ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 295 พระชายาแย่แล้ว / ตอนที่ 296 ไม่ควรดู
ตอนที่ 295 พระชายาแย่แล้ว
ตอนแรกเฝิงเยี่ยไป๋เพียงขยับมือก็ฆ่าผู้หญิงคนนี้ได้ ทว่าจู่ๆ เขาก็ไม่อยากฆ่าขึ้นมา คนมักบอกว่าสามีภรรยาเป็นร่างเดียวกัน เฝิงเยี่ยไป๋เห็นนางยืนออกมาเพื่อตัวเอง ในใจเขาก็ยังคงดีใจอยู่ เรื่องที่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้พลันหายไปทันที ที่แท้นางก็เป็นห่วงเขา
เพียงแต่ยามนี้เฉินยางกลับไม่พูดแล้ว นางยืนพิงเสาทางเดิน หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง สีหน้าก็ยิ่งขาวซีดมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้หญิงคนนั้นกลับรอไม่ไหวแล้ว นางจี้กระบี่ไปที่เฝิงเยี่ยไป๋แล้วลุกขึ้นมา พูดกับเฉาเต๋อหลุนว่า “รีบเตรียมรถม้าให้ข้า ข้าไปเข้าวังไปกราบบังคมทูลฮ่องเต้ว่าพวกเจ้าสมคบคิดกัน จู่ๆ ก็เปลี่ยนฝั่ง ยังมีอีก…ท่านอ๋อง หลักฐานชัดเจน ข้าจะดูว่าพวกเจ้าถึงยามนั้นก็แก้ตัวอย่างไร”
เสียงของเฉินยางอ่อนแรงลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังเกลี้ยกล่อมนางอยู่ “เจ้าจะผลักพวกเขาเข้าแท่นประหารแล้ว เจ้ายังคิดว่าพวกเขาจะปล่อยเจ้าออกไปทั้งที่มีชีวิตได้หรือ”
ยามนี้นางกลับเริ่มนึกเสียใจขึ้นมา พอหลับตาลง ตรงหน้าก็เป็นภาพคนที่ถูกปาดคอเหล่านั้น เลือดสาดเต็มหน้า เสมือนติดอยู่ที่ตาของนางเช่นนั้น นางส่ายศีรษะไปมา ดวงตาเบิกโพลง ความหวาดกลัวที่เพิ่งตามมาทีหลังก็เหมือนดั่งตาข่ายคลุมนางเอาไว้ ยิ่งรัดยิ่งแน่น การหายใจของนางก็ยิ่งลำบากขึ้นเรื่อยๆ
อย่าว่าแต่ฆ่าคนเลย ก่อนหน้านี้แม้แต่ฆ่าไก่นางก็ไม่เคยเห็น ภาพนี้น่ากลัวยิ่งนัก เพิ่งได้เห็นครั้งแรก นางไม่เป็นลมทันทีก็ถือว่าดีมากแล้ว
เฉาเต๋อหลุนเห็นเฉินยางกำลังจะล้มก็กางมือออกแต่ไม่กล้าแตะนาง เมื่อครู่เขาคิดจะไปประคองนาง แต่นางไม่ให้และหลบไปอีก ก็ใช่อยู่ มือที่เปื้อนเลือดของตัวเองนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็หวาดกลัว
ผู้หญิงคนนั้นหมดความอดทน คมกระบี่แทงลึกเข้าไปในเนื้อมากขึ้น ตอนแรกเฝิงเยี่ยไป๋ยังคิดจะใช้โอกาสนี้ทดสอบดูว่าตกลงตัวเองมีความสำคัญเท่าใดในใจของนาง เพียงแต่ยามนี้นางไม่ไหวแล้ว ระหว่างที่พูดอยู่นั้นก็มีทีท่าว่าจะล้มลงไป ยามนี้แล้วยังจะมัวเสียเวลากับนางอะไรอีก เขาเคลื่อนไหวเร็ว พลิกมือคว้าข้อมือของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้แล้วเหวี่ยงนางลงพื้น จัดการคนไร้วิชาเช่นนี้ไม่ต้องออกแรงเลย หลังจากที่เหวี่ยงนางลงพื้นก็ปาดคอทันที นางก็สิ้นลมหายใจล้มอยู่บนพื้น เขาไม่รอช้า ทิ้งกระบี่ไปแล้วเข้าไปอุ้มเฉินยาง
นางตัวเบามากเหลือเกิน ยามอุ้มอยู่ในมือไร้ซึ่งน้ำหนักใดๆ ในใจเขาร้อนรนขึ้นมาทันที พูดทิ้งไว้เพียงว่า “ไปเรียกหมอหลวง” ก็อุ้มนางกลับไปแล้ว
เฉาเต๋อหลุนสั่งให้ลากศพออกไป ย้อนนึกถึงคำพูดของเฝิงเยี่ยไป๋เมื่อครู่นี้ เรื่องนี้เรียกหมอหลวงได้หรือ หากหมอหลวงมาถามว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้จะตอบอย่างไร บอกว่าเห็นเขาฆ่าคนแล้วตกใจกลัว? เป็นเช่นนั้นไม่ได้ หากกลับไปแล้วฮ่องเต้รู้เข้า พวกเขาล้วนต้องจบชีวิตแน่ๆ คิดว่าเฝิงเยี่ยไป๋คงตื่นตกใจเกินไป แต่เขาจะตื่นตกใจตามไม่ได้ ในเมื่อติดตามเขาแล้ว เช่นนั้นความรุ่งเรืองและชีวิตของตัวเองก็เท่ากับผูกกับเขาไว้แล้ว หากเขาได้ดีตัวเองก็ได้ดีไปด้วย หากเขาตายตัวเองก็จะตายไปเช่นกัน จะเชิญหมอหลวงยังต้องเข้าวัง หมอหลวงไปจวนใด ไปรักษาใคร เป็นโรคอะไร สั่งยาอะไร กลับไปล้วนต้องบันทึกที่สำนักหมอหลวง ฮ่องเต้อยากจะรู้ เพียงขยับปากถามก็รู้แล้ว แทนที่จะวิ่งเข้าไปในวังอีก ในจวนก็มีหมออยู่แล้วคนหนึ่งไม่ใช่หรือ
อิ๋งโจวกำลังผสมยาให้เฝิงเยี่ยไป๋อยู่ เฉาเต๋อหลุนคนเสียงยังไม่ทันถึงตัวคนกลับถึงก่อน ยังไม่ทันจะได้หอบหายใจก็ลากเขาวิ่งออกไปข้างนอก
อิ๋งโจววางสากบดยาแล้ววิ่งตามเขาไปข้างนอก วิ่งไปพลางก็ถามไปพลางว่า “เกิดเรื่องใดขึ้นถึงได้รีบร้อนเช่นนี้”
“เป็นพระชายา เหมือนจะตกใจกลัว ยามนี้ป่วยหนัก ดูท่าจะไม่ดีแล้ว”
“ไฉนถึงได้ตกใจกลัว” ดูแล้วเฝิงเยี่ยไป๋ก็รักนางมาก ทั้งยังอยู่ในจวนท่านอ๋องอีก จะมีสิ่งใดทำให้นางตกใจกลัวได้หรือ
เฉาเต๋อหลุนก็ไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไร “ท่านตามข้าไปดูเถิด ท่านอ๋องรออยู่”
——
ตอนที่ 296 ไม่ควรดู
ในสมองของเฉินยางเลอะเลือนไปหมด ข้างหน้าเป็นสีดำสลับสีแดงเป็นระยะ สีแดงเป็นเลือด สีดำ…สีดำเหมือนดวงตาของคนที่ตายไปแล้ว
เฝิงเยี่ยไป๋อุ้มนางเดินอย่างรีบเร่ง ได้ยินเสียงนางบ่นว่า “ออกไป” ไม่หยุด แค่พูดยังไม่พอ เหมือนยังมีอะไรบางอย่างโถมเข้าใส่ มือทั้งสองข้างโบกไปมาไม่หยุด
มองดูแล้วเหมือนเป็นโรคจิต เฝิงเยี่ยไป๋ถีบประตูให้เปิดออก ทำให้นางกำนัลสองคนที่กำลังทำความสะอาดอยู่ตกใจ นางกำนัลทั้งสองตกใจรีบย่อเข่าทำความเคารพ เฝิงเยี่ยไป๋นำตัวเฉินยางวางลงบนเตียงแต่ตะโกนไล่ “ออกไป”
แสงอาทิตย์ข้างนอกค่อยๆ มืดลง พระอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่าง บนชั้นวางดอกไม้ในห้องมีแสงอาทิตย์สีแดงสลัว เฉินยางมีสติอยู่ แค่เอียงศีรษะไปก็มองเห็น ตกใจจนตาเบิกโต ขดตัวเข้าไปด้านในเตียง “เลือด! มีเลือด! เลือดเต็มไปหมด!”
เฝิงเยียไป๋ยื่นมือออกไปดึงนางเข้ามากอด กอดไว้แน่นพูดปลอบขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว ไม่มีเลือด มีข้าอยู่ที่นี่ หากมีภูตผีปีศาจอะไรข้าจะปกป้องเจ้าเอง อย่ากลัวไปเลย เฉินยาง เจ้าดูดีๆ สิ ดูสิว่าข้าเป็นใคร”
นางเอามือปิดหน้าพร้อมส่ายหน้า “ข้าไม่ดู ข้าไม่ควรดู ข้าไม่ควรมา ข้าอยากกลับบ้าน ทำไมพวกเจ้าถึงฆ่าคนอย่างเปิดเผยได้ ข้าอยากกลับบ้าน! กลับบ้าน!”
หัวใจของเขาถูกนางขยี้จนแตกหมดแล้ว ถ้าคิดได้ว่าจะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็คงสั่งคนจำนวนหนึ่งเฝ้านางไว้แล้ว นางไม่เหมือนกับเขา เขาตอนอายุห้าหกขวบก็กล้าฆ่าคนแล้ว ตอนนางอายุห้าหกขวบยังวิ่งไปซื้อถังหูลู่[1] รอบถนนอยู่เลย วันนี้พอเจอคนมากมายถือดาบปาดคอ ศีรษะและร่างกายมีเพียงเนื้อหนังชั้นเดียวเชื่อมไว้ แล้วยังมีศีรษะศีรษะหนึ่งกลิ้งออกไป เรื่องนี้สำหรับนางแล้วเป็นเรื่องยากมากที่นางจะรับได้ อย่างอื่นเขาไม่กลัว แต่จากเรื่องนี้เขากลัวนางตกใจจนป่วยขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาต้องเกลียดตัวเองไปจนวันตายแน่ๆ
เฝิงเยี่ยไป๋กอดนางไว้ ยิ่งกอดยิ่งแน่น เหมือนกับจะกอดนางเข้าไปในกระดูกถึงจะยอมหยุดได้ “นี่เป็นบ้านของเจ้า ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว คนที่ฆ่าเป็นข้าเอง พวกเขาตายไปเป็นผีร้ายจะมาแก้แค้นก็มาแก้แค้นที่ข้า ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า เจ้าวางใจได้ ต่อไปข้าจะเฝ้าดูแลเจ้าทุกวันเอง ไม่มีเลือดก็ไม่มีผี ถ้าพวกเขามีชีวิตข้าก็จะฆ่าพวกเขา ตายไปข้าก็สามารถฆ่าพวกเขาได้อีก ”
“ไม่ใช่! ไม่ใช่!” นางเงยหน้าขึ้น แก้มทั้งสองข้างเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา นางซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ทำหน้างงงันในอ้อมกอดเขา เอ่ยอึกอัก “เดิมทีพวกเขาไม่สมควรตาย คนร้ายตัวจริงหาเจอแล้ว พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ตอนแรกข้าจะทำพิธีโปรดสัตว์ให้พวกเขา ท่านยังจะฆ่าพวกเขาอีกรอบหรือ ”
“โปรดสัตว์?” เฝิ่งเยี่ยไป๋ถามนาง “เจ้าทำพิธีโปรดสัตว์อะไรให้พวกเขา”
ตอนนี้เฉินยางยังไม่ค่อยได้สติ แต่เขาถามนางนางก็พูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “คนที่ฆ่าคนตายไปจะต้องตกนรก ข้าทำพิธีโปรดสัตว์ให้พวกเขา เพื่อช่วยลดบาปกรรมให้กับท่าน”
ทำเพื่อเขา? ในหัวของเฝิ่งเยี่ยไป๋มีเสียงระเบิดดังตูม นางบอกว่านางทำเพื่อเขา แต่เมื่อตอนกลางวันพวกเขายังทะเลาะกันอยู่เลย นางมาหาเขาเพื่อจะเอาหนังสือหย่า บอกว่าจะไปกับอิ๋งโจว พอมาตอนนี้กลับไม่อยากให้เขาตกนรกเพราะฆ่าคนตาย เพราะเหตุนี้จึงได้เห็นฉากแบบนั้น จึงได้ถูกทำให้ตกใจงั้นหรือ
เฉาเต๋อหลุนยืนอยู่นอกประตูกล่าวขึ้นว่า “ท่านอ๋อง ท่านหมออิ๋งโจวมา”
เฝิงเยี่ยไป๋ขมวดคิ้ว ให้เขาไปตามหมอมา ทำไมถึงกลับตามอิ๋งโจวมา แต่ในเมื่อคนมาแล้ว คงไม่ดีถ้าจะไล่ให้ไป จึงทำได้แค่เชิญให้เข้ามา
อิ๋งโจวมาเห็นคนสองคนกอดกันอยู่บนเตียง ก้มหน้า หยุดอยู่ไม่ไกลจากเตียงไม่กี่ก้าว “ขอความกรุณาท่านอ๋องวางพระชายาไว้กับพื้นราบ ข้าจะช่วยจับชีพจรดู”
——
[1]ถังหูลู่ คือผลไม้เคลือบน้ำตาลเสียบไม้