ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 203
เหลียงอู๋เย่ว์เจ้าใช้ได้เลย
ช่วงนี้ฝั่งซู่อ๋องนั้นวุ่นวายนัก ทำเอาฮ่องเต้หัวปั่น อีกทั้งในราชสำนักยังมีสายลับของซู่อ๋อง ฮ่องเต้ทรงกริ้วเรื่องที่ต้องเอาใจประชาชน ซู่อ๋องทำต่างจากฮ่องเต้ ซู่อ๋องมีความเมตตากับประชาชนมากกว่า ปกป้องประชาชน ทั้งละเว้นภาษีและไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ประชาชนที่อยู่เมืองบริเวณรอบๆ เห็นแล้วก็พากันตาร้อน ต่างไปที่เมืองเหมิง หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจะไม่ใช่เรื่องดีนัก ผู้ที่เป็นถึงฮ่องเต้หากเสียความนับถือจากประชาชนแล้ว ตำแหน่งฮ่องเต้ที่ครองอยู่นั้นก็เท่ากับใกล้จบสิ้นลงเช่นกัน
ตอนนี้ชื่อเสียงดีงามของฮ่องเต้ที่เหลืออยู่ก็มีเพียงความเมตตาต่อพระอนุชาผู้นี้แล้ว ซู่อ๋องทำถึงขนาดนี้ฮ่องเต้ก็ยังไม่ลงมือจัดการเขา ในสายตาของประชาชนที่อยู่เบื้องล่างแล้ว ฮ่องเต้จึงเป็นผู้มีคุณธรรม เมื่อเป็นผู้มีคุณธรรม เช่นนั้นแล้วชีวิตของพวกเขาก็อยู่รอดปลอดภัยได้ แม้จะเคยได้ยินว่าทางฝั่งซู่อ๋องนั้นมีชีวิตที่ดีกว่า แต่อย่างไรเสียฮ่องเต้ก็เป็นฮ่องเต้อย่างแท้จริง ตั้งแต่อดีตมาผู้ที่ก่อกบฏนั้นลงเอยด้วยดีจะมีสักกี่คน พวกเขาเป็นเพียงประชาชนธรรมดา ไม่ได้ขออะไร ขอเพียงมีชีวิตสงบสุข ทำตามฮ่องเต้อย่างซื่อสัตย์เสียจะดีกว่า ซู่อ๋องแพ้ พวกเขาก็ปลอดภัยอยู่รอด ซู่อ๋องชนะ ฮ่องเต้คนใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าประชาชน อยู่อย่างสงบเสงี่ยมนั้นย่อมดีเหนือสิ่งอื่นใด
กลับมาพูดถึงเฝิงเยี่ยไป๋ องครักษ์เดนตายที่เหลียงอู๋เย่ว์จัดให้เขานั้นเขาก็ได้ไปดูกับตาตัวเองแล้ว มีอยู่หลายคนที่เขาคุ้นตา ตอนที่อยู่เมืองหรู่หนานนั้นก็เคยได้เห็น ตอนนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงว่าหลังจากนั้นจะต้องพบเจอกันอีก ฝีมือของเขาหากอยู่ในยุทธภพแล้วถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ฝีมือของคนเหล่านี้เขาก็เคยลองทดสอบมาแล้ว นับว่าไม่เลว ที่เขาว่าไม่เลวนั้นก็เท่ากับดีมากแล้ว อย่างน้อยใช้จัดการหูตาที่ฮ่องเต้ส่งเข้ามาในจวนก็เหลือเฟือ
ในเมื่อจะซื้อ ก็คือซื้อชีวิตของพวกเขา ชีวิตของมือสังหารแพงนัก คนหนึ่งอย่างน้อยก็ต้องทองคำสองหมื่นตำลึง สิบคนก็ต้องใช้ทองคำสองแสนตำลึง ทองคำสองแสนตำลึงซื้อเพียงคนไม่กี่คน อีกอย่างไม่แน่ว่าอาจจะตายวันไหนสักวันหนึ่งก็เป็นได้ หากเป็นคนอื่น จะต้องรู้สึกไม่คุ้มค่าแน่นอน ทว่านี่เป็นเรื่องที่คนนอกดูสนุกแต่คนในดูวิธี คนเหล่านี้ฝีมือดี ซื้อมาไม่ขาดทุน เงินพวกนี้สำหรับเขาแล้วไม่ถือว่ามากนัก
เงินไม่สามารถออกจากเขาตรงนี้ได้ ในเมื่อฮ่องเต้ส่งคนมาเฝ้าจับตาเขา เช่นนั้นแล้วหากจู่ๆ เอาเงินออกจากคลังมากมายเช่นนี้ ฮ่องเต้จะต้องสงสัยแน่นอน ดังนั้นแล้วจึงได้แต่มอบตั๋วเงินให้พวกเขาไปแลกที่หรู่หนาน ส่วนคนกลางที่เป็นคนประสานงานไปยังตลาดมืดนั้น หากเก็บเอาไว้ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเป็นภัยอย่างแน่นอน ในเมื่อคนก็ซื้อไว้แล้ว คิดอยากจะฆ่าคนก็ไม่ต้องให้เขาลงมือเอง เพียงแค่ขยับปาก คนผู้นี้ก็หายไปแล้ว ดียิ่งนัก ลงมืออย่างรวดเร็วว่องไว เพียงปาดคอ คนก็ตายแล้ว เลือดยังไม่ทันได้ไหลออกมาเลย ให้คนเช่นนี้ทำงานเขาถึงจะวางใจได้
เรื่องที่เหลียงอู๋เย่ว์ช่วยเฝิงเยี่ยไป๋ซื้อมือสังหารนั้นไม่รู้เข้าหูเว่ยหมิ่นได้อย่างไร ยังมีเรื่องที่เฉินยางเข้าวังเรียนระเบียบนั่นอีก เว่ยหมิ่นโกรธจนเอามือเท้าเอา ชี้หน้าเหลียงอู๋เย่ว์ด่าว่า “เจ้านี่มันใช้ได้เสียจริง มีความสามารถแล้ว เรื่องใหญ่เช่นนี้กลับรู้จักปิดบังข้า ข้าก็ว่าอยู่ว่าสองวันนี้เจ้าวิ่งวุ่นออกไปข้างนอกตลอด เหลียงอู๋เย่ว์ เจ้านี่มันตัวดีนัก”
เหลียงอู๋เย่ว์ก้มหน้าฟังคำสั่งสอนของนาง เห็นนางโกรธจนทนไม่ไหว ก็นึกห่วงร่างกายของนาง กระนั้นกลับไม่กล้าปราม ได้แต่เอ่ยปากพูดว่า “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเจ้า เป็นเฉินยางที่ยอมอยู่ในวังเรีนยระเบียบกับไทเฮาเอง เรื่องที่เฝิงเยี่ยไป๋ไหว้วานให้ข้าซื้อมือสังหารที่ตลาดมืดให้เขานั้น… ในจวนท่านอ๋องล้วนมีแต่สายสืบของฮ่องเต้ เขาต้องมีคนที่ไว้ใจได้สักคนสองคนถึงจะทำงานได้สะดวก ข้าไม่ช่วยเขาก็ไม่มีใครช่วยเขาแล้ว บอกเจ้าหรือ… บอกเจ้าเจ้าก็ช่วยไม่ได้ อีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย”
——