ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 205
ตอนที่ 205 มีอะไรบ้างที่พระองค์ทำไม่ได้
เหลียงอู๋เย่ว์บ่นพึมพำ “มีพ่อเช่นไรก็มีลูกเช่นนั้น ฮ่องเต้องค์ก่อนยังทำออกมาได้ มีอะไรบ้างที่พระองค์ทำไม่ได้”
เว่ยหมิ่นรู้ว่าเขากลัว ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ พอนับนิ้วดู พวกเขาก็รู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้ว เหลียงอู๋เย่ว์โตกว่าเฝิงเยี่ยไป๋หนึ่งปี ปีนี้ก็ยี่สิบเจ็ดแล้ว นางเด็กที่สุด ปีนี้ก็ยี่สิบสามแล้ว หากเป็นหญิงสาวชาวบ้านทั่วไปเหมือนเช่นเฉินยาง ก็ควรจะแต่งงานตั้งแต่อายุสิบสี่สิบห้าแล้ว อายุเช่นนาง ควรจะมีลูกวิ่งเล่นไปทั่วแล้ว แต่นางกลับเสียเวลาอันมีค่าไปหกเจ็ดปีเพื่อรอเฝิงเยี่ยไป๋ ตอนนี้รอถึงแล้ว คนกลับไม่ใช่ของตนเสียแล้ว เสียดายที่นางรักมาตั้งหลายปี สุดท้ายแล้วกลับมีเพียงความว่างเปล่า แต่ยังถือได้ว่าสวรรค์เมตตานาง ส่งเหลียงอู๋เย่ว์มาให้นาง เขาเป็นคนที่รู้นิสัยใจคอนางดี เหมาะที่จะฝากชีวิตได้ แต่นางยังทำใจไม่ได้ ในใจยังคิดถึงคนนั้นอยู่ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะมีที่วางใส่คนนี้ได้
นางรู้ว่าเป็นเช่นนี้ออกจะไม่ยุติธรรมกับเขานัก แต่นางจะทำอย่างไรได้ หากสามารถถอนคนคนหนึ่งออกจากใจได้เร็วเช่นนี้ ความรักของนางที่มีมาหลายปีนี้มิใช่เท่ากับเป็นเรื่องตลกหรอกหรือ
สุดท้ายนางก็ใจอ่อน ถอนหายใจช้าๆ เสียงก็อ่อนลง “เจ้ายังไม่รู้นิสัยข้าอีกหรือ เจ้าก็ทำใจให้สบายเสียเถิด ฮ่องเต้จะยิ่งใหญ่เพียงใด ข้าก็ไม่สนใจ คิดจะขังข้าอยู่ในวังรึ ไม่ได้ทาง”
เหลียงอู๋เย่ว์ตอบด้วยความเหนื่อยหน่ายแล้วส่งนางถึงประตู “อย่าอยู่นานนัก รีบๆ กลับมา”
นางแอบรักข้างเดียวมานาน ความรู้สึกนั้นนางรู้ดีกว่าใคร เหลียงอู๋เย่ว์รู้สึกเช่นไรนางย่อมรู้ดี ในใจทรมานเหมือนดั่งถูกไฟเผา ตนเองก็เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะตอนที่เพิ่งรู้ว่าเฝิงเยี่ยไป๋แต่งงาน ใจนางก็ราวกับถูกเพลิงผลาญ ความรู้สึกแค้นมีอยู่เต็มอก แต่จะแค้นใครได้ แค้นเฝิงเยี่ยไป๋หรือ แค้นอะไรเขา เขาไม่เคยบอกชอบนางเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งไม่มีใจจะถ่วงช่วงเวลาอันมีค่าของนาง แค้นเว่ยเฉินยางหรือ ก็แค้นไม่ได้ ตอนที่นางแต่งงานกับเฝิงเยี่ยไป๋นางก็ยังไม่รู้เรื่องอะไร คำสั่งของบิดานางตัดสินใจอะไรไม่ได้ คิดไปคิดมา จะโทษใครก็ไม่ได้ จะโทษก็ต้องโทษตัวเอง ที่ถูกความรักบังตาจนไปรักผิดคน
“เหลียงอู๋เย่ว์… เจ้ามานี่” นางขึ้นรถม้าแล้วก็ชะโงกหน้าออกไปเรียกเขา
เหลียงอู๋เย่ว์ทำหน้างุนงงเดินเข้าไปหา คิดว่านางจะสั่งอะไรอีก กำลังเงี่ยหูรอฟังอยู่นั้น จู่ๆ ก็ถูกเว่ยหมิ่นจับหน้ายกขึ้นมา ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ก็ถูกนางจูบเข้าให้
เว่ยหมิ่นก็ยังเป็นหญิงสาวอยู่ เรื่องการจูบคนนั้นครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก พอจูบเสร็จ นางก็รีบหดศีรษะกลับเข้าไปรถม้า ใบหน้าแดงก่ำจนดูไม่ได้ ก่อนจะเร่งคนขับรถม้าให้รีบขับรถม้าออกไป
จนกระทั่งเหลียงอู๋เย่ว์ได้ยินคนขับรถม้าร้อง “ไป!” ถึงได้สติกลับมา เขาเป็นลูกผู้ชาย ถูกผู้หญิงจับหน้าแล้วจูบนั้นช่าง…เสียหน้าเหลือเกิน ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเว่ยหมิ่นก็ไม่ได้ เขาตะโกนใส่คนขับรถม้าว่า “หยุด” แล้วก็ถลกชายเสื้อขึ้นรถม้าไป เว่ยหมิ่นเห็นเขาขึ้นมาก็เบือนหน้าหนี ปากบ่นพึมพำ “เจ้าขึ้นมาทำไม ลงไปเสีย!”
“ไม่ได้!” เหลียงอู๋เย่ว์เอามือนางทั้งสองข้างออก แล้วกุมไว้ในมือแน่น “เจ้าจูบข้าแล้ว ข้าต้องจูบคืน”
สีหน้าเว่ยหมิ่นยิ่งแดงขึ้นไปอีก คราวนี้มือถูกเขาจับเอาไว้ยิ่งไม่มีอะไรมาบัง หน้าแดงซ่านประหนึ่งจะมีเลือดหยดออกมาปานนั้น “จูบบ้าอะไร รีบปล่อยข้า!”
สิ้นเสียง เหลียงอู๋เย่ว์ก็ขยับริมฝีปากเข้ามาใกล้แล้ว ตอนแรกเขาคิดจะจูบปากนาง แต่กลัวว่านางจะโกรธ สุดท้ายจึงเปลี่ยนใจ เพียงแค่จูบบนใบหน้าที่แดงก่ำของนางเท่านั้น
——