เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย - ตอนที่ 554 ถ้าจะให้เธอกลับมาก็ต่อเมื่อฉันตายเท่านั้น / ตอนที่ 555 เธอเป็นเด็กดี
- Home
- เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย
- ตอนที่ 554 ถ้าจะให้เธอกลับมาก็ต่อเมื่อฉันตายเท่านั้น / ตอนที่ 555 เธอเป็นเด็กดี
ตอนที่ 554 ถ้าจะให้เธอกลับมาก็ต่อเมื่อฉันตายเท่านั้น
พอฉินเพ่ยหรงเห็นแบบนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาทันที ตบโต๊ะเข้าอีกที “ลูกอยากจะทำให้แม่โมโหจนตายให้ได้ใช่ไหมถึงจะพอใจ ปกติลูกก็ไม่อยู่บ้านอยู่แล้ว ทุกวันนี้พ่อของลูกก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา กว่าแม่จะหาคนคุยที่อายุน้อยกว่ามาอยู่เป็นเพื่อนได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ แล้วลูกก็จะมาไล่เขาไปแบบนี้น่ะเหรอ ให้ตายเถอะ…จริงๆ เลย”
หล่อนโกรธจนร่างทั้งร่างเซไปมา เหมือนกับว่าจะเป็นลมอย่างไรอย่างนั้น จิ้นหยวนเห็นแบบนั้นก็ใจเสีย รีบเข้าไปช่วยพยุงหล่อนทันที
ฉินเพ่ยหรงยังไม่หายโมโหจึงปัดมือเขาออกและพูดใส่ด้วยความไม่พอใจ “ออกไป!”
จิ้นหยวนถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจแล้วเข้าไปพยุงหล่อนต่อ บอกให้หล่อนนั่งลง จากนั้นก็ขอโทษ “ผมขอโทษ ที่ผมพูดเมื่อกี้ไม่ทันได้คิด”
ฉินเพ่ยหรงจ้องลูกชายตัวเองเขม็ง พูดออกมาด้วยความโมโห “แม่จะบอกให้นะ เขาไม่ได้มาอยู่ที่นี่โดยที่ไม่มีเหตุผลหรอกนะ เป็นเพราะว่าที่บ้านของเขามีปัญหา แล้วอีกอย่าง แม่ไม่อยากได้ยินลูกว่าเขาอีก ที่แม่ให้เธอมาอยู่ที่นี่ก็เพราะแม่ชอบเธอจริงๆ ไม่ต้องเอาแต่คิดว่าแม่จะยัดเขาให้ลูกหรอก”
“จริงหรือครับ” จิ้นหยวนมองหล่อนอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
ฉินเพ่ยหรงมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “แม่เองก็ดูออกว่าลูกไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ฝืนไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อลูกไม่ได้ชอบเขาแม่ก็ไม่อยากจะทำให้เขาต้องรู้สึกแย่เหมือนกัน…” แต่พอหล่อนเห็นว่าสีหน้าของลูกชายตนเองในตอนนี้กำลังดีขึ้นมาก็เอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิด “อย่าดีใจไปหน่อยเลย แม่ไม่ได้บังคับให้ลูกยอบรับจื่อเสียนก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าแม่จะยอมรับเฉียวซือมู่หรอกนะ ตัดใจเสียเถอะ ชาตินี้นอกจากฉันจะตายไปแล้ว ก็อย่าหวังว่าเธอจะได้กลับเข้ามาในตระกูลจิ้นของพวกเราอีก”
“แม่ ทำไมละครับ” จิ้นหยวนรู้สึกเหมือนโดนสาดน้ำเย็นลงมาทั้งร่าง ร่างทั้งร่างสั่นเพราะรู้สึกเย็นตั้งแต่ภายในและภายนอก
“ก็ไม่อะไรหรอก แม่แค่รู้สึกว่าไม่ดี ตั้งแต่ชาติกำเนิด การศึกษา การแสดงออกของเธอ รวมไปถึงนิสัยของเธอมีตรงไหนบ้างที่เหมาะสมกับลูก ลูกเป็นลูกของแม่ ลูกจะต้องหาผู้หญิงที่ดีกว่านี้ได้แน่ๆ ไม่ใช่ว่ามาอยู่กับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างแบบนี้”
“แม่อย่าลืมสิครับ ว่าในท้องของเธอมีลูกของผมอยู่” จิ้นหยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง
“แน่นอนว่าไม่ลืม เด็กในท้องจะเป็นลูกของลูกหรือเปล่าก็ยังต้องคุยกัน อีกอย่าง ถ้าเป็นลูกของแกจริงๆ ก็ไม่เห็นจะยากอะไรเลย ถึงตอนนั้นค่อยรับกลับมาเลี้ยงก็ได้ ตระกูลจิ้นเราแค่เด็กคนเดียวทำไปจะเลี้ยงไม่ได้กัน” หล่อนพูดออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือจิ้นหยวนที่ส่ายหน้าให้เงียบๆ
มารดาของตนบ้าไปแล้วหรือเปล่า เขารู้สึกว่ามู่มู่ไม่มีตรงไหนที่ไม่ดีเลยสักนิด แต่แม่ของเขากลับมองว่ามู่มู่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง ถึงขนาดที่ว่าจะเอาแค่ลูกไม่เอาแม่ แบบนั้นถึงจะเอาเด็กกลับมาแล้วมันจะมีอะไรดีล่ะ ไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากคนเป็นแม่ตั้งแต่เด็กแบบนั้นโตมาจะน่าสงสารแค่ไหนกัน
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเห็นด้วยกับแม่แน่ๆ แต่ว่าตอนนี้เขาจะไปโต้แย้งอะไรไม่ได้ ได้แต่อยู่เงียบๆ กลับหลังแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น
จริงๆ ที่เขากลับมาในครั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าพ่อแม่บอกให้กลับ และเขาเองก็อยากจะถามแม่ให้ชัดๆไปเลยว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ จนตอนนี้เขาก็ได้เข้าใจแล้วว่าแม่ของตัวเองนั้นใจแข็งจนไม่ยอมให้มู่มู่กลับมา อย่างนั้นเขาก็คงทำได้แค่ยอมแพ้เท่านั้น อย่างมากก็แค่หลังจากนี้ก็ให้เธออยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องกลับมาก็พอ
แน่นอน ว่าการหายตัวไปของเธอเขาจะต้องหาให้พบ ไม่ว่าจะต้องใช้อะไรก็ตาม
“นั่นลูกจะไปไหน” ฉินเพ่ยหรงพูดไล่หลังอย่างไม่พอใจ
จิ้นหยวนหยุดเดิน ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ไปหาลูกสะใภ้ในฝันของแม่ไง”
ฉินเพ่ยหรงชงักงันไป คำพูดแบบนั้นหล่อนจะตอบกลับอย่างไร
ชอบทำให้กังวลอยู่เรื่อย
หล่อนถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ลุกขึ้นแล้วมองไปที่จิ้นเฮ่า ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไปทันที
ตอนที่ 555 เธอเป็นเด็กดี
หล่อนพูดสิ่งที่ต้องการจะพูดไปหมดแล้ว แต่ว่าจะรับฟังหรือไม่นั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้เสียเท่าไหร่ ถ้ามันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็คงต้องรอดูตาแก่นี่แล้ว
ก็หวังว่าเขาจะสามารถพูดให้ลูกชายยอมรับฟังได้
ในใจของเธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรนัก ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ช้อนตามองไปยังประตูห้องที่ปิดสนิท และเหมือนจะได้ยินเสียงร้องไร้ลอยออกมาจางๆ เธอส่ายหน้าแล้วเก็บความคิดทั้งหมดลง แล้วเปิดประตูเข้าไป “อย่าเสียใจไปเลย เขาไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ…”
ไม่ว่าอย่างไรเจียงจื่อเสียนก็เป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทตน เป็นผู้หญิงแบบที่เธอชอบ แล้วตอนนี้ลูกชายของตัวเองก็มาทำให้เขาต้องเสียใจอีก อย่างไรหล่อนก็ต้องขึ้นมาปลอบเสียหน่อย
ในขณะที่กำลังใช้คำพูดอ่อนโยนปลอบใจเจียงจื่อเสียนอยู่นั้น จิ้นหยวนที่เพิ่งจะเดินออกมาขากประตูก็ถูกจิ้นเฮ่าเรียกเอาไว้
“รอเดี๋ยวก่อน”
เขาหยุดและหันกลับไปมองอย่างไม่ทีทางเลือก และเห็นว่าพ่อกำลังค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากหลังโต๊ะนั่น
เอาอีกแล้ว
เขานึกถึงแต่ก่อนเวลที่ตัวเองอยู่กับพ่อทีไรก็ต้องทะเลาะกันทุกครั้ง จึงคิดว่าอีกฝ่ายคงจะมาพูดสั่งสอนตนเหมือนเดิม ร่างกายเกร็งขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ มองไปยังผู้เป็นพ่อด้วยความระแวดระวัง “มีอะไรครับ”
จิ้นเฮ่าเดินไปหยุดตรงหน้าเขา และจ้องมองลูกชายตัวเองที่ตอนนี้มีร่างกายที่สูงกว่าเขามากตรงหน้า ต้องยอมรับจริงๆ แม้ว่าลูกชายคนนี้มักจะทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตนต้องโมโหได้ทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยทำให้เขากังขากับความสามารถของเขาเลย เขาสามารถดูแลประคับประคองธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลมาได้ขนาดนี้ก็คงไม่ต้องพูดถึงแล้ว แถมยังสามารถทำให้มันดียิ่งขึ้นไปอีก ความสามารถแบบนี้กับฝีมือแบบนี้หาได้ยากมากจริงๆ ถือเป็นโชคดีของตระกูลจิ้นแล้ว
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตนก็ยังรู้สึกเสมอว่าระหว่างตนเองและลูกชายนั้นยังมีช่องว่างต่อกัน และช่องว่างนั่นมันก็ยิ่งใหญ่ขึ้นตั้งแต่ที่ตนเองบังคับให้เขาแต่งงานกับหร่วนเซียงเซียง
และเพราะเรื่องๆ นั้นที่ทำให้ตนได้รับบทเรียนราคาแพง
ดังนั้นในการเอ่ยปากในครั้งนี้จึงทำเอาจิ้นหยวนถึงกับอึ้งไป “พ่อว่ายังไงนะ”
จิ้นหยวนมองผู้เป็นบิดาอย่างไม่อยากจะเชื่อ และรู้สึกสงสัยว่าตัวเองฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า
จิ้นเฮ่าพูดกับเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไปพาเธอกลับมาเถอะ เธอเป็นเด็กสาวที่ดีนะ”
จิ้นหยวนไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนนี้ตัวเองควรจะแสดงสีหน้าท่าทางออกไปอย่างไรดี เรื่องมันเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป เขารู้สึกเหมือนตามไม่ทัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน หรือว่าครั้งนี้ความคิดของพ่อกับแม่จะไม่ตรงกันแล้ว แต่ว่าปกติก็ไม่เคยเห็นว่าพ่อจะพูดแทนมู่มู่สักครั้งเลยนี่
แต่การปรับอารมณ์จิตใจของเขาก็ถือว่าดีไม่น้อย เขาจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว มองไปยังผู้เป็นพ่อแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พ่อไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับเธอหรือ”
จิ้นเฮ่าเองก็เข้าใจความหมายของลูกชายดีจึงถอนหายใจออกมา “แม่ของแกชักจะเลอะเลือนแล้วนะ เบื้องหลังของเด็กสาวเจียงจื่อเสียนนั่นก็ไม่ได้มีอะไรดีนัก เพราะอย่างนั้นหล่อนถึงได้เข้าใจผิดเฉียวซือมู่ ถึงฉันจะไม่ได้พูดอะไร แต่แค่ดูฉันเองก็พอจะเข้าใจ ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่ดี แต่สายตายังใช้ได้อยู่”
“ความหมายของพ่อคือ?” จิ้นหยวนไม่มั่นใจนิดหน่อยจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“ฉันก็พูดไปแล้วไม่ใช่หรือ ถ้าพากลับมาได้ก็พากลับมาเถอะ ครั้งนี้แม่ของแกทำไม่ถูกต้อง แต่ยังไงซะเขาก็เป็นแม่แท้ๆ ที่ให้กำเนิดแกมา แกอยากจะโทษแม่ยังไงก็โทษไม่ได้หรอก ฉันเองก็ช่วยอะไรแกไม่ได้เหมือนกัน”
จิ้นเฮ่าถอนหายใจออกมาหลังจากที่ได้เปิดอกคุยกับลูกชาย เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ร่างกายของตนทำให้ภรรยาต้องเหนื่อยมามากพอแล้ว ในใจลึกๆ ของตนก็รู้สึกผิดต่อหล่อนไม่น้อยจึงทำให้ตนไม่อาจไปก้าวก่ายการตัดสินใจของหล่อนได้ ทำได้แต่พูดบ้างบางครั้งเท่านั้น แต่ก็ชัดเจนแล้วว่าภรรยาของตนนั้นใจแข็งไม่ยอมรับฟัง เช่นนั้นเขาก็ทำได้แค่ทำตัวเป็นกลางเท่านั้น