ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 283 เลี้ยงคนเนรคุณเอาไว้ / ตอนที่ 284 ไม่แน่ว่าอาจจะท้องเมื่อไหร่ก็ได้
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 283 เลี้ยงคนเนรคุณเอาไว้ / ตอนที่ 284 ไม่แน่ว่าอาจจะท้องเมื่อไหร่ก็ได้
ตอนที่ 283 เลี้ยงคนเนรคุณเอาไว้
ก็ไม่รู้ว่าไฉนถึงกลายเป็นเช่นนี้ พอกลับมาแล้วทั้งสองคนก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรงขึ้นมา ข้างนอกได้ยินเสียงดังเช่นนี้คิดว่าตีกันเสียอีก เฉินยางตกใจกับการกระทำของเขา คราวนี้นางจะทำอย่างดี พูดกับเขาในสภาพตัวเปลือยเปล่าเช่นนี้ ช่างเป็นคนเหลวไหลที่ไร้เหตุผลสิ้นดี จะต้องถูกเขาทำโกรธตายเสียที่นี่เข้าสักวัน
“ข้าเลี้ยงเจ้าเป็นอย่างดี นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายกลับเลี้ยงคนเนรคุณไว้เสียแล้ว ในใจเจ้าไม่ได้มีข้าเลย!” เขาเจ็บอยู่ในใจ รอยแผลเป็นขนาดใหญ่แผลนั้นคงไม่อาจหายได้แล้ว ใจของเขาให้นางไปจนหมด ยามที่ไม่ได้พบ ลืมตาก็คิดถึง หลับตาก็คิดถึง สุดท้ายแล้วตัวเองก็เหมือนดั่งคนโง่เช่นนั้น ส่วนนางหรือ ยามที่ยังไม่หายดีก็เชื่อฟังอยู่ หลังจากหายแล้วถึงกับลืมสถานะของตัวเอง ความเป็นกุลสตรีอะไรนั่นสิ่งเหล่านั้นเขาไม่เคยขอให้นางมี เขาเพียงอยากจะให้นางสามารถรักเขาได้ดีๆ คำขอเพียงเท่านี้ สุดท้ายก็กลายเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ
ก็บังเอิญพอดี หากทะเลาะกันอยู่เช่นนี้มีหวังต้องทะเลาะจนถึงปีหน้า ฝ่ายเฉินยางก็เหมือนดั่งน้ำเต้าที่ถูกตัดปากไป ในใจนางมีเขา คิดถึงเขา รักเขา เพียงแต่ปากพูดไม่ออก และไม่ถนัดที่จะแสดงออกมา นางทำเหมือนเขาที่อยู่ดีๆ จะมาพูดจาหวานซึ้งมิได้ นางรักคนคนหนึ่ง ทำได้เพียงแสดงผ่านการกระทำ เฉินยางก็มีนิสัยเช่นนี้ ไม่อาจบังคับได้
เฉินยางไม่พูดแล้ว นางเงียบไป นางไม่รู้จะเถียงอย่างไรจึงเงียบ เพียงแต่ในสายตาของเฝิงเยี่ยไป๋ดูแล้ว ก็เหมือนกับเงียบเพราะถูกเปิดโปงออกมา
“ข้าคงพูดถูกแล้วกระมัง” เขาหึเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เริ่มพูดโดยไม่คิดขึ้นมา “ทำไมเจ้าไม่ลองคิดดูดีๆ ข้าแต่งกับเจ้าตอนที่เจ้ายังเป็นคนโง่อยู่ นอกจากจะไม่รังเกียจเจ้าแล้ว ยังดีกับเจ้ามากมาย คำพูดรังเกียจเจ้าข้าไม่เคยพูดออกมาเลย เจ้าถามใจตัวเองดู ใต้หล้าจะมีผู้ชายสักกี่คนที่ทำได้เช่นนี้ ตอนนี้เจ้าหายดีแล้ว กลับเริ่มรังเกียจข้าขึ้นมาแล้วหรือ”
นี่คือพูดความในใจออกมาแล้ว เฉินยางเม้มปาก สีหน้าแดงบ้างขาวบ้าง แล้วเถียงเขากลับด้วยความนิ่งสงบ “หากไม่ใช่เพราะท่านพ่อของท่าน ท่านจะแต่งข้าหรือ ท่านจะแต่งกับคนโง่หรือ ท่านพ่อของข้าเคยช่วยท่านพ่อของท่าน ดังนั้นท่านพ่อของท่านถึงได้ให้ท่านแต่งกับข้า ตอนนี้เป็นอย่างไร ท่านก็แต่งข้าแล้ว ไทเฮาก็ดูถูกที่ข้ามาจากชนบท ตอนนี้ท่านเองก็ดูถูกข้า ไม่เช่นนั้นพวกเรามิสู้แยกกันเสียดีกว่า ใต้หล้ายังมีหญิงงามมากมายรอท่านอยู่ หลังจากนี้ท่านอยากแต่งคนใดก็แต่งคนนั้น อยากแต่งมากมายเท่าใดก็ได้ ข้าจะไม่อยู่ที่นี่ให้เกะกะสายตาของท่าน พรุ่งนี้ข้าก็จะกลับหรู่หนานพร้อมท่านหมออิ๋งโจว ท่านเขียนหนังสือหย่าให้ข้าเป็นพอ ข้าไม่อยากได้อะไรอย่างอื่นอีก”
คำพูดนี้พอพูดออกมาก็ยิ่งเข้าใจผิดไปใหญ่ ความหมายของนางคือไปทางเดียวกันกับอิ๋งโจว กลับด้วยกันเป็นเพื่อน พอเฝิงเยี่ยไป๋ฟังเข้าหูก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเสียแล้ว นางจะไปกับอิ๋งโจว ดังนั้นถึงได้ให้เขาเขียนหนังสือหย่าให้นาง หลังจากหย่ากับนาง นางจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันกับอิ๋งโจวงั้นหรือ
ได้ เก่งเสียจริง ก่อนหน้านี้เขาให้เงินนางมากมายเช่นนี้ วันนี้ นางกลับจะใช้เงินที่เขาให้นางไปกับผู้ชายคนอื่น เว่ยเฉินยาง เจ้าเด็กนี่หลังจากหายดีแล้วก็เจ้าเล่ห์ขึ้นมามากมาย ที่แท้ก็วางแผนไว้เช่นนี้
เฉินยางไม่มีเสื้อผ้า เพียงแต่ยังดีที่ข้างมือมีผ้าคลุมตัว นางหันหลังให้เขา ลากผ้าคลุมตัวลงน้ำแล้วห่อตัวให้เรียบร้อยก่อนจะคลานขึ้นมา ฉวยโอกาสที่เฝิงเยี่ยไป๋ยังเหม่อลอยอยู่นั้นเดินผ่านเขาออกไปข้างนอก ก่อนจะไปก็นึกถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาได้ รู้สึกว่าอย่างไรก็ยังต้องเตือนเขา ตอนนี้เป็นเขาที่อาศัยอยู่ในจวนอ๋อง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เขารับรู้แล้วจะได้รับมือได้
——
ตอนที่ 284 ไม่แน่ว่าอาจจะท้องเมื่อไหร่ก็ได้
“วันก่อนข้าเห็นแมวตัวหนึ่งจับนกพิราบส่งสารได้ที่สวนดอกไม้ด้านหลัง บนขานกพิราบนั้นมีจดหมายมัดอยู่ ที่เขียนอยู่ในจดหมายคือ ‘หากมีความเคลื่อนไหวไม่ชอบมาพากล รีบรายงาน’ ตอนแรกข้าแกะกระดาษออกมาซ่อนอยู่ใต้หมอน เมื่อคืนคิดจะบอกท่าน…แต่ก็ไม่ทัน เมื่อเช้าหากระดาษนั่นไม่เจอ ไม่รู้ว่าถูกคนเอาไปแล้วหรือไม่ ข้าก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญเพียงใด อย่างไรเสียก็บอกท่านแล้ว ท่านก็…เห็นตามสมควรเถิด!”
นี่ก็คือเริ่มจะลาจากกันแล้ว? เขาโกรธจัดจนหัวเราะออกมาแล้วค่อยๆ ลุกขึ้น ยิ้มหยันมองนาง “โอ้โห นี่คือเตรียมจะเก็บของไปแล้ว? หนังสือหย่าไม่อยากได้แล้วงั้นหรือ”
ผ้าคลุมตัวแนบอยู่กับตัวทั้งๆ ที่เปียกอยู่นางจึงรู้สึกไม่สบายตัวนัก แต่อย่างไรก็ดีกว่าเปลือยเปล่า นางขดตัวอยู่ในผ้าคลุมตัวเล็กน้อย แล้วสูดจมูกถามว่า “เช่นนั้นท่านจะเขียนเมื่อใด”
เขาคิดอย่างจริงจัง คิดจบแล้วก็พูดด้วยท่าทางจริงจังว่า “เขียนหนังสือหย่าหรือ บังเอิญโชคไม่ดีเสียจริง มือที่ข้าใช้เขียนหนังสือนั่น…เมื่อสองวันก่อนบาดเจ็บแล้ว เขียนหนังสือไม่ได้แล้ว เจ้าอยากได้หนังสือหย่าก็รอไปก่อนแล้วกัน มือของข้าหายดีเมื่อไหร่ เมื่อนั้นค่อยเขียนให้เจ้า”
ก็คือไม่อยากเขียน เพียงแต่เขาถอยครั้งแล้วครั้งเล่า หน้าตาของเขาที่มีต่อนางนั้นก็เหลือเพียงเท่านี้แล้ว เขาต้องรักษาไว้ถึงจะได้ แม้ว่าข้ออ้างจะฟังไม่ขึ้นนัก เพียงแต่หากเขาอยาก ก็สามารถถ่วงเวลาได้ต่อไป
นี่ก็คือขี้โกงไม่ใช่หรือ มือของเขาบาดเจ็บเสียที่ไหน ไฉนเมื่อคืนยังดีๆ อยู่ วันนี้กลับเขียนหนังสือไม่ได้เสียแล้ว? จงใจชัดๆ คิดว่านางยังเป็นคนโง่อยู่หรืออย่างไร
นางกระทืบเท้าเปล่าบนพื้นสองที “ข้าเห็นว่าท่านยังดีๆ อยู่ คำพูดออกจากปากแล้วเอาคืนไม่ได้ ไฉนท่านถึงได้กลับคำพูดตัวเองเช่นนี้”
“ข้ากลับคำเสียตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าบอกว่าจะไม่เขียนให้เจ้าหรือ” เขาแสร้งทำเป็นสะบัดมือขวา มือนั้นไม่มีแรง เหมือนดั่งขาดแล้วอย่างไรอย่างนั้น “เจ้าดู เป็นแบบนี้ข้าจับพู่กันไม่ได้”
เฉินยางถูกเขาเถียงกลับจนพูดไม่ออก ในเมื่อเถียงกันถึงขั้นนี้แล้ว นางอยู่ต่อไปก็มีแต่จะเกลียดกันมากขึ้น เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตว่า เขาถึงกับเป็นคนขี้โกงเช่นนี้
เฝิงเยี่ยไป๋มองพิจารณานางอยู่เล็กน้อย ปิดมิดชิดเพียงใดจะมีประโยชน์ใดอีก อย่างไรเสียเขาก็เห็นหมดแล้ว รอยฟันกัดที่คอของเขานั้นสะดุดตานัก รอยแดงที่คอของนางก็ขับเน้นเด่นขึ้นเพราะความขาวของนางจนทำเอาคนถอนสายตาไม่ได้ พวกเขาเป็นคู่กันตั้งแต่แรก นางคิดจะไปรึ? ฝันไปเถอะ
ยิ่งดูนางเขาก็ยิ่งโมโห คนที่ไม่ยอมรับความรักจากเขาเช่นนี้ ไฉนถึงได้ใจเขาไปครองทั้งหมด ช่วงนี้เขาถึงขั้นมีความคิดประหลาดที่ว่าตนอาจจะตายด้วยพระหัตถ์ฮ่องเต้อยู่บ่อยๆ แม้เป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงไม่อาจปล่อยมือไปได้
“สาวใช้!” เขาตะโกนขึ้นมาเช่นนี้ ซั่งเหมยซั่งเซียงที่ยืนรออยู่นอกประตูก็กระตุกขึ้นมา หลังจากขานรับก็ผลักประตูเข้าไป
“บ่าวอยู่นี่ ท่านอ๋องเชิญสั่ง”
เฝิงเยี่ยไป๋สะบัดแขนเสื้อ อมยิ้มมองไปที่เว่ยเฉินยาง ถามด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “วันนี้พวกเจ้าไปตามหมอมาดูร่างกายให้พระชายาแล้วหรือยัง”
ซั่งเหมยซั่งเซียงตอบพร้อมกันว่า “ไม่เจ้าค่ะ” ซั่งเหมยเหลือบมองเฉินยางด้วยความระมัดระวังแล้วพูดอีกว่า “หมอหญิงมาแล้ว เพียงแต่พระชายาไม่ให้เข้าใกล้ และก็ไม่ให้ดูด้วย”
รอยแผลบนตัวนางนี้มาได้อย่างไรเขาไม่ใช่ว่ารู้ดีที่สุดหรอกหรือ ยังจะให้คนนอกดูอีก คิดว่าคนที่รู้ยังมีไม่พออีกหรือไร นางย่อมไม่อาจให้คนรู้มากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นนางก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใดแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรค่าจะป่าวประกาศออกไป เขาจะต้องวุ่นวายจนคนรู้กันไปทั่วจึงจะพอใจหรืออย่างไร
“พวกเจ้าพาพระชายากลับห้องไปปรนนิบัติให้ดีๆ” เขาเหลือบมองไปที่ท้องของนาง “ไม่มีเรื่องใดก็อย่าได้ให้พระชายาออกไป ไม่แน่ว่าอาจจะท้องเมื่อไหร่ก็ได้”