ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 407 นี่เป็นลูกชายข้าจริงๆ กระมัง / ตอนที่ 408 คนที่ฮ่องเต้รักสุดพระทัย
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 407 นี่เป็นลูกชายข้าจริงๆ กระมัง / ตอนที่ 408 คนที่ฮ่องเต้รักสุดพระทัย
ตอนที่ 407 นี่เป็นลูกชายข้าจริงๆ กระมัง
ระหว่างสามีภรรยา ร่วมหอไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ถือว่าให้ใจกันไปแล้ว หลังจากนี้ก็อยู่ร่วมเรือลำเดียวกันไปตลอดชีวิต ไม่จากกันจนแก่เฒ่า ทุกอย่างล้วนเปิดเผยหมดแล้ว ไม่มีกำแพงในใจ วันหลังถึงจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ทั้งสองคนคุยกันไปครึ่งหนึ่ง สาวใช้ข้างนอกก็เรียกขึ้นมาเชิญพวกเขาไปกินข้าว
เว่ยหมิ่นลากร่างกายที่อ่อนล้าขึ้นมา อ้าปากหาว บ่นว่าง่วง ความง่วงนอนของนางไม่ใช่วันสองวันแล้ว เหลียงอู๋เย่ว์ปรนนิบัติสวมเสื้อใส่รองเท้าให้นาง กึ่งกอดกึ่งอุ้มพานางออกมา ตรงหน้ามีข้าวต้มถ้วยหนึ่งวางอยู่ เว่ยหมิ่นถือขึ้นมาดม เป็นเม็ดบัวไป่เหอที่นางชอบที่สุดในเวลาปกติ เพียงแต่วันนี้ยังไม่ทันเข้าปาก เอาเข้าใกล้จมูกมาดม ท้องไส้ก็ปั่นป่วนขึ้นมา นางกดหน้าอกอาเจียนแห้งๆ ในท้องไม่มีอะไร อาเจียนก็ไม่มีอะไรออกมา
เหลียงอู๋เย่ว์รีบส่งชาให้นางดื่ม ถูกนางผลักออกทันที แล้วเรียกให้คนรีบไปเชิญหมอหลวง
เวลาสำคัญเหลียงอู๋เย่ว์กลับกลายเป็นคนโง่ ถามนางอย่างซื่อๆ ว่า “เจ้าเป็นอะไรหรือ”
ก่อนหน้านี้ในใจเว่ยหมิ่นก็เริ่มรู้สึกขึ้นมาบ้าง ความรู้สึกของผู้หญิงไวก่อนผู้ชายเป็นธรรมชาติ เพียงแต่ความรู้สึกไม่แรงนัก มีบ้างไม่มีบ้าง นางก็ไม่มั่นใจ กลัวว่าจู่ๆ ก็ไปหาหมอหลวงมาดูแล้วหากไม่ใช่ ก็ดีใจเสียเปล่าแล้ว สาวใช้ข้างกายนางล้วนรู้หมดแล้ว มีเพียงเหลียงอู๋เย่ว์คนโง่นี้ที่ยังไม่รู้
“ข้าอาจจะท้องแล้ว” นางหอบหายใจ มือลูบผ่านหน้าเหลียงอู๋เย่ว์ คนก็อ่อนโยนลงไม่น้อย
เหลียงอู๋เย่ว์อึ้งอยู่นานไม่มีการตอบสนองใดๆ จนหมอหลวงมาถึง ตรวจชีพจรให้เว่ยหมิ่น แล้วบอกข่าวดีกับเขาว่า `ท่านหญิงมีครรภ์` เขาถึงได้มีการตอบสนอง เขากุมมือหมอหลวง ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก ยามที่วิ่งเข้ามาหาเว่ยหมิ่นก็เกือบจะหกล้ม
เว่ยหมิ่นลูบศีรษะของเขาแล้วหัวเราะว่าเขาโง่
เขาหมอบอยู่บนท้องเว่ยหมิ่น หมอบอยู่พักหนึ่ง ก็ถามนางด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า “นี่เป็นลูกชายของข้าจริงๆ กระมัง”
“พูดเหลวไหล ไม่ใช่ของเจ้าจะเป็นของใคร ทำไมหรือ เจ้าคิดจะไม่ยอมรับหรืออย่างไร” เว่ยหมิ่นหวดกำปั้นทุบเขา เขาถูกทุบก็ดีใจ จูบที่หน้านาง “น่าเสียดายนักที่เฝิงเยี่ยไป๋ไม่อยู่ หากเขาอยู่ละก็ ข้าต้องไปอวดที่บ้านเขาเสียหน่อย มีลูกชายแล้วอย่างไร? พูดเหมือนดั่งใครไม่มีเช่นนั้น ข้าก็มี”
สมบูรณ์แล้ว ผู้ชายคนหนึ่ง มีภรรยามีลูกแล้ว ครอบครัวก็สมบูรณ์แล้ว คนมักพูดว่าผู้ชายไม่หลั่งน้ำตาเอาง่ายๆ เขาไม่เหมือนกัน เอะอะก็น้ำตาไหล ควรไม่ควรก็ไหล ดีใจตื่นเต้นก็อ้าปากน้ำตาไหล “ข้าต้องรีบบอกพ่อข้า เขามักจะบังคับข้าให้แต่งภรรยา ยังบอกว่าข้าไม่มีหลาน อกตัญญู ใครบอกข้าอกตัญญู ข้าไม่แต่งเท่านั้น พอแต่งแล้วก็แต่งได้ท่านหญิง ตอนนี้ลูกชายก็มีแล้ว เขาก็จะเป็นปู่แล้ว ข้าจะดูว่าครั้งนี้เขายังจะพูดอะไรได้อีก!”
เว่ยหมิ่นจ้องใส่เขาแล้วบ่น “คนมักพูดว่าท้องแล้วโง่สามปี นี่คือว่าผู้หญิง ไฉนเจ้าเป็นผู้ชายคนหนึ่งกลับโง่กว่าข้าเสียอีก ท้องลูกคนเดียวเท่านั้นเอง ดูท่าทางของเจ้าสิ”
จะเท่านั้นเองได้อย่างไร เหลียงอู๋เย่ว์พูดอย่างจริงจังว่า “ตอนนี้เจ้าและลูกก็เป็นดั่งชีวิตของข้า ข้ารักมากยิ่งนัก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะปรนนิบัติเจ้าเป็นอย่างดี มีอะไรก็เรียกใช้ข้า ยังมี ข้า… พรุ่งนี้ข้าจะให้คนมาวางเตียงที่นี่ กลางคืนเจ้ามีเรื่องอะไรก็จะได้เรียกข้าได้ตลอด”
เว่ยหมิ่นประหลาดใจ “นี่ไม่ใช่ว่ามีเตียงอยู่หรือ จะต้องทำเช่นนั้นทำไม เจ้านอนมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ตอนนี้รังเกียจแล้วหรือ”
เขาพูดด้วยความเศร้าหมองว่า “ไม่ใช่ ข้า… กลางคืนข้านอนชอบฟาดมือ นอนไม่นิ่ง ข้ากลัวจะทำเจ้าเจ็บ”
“เหลวไหล นอนด้วยกันมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ไฉนก่อนหน้านี้ข้าไม่สังเกตเห็นว่าเจ้าเป็นเช่นนั้น”
ตอนที่ 408 คนที่ฮ่องเต้รักสุดพระทัย
ในใจเหลียงอู๋เย่ว์พูด นอนกับนางเขาไม่เคยหลับตาลงเลย นางหลับแล้วถึงไม่สงบอย่างแท้จริง อีกเดี๋ยวก็พลิกไปอีกเดี๋ยวก็พลิกมา ไม่มีความเป็นกุลสตรีเลย เขาต้องระวังไม่ให้นางข้ามผ่านตัวเองกลิ้งตกลงไปอยู่ตลอด จากนั้นก็เก็บมือเท้านางให้ดี ห่มผ้าให้นางดีๆ พอเป็นเช่นนี้แล้ว กว่าจะหลับได้ก็ฟ้าสว่างแล้ว ยังมีเวลาใดมานอนไม่สงบอีก
เรื่องที่เว่ยหมิ่นตั้งครรภ์ปิดไม่อยู่ ข้างกายนางมีคนของฮ่องเต้ มีความเคลื่อนไหวอะไร ล้วนส่งไปถึงฮ่องเต้ได้อย่างรวดเร็ว ความรักฮ่องเต้ไม่จางหาย พอได้ข่าว ก็ถีบผ้าห่มทั้งคืนไม่เคยหยุด วันรุ่งขึ้นตอนเช้า ก็ให้คนไปเรียกนางเข้าวัง
คนส่งสาส์นยังไม่ทันได้ออกจากตำหนักหย่างซินเลย ฝั่งนั้นพั่งไห่ก็มารายงานอีก ทูลว่าท่านหญิงได้เข้าวังแล้ว ตอนนี้คุยกับไทเฮาอยู่ในวัง
ฮ่องเต้ได้ยิน จะยังประทับได้อย่างไร พระองค์ลุกขึ้นมากะทันหัน และไม่มีพระทัยที่จะสนการรายงานตรงพระพักตร์แล้ว หนังสือราชสำนักของแม่ทัพอวี้เต๋อก็โยนทิ้งลงแล้ว ในพระทัยมีไฟลุกโหมอยู่ เผาพระองค์จนสิ้นแล้ว
หลิ่วกุ้ยเฟยเอาน้ำต้มโสมมาให้พระองค์ เห็นพระองค์รีบร้อนออกไปข้างนอก นางทูลเรียก “ฝ่าบาท” ก็ไม่เห็นฮ่องเต้หยุด จึงยืนเศร้าอยู่ตรงนั้น
ฮ่องเต้ชอบคนที่มีนิสัยดุดัน ตอนแรกนางมีนิสัยดีเช่นไร ถูกบีบจนให้กลายเป็นคนนิสัยดื้อดึงดุดัน เพียงแต่ฮ่องเต้ก็ยังชอบที่นางสามารถเถียงกับพระองค์ได้ นางจับถูกจุด ย่อมได้รับความรักจากพระองค์ไม่เคยขาด นานวันเข้า ก็กลายเป็นคนเช่นนั้นจริงๆ
ทำไมฮ่องเต้ถึงคลั่งเช่นนี้นางย่อมรู้ดี ข่าวที่ท่านหญิงมีครรภ์ ในตอนเช้าก็รู้กันทั่วทั้งวัง นั่นเป็นนางในฝันของพระองค์ คนที่พระองค์มอบพระทัยให้เพียงคนเดียว คนอื่นจะเลียนแบบได้เหมือนอย่างไร ก็ไม่ใช่คนในพระทัยคนนั้น นางเลียนแบบความดื้อดึงเอาแต่ใจของเว่ยหมิ่นจนเหมือนกันไม่มีผิด เพียงแต่ใบหน้านี้ก็ไม่ใช่ใบหน้าที่ทำให้พระองค์เฝ้าคิดถึงนั่น ตัวจริงกลับมาแล้ว พวกนางที่เป็นตัวแทนนี้ก็ต้องยืนหลบอยู่ข้างๆ
นางกำนัลน้อยที่อยู่ข้างๆ มองนางด้วยความหวาดระแวง ถามนางว่า “เหนียงเหนียง ตอนนี้พวกเราจะกลับไปหรือรอให้ฝ่าบาทกลับมาอยู่ที่นี่หรือ”
“กลับไปเถิด ใจไม่อยู่ที่นี่ คนก็ไม่อยู่ที่นี่ อยู่ที่นี่ไปให้อับอายขายหน้าหรือ”
เลียนแบบได้เหมือนเหลือเกิน แม้แต่ความยโสของเว่ยหมิ่นนั้นก็เลียนแบบมาด้วย ฮ่องเต้รักเว่ยหมิ่น นางเป็นคนข้างหมอนของพระองค์ รักถึงเพียงใด นางรู้ดีที่สุด ทุกครั้งที่เรียกนางปรนนิบัติเข้านอน ล้วนให้นางเอาผ้าปิดหน้า ในปากที่เรียกอยู่ก็เป็นชื่อของเว่ยหมิ่น ไม่ยอมที่จะทอดพระเนตรนางเพราะกลัวฝันสลายไป เป็นเช่นนี้อยู่ตลอด คนอื่นคิดว่าพระองค์ปล่อยวางลงแล้ว ผู้หญิงน่ะ พระองค์อยากได้แบบใดจะไม่มีหรือ จะยึดติดกับเว่ยหมิ่นคนเดียวได้อย่างไร มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ คนที่ฝังอยู่ในพระทัยของพระองค์ จะลืมได้อย่างไร
ไทเฮารู้ว่าเว่ยหมิ่นตั้งครรภ์ ยิ้มจนปากหุบไม่ลง นางเรียกคนเอาผ้ารองนั่งนิ่มๆ ที่ใช้เฉพาะหน้าหนาวมาปูให้นาง แล้วสั่งให้ห้องครัวต้มน้ำต้มแกง แล้วก็มากำชับเรื่องที่ต้องห้ามในระหว่างที่นางตั้งครรภ์ในฐานะคนเคยผ่านเรื่องนี้มาก่อน
“พวกเหล่าสำนักหมอหลวงนั่น ล้วนเป็นคนหัวดื้อ พวกเขาไม่เคยคลอดลูกเสียหน่อย ที่บอกเจ้าไปก็ใช่ว่าจะถูก ร่างกายผู้หญิงของพวกเราอ่อนไหวตั้งแต่เด็ก ผู้หญิงเป็นธาตุเย็น ปกติแตะถูกน้ำเย็น ประจำเดือนก็ต้องเจ็บปวด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องใหญ่เช่นการคลอดลูกนี้ สะใภ้ของเฝิงเยี่ยไป๋นั่นข้าคงไม่อาจดูแลได้แล้ว เจ้าอยู่ในสายตาของข้า ข้าต้องบอกเจ้าเสียดีๆ อาหารธาตุเย็นเหล่านั้นที่ปกติชอบกินนัก ตั้งแต่วันนี้ก็ต้องเลิกกิน”
นางหันศีรษะกลับมาพูดเหลียงอู๋เย่ว์ “ข้าก็ถือว่าเห็นเจ้าโตมา นิสัยของเว่ยหมิ่นเจ้าก็รู้ดี เจ้าเป็นผู้ชายของนางหลังจากนี้ก็เตือนเสียหน่อย เรื่องนี้จะให้ตามใจนางไม่ได้”