ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 337 ใจผู้หญิงยากจะเดา / ตอนที่ 338 มีความสุขกับคนอื่น
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 337 ใจผู้หญิงยากจะเดา / ตอนที่ 338 มีความสุขกับคนอื่น
ตอนที่ 337 ใจผู้หญิงยากจะเดา
น่าอวี้เดินหนึ่งก้าวหันศีรษะกลับมามองสามครั้งตามเฝิงเยี่ยไป๋จากไป นางอยากจะกล่อมเขา เพียงแต่ตอนนี้เขากำลังโกรธอยู่ พูดไปก็เหมือนดั่งใส่ไฟเพิ่มขึ้นไปอีก นางตามเขาเดินออกจากเรือนของเฉินยาง เห็นฝีเท้าของเขามั่นคง ผ่านไปเพียงคืนเดียวก็ไม่มีท่าทางป่วยของเมื่อวานแล้ว ในใจก็รู้สึกประหลาด จึงอดไม่ได้ถามเขาว่า “ท่านอ๋อง ร่างกายของท่านดีขึ้นแล้วหรือ ข้าเห็นว่าวันนี้ท่านมีสีหน้าสดชื่น เดินก็มั่นคง คือหายดีแล้วหรือ”
ฮ่องเต้พระราชทานงานสมรสก็ไม่ใช่ว่าเพื่ออยากให้เขารีบหายดีหรือ การแกล้งป่วยก็ไม่ใช่แผนที่อยู่ยาวนานได้นัก เขานับดูแล้วช่วงเวลานี้ฝั่งซู่อ๋องนั้นก็น่าจะมีข่าวออกมาแล้ว ฉวยโอกาสนี้ให้เล่นไปตามแผน ฝั่งฮองเฮานั้นก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก
เขาเดินขึ้นบนสะพานโค้ง แล้วหยุดลงยื่นมือไปดึงน่าอวี้เข้ามาหา เขาบิดตัวเล็กน้อย สีหน้าเจือด้วยรอยยิ้ม “เพราะพระกรุณาธิคุณของฝ่าบาท ได้ส่งหญิงงามที่ดวงสมพงศ์กับข้าหลายคน ถูกเรื่องดีๆ เช่นนี้เข้ามาแก้ มีผีร้ายเท่าใดก็ถูกขับไล่ไปแล้ว”
จะบอกว่าดีขึ้นแล้วก็ไม่อาจเร็วเกินไป ไม่เช่นนั้นจะทำให้คนอื่นสงสัยเอาได้ เขางอตัวกระแอมสองที น่าอวี้รีบลูบหลังให้เขา เขาหายใจสะดวกขึ้นแล้ว ก็จูงมือนางไปนั่งลงที่ศาลาอีกฝั่ง
ท่าทางของเฉินยางทำเอาเขารู้สึกท้อ หลายปีแล้ว เขาไม่เคยพลาดท่าให้กับแม่นางคนใด วันนี้กลับเกิดขึ้นกับนางเสียหมด สองสามประโยคก็ทำเอาเขาพูดไม่ออก เขาไม่เคยเห็นคนที่เป็นเช่นนี้ คำพูดดีหรือไม่ดีก็ฟังไม่เคยเข้าใจเลย
“เมื่อครู่เจ้าอยู่ตลอด ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น” บอกว่าเฉินยางนั้นหาเรื่องก่อนเขาไม่อาจเชื่อ นางเห็นคนแปลกหน้าสามารถพูดคุยได้ก็ไม่เลวแล้ว จะไม่ไปหาเรื่องก่อนอย่างแน่แท้
น่าอวี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดเป็นกลางว่า “ลูกสาวขุนนางใหญ่ นิสัยมักจะยโสไม่มากก็น้อย ระเบียบหลังจากแต่งงานแล้วก็ไม่ได้เข้าใจมากมายนัก ยังไม่ทันได้ยกชาน้อมทักทายก็จะไป ซั่งเหมยที่อยู่ข้างกายพระชายาจึงว่านางเสียเล็กน้อย นางทนถูกสาวใช้ทำให้เสียหน้าได้อย่างไร ถึงได้ก่อเรื่องขึ้นมา เจอกับพระชายาก็เป็นคนที่ปกป้องคนของตัวเอง ข้าเข้าไปห้าม แต่ห้ามไม่ไหว เห็นว่ากำลังจะตีกันขึ้นมา ท่านมาแล้ว พอตะโกนออกมา พวกนางถึงได้หยุดมือ”
ไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่ว่าเป็นใคร ก็จะพูดเหมือนกับนาง พูดไปตามความจริง เช่นนี้แล้วจะได้ไม่ผิดใจกับใคร
เฝิงเยี่ยไป๋รู้นิสัยเฉินยางเป็นอย่างดี นางเป็นคนที่หากเจ้าเคารพนาง นางก็เคารพเจ้า หากเจ้ารุกล้ำนาง นางก็จะรุกล้ำเจ้า ไม่เอาเปรียบคนอื่น แต่ก็ไม่ยอมแพ้แม้แต่นิดเดียว เพียงแต่วิถีไม่ฉลาดนัก ฐานะพระชายาของนางนี่ไม่ได้เรียกเปล่า ก็เพื่อจะให้นางระบายอารมณ์ เพียงแต่นางใช้ไม่เป็น ใช้ฐานะของพระชายาตะโกนว่า “บ่าว” จะระบายอารมณ์ยังต้องถึงมือนางได้อย่างไร
“ท่านอ๋อง เมื่อครู่ท่านก็ไม่ได้ดูออกเลยว่าพระชายากำลังหึงอยู่หรือ” น่าอวี้ยิ้มพูด “หากพระชายาไม่สนใจท่านแม้แต่น้อย เมื่อครู่ก็จะไม่ทะเลาะกับพระชายารองซ่งขึ้นมาแล้ว หากผู้หญิงไม่สนใจผู้ชายคนหนึ่งจริงๆ ก็จะไม่สนใจผู้หญิงของเขา พระชายาโกรธพระชายารองซ่ง เพียงแต่ที่นางโกรธไม่ใช่พระชายาซ่ง แต่เป็นท่านนะ!”
ยามที่เจ้าไม่ได้รักใครคนหนึ่งนั้น คิดจะมองนางให้ออก ช่างง่ายดายนัก แต่หากเจ้าได้รักคนหนึ่งเข้าให้แล้ว อยากจะมองนางให้ออกกลับไม่ง่ายเสียแล้ว เพราะในนั้นยังมีอารมณ์ของตัวเองซ่อนอยู่ อารมณ์ความรู้สึกและการกระทำทุกอย่างล้วนผูกอยู่กับนาง ดั่งที่ว่าคนนอกมองออกคนในมองไม่ออก ความหมายก็เป็นเช่นนี้ ตัวเองอยู่ในเรื่องนี้กลับมองธาตุแท้ไม่ออก คนอื่นกลับสามารถมองออกได้อย่างชัดเจนนัก
เขาคิดอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง “มิน่าคนมักกล่าวว่าใจผู้หญิงยากจะเดา!”
——
ตอนที่ 338 มีความสุขกับคนอื่น
ร่างกายของเฝิงเยี่ยไป๋ค่อยๆ ดีขึ้นในทุกๆ วัน ซ่งจูและหลี่หรูก็เกิดความคิดที่อยากจะแย่งความรักขึ้นมา ในเมื่อคิดจะแย่งความรัก ก็ย่อมเห็นความผิดปกติระหว่างเฉินยางและเฝิงเยี่ยไป๋อย่างแน่นอน ต่อให้เฝิงเยี่ยไป๋จะโกรธนางอย่างไร เพียงแต่ของกินของใช้ก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง ล้วนให้ของที่ดีที่สุดกับนาง จุดนี้คนอื่นเทียบไม่ได้ เว่ยเฉินยางและเฝิงเยี่ยไป๋จะทะเลาะกันรุนแรงอย่างไร ก็ยังคงเป็นสิ่งล้ำค่าของเขา ไม่อาจล่วงเกินได้!
นอกจากวันที่เกือบจะตีกับซ่งจูนั้น เฝิงเยี่ยไป๋ได้จัดมื้อเย็นกินกับนางที่นี่ หลังจากนั้น ก็ได้ยินว่าล้วนกินอยู่ที่ห้องของน่าอวี้ มีอยู่หลายคืนนางอุ้มต้าหมี่ออกไปเดินเล่น เจอกับเฝิงเยี่ยไป๋และน่าอวี้กำลังคุยกันอย่างมีความสุขพอดี เฝิงเยี่ยไป๋ทำหน้าเหมือนเป็นเรื่องปกติ น่าอวี้ตกใจร้อนรน อยากจะเข้ามาอธิบายกับนาง เพียงแต่นางไม่ฟัง หันศีรษะแล้วก็เดินจากไป
ซั่งเหมยกลับมาจากห้องครัวทั้งมือเปล่า เฉินยางเห็นไม่มีบ๊วยที่ตัวเองคิดถึงอยู่ก็รู้สึกเศร้าใจ “ไฉนถึงไม่ได้เอามา ไม่ใช่ว่าเจ้าลืมอีกแล้วหรือ”
ซั่งเหมยแบมือออก “ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ข้าน้อยจะกล้าลืมได้อย่างไร ที่ห้องครัวไม่มีบ๊วยแล้ว ตอนแรกบ่าวอยากจะเอาอิงเถา[1]มาให้ท่านกินเล็กน้อย เพียงแต่พ่อครัวที่ห้องครัวบอกว่าอิงเถาตะกร้าสุดท้ายถูกพระชายารองเจี่ยงเอาไปแล้ว”
เฉินยางอยากจะแค้นแต่ก็แค้นไม่ลง น่าอวี้ก็ไม่ได้รู้ว่านางอยากจะกินของเปรี้ยว นางนวดให้ต้าหมี่เล็กน้อย แล้วถอนหายใจนอนลงบนเตียง พูดด้วยเสียงอ่อนว่า “คนที่ห้องครัวเมื่อไหร่จะออกไปซื้อของ บอกพวกเขา ให้พวกเขาเอาบ๊วยกลับมาหน่อย”
ซั่งเหมยร้องทุกข์แทนนาง “ท่านถึงเป็นพระชายาเอก เหตุผลใดที่จะกินสิ่งใดยังต้องต่อแถวอยู่หลังพระชายารองคนหนึ่ง บ่าวจะไปเอาให้ท่าน ความไม่ยุติธรรมนี้พวกเราจะเฉยไม่ได้”
นางและน่าอวี้ยังไม่ถึงกับจะทะเลาะเพราะอิงเถาเพียงตะกร้าเดียว อีกอย่าง เพราะอิงเถาตะกร้าเดียวก็ทะเลาะกับคนอื่นหากเรื่องนี้แพร่ออกไปแล้วก็ไม่น่าฟังนัก นางยังไม่ได้ใจแคบเช่นนั้น นางโบกมือ พูดด้วยความใจกว้างว่า “ช่างเถิด ข้าก็ไม่ได้ชอบกินอิงเถา ไม่มีอิงเถากินอย่างอื่นก็ได้เช่นกัน”
ซั่งเซียงที่ปกติไม่ค่อยพูดนักวันนี้ก็ยืนอยู่ข้างซั่งเหมย “ท่านมักเป็นเช่นนี้อยู่ตลอด นานวันเข้า คนจะรู้สึกท่านถูกรังแกได้ง่ายนัก ล้วนมารังแกท่าน ในจวนนอกจากท่านอ๋องแล้วก็เป็นท่านที่ใหญ่ที่สุด ท่านต้องเอามาดของเจ้านายออกมาถึงจะได้”
“ใช่ๆๆ!” ซั่งเหมยอุ้มต้าหมี่ออกจากอ้อมกอดของนาง “ท่านก็อย่าได้เอาแต่นอนอยู่ในห้องเลย ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง หากยังนอนอยู่ต่อไป คนก็จะขึ้นราเสียแล้ว”
เฉินยางปล่อยให้พวกนางมาดึงตัวเอง แต่ก็ลุกไม่ขึ้น นางขี้เกียจจนไร้เรี่ยวแรง “ข้าไม่อยากออกไป ข้างนอกร้อนจนหนังแทบถลก ไม่สู้อยู่ในห้องเย็นสบาย ต้าหมี่เล่า ไปหาต้าหมี่มาให้ข้า ข้าจะนอนกลางวัน!”
ต้าหมี่มีนิสัยเป็นไปตามเจ้านายของมัน มันถูกซั่งเหมยอุ้มไปแล้ว ก็กลับมาเองอีกครั้ง มันร้องเมี้ยวแล้วก็กระโดดอยู่บนตัวเฉินยาง อุ้งเท้าเหยียบอยู่บนท้องนาง หาท่าที่สบายแล้วหมอบลง
“ท่าน… ท่านจะให้พวกเราว่าท่านอย่างไรดี ท่านลองนับเองดู ท่านอ๋องไม่ได้มานานเพียงใดแล้ว แต่กลับไปที่พระชายารองเจี่ยงนั่นอยู่บ่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ท่านก็จะไม่มีตัวตนในสายตาของท่านอ๋องเลย”
เฉินยางหลับตาลง หัวใจเต้นไปหยุดไป นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อว่า “เขาจะมาหรือไม่อยู่ที่เขา หากเบื่อข้าแล้วจริงๆ ถึงจะขอให้เขามาก็ไร้ค่า สิ่งที่คนอื่นอยากได้นักหนาข้ากลับไม่เห็นค่า ดูว่าใครจะทนได้มากกว่ากัน!”
มีใครทะเลาะกับสามีตัวเองเช่นนี้อีก สองคนนี้ได้ยินแล้วก็ส่ายหน้าไม่หยุด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าสถานการณ์จะแย่เอา!
——
[1] อิงเถา คือผลเชอรี่