ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 225
ตอนที่ 225 ตกลงเห็นนางมีอะไรดี
ที่จริงแล้วเรื่องในวันนี้ เป็นความบังเอิญและก็ไม่ใช่ความบังเอิญ บังเอิญคือนางก็นึกไม่ถึงว่าโรคของตัวเองจะกำเริบขึ้นมา แถมยังบังเอิญเจอเฝิงเยี่ยไป๋ผ่านตรงนี้ไป ที่ไม่บังเอิญคือนางได้รู้ข่าวอยู่ก่อนแล้วว่าเฝิงเยี่ยไป๋จะมาที่นี่ จึงได้ตามมา ก็เพื่อจะได้สร้างความบังเอิญ
ความฉลาดของอวี๋เอ๋อร์นี้ ให้นางช่วยทำงานพอไหว แต่หากจะให้นางใช้สมองวางแผนเหล่านั้นนางทำไม่ได้ แต่แม้นางจะไม่ได้เก่งเรื่องวางแผนนักก็ยังดูออก ในเมื่อคราวนี้ได้พบเจอแล้ว ก็ควรจะขึ้นไปแสดงความในใจเสียหน่อย นี่เรียกว่าตีเหล็กตอนยังร้อนไม่ใช่หรือ หนึ่งวันได้พบกันถึงสองครั้งนั่นก็คือบุพเพสันนิวาส วันหลังก็จะได้มีเรื่องคุยได้อีก ภาพลักษณ์ครั้งแรกดี บวกกับใบหน้าคุณหนูของนางอีก เช่นนั้นแล้วหลังจากนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาไม่ใช่เป็นไปตามเหตุผลหรือ
น่าอวี้รู้ว่าในใจอวี๋เอ๋อร์คิดอะไรอยู่ เพียงแต่ในใจนางมีแผนอยู่แล้ว นางจึงโบกมือเรียกให้อวี๋เอ๋อร์นั่งลง ย้อนถามว่า “ที่ดื่มจนเมาคนนั้นชื่อว่าเว่ยเฉินยาง เป็นภรรยาที่เฝิงเยี่ยไป๋แต่งอยู่ที่เมืองหรู่หนาน ได้ยินว่าเมื่อก่อนเป็นคนโง่ เพีงแต่ตอนนี้รักษาหายแล้ว ตอนนี้อยู่ในวังเรียนระเบียบกับไทเฮาอยู่” น่าอวี้ยกมือชี้ให้นางดู “เจ้าเห็นหรือไม่ หากผู้ชายได้มอบหัวใจให้ผู้หญิง สายตานั่นไม่เคยละไปเลยไม่ว่าเวลาใด หน้าตาดีเป็นข้อได้เปรียบ แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายทั้งหมดจะรักหญิงงาม เรื่องความรักนี้อธิบายยากนัก หากฝากใจไว้ที่ใครแล้ว ไม่ว่าคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ฐานะยากจนเพียงใด หลุดไม่พ้นก็คือหลุดไม่พ้นแล้ว”
อวี๋เอ๋อร์บ่นขึ้นมาว่า “ไฉนข้าถึงมองไม่ออกว่าเว่ยเฉินยางนั่นมีอะไรดี ตกลงเฝิงเยี่ยไป๋เห็นนางมีอะไรดีกันแน่”
น่าอวี้ยิ้มอย่างมีเลศนัย “หากรู้ทุกเรื่องละก็ เช่นนั้นก็ไม่เรียกว่าความรักแล้ว” บนโต๊ะมีชากาหนึ่งอุ่นอยู่ เมื่อครู่ยังร้อน ตอนนี้ความร้อนกำลังพอดี นางเติมให้ตัวเองแก้วหนึ่ง พอดื่มเสร็จ ก็เรียกอวี๋เอ๋อร์กลับห้องไป
“คุณหนู พวกเราก็… ก็ไปเช่นนี้เลยหรือ” อวี๋เอ๋อร์ยังคงไม่ยอมแพ้
“เจ้าดู ฝั่งนั้นวุ่นวายกันเช่นนี้ ตอนนี้ถ้าเข้าไปพูดอะไรที่จะตอบแทนพระคุณอยู่ ไม่ใช่จงใจสร้างความวุ่นวายเพิ่มขึ้นอีกหรือ เช่นนั้นแล้วเจอครั้งที่สองคนเขาจะเกลียดเอาได้ ไม่รีบ เวลายังมีอีกยาวไกล จะช้าจะเร็วก็ต้องได้เจอกันอีก”
ผู้หญิงที่ฉลาด รู้จักรุกรู้จักถอย ตอนนี้ในใจของเขามีเพียงหญิงผู้นั้นผู้เดียว นางไปตอนนี้ นอกจากจะสร้างความรำคาญให้เขาแล้วยังสร้างความไม่สบายให้ตัวเองอีกด้วย ไม่ได้มีผลดีอะไรเลย ดูกันไปก่อนเถอะ รักมียาวมีสั้น ดูเพียงว่าพวกเขาจะจบสิ้นเมื่อใด
ฝั่นนั้นเฉินยางยังวุ่นวายอยู่ คนที่มามุงดูก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ได้เพียงมองอยู่ไกลๆ เฝิงเยี่ยไป๋พวกเขารู้จัก เป็นท่านอ๋องที่ฮ่องเต้พระราชทานใหม่ มีเพียงชื่อแต่ไร้อำนาจ ไม่มีอะไรต้องกลัว เวลาเช่นนี้ไปเหยียบย่ำสองทีก็ควรจะทำ เพียงแต่โต๊ะนั้นนอกจากเฝิงเยี่ยไป๋แล้วยังมีท่านหญิงนั่งอยู่ แม้ว่าตอนนี้ท่านหญิงจะมีจวิ้นหม่าแล้ว แต่ความสำคัญของนางที่อยู่ในพระทัยของฮ่องเต้นั้นก็ไม่ได้ลดลงเลย คำพูดนี้ยังเป็นขันทีปรนนิบัติพระองค์ที่เตือนพวกเขามา บอกว่าบนโต๊ะทรงงานของฮ่องเต้ จนถึงตอนนี้ก็ยังมีรูปวาดของท่านหญิงวางอยู่ ความรักเดียวใจเดียว จะมีใครเทียบได้หรือ แม้แต่หลิ่วกุ้ยเฟยที่ช่วงนี้ได้รับความสนใจคนนั้น ได้ยินว่าก็สังเกตนิสัยของท่านหญิงมาอย่างละเอียด แล้วจงใจเรียนรู้เพื่อไปแสดงต่อพระพักตร์ฮ่องเต้ถึงได้รับความสนใจเช่นวันนี้ ความรักที่ลึกซึ้งของฮ่องเต้นั้น แม้นางจะไม่ใช่ท่านหญิงแล้ว ยังมีใครกล้าแตะต้องนางอีก ตอนนี้ไปพูดจาไม่ดีใส่ เกรงว่าตัวเองจะมีชีวิตได้อีกไม่นานแล้ว
เจ้าเด็กนี่ ดื่มเหล้าเสร็จทั้งร้องทั้งวุ่นวาย เพิ่งจะเล่าความทุกข์ออกไป ก็กอดเฝิงเยี่ยไป๋ปาดน้ำตาขึ้นมาอีกครั้ง ปากบ่นพึมพำไม่รู้ว่าพูดอะไรอยู่ เพิ่งจะนั่งลงได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ข้าวกินไปได้ไม่ถึงสองคำ ก็ต้องกลับเสียแล้ว