ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 343 ความหึงของเฝิงเยี่ยไป๋ / ตอนที่ 344 ยินดีด้วยท่านอ๋อง
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 343 ความหึงของเฝิงเยี่ยไป๋ / ตอนที่ 344 ยินดีด้วยท่านอ๋อง
ตอนที่ 343 ความหึงของเฝิงเยี่ยไป๋
เฉินยางเชื่อคนง่าย เขาปล่อยวางฐานะมากล่อมนาง ในใจนางก็ใช่ว่าจะไม่รับ ที่จริงแล้วตอนที่เพิ่งได้เจอเขานั้น นางก็เกือบจะทนไม่ไหวพุ่งเข้าไปกอดเขาแล้ว เพียงแต่คิดเสียออกไปอีก เขาไม่ได้มานานเช่นนี้ล้วนอยู่กับน่าอวี้ ก็รู้สึกไม่พอใจ จึงเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบขึ้นมา น่าอวี้หน้าตาดีกว่านาง รู้หนังสือ พูดอะไรกับนางก็สามารถพูดได้ ส่วนนางเล่า ก็เหมือนดั่งน้ำเต้าที่ถูกเลื่อยปากทิ้ง ไม่รู้จักพูดคำพูดน่าฟัง นอกจากยิ้มโง่ๆ แล้วอะไรก็ไม่เป็น พอคิดได้เช่นนี้ก็ปล่อยวางแล้ว นางเทียบน่าอวี้ไม่ได้ เฝิงเยี่ยไป๋จะชอบน่าอวี้มากกว่าก็เป็นเรื่องปกติ หากเป็นนางก็คงจะชอบแม่นางเช่นน่าอวี้
ต่างฝืนกันอยู่เช่นนี้ เมื่อใดถึงจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้!
เฝิงเยี่ยไป๋จูงนางนั่งลงอย่างระมัดระวัง “ข้าจะสั่งคนไปเด็ดพุทราป่าให้เจ้า เจ้านั่งลงก่อน…ซั่งเซียง ดูแลเจ้านายของพวกเจ้าดีๆ ซั่งเหมยออกมา ข้ามีเรื่องจะถาม”
ในใจซั่งเหมยกระตุก เดินตามออกไปอย่างหวาดระแวง นางย้อนนึกไปถึงเรื่องที่ตัวเองทำไปหลายวันนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้ทำผิดสิ่งใด ในใจก็หวาดกลัว ไม่กล้าหายใจแรง
“ประจำเดือนของพระชายาเดือนนี้ปกติหรือไม่”
ที่แท้ก็ถามเรื่องนี้ ซั่งเหมยย่อตัวลงพูดว่า “เดือนนี้ยังไม่ถึงเลยเจ้าค่ะ ต้องเป็นช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือน หากเป็นปกติ นอกจากเจ็บท้องก็ไม่มีอาการอื่นใด ผู้หญิงก็มักเป็นเช่นนี้ ไม่มีใครหนีพ้นได้ พวกบ่าวก็หาวิธี ต้มน้ำเชื่อมให้ดื่มก็ไม่ได้ผล ครั้งก่อนก็เชิญท่านหมอมาดูแล้ว บอกว่าหนาวเย็นจากภายใน ต้องบำรุงให้ดีๆ ไม่เช่นนั้นหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่า…” ซั่งเหมยเหลือบมองเฝิงเยี่ยไป๋ด้วยความระมัดระวัง “เกรงว่าจะมีลูกยาก”
มีลูกยาก? หรือว่าเขาเดาผิดเสียแล้ว?
“เฉาเต๋อหลุน!”
“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”
“ไปเรียกหมอสตรีมาดูร่างกายให้พระชายา หากเป็นโรคใดจริงๆ ก็จะได้รู้ก่อนรีบรักษา”
เฉาเต๋อหลุนรับคำสั่ง แล้วสั่งคนไปทำ
ซั่งเหมยก็เป็นคนหัวไว ตอนเช้ายังไม่รู้สึกตัว ตอนนี้พอเฝิงเยี่ยไป๋ถาม ก็รู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว พระชายาของพวกนางคงจะมีครรภ์เสียแล้ว มิน่าวันนี้เถียงท่านอ๋องท่านอ๋องก็ไม่โมโห จะโมโหได้อย่างไรกัน ทะนุถนอมยังไม่ทันเลย ยังจะพูดจารุนแรงสนใจเรื่องเล็กน้อยพวกนี้หรือ
เฝิงเยี่ยไป๋กำชับนางให้เก็บเรื่องนี้ไว้ให้สนิท ก่อนที่จะรู้แน่ชัดนั้นต้องปรนนิบัติอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะไม่อาจให้หกล้มเป็นแผล สุดท้ายก็พูดด้วยอารมณ์โกรธเล็กน้อยว่า “เอาต้าหมี่ไปเลี้ยงอยู่ที่ห้องอื่น อย่าให้มันนอนกับนายหญิงของพวกเจ้าตลอด ใช้ได้ที่ไหน!”
“เจ้าค่ะ บ่าวจำไว้แล้ว!”
ท่าทางของท่านอ๋องนี้ก็เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก ได้ยินคำพูดนั้นเต็มไปด้วยความหึงหวง แม้แต่แมวตัวหนึ่งยังหึง เห็นได้ว่ารักนางมากเพียงใด
พอกลับไป ซั่งเซียงถามนางว่าท่านอ๋องถามอะไร ซั่งเหมยจำสิ่งที่เฝิงเยี่ยไป๋กำชับเอาไว้ได้ นางส่ายหน้า พูดว่า “ยังจะพูดอะไรได้อีก ก็ให้พวกเราปรนนิบัติอย่างระวัง บอกว่าต้าหมี่อยู่ใกล้นายหญิงมากไป กลัวจะทำนายหญิงเป็นแผล เพื่อไม่ให้ต้าหมี่วุ่นวายขึ้นมารบกวนการพักผ่อนของนายหญิง จึงให้พวกเราเอาต้าหมี่ไปเลี้ยงไว้ที่อื่น!”
ซั่งเหมยชี้ไปในห้อง “เช่นนั้นนายหญิงจะเห็นด้วยหรือ”
เฉินยางค่อยๆ เดินมา นางทำหน้าเหนื่อยใจ “บอกพวกเจ้ากี่ครั้งแล้ว มีอะไรก็ให้พูดต่อหน้าข้า ไม่ก็เดินไปพูดไกลๆ อย่าได้ให้ข้าได้ยิน ไฉนถึงจำไม่ได้เอาเสียเลย”
คำพูดของพวกนางเฉินยางได้ยินอย่างชัดเจน ก็เพียงแค่เปลี่ยนที่อยู่ให้ต้าหมี่ ที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีอะไร กลางวันยังได้เจอก็พอแล้วไม่ใช่หรือ แมวตัวนี้ถูกนางเลี้ยงจนเสียนิสัย กลางคืนนอนอยู่บนตัวนาง ทับจนนางแทบหายใจไม่ออก เปลี่ยนที่อยู่ก็ดีเช่นกัน!
——
ตอนที่ 344 ยินดีด้วยท่านอ๋อง
ตอนเย็น มีหมอมาดูเฉินยาง เป็นคนแก่ที่อายุมาก ไว้เคราแพะ ตอนที่จับชีพจรให้นางก็ส่ายหน้า สุดท้ายก็ถอนหายใจ ไม่พูดอะไร สั่งยาให้ซั่งเหมยก็จากไปแล้ว
เฉินยางกระวนกระวายใจกับการถอนหายใจของเขา “นี่หมายความว่าอย่างไร ไฉนถึงไม่พูดอะไรเลย หรือว่าข้าใกล้จะหมดอายุขัยแล้ว”
นางเคยเห็นคนไข้ที่ป่วยหนักไปหาอิ๋งโจว หากรักษาไม่ได้ สีหน้าของอิ๋งโจวก็เป็นเช่นนั้น ส่ายศีรษะถอนหายใจ เป็นความหมายว่าไม่อาจจะรักษาได้ นางนึกถึงอีกว่าวันนี้เฝิงเยี่ยไป๋จู่ๆ ก็มาเยี่ยมนาง ในใจก็กระตุก หรือว่าตัวเองจะเป็นโรคอะไรจริงๆ
ซั่งเหมยเอาใบสั่งยาให้นางดู “ท่านอย่าได้คิดมากเลย นี่ล้วนเป็นสมุนไพรที่บำรุงร่างกาย หมอที่อายุมากแล้วก็เป็นเช่นนี้ ชอบทำตัวลึกลับนัก”
เฉินยางอยู่ที่อิ๋งโจวนั้นก็ไม่ได้อยู่เปล่า สมุนไพรก็ยังรู้จักอยู่หลายตัว ใบสั่งยานี้ล้วนเป็นสมุนไพรธรรมดา หาซื้อในตลาดทั่วไปได้ ผลของสมุนไพรนางไม่รู้ คิดว่าก็คงจะเหมือนดั่งที่ซั่งเหมยพูดเช่นนั้นกระมังล้วนใช้เป็นบำรุงร่างกาย
นางอยู่ข้างในรู้สึกโล่งใจ เฝิงเยี่ยไป๋อยู่ข้างนอกกลับกังวลจนอยู่ไม่สุข
หมอออกมามองเขาเล็กน้อย แล้วก็ถอนหายใจอีก “เป็นอาการหนาวจากภายในจริง เพียงแต่ไม่หนักนัก ข้าได้สั่งยาที่ทำให้อุ่นขึ้นกับสาวใช้ที่อยู่ข้างพระชายาแล้ว บำรุงอย่างดีเสียหน่อย ใช้เวลาไม่นานก็สามารถฟื้นกลับมาได้ “พูดจบก็ประสานมือ “ยินดีด้วยท่านอ๋อง พระชายาตั้งครรภ์ได้เดือนเศษแล้ว เพียงแต่… ร่างกายพระชายาอ่อนแอนัก ลมปราณอ่อน เลือดลมไม่เดิน ตอนนี้ตั้งครรภ์แล้ว วันหลังหากจะคลอดเกรงว่า…”
ความดีใจสุดขีดที่เกิดขึ้น ก็ถูกคำว่า ‘เกรงว่า’ ตบกลับมา ที่เขากลัวที่สุดก็คือสิ่งนี้ วันนี้คือกลัวสิ่งใดสิ่งนั้นก็มาถึงเช่นนั้นหรือ
“ท่านหมอพูดมาเถิดไม่เป็นไร!”
“จะพูดตอนนี้ก็ยังเร็วเกินไป บำรุงไว้เสียก่อนเถิด กินของบำรุงเติมลมปราณเสียหน่อย เพียงแต่อย่าให้พระชายากินมากไป เด็กคนนี้บอกจะโตก็เร็วนัก หากเด็กโตมากเกินไป ยามที่ต้องคลอดก็จะเหนื่อย อย่างอื่นไม่กลัว หากคลอดยาก… ข้าขอพูดไม่เข้าหูเสียหน่อย สิบคนมีแปดเก้าคนจะตายทั้งแม่และลูก”
เพิ่งดีใจอยู่เลย พอได้ยินหมอพูดเช่นนี้ ยังจะดีใจได้อย่างไร เขาขมวดคิ้วเดินวนไปมาอยู่ที่ประตู ห่างเพียงประตูเดียวกั้นก็พบนางได้ ยามนี้ไฉนถึงไม่มีความกล้าที่จะเข้าไป ผ่านปีนี้ไปนางก็เพิ่งจะสิบหก เป็นเวลาดีที่จะแต่งงาน เพียงแต่จะมีลูกนั้น ก็ออกจะเร็วไปสักหน่อย
ตอนเที่ยงที่ไปเยี่ยมนาง เขากอดนางเอาไว้ ศีรษะของนางเพิ่งถึงอกของเขา กางแขนก็กอดได้รอบแล้ว ดูจากข้างหลัง คนอื่นไม่รู้เลยว่าเขากอดคนอยู่
และเขาก็นึกถึงครั้งแรกที่ ‘ทำเรื่องนั้น’ กับนาง เขายังไม่ทันเข้าไปเลย เพียงแค่ดูทางอยู่ปากถ้ำ นางก็ร้องแทบเป็นแทบตาย ทุบเขาตีเขาให้เขาไสหัวไป เพียงแต่ตอนนั้นเขาถูกไฟราคะครอบงำ ปล่อยให้นางทุบตี ไม่สนว่านางจะร้องอย่างไร จิตเด็ดเดี่ยว บุกทะลวงกำแพงเมืองเข้าไปข้างใน นางเหมือนดั่งแหนที่อยู่บนน้ำ ลอยไปตามสายน้ำแรงลม สุดท้ายแม้แต่แรงจะร้องไห้ก็ไม่มี ตอนที่หลับนางขมวดคิ้ว รอยเขียวช้ำเต็มตัว แม้แต่เจ้าตัวที่ก่อเรื่องอย่างเขานั้นเห็นแล้วก็ยังสงสาร
ตอนนั้นรู้สึกเพียงว่านางยังเด็ก คนตัวเล็กเท่านี้ แม้เขาจะควบคุมไม่ออกแรง ก็ยังคงทำเอานางลำบากแทบแย่
ตอนนี้คิดขึ้นมาแล้วก็เสียใจ รอเสียอีกหน่อย รอให้นางโตกว่านี้อีกหน่อย รอให้นางยอมรับเขาได้แล้วนั้น ทุกอย่างนี้ก็เป็นไปตามธรรมชาติไม่ใช่หรือ