนี้ก็เหมือนกัน” พูดจบก็มองๆเขา แล้ววางแก้วไว้ด้านข้าง จากนั้นก็พูดขึ้นเล่นๆ “เห็นคุณเอาอกเอาใจแบบนี้ ใครได้เป็นแฟนสาวของคุณจะต้องโชคดีมากๆแน่เลยค่ะ”
เขายิ้ม แววตาไร้การแสดงใดๆ และพูดตอบเธอ “ตอนนี้ร่างกายคุณยังไม่ค่อยแข็งแรง ต้องพักผ่อนเยอะๆ อย่างนั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า ถ้าคุณมีเรื่องอะไร ก็เรียกคนได้เลยนะครับ” พูดจบเขาก็ชี้ไปที่ปุ่มกดตรงหัวเตียง
เฉียวซือมู่ยิ้มให้เขา แล้วกล่าวขอบคุณ
พอได้พูดคุยไปสักพักหนึ่งแบบนี้แล้ว เธอก็เริ่มที่จะเวียนหัวขึ้นมาจริงๆ จึงเอนตัวนอนลง ฉีหย่วนเหิงช่วยห่มผ้าห่มให้เธอ พอเห็นว่าเธอหลับตาลงแล้ว ถึงค่อยๆเดินออกมาจากห้อง
ที่หน้าประตูนั่นมีคนยืนรอเขาอยู่แล้ว
พอเขาเดินออกมานอกห้อง สีหน้าของเขาก็กลับมาเย็นชาเหมือนอย่างที่ลูกน้องและคนรับใช้เป็นเป็นประจำเหมือนเดิม เขากวาดตามองคนตรงหน้า “มีอะไร?”
ลูกน้องของเขาก็ไม่ได้แปลกใจกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขาแม้แต่น้อย เดินขึ้นไปแล้วพูดกับเขาเบาๆ
พอเขาฟังจบสีหน้าก็เปลี่ยนทันที หันหน้ากลับไปองประห้องที่ปิดสนิทห้องนั้น ก่อนจะพูดกับคนตรงหน้า “ตามฉันมา”
ในห้องหนังสือ ฉีหย่วนเหิงมองไปที่ชายคนนั้นแล้วพูดเสียงเข้ม “เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้มาให้หมด”
“ครับ!”
หลังจากที่เขาเดินออกจากประตูไปแล้วเฉียวซือมู่ก็พลิกตัวลงจากเตียง ถึงแม้ว่าบนเตียงมันจะสบาย ถึงอุณหภูมิมันจะพอดีขนาดไหน แต่เพราะมียาอะไรมากมายที่ถูกฉีดเข้ามาในร่างกาย ต่อให้จิตใจของเธอกำลังรู้สึกแย่ ร่างกายกำลังอ่อนแอ แต่ก็ห้ามไม่ได้ที่จะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับปัญหา
เธอก้มมองดูเข็มที่ปักอยู่บนหลังมือของตัวเอง แล้วคิด ยังไงก็ขอไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองจะดีกว่า ที่นี่เธอไม่ได้คุ้นเคยรู้จักกับใครสักคน ไปเข้าห้องน้ำด้วยกันก็รู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่
เธอเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบาก และเธอก็พบอย่างงงๆเสื้อผ้าของเธอมันถูกเปลี่ยนออกหมดแล้ว เธอรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
คงไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนเปลี่ยนให้หรอกใช่ไหม?
พอนึกถึงตรงนี้ก็ส่ายหัวไปมา ไม่ใช่หรอก ดูท่าทางแล้วที่นี่ก็คงมีคนรับใช้ไม่น้อยเลย เขาคงไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอก เขาไม่ได้เป็นเหมือนคนไม่รู้จักพออย่างจิ้นหยวน เขาน่ะเป็นคนดีสุภาพบุรุษต่างหาก
เธอค่อยๆสบายใจขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆจัดการร่างกายของตนเอง
ไม่ง่ายเลยกว่าจะใส่กางเกงแล้วเดินกลับไปที่เตียงนอน เธอเหนื่อยจนเหงื่อออกท่วมตัว
แต่ว่าเรื่องมันยังไม่จบ แค่การขยับตัวเล็กๆน้อยๆของเธอก็ส่งผลได้อย่างใหญ่หลวงแล้ว โดยไม่ทันได้ระวังเธอก็ทำแก้วน้ำที่ตัวเองดื่มเมื่อครู่หล่นจากโต๊ะสู่พื้น เธอขยับตัวก็ไม่สะดวก จึงทำได้แค่เบิกตามองแก้วน้ำที่กลิ้งไปตามพื้นห้อง
ตอนที่ 541 ที่นี่คือคฤหาสน์ของคุณฉี
โชคดีที่พื้นห้องมันเป็นพรมนุ่มๆ เลยมีแค่เสียงกระทบของแก้วเท่านั้น ไม่ได้แตกอะไร
แต่ทว่าประตูห้องกลับถูกเปิดออกทันที หัวของคนๆ หนึ่งยื่นเข้าช่องประตูมา “คุณเฉียว?”
ตั้งแต่ตัวเองแต่งงานกับจิ้นหยวนก็น้อยนักที่จะได้ยินคนเรียกเธอแบบนั้น พอได้ยินก็เลยชะงักไป
คนคนนั้นพอเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรก็เหมือนกังวลและเปิดประตูให้กว้างขึ้น ร่างผอมบางเดินเข้ามาในห้อง
พอเธอได้สติขึ้นมา ตรงหน้าเธอก็มีคนยืนอยู่แล้ว
เธอมองไปที่คนตรงหน้า แล้วส่ายหน้าพูดออกไป “ฉันไม่ทันระวังแก้วน้ำเลยตกลงพื้นน่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวรูปร่างผอมบางยิ้มๆ แล้วก้มลงหยิบแก้วน้ำขึ้นมา และเหมือนจะรู้ว่าเธอต้องการที่จะพักผ่อนแล้ว จึงเดินออกไปอย่างเงียบๆ
แต่ก็ถูกเฉียวซือมู่เรียกตัวเอาไว้ก่อน
ตอนนี้ถึงร่างกายของเธอมันกำลังอ่อนล้า แต่สติของเธอก็ยังดีอยู่ พอเห็นคนตรงหน้านี่แล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะเรียกหล่อนเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน พอจะพูดคุยกับฉันก่อนได้ไหม?”
สาวรับใช้หันไป และมองเธออย่างประหลาดใจ จากนั้นก็มองไปที่ขวดน้ำเกลือที่อยู่ในมือของเธอ จึงพยักหน้า “แน่นอนค่ะ”
เฉียวซือมู่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเชิญให้เธอนั่งลง จากนั้นก็ถามออกไป “ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน”
เด็กสาวคิดก่อนจะตอบออกมา “ที่นี่คือคฤหาสน์ของคุณฉีค่ะ”
เธอกระพริบตา “คือฉันหมายถึงที่นี่มันอยู่ที่ไหน”
“อยู่ที่ไหน? อ้อ ที่นี่คือเมืองเอค่ะ” สีหน้าของเด็กสาวดูแปลกใจเป็นอย่างมาก
ที่แท้ก็คือที่นี่นี่เอง เฉียวซือมู่ขมวดคิ้ว ในใจลึกๆ รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
หรือเป็นเพราะว่าในท้องมีเด็กอยู่กันนะ ทำให้เธอถึงได้รู้สึกระแวงกับสิ่งรอบข้างไปเสียหมด? แน่นอนฉีหย่วนเหิงเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ ถึงแม้ว่าจุดมุ่งหมายต่อตัวเธอของเขามันจะไม่ได้บริสุทธิ์ใจ แต่ว่าในตอนนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะมาทำกับเธอแบบนี้
ดูท่าว่าเธอคงจะคิดมากไปแล้ว
จู่ๆ ที่มือก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา พอหันไปดู ก็พบว่าเด็กสาวคนนั้นกำลังโน้มตัวลงมาดึงเข็มบนหลังมือของเธอออก และพูดกับเธอว่า “ยาที่ให้คุณในวันนี้เพียงพอแล้ว คุณพักผ่อนได้เลยนะคะ ส่วนมื้อเย็นพวกเราจะให้คนนำมาให้”
เธอพยักหน้า แล้วมองเด็กสาวคนนั้นเดินออกไป
ดูท่าว่ายาเหล่านั้นจะมีฤทธิ์ทำให้ง่วงสินะ จากตอนแรกที่ยังมีสติดีก็ค่อยๆ เริ่มหาวออกมาแล้ว ในตามันเหมือนเห็นร่างเงาของจิ้นหยวนขึ้นมาก่อนที่ทุกอย่างาจะมืดสนิทลง
เธอหลับไปแล้ว
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ พอเด็กสาวเดินออกไปก็พบเข้ากับฉีหย่วนเหิงที่ยืนอยู่หน้าห้องพอดี
ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะยังดูดีอยู่ แต่ทว่าเด็กสาวกลับไม่ได้อยากจะชื่นชมเลยสักนิดเดียว กลับกันหล่อนกลับเอาแต่ก้มหน้าก้มตา
“เธอถามอะไรงั้นเหรอ”
“เธอถาม…เธอถามว่าที่นี่คือที่ไหนค่ะ”
“แล้วตอบไปว่ายังไง”
“ดิฉันตอบว่า…ที่นี่คือเมืองเอค่ะ” เธอสั่นจนตอบเสียงตะกุกตะกัก แต่ผ่านไปนานก็ยังไม่ได้ยินเสียงของเจ้านายเสียทีจึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ แต่ก็พบเข้ากับแววตาที่แสนน่ากลัวของเขา ตกใจจนต้องก้มหัวลงไปเหมือนเดิม
ฉีหย่วนเหิงที่ได้ยินแบบนั้นแล้วก็นึกถึงสิ่งที่ปลายสายพูดกับเขาเมื่อกี้นี้ เขารี่ตาลง คิดอะไรนิดหน่อยก่อนจะปัดๆ มือให้เด็กสาวตรงหน้า
เด็กสาวเหมือนได้รับการปลดปล่อย ลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะรีบออกมาจากตรงนั้นทันที
ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นแบบนั้นก็แปลกใจจึงเข้าไปถาม “หัวหน้า หมายความว่ายังไงครับ”
เขาเหลือบไปมองลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของตัวเองแวบหนึ่ง “ไม่ต้องรีบร้อน ถ้ารีบเกินไปจะเกิดข้อผิดพลาดเอาได้”
“ครับ”
ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจ แต่ลูกน้องก็เชื่อฟัง ไม่พูดอะไรออกมาอีก
เขายืนอยู่หน้าห้องและยืนฟังอยู่เงียบๆ พอแน่ใจแล้วว่าเสียงภายในห้องมันแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบไปหมดแล้ว ถึงได้เดินออกมา