ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 345 เหลวไหลไปตามเขา / ตอนที่ 346 ต้องเจ็บมากมายเพียงใดหรือ
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 345 เหลวไหลไปตามเขา / ตอนที่ 346 ต้องเจ็บมากมายเพียงใดหรือ
ตอนที่ 345 เหลวไหลไปตามเขา
ตอนที่วั่งเหมยออกไปต้มยาให้เฉินยางนั้น เฝิงเยี่ยไป๋ยังยืนอยู่ที่ประตู นางตกใจ เอามือทาบอกแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องสุขสำราญ”
ในใจกลับแอบบ่นว่า ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องดี ไฉนท่านอ๋องถึงไม่ได้มีสีหน้าที่ดีใจเลย
“พระชายาหลับไปแล้วหรือ” คำพูดนั้นของเขาอ่อนแรงนัก ซั่งเหมยได้ยินก็เกร็งขึ้นมา ตอบกลับว่า “ยังเจ้าค่ะ ดูหนังสือภาพอยู่!”
หนังสือภาพ? เขานึกถึงเล่มที่อยู่ในห้องของเขานั้น ใบหน้าก็เริ่มมีสีสันขึ้นมา ไม่ได้ขาวซีดอีก ในใจคิดว่า ‘คงไม่ใช่ว่าเหลวไหลตามเขา ดูของที่ไม่สมควรดูกระมัง’
“…ดู ‘รวมเรื่องปีศาจ’ อยู่” ซั่งเหมยยังพูดไม่จบประโยคท้าย เฝิงเยี่ยไป๋ก็รีบร้อนเข้าไปแล้ว ประตูปิดดัง โครม ทำเอาซั่งเหมยตกใจ
ซั่งเหมยมีสีหน้าเหนื่อยหน่ายขยับไปถามเฉาเต๋อหลุนที่อยู่ใต้ชายคาทางเดินที่กำลังหาวอยู่ “ผู้ดูแลใหญ่เฉา ท่านอ๋องนี่คือเป็นอะไรหรือ ไฉนถึงได้เหมือนดั่งวิญญาณลอยออกจากร่างเช่นนั้น”
เฉาเต๋อหลุนเอาแขนเสื้อเช็ดหางตา ชูมือไล่ซั่งเหมย “ทำงานของเจ้าดีๆ ไปเถอะ ไม่มีอะไรก็อย่าปากมาก ไปสั่งให้ห้องครัวต้มคางคกหิมะให้ท่านอ๋องถ้วยหนึ่ง วันหนึ่งไม่ได้กินข้าวแล้ว และต้องเจอเรื่องนี้อีก เห้อ…”
ระหว่างทางซั่งเหมยคิดอยู่ตลอด ‘เรื่องนี้’ ที่อยู่ในปากเฉาเต๋อหลุนคือเรื่องอะไร เป็นเจ้านายไม่พูด พวกนางที่เป็นบ่าวก็ไม่กล้าถาม เพียงแต่มักจะเกี่ยวข้องกับพระชายาของพวกนางอยู่ตลอด
เฉินยางยังไม่รู้เรื่องที่ตั้งครรภ์ ในใจก็ไม่มีภาระใดๆ กลางคืนกินขนมพุทรามันเทศไปสองชิ้น ตอนนี้เริ่มขี้เกียจ หลังจากชำระล้างตัวเสร็จก็นอนอยู่บนเตียงอย่างสบาย คลำไปที่ข้างเตียงว่างเปล่า ไม่มีต้าหมี่ก็รู้สึกไม่คุ้นชินนัก
นางกำลังเศร้า จู่ๆ ม่านเตียงก็ถูกคนเปิดออก นางตกใจ รอตั้งสติได้ ก็เห็นคนที่มาคือเฝิงเยี่ยไป๋ นางลูบอกบ่นเบาๆ ว่า “กลางคืนเช่นนี้ท่านมาทำไมหรือ ทำเอาข้าตกใจแทบแย่!”
เฝิงเยี่ยไป๋ถอดรองเท้านั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง เฉินยางจำต้องขยับที่ให้เขา นางยื่นมือเอาหมอนของตัวเองมา ขยับถอยหลังถามเขาว่า “ท่านไม่กลับไปนอนที่ห้องของตัวเองหรือ”
เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรกับนาง นางไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้ไม่พูด รอไปอีกสองวัน ประจำเดือนยังไม่มา นางจะยังไม่รู้สึกเองได้อีกหรือ ปิดบังก็ปิดบังนางได้ชั่วคราว เด็กอยู่ในท้องของนาง ไม่ช้านางก็ต้องรู้
เพียงแต่เขาก็กลัว ครั้งก่อนก็เป็นเขาที่บังคับนาง หลังจากนั้นก็เคยพูดเรื่องที่อยากมีลูกให้นางฟัง นางไม่ได้สนใจนัก ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว นางเองยังเป็นเด็กอยู่เลย นิสัยเด็กๆ ชอบโมโหกระฟัดกระเฟียดใส่เขา ให้นางคลอดเด็กอีก คาดว่านางก็คงไม่ยอม
อีกอย่าง ร่างกายนางอ่อนแอ ลมปราณไม่เดิน เขาอยากได้ลูกคนนี้มาก เพียงแต่หากลูกคนนี้จะเอาชีวิตนางไปเล่า
“เฉินยาง…” เขาไม่เคยกลัวดั่งเช่นตอนนี้มาก่อน ฝ่ามือมีเหงื่อซึม เขาลังเล ยากจะอ้าปาก “ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
“ท่านพูดมาได้เลย ข้าฟังอยู่” นางวางหมอนไว้ แล้วตะแคงศีรษะเตรียมจะฟังเขา
เฝิงเยี่ยไป๋คว้านางขึ้นมา ขมวดคิ้วว่า “หลังจากนี้ไม่ให้นอนหมอบ ท่านอนเช่นนี้ไม่ดีต่อร่างกาย”
เฉินยางบ่นพึมพำเปลี่ยนท่านอนหงาย “นอนหมอบสบายนัก นอนหมอบมานานเช่นนี้แล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายเลย!”
เขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาถามนางอ้อมๆ ว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่มีท่านแม่ตั้งแต่เด็ก ท่านแม่ของเจ้าตายเพราะคลอดยาก ข้าถามเจ้า หากวันหนึ่งเจ้าได้เป็นแม่แล้ว คลอดยาก อยู่รอดได้เพียงคนเดียว หรืออาจจะไม่มีใครรอด เจ้าจะเสียใจหรือไม่”
——
ตอนที่ 346 ต้องเจ็บมากมายเพียงใดหรือ
ตอนที่เฉินยางยังเด็ก นางถูกคนกล่าวหาว่าเป็นตัวซวย แม่ของนางจากไปเพราะคลอดยาก พออยู่ที่ปากคนอื่นก็กลายเป็นความผิดของนาง บอกว่าเป็นนางที่ดวงชงกับแม่ของนางจนตาย ตอนนั้นยังเด็ก นางไม่รู้เรื่องพวกนี้ ตอนหลังโตแล้ว นางก็โทษตัวเอง นางถามบิดาว่าตนเป็นตัวซวยที่ทำให้มารดาต้องตายใช่หรือไม่
พอมานึกถึงตอนนี้ ตอนนั้นท่านพ่อของนางถึงจะเป็นคนที่เสียใจที่สุด เพียงแต่ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร พ่อของนางก็ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่โทษนาง แถมยังโทษตัวเอง ยังพูดกับนางอีกว่า ตอนแรกที่คลอดนางนั้น ก็มีหมอตำแยบอกกับแม่ของนางว่านางศีรษะใหญ่ ตำแหน่งก็ไม่ถูก คงจะคลอดไม่ง่ายนัก เพียงแต่สุดท้ายแม่ของนางก็ยังคงคลอดนางออกมาไม่ใช่หรือ
สตรีนั้นอ่อนแอ เป็นแม่จะแกร่ง ใต้ฟ้านี้ไม่มีแม่คนใดเสียใจกระมัง!
เฉินยางส่ายหน้า บอกเฝิงเยี่ยไป๋ว่าไม่เสียใจ
วันนี้เขาประหลาดอยู่ตลอด คำพูดการกระทำไม่เหมือนกับปกติ เฉินยางรู้สึกแปลก ไฉนถึงจู่ๆ ก็หาหมอมาดูนาง ในใจเกิดความสงสัย จึงถามเขากลับว่า “ท่านมีเรื่องปิดบังข้าหรือไม่”
เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ตอบนาง พูดกับตัวเองว่า “เพียงแต่ข้ากลัวว่าข้าจะเสียใจ ข้ากลัวว่าการตัดสินใจของข้าถึงตอนนั้นจะทำให้เจ้าตาย…”
เฉินยางตกใจ ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง นางอึ้งอยู่พักหนึ่ง ถามเขาด้วยอาการติดอ่างว่า “ท่านว่าอะไร อะ…อะไรจะทำให้ข้าตาย”
เขาพูดออกมาอย่างยากเย็น ท่าทางเหมือนลำบากใจที่จะพูดออกมาเช่นนั้น และไม่กล้ามองนาง คำพูดก็ไม่มั่นใจนัก นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เฉินยางเห็นเขามีท่าทางเช่นนี้ จึงกังวลขึ้นมา สุดท้ายก็ได้ยินเขาพูดออกมาอย่างลำบากว่า “เจ้า…เจ้าตั้งครรภ์แล้ว”
เขาจะถามนางว่าได้ยินแล้วนางดีใจหรือตกใจ นางก็ตอบไม่ถูก ได้ยินเสร็จนางก็อึ้งอยู่ตรงนั้น ในหัวระเบิดดังตูม จากนั้นก็ว่างเปล่าไม่รู้อะไรแล้ว เฝิงเยี่ยไป๋พูดอะไรกับนางอีกนางก็ไม่ได้ยิน แววตาเหม่อลอย นอกจากจะไม่มีความรู้สึกแล้วแถมยังสงบกว่าปกติ
นางน่าจะอยากได้เด็กคนนี้กระมัง! เด็กคนนี้เป็นตัวเองที่บังคับนางได้มา นางไม่ชอบเขา ก็จะไม่ชอบเด็กคนนี้แน่นอน หากนางแน่วแน่ที่จะไม่เอาเด็กคนนี้เขาจะทำอย่างไรดี
“เฉินยาง…เฉินยางเจ้าพูดกับข้าหน่อย อย่าเป็นเช่นนี้เลย ในใจเจ้าคิดอย่างไร อย่างน้อยก็พูดกับข้าได้หรือไม่” เขาไม่กล้าแตะตัวนาง สองมือโบกไปมาอยู่ตรงหน้านาง ยิ่งนางเป็นเช่นนี้ในใจเขาก็ยิ่งไม่สงบ เหมือนดั่งถูกเผาอยู่บนกองไฟ ใช้ไฟอ่อนๆ ค่อยๆ ย่างไปเช่นนั้น ข้างนอกสุกแล้ว ข้างในยังดิบอยู่เลย เนื้อถูกคนฉีกไปกินแล้ว เพียงแต่คนยังมีสติอยู่ ความรู้สึกเช่นนี้ยากจะทนไหวนัก เขาฝืนไม่ไหว
เฉินยางดึงสติจากความเหม่อลลอยกลับมา แววตาที่ว่างเปล่าเริ่มได้สติ ย้อนนึกถึงก่อนหน้านี้ที่จี้หรู่ฉางเคยพูดกับนาง นางพูดอย่างเรียบนิ่งว่า “เพียงแต่ข้าได้ยินว่าคลอดลูกจะเจ็บมาก เด็กโตเท่านี้คลอด…คลอดจากท้องออกมา…” นางถอนหายใจ “เช่นนั้นต้องเจ็บเพียงใดหรือ!”
แววตาของเฝิงเยี่ยไป๋เหมือนมีคบเพลิงสองอันถูกจุด สว่างขึ้นมาทันที “เช่นนั้นความหมายของเจ้าคืออะไร ยอมคลอดเด็กคนนี้แล้วหรือ”
ยามนี้นางถึงได้ถอนหายใจด้วยความรู้สึกเชื่องช้า แล้วลูบท้องที่แบนราบของตัวเองตามสัญชาตญาณ “นี่เป็นลูกของข้ากับท่าน…เร็วเกินไปแล้ว พวกเราแต่งงานยังไม่ถึงปีเลย เขา…มุดเข้าท้องข้าเงียบๆ เช่นนี้ นี่เร็วเกินไปแล้ว เพียงแต่อย่างไรเสียก็เป็นลูกของพวกเราสองคน ชีวิตหนึ่ง ข้าจะทำอย่างไร เขามาเกิดที่บ้านของพวกเรา ข้าจะส่งเขากลับไปหายมบาลอีกก็ไม่ได้กระมัง”