ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 218
ตอนที่ 218 วีรบุรุษช่วยหญิงงาม
ยามนี้ ผู้คนหากไม่ใช่พักเที่ยงอยู่ ก็คือแช่อยู่ในบ่อ ไม่มีใครว่างมาเดินเล่นอยู่บนถนน บริเวณรอบๆ ว่างเปล่า สาวใช้ตื่นตกใจ หากคุณหนูเกิดอะไรขึ้น นางก็คงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว เพียงแต่นอกจากตะโกนช่วยด้วยแล้วก็ไม่มีวิธีอื่น จะทิ้งคุณหนูไว้แล้วไปหาคนก็ไม่ได้ หากเป็นอะไรขึ้นมา ต่อให้นางมีเก้าชีวิตก็ไม่พอประหาร
ขณะที่กำลังร้อนรนทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น ข้างหน้าก็มีคนเดินมา เขาสวมชุดสีเขียวเรียบง่าย สะท้อนความสง่าออกมา เพียงแต่ใบหน้าของเขานั้นช่างน่าสนใจนัก สาวใช้มองจนเหม่อลอย ลืมที่จะลูบหลังเจ้านาย ประหนึ่งถูกกระชากวิญญาณออกจากร่างอย่างไรอย่างนั้น นางอ้าปากค้าง แล้วถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ นางไม่รู้หนังสือ คิดคำที่จะพรรณนาใบหน้าที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ออก จะบอกสวยงามหรือ ก็ไม่ใช่เพียงแค่สวยงามเท่านั้น หน้าตาของเขานั้นช่างไร้ที่ติเสียจริง เทพเซียนที่ลงมาเกิดคงเป็นเช่นนี้กระมัง!
เฝิงเยี่ยไป๋ได้รับจดหมายจากเจี่ยชี บอกว่าเรื่องของร้านค้านั้นได้ความแล้ว ยามนี้ถึงได้หาเวลาว่างมาพบ คิดจะหาที่ที่สงบสั่งเจี่ยชีเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางกลับเจอภาพนี้ เขาไม่ใช่เป็นคนที่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น ยิ่งไม่มีความเมตตาที่จะไปช่วยคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา อีกอย่างผู้ที่มายังซานจวงนี้ได้ล้วนไม่ธรรมดา ยามนี้เขามีศัตรูรอบทิศ ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่รู้ที่มาที่ไปอีก อย่างไรเสียระวังไว้ก่อนก็ดี ใครจะรู้ว่าก้าวต่อไปจะก้าวเข้าไปติดในกับดักแล้วหรือไม่
สาวใช้เหม่อลอยอยู่นาน นางจนปัญญา จึงทำใจกล้าเดินขึ้นไปโค้งคำนับ ขอร้องเขาว่า “คุณชาย คุณหนูบ้านข้าจู่ๆ โรคก็กำเริบ ขอร้องท่านได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
เฝิงเยี่ยไป๋เหลือบมองสาวใช้คนนี้โดยไร้สีหน้าใดๆ แล้วหันไปมองผู้หญิงที่นั่งอยู่บนม้านั่งหิน ไม่มีท่าทีว่าจะช่วยแต่อย่างใด “หลบไป!”
สาวใช้ไม่หลบ นางคุกเข่าลงทันที “คุณชาย ขอร้องท่านโปรดเมตตา ช่วยคุณหนูบ้านข้าเถอะ รอให้บ่าวกลับไปแจ้งนายท่าน นายท่านก็ตอบแทนคุณชายอย่างงามแน่ๆ”
น่าอวี้เอามือลูบอกตัวเองพูดด้วยเสียงอ่อนว่า “อวี๋เอ๋อร์ อย่าได้เสียมารยาท นี่คือท่านกู้หลุนอ๋อง ยังไม่รีบคำนับอีก!” พูดจบนางก็พูดต่อว่า “ท่านอ๋องโปรดอภัย สาวใช้ของข้านั้นไม่รู้ระเบียบ ขอท่านอย่าได้ถือสา… แค็กๆ … ร่างกายของข้านี้ใช้ไม่ได้นัก ไม่อาจคำนับให้ท่านอ๋องได้ ขอท่านอ๋องโปรดอภัยด้วย”
พอนางพูดจบทั้งหมดนี้ สีหน้าก็ซีดเผือดลงกว่าเก่า คนงามก็เป็นคนงาม แม้จะป่วยอยู่ก็ยังงามเช่นเดิม หากบอกว่ามองครั้งแรกคือประหลาดใจ เช่นนั้นแล้วท่าทางอ่อนแอนั้นก็ยิ่งชวนให้เมตตาสงสารจากใจ
เพียงแต่คนงามอย่างไร ในสายตาของเฝิงเยี่ยไป๋แล้วก็เพียงแค่มีสองตาหนึ่งจมูก ไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแต่เห็นท่าทางของนางมีมารยาท ไม่เหมือนหญิงทั่วไป อีกทั้งได้ยินสาวใช้คนนั้นพูดถึงนายท่านที่บ้าน จึงเกิดความอยากรู้ขึ้นมา “ไม่ทราบว่าท่านพ่อของแม่นางเป็น…”
น่าอวี้โขลกไออย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง สาวใช้เห็นเข้า ก็ลูบหลังนางไปพลางตอบเขาไปพลางว่า “ทูลท่านอ๋อง นายท่านบ้านข้าคือเสนาบดีกรมทหารเจี่ยงเหว่ยเจ้าค่ะ”
เจี่ยงเหว่ย! บังเอิญเหลือเกิน ไม่กี่วันก่อนเพิ่งจะยืมมือเขาซื้อนักฆ่ามา นึกไม่ถึงว่าวันนี้ก็บังเอิญเจอกับลูกสาวที่ป่วยหนักของเขาอีก ทันใดนั้นความคิดก็เปลี่ยนไป ในใจคิดอยู่หลายรอบ สุดท้ายก็ยอมเป็นคนมีเมตตาช่วยคนเสียรอบหนึ่ง
“ที่แท้ก็เป็นลูกสาวของใต้เท้าเจี่ยง” เขาอมยิ้มก้าวเท้าเดินเข้าไป ถามสาวใช้ว่า “จะส่งคุณหนูบ้านเจ้าไปที่ใดหรือ”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้นเขาก็อุ้มน่าอวี้ขึ้นมา นางถูกวางอยู่ในอ้อมแขนของเขาเบาๆ พอมองใกล้ๆ … ก็ยังเป็นเพียงสองตาหนึ่งจมูกหนึ่งปากเหมือนเดิม เพียงแต่ได้สัดส่วนดี ในสายตาของเขาแล้ว อย่างมากก็เพียงแค่ดูดีเท่านั้น