ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 229
ตอนที่ 229 ไฉนเจ้าถึงอยู่ที่นี่
จันทร์เพ็ญงามกระจ่างลอยอยู่บนฟากฟ้า ส่องแสงสีขาวนวลไปยังผืนฟ้าและพื้นดิน น่าอวี้มองไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย ผ่านไปอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังจากข้างนอกใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในใจคิดว่าเฝิงเยี่ยไป๋ต้องกลับมาแล้วแน่ๆ จึงไปช่วยอวี๋เอ๋อร์จัดการสวมเสื้อผ้าให้เฉินยาง
เฝิงเยี่ยไป๋ระวังตัวมาก ตอนที่กลับมาเห็นประตูเปิดแง้มอยู่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ มือที่วางอยู่ข้างตัวกำหมัดแน่น แล้วเดินช้าลง แกล้งเปิดประตูเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสี้ยวเวลาที่เปิดประตูนั้นเขาคิดอยู่มากมาย อาจจะเป็นนักฆ่าฉวยโอกาสที่เขาไม่อยู่มาฆ่าเฉินยาง เพียงแต่ความเป็นไปได้นี้มีไม่มาก ในเมื่อเขาซื้อมือสังหารเหล่านั้นมา เหตุผลหนึ่งก็คือเพื่อจะปกป้องเฉินยาง หากนางเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่ข้างนอกจะไม่มีร่องรอยการต่อสู้เลย และเขาก็คิดอีกว่าจะเป็นเฉินยางที่เมาแล้ววิ่งซนไปทั่วหรือไม่ อย่างไรเสียเขาก็คิดไปมากมาย ในใจเป็นกังวล
“ช้าหน่อย อย่าแตะถูกหลังของนาง”
เป็นเสียงของผู้หญิง เสียงนี้ตอนบ่ายเขาเพิ่งเคยได้ยิน ยังไม่ได้ลืมจึงจำได้อย่างแม่นยำ เขาก้าวเข้าไป ในห้องมีภาพที่กำลังวุ่นวายอยู่ เฉินยางนอนนิ่งๆ ให้คนอื่นทำแผล แลดูสบายใจยิ่งนัก
น่าอวี้และอวี๋เอ๋อร์ทำแผลให้เฉินยางเสร็จ กำลังจะหันหลังจากไป กลับเห็นเฝิงเยี่ยไป๋ขวางอยู่ที่ประตู ก็ตกใจขึ้นมา น่าอวี้ตอบสนองไว จึงย่อตัวลง “คารวะท่านอ๋อง”
เฝิงเยี่ยไป๋ตอบรับเบาๆ แล้วประคองน่าอวี้ลุกขึ้นมา ขมวดคิ้วถาม “ไฉนเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”
น่าอวี้บิดผ้าไปมา โค้งตัวขอโทษว่า “ท่านอ๋องโปรดอภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจเข้ามาโดยพลการ ห้องข้าอยู่ตรงหัวมุมทางใต้ กลางคืนดื่มมากไปหน่อยจึงนอนไม่หลับคิดอยากจะออกมาเดินเล่น นึกไม่ถึงว่าเดินผ่านห้องท่านอ๋อง ก็ได้ยินข้างในมีเสียงของตกพื้น จึงคิดว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ เพียงแต่ไม่กล้าเข้าไปทันที จึงเคาะประตูถาม เพียงแต่เคาะอยู่นานก็ไม่มีใครตอบ ดังนั้นแล้ว…ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจเข้าไป พอเข้าไปแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นห้องของท่านอ๋อง เพราะ…เพราะเห็นพระชายาตกลงมาจากเตียง จึงได้ช่วยประคอง และเห็นว่าบนตัวพระชายามีแผล ถึงได้…ถึงได้…”
นางเล่าที่มาที่ไปได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ต้นจนจบนางทำหน้ากระวนกระวายระคนกังวล ราวกับกลัวเขาจะเข้าใจผิดเช่นนั้น ผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือนางก็ถูกนางบิดไปมาจนยับยู่ยี่ เขาก็อยากจะกล่าวโทษ เพียงแต่เห็นเฉินยางนอนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ในห้องก็ไม่มีร่องรอยถูกรื้อค้น ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยจริงๆ บางทีอาจจะเป็นเช่นที่นางพูดก็เป็นไปได้
ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกผู้หญิง เพียงแต่หากมองจากวิธีการทำงานของฮ่องเต้แล้ว จะจัดการเขา อย่างไรก็คงไม่เสี่ยงฝากความหวังไว้ที่ผู้หญิงคนหนึ่งแน่
เฝิงเยี่ยไป๋ตอบอืมเบาๆ แล้วพูดว่า “อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นแล้วข้าก็ต้องขอบคุณแม่นางเจี่ยงด้วย”
น่าอวี้ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขาก็เหม่อลอยไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็ตั้งสติกลับมา ก้มศีรษะพูดว่า “ท่านอ๋องได้ช่วยชีวิตข้าน้อย ข้าน้อยไม่มีความสามารถ ไม่อาจตอบแทนบุญคุณท่านอ๋อง จึงได้แต่ค่อยๆ ตอบแทน วันนี้ช่วยพระชายาเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ เทียบกับบุญคุณที่ท่านอ๋องช่วยชีวิตแล้ว ไม่อาจเทียบได้เลย”
เช่นนี้ก็แสดงถึงความแตกต่างของนางกับคนอื่นแล้ว หากเป็นคนอื่น เมื่อได้เจอหน้าตาของเฝิงเยี่ยไป๋นั้นส่วนใหญ่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อาจจะพูดว่า ‘ถวายตัวให้ท่าน’ ไปแล้ว เพียงแต่นางกลับไม่พูดเช่นนั้น เป็นเช่นนี้บางครั้งอาจจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพียงแต่อย่างน้อยหากได้เจอกันอีกครั้งก็จะไม่ทำให้รู้สึกน่ารำคาญนัก
——