ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 207
ตอนที่ 207 ให้นางพักเถิด
“เสด็จป้า…” เว่ยหมิ่นเหลือบมองสีหน้าไทเฮาแล้วพูดอย่างระมัดระวัง “เว่ยเฉินยางผู้นี้เมื่อก่อนอาจจะโง่ไปบ้าง แต่โชคดีที่ได้หมอเทวดารักษา ตอนนี้นางหายดีเหมือนคนปกติทั่วไปแล้ว อีกอย่างตอนที่ข้าอยู่เมืองหรู่หนานก็เคยอยู่กับนางพักหนึ่ง แม่นางคนนี้เป็นคนไม่เลวนัก ทั้งยังดีกับท่านพี่ ตอนนี้นางเพียงแต่อายุยังน้อย บางครั้งมารยาทอาจจะไม่ค่อยดีนัก ข้าก็พอจะมองออกว่าท่านพี่ชอบนางอยู่”
ไทเฮามิได้มีสีหน้าอะไร พูดเพียงว่า “นางไม่เลวหรือ เว่ยหมิ่นเจ้าไม่รู้อะไรเสียแล้ว เมื่อวานยังเถียงหงอวี้อยู่เลย สอนระเบียบนาง ฝึกย่อคำนับเสร็จก็บอกว่าตัวเองขาชายืนไม่ขึ้น นั่งอยู่ที่พื้นไม่ยอมไป ยังบอกหงอวี้ว่า หากเป็นนางก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ นางเด็กนี่ อยู่ต่อหน้าเยี่ยไป๋แล้วกลายเป็นคนละคน ต่อหน้าอย่างหนึ่งลับหลังก็เป็นอีกอย่าง อาศัยมีเยี่ยไป๋หนุนหลังให้นาง คิดว่าข้าจะทำอะไรนางไม่ได้อย่างนั้น”
คนเราหากรักบ้านก็พลอยรักนกกาด้วย เกลียดบ้านก็เกลียดกาด้วย ครั้งที่แล้วตอนที่นางไปจวนอ๋องก็เคยเจอแล้ว ทั้งสองคนยังคุยกันอยู่นาน เป็นเช่นที่ไทเฮาตรัสเสียที่ไหน อาจเพราะมีภาพลักษณ์ไม่ดีอยู่ก่อนแล้ว จนตอนหลังจะทำอย่างไรก็ทำใจชอบนางไม่ได้เสียแล้ว
“ข้าเห็นว่าเฉินยางมิได้เป็นคนเช่นนั้นเลย บางครั้งอาจจะมีการเข้าใจผิดก็เป็นได้ เสด็จป้าอย่าเพิ่งร้อนใจ มิสู้ให้ข้าไปดูก่อน เด็กผู้หญิงอยู่ด้วยกันย่อมพูดคุยกันได้ ข้าจะได้ไปสืบให้ท่าน ดูว่านางเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่”
ไทเฮาพยักหน้า “ก็ดี เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถิด ข้าเหนื่อยแล้วพอดี ตอนเที่ยงเจ้าก็ไม่ต้องกลับไปแล้ว อยู่ที่นี่ทานมื้อเที่ยงเสีย พวกเราป้าหลานสองคนจะได้พูดคุยกันเสียบ้าง”
เว่ยหมิ่นตอบรับ แล้วตามนางกำนัลคนสนิทของไทเฮาออกจากประตูไปที่ห้องข้าง
ฝ่ายเฉินยางยืนอยู่ในลาน บนศีรษะมีถ้วยน้ำวางอยู่ ยืนนิ่งไม่ขยับ อากาศช่วงเดือนหกนั้นร้อนยิ่งนัก แถมยังเป็นเวลาก่อนเที่ยงอีก แสงแดดร้อนจัดส่องลงมา ต่อให้ยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ก็ร้อนจนทำเอาคนทนแทบไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านางยังใส่ชุดในวังอยู่ ตั้งแต่ข้างบนจนถึงข้างล่างล้วนเย็บสนิทไม่มีที่ให้ลมผ่านเข้าไปได้ เสื้อผ้าของนางจึงเปียกชุ่ม ใบหน้าแดงก่ำ แต่ก็ยังกัดฟันอดทนอยู่ คาดว่าคงยืนมานานแล้ว เริ่มจะสั่นขึ้นมา ถ้วยที่อยู่บนศีรษะก็โงนเงนเกือบจะร่วงลงมา
นางไม่เคยเรียนระเบียบในวัง ย่อมไม่รู้ความโหดเ**้ยมของเรื่องนี้ เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าทรมานเช่นไร หงอวี้นั่งดื่มชาอยู่ในที่ร่ม มือถือไม้ลงโทษอยู่ ดูท่าทางเช่นนั้นคาดว่าคงเตรียมจะเข้าไปตีหากนางทำผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย
เว่ยหมิ่นหันไปถามนางกำนัลน้อยที่อยู่ข้างๆ “นางยืนอยู่ที่นี่มานานเพียงใดแล้ว”
นางกำนัลน้อยคิดเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ตอนที่ตนนำของว่างไปถวายไทเฮานั้นนางก็ยืนอยู่ที่นั่นแล้ว ถึงตอนนี้นับเวลาดูคาดว่าน่าจะสักสองชั่วยามกว่าได้ นางจึงตอบไปตามตรง
สองชั่วยามกว่า อากาศร้อนเช่นนี้ ไทเฮาคิดจะทรมานนางให้ตายหรืออย่างไร หากเฝิงเยี่ยไป๋เห็นเข้าจะเป็นเรื่องใหญ่ นางก้าวเข้าไปในลานกลางแจ้ง ในมือนางกำนัลน้อยไม่มีของที่จะบังแดดได้ ขณะที่นางกำนัลน้อยกำลังลนลานไม่รู้จะทำอย่างไร หงอวี้เห็นเข้า ก็เดินเข้ามาหา “คารวะท่านหญิง ท่านหญิง ไฉนท่านถึงมาที่นี่เพคะ”
อย่างไรเสียก็เป็นคนสนิทของไทเฮา เว่ยหมิ่นจะไม่ไว้หน้าก็ไม่เหมาะนัก จึงกระตุกมุมปากแล้วพูดว่า “หงอวี้กูกูลำบากเสียแล้ว อากาศร้อนเช่นนี้ ยังต้องสอนระเบียบอยู่ที่นี่อีก”
หงอวี้พูดว่ามิบังอาจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ท่านเองก็รู้จัก นางคือพระชายาท่านอ๋องของพวกเรา ยอมอยู่ในวังเรียนระเบียบเอง”
เว่ยหมิ่นตอบรับคำเบาๆ แล้วชี้ไปที่เฉินยางพลางพูดว่า “ให้นางพักก่อนเถิด ข้ามีเรื่องจะพูดกับนาง”
——