ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 383 แววตาคนคุ้นเคย / ตอนที่ 384 ข้อดีของการมีภรรยา
ตอนที่ 383 แววตาคนคุ้นเคย
หลังจากที่อิ๋งโจวเตรียมตัวเรียบร้อย ก็ออกมาคำนับอวี๋เอ๋อร์ ตัวเองเมาแล้วทำขายหน้า ก็ช่างน่าอายยิ่งนัก
อวี๋เอ๋อร์กลับไม่ได้สนใจเลยที่ตัวเองถูกคนอื่นกุมมือไว้ รีบบอกว่าไม่เป็นไร สองมือถูกไปมา พูดขึ้นมาว่า “เมื่อครู่รบกวนท่านหมอ…ต้องขออภัยจริงๆ”
พูดย้อนกลับไปอีกทั้งสองคนก็รู้สึกไม่สบายใจ อิ๋งโจวยิ้มซื่อๆ แล้วปล่อยผ่านไป ถามนางว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่านายหญิงน้อยของเจ้าเชิญข้าไปรักษา ไม่ทราบว่านายหญิงน้อยของเจ้าคือ…”
เฝิงเยี่ยไป๋แต่งพระชายารองสามคนเป็นเรื่องที่เขารู้อยู่แล้ว เพียงแค่ไม่รู้ว่านายหญิงน้อยในปากของนางเ) นคนใด หลังจากที่เฉินยางตั้งครรภ์ พวกเขาก็ไม่เคยเจอกันอีก หนึ่งคือไม่สะดวก สองคือเพื่อจะให้ถูกนอนทา ดังนั้นก็ไม่รู้ว่านางคิดอย่างไรกับพระชายารองทั้งสามคนนี้ เพียงแต่คิดแล้วผู้หญิงหลายคนใช้สามีคนเดียวกัน ความสัมพันธ์ก็คงไม่ได้ดีกระมัง
อวี๋เอ๋อร์เห็นเขาเหม่อลอย จึงเรียกเขา “นายหญิงน้อยของข้าคือพระชายารองเจี่ยง ร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก ได้ยินว่าท่านหมอวิชาสูงส่ง จึงตั้งใจมาเชิญท่านหมอไปดู”
พระชายารองเจี่ยง? ลูกสาวของเจี่ยงเหว่ย?
อิ๋งโจวขันรับ “เช่นนั้นเจ้ารอครู่หนึ่ง ข้าไปเก็บของเล็กน้อย อีกเดี๋ยวตามเจ้าไป”
ในใจอวี๋เอ๋อร์เหมือนมีกระต่ายตัวหนึ่ง กระโดดทั้งแรงและดีใจ รอคนก็รู้สึกดีใจ อิ๋งโจวหน้าตาดีเช่นท่านอ๋อง เพียงแต่ไม่มีความเ**้ยมบนตัวท่านอ๋อง ทุกครั้งที่นางเห็นท่านอ๋อง ขาสั่นอยู่ตลอด ท่านหมออิ๋งโจวก็ไม่เหมือนกันแล้ว อ่อนโยนนุ่มนวล เสียงก็น่าฟัง มารยาทครบ ดีเสียจริงๆ หากนายหญิงน้อยของนางได้แต่งงานกับคนเช่นนี้ ช่างดีเสียยิ่งกว่าสิ่งใดแล้ว อย่างไรเสียก็ดีกว่าตามท่านอ๋องในตอนนี้มาก ชื่อเป็นถึงพระชายารอง ที่จริงแล้วก็มีเพียงเปลือก ข้างหลังยังถูกคนควบคุมอยู่ ตั้งแต่ที่นายท่านนายหญิงจากไป ก็ไม่เคยมีชีวิตดีๆ สักวันหนึ่งเลย หากมีผู้ชายที่ดีเช่นนี้อยู่เคียงข้าง ชีวิตก็คงจะดีไม่น้อย
น่าอวี้รู้จักสาวใช้ของตัวเองคนนี้อย่างดี ในหัวนางคิดอะไรอยู่ วางแผนอะไรอยู่นางล้วนรู้หมด ดูเพียงรอยยิ้มที่มีความหมายแฝงอยู่ของนางนั้น กับคนที่มีท่าทางอบอุ่นเป็นคนมีความรู้ ก็พอจะเดาออกแล้ว
เจ้าเด็กนี้คงจะเกิดความรัก รีบจะแต่งงานแล้วกระมัง!
นางยิ้มเชิญให้อิ๋งโจวนั่งลง บนโต๊ะได้เตรียมชาและขนมไว้เรียบร้อย นางรินชาแก้วหนึ่งส่งให้เขา นางยื่นแขนออกไป ภายใต้ชุดบางสีม่วงอ่อนนั้น ข้อมือที่ขาวเนียนก็เผยออกมา สะดุดตายิ่งนัก
ยื่นมือไปแล้วอยู่นานก็ไม่มีคนรับ นางดึงแขนเสื้อลง เงยหน้าขึ้นมากลับเห็นแววตาลึกซึ้งของเขา
เขาจ้องมองนางตาไม่กะพริบ ในแววตาไม่มีความเจ้าชู้เลย กลับเหมือนคนคุ้นเคยที่ไม่ได้เจอกันมานาน แววตาเผยความในใจ หากไม่ได้รู้มาก่อน มองเพียงเขา คงจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนรู้จักกันเสียจริง
น่าอวี้เรียกเขา “ท่านหมอ? ท่านหมอเป็นอะไรหรือ”
อิ๋งโจวทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ถึงได้เหม่อลอย รอยยิ้มของนาง ยังมีดวงตาคู่นี้ การกระทำทุกอย่าง เหมือนดังเสียนเอ๋อร์ของเขาเจ็ดแปดส่วน บรรยากาศที่แผ่ออกมาก็เหมือน สงบนิ่งอ่อนโยน ทำเอาเขาคิดว่ายังอยู่ในความฝัน
มารยาทของเขาตอนนี้ลืมจนหมดสิ้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ใช่คนเดียวกัน เพียงแต่ก็ยังคงตื่นเต้นจนพูดไม่ครบประโยค “เจ้า…เจ้าเป็น…ข้า…อิ๋งโจวคำนับพระชายารอง…ข้าเสียมารยาทแล้ว ขออภัยท่านก่อนแล้ว”
น่าอวี้ถือผ้าป้องปากยิ้ม “ไม่เป็นไร ท่านหมอมาได้ ข้าก็ดีใจมากแล้ว”
ตอนที่ 384 ข้อดีของการมีภรรยา
วันนี้เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ต้องเข้าราชกิจ ตอนเช้าถือราชโองการของฮ่องเต้เข้าวังไปกององครักษ์เลือกคนติดตาม หัวหน้ากององครักษ์ก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่ยั่วโมโหไม่ได้ จึงพูดจาดีเชิญเขาไปเลือกคน เข้าไปก็ถวายชา ตอนไปก็โค้งตัวส่งเขาออกไป ราบรื่นทุกอย่าง คงจะได้คำสั่งจากฮ่องเต้ คนที่จะให้เขายิ่งเก่งยิ่งดี พอเป็นเช่นนี้แล้วหากมองในสายตาซู่อ๋อง ก็มีความหมายที่ยั่วยุ ไปครั้งนี้ ไม่แน่อาจจะตีขึ้นมาก็ไม่อาจทราบได้
เฝิงเยี่ยไป๋กลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เมื่อคืนเพิ่งจะไปเจอซู่อ๋อง ที่ควรพูดก็พูดไปแล้ว ครั้งนี้ไปก็ยังคงต้องไปทักทาย ระหว่างทางก็ต้องเจอโจรอาละวาดอยู่บ้าง เลือกคนที่มีฝีมือเสียหน่อยก็ดี ในเมื่อฮ่องเต้มีพระทัยเช่นนี้ เช่นนั้นก็ตามพระทัยพระองค์เถิด
ร้านที่เขาเปิดอยู่ที่เมืองหลวงได้ยินเจี่ยชีเล่า รายได้ดีมาก ผ้าไหมขายดี เป็นของที่ต้องการอย่างรวดเร็ว เดือนก่อนตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ออก ยังมีรายได้หนึ่งแสนสองหมื่นตำลึง แทบจะไล่ทันร้านค้าร้านหนึ่งของเขาที่เมืองหรู่หนานเลย
เขาเองไม่สะดวกที่จะออกหน้า จึงให้เจี่ยชีไปเก็บเงิน ออกเดินทางอยู่ข้างนอก เงินขาดไม่ได้ เบี้ยหวัดที่ฮ่องเต้ให้นั้น กินอาหารถูกๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะพอ ก็ใช่ พระคลังว่างเปล่า ล้วนถูกหอไจซิงของเขาผลาญสิ้น สร้างหอไจซิงใช้ทั้งแรงงานและเงินทอง ข้าราชการที่อยู่ข้างล่างกลบเกลื่อนได้ก็กลบเกลื่อนไป ก็มีเพียงฮ่องเต้นี้ ยังคิดว่าตัวเองอยู่ในบ้านเมืองสงบอยู่
ของที่ต้องเตรียมเดินทางไปเมืองเหมิงเขาไม่ต้องเก็บเอง การมีภรรยาก็ดีเช่นนี้ ข้างกายมีคนที่รู้ร้อนรู้หนาว เก็บของเป็นงานละเอียด แม้ว่าเขาจะเกิดบนกองเงินกองทอง แต่ก็ใช่ว่าจะทนความลำบากไม่ได้ ความลำบากของเขาที่เคยเจอมีไม่น้อย เมื่อก่อนอยู่ในวัง ต้องไปเรียนในวังตั้งแต่เช้า นอกจากวันเกิดวันเดียวที่สามารถขี้เกียจได้วันหนึ่ง ในหนึ่งปีวันที่สามารถพักได้นั้นก็แทบนับนิ้วได้เลย ลูกหลานราชวงศ์ ไม่อาจขี้เกียจเหมือนดั่งที่ประชาชนทั่วไปคิด ขี่ม้ายิงธนูเขียนพู่กัน แต่ละอย่างล้วนต้องชำนาญ ทุกปีเมื่อเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว ก็ต้องติดตามฮ่องเต้ไปสนามล่าสัตว์ กลิ้งอยู่ในโคลน สู้กับเสือ เมื่อใดควรจะละเอียดก็ควรละเอียด เมื่อใดละเอียดไม่ได้ก็พอใช้ชีวิตอยู่ได้ เป็นผู้ชายก็ต้องทนความลำบากได้ หากทนความลำบากไม่ได้ ก็เป็นขันทีแล้ว
เมื่อก่อนออกเดินทาง สัมภาระล้วนให้คนใช้จัดเตรียม ตอนนี้มีภรรยาแล้ว เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล นางล้วนจัดการคนเดียวแล้ว เขาเดินเล่นอยู่ข้างนอกกลับมา ก้าวเข้าไปในสวน กลับเห็นนางชี้สั่งคนยกกล่องลงทีละกล่อง แม้แต่พุทรา อิงเถายังมีลูกไหนเปรี้ยวที่เตรียมให้นางก็ให้คนยกกลับไป นางเอามือเท้าเอวยืนอยู่บนบันได มีท่าทางที่เป็นนายหญิงใหญ่ “ของเหล่านี้ใช่ว่าจะได้ใช้ ไม่ต้องเอาไปแล้ว ไปเรียบง่ายเสีย เอาของไปมากมายเช่นนี้จะถูกคนจ้องเอาได้”
ซั่งเหมยกล่อมอยู่ข้างๆ “นายหญิง ของเหล่านี้ล้วนได้ใช้ อย่างอื่นไม่เอาไป อย่างน้อยก็เอาชุดไปเพิ่มเสียอีกหน่อยเถิด ที่นั่นสกปรก ชุดเปลี่ยนอยู่ทุกวัน เปลี่ยนลงมาแล้วก็ใช่ว่าจะมีน้ำให้ซักได้ เอาไปเพิ่งเสียหน่อยเถิด!”
นางอืมเบาๆ รู้สึกว่ามีเหตุผล “เช่นนั้นก็เอาชุดสีขาวสีชมพูพวกนั้นลงมาเถิด ล้วนเปลี่ยนเป็นผ้าป่านเสีย ทนสกปรก ไม่ต้องซัก”
เฝิงเยี่ยไป๋ได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี เข้าไปห้ามคนที่ขนของลง “ไปรอบนี้นานนัก ต้องไปสิบหลายวัน เจ้าเอาของลงมาแล้ว ถึงยามนั้นของขาดไปไม่มีที่ซื้อ ข้าเป็นผู้ชาย ขาดเสียหน่อยไม่เป็นไร เจ้าเป็นผู้หญิง ข้าจะให้เจ้าลำบากกับข้าไม่ได้ โดยเฉพาะจะให้ลูกที่อยู่ในท้องเจ้าลำบากไม่ได้ ดังนั้นยอมเอาไปเสียมากหน่อย ดีกว่าให้ถึงยามนั้นแล้วขาดไปหาไม่ได้”