ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 423 เจ้าคิดว่าเจ้ายังมีทางรอดหรือ / ตอนที่ 424 แผ่นดินหญิงงามล้วนเอาหมด
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 423 เจ้าคิดว่าเจ้ายังมีทางรอดหรือ / ตอนที่ 424 แผ่นดินหญิงงามล้วนเอาหมด
ตอนที่ 423 เจ้าคิดว่าเจ้ายังมีทางรอดหรือ
การทำสงครามนั้นที่สำคัญคือรู้เขารู้เรา สู้ร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง แม้แต่จำนวนศัตรูก็ยังไม่ทราบก็ส่งทหารไป โอกาสชนะก็ถูกลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว เพียงแต่จะให้อ๋องนอกด่านเติบโตไม่ได้อีก หากซู่อ๋องร่วมมือกับอ๋องนอกด่านสองคนอยู่จริง เมืองหลวงคงยากจะรักษาได้
สุดท้ายฮ่องเต้ก็ได้ลิ้มรสวิกฤตแล้ว พระองค์เอาพระหัตถ์ไพล่หลังยืนขึ้น เสด็จไปมาอยู่หน้าบัลลังก์ สุดท้ายก็สะบัดแขนเสื้อตะโกนว่า “ส่งคนไปสืบอีก ครั้งนี้ต้องสืบรายละเอียดมาให้ได้ แล้วให้แม่ทัพที่อยู่กรมความลับทหารมาพบเรา เมืองหลวงสำคัญ จะยอมให้เหล่าขุนนางชั่วมาก่อกบฏได้อย่างไร เฝิงเยี่ยไป๋อยู่ต่อ เลิกราชกิจ”
ทุกคนถอยออกจากตำหนักไท่เหอด้วยความหวาดกลัว เฝิงเยี่ยไป๋ขมวดคิ้ว เห็นฮ่องเต้ลงจากบัลลังก์ เขาโค้งคำนับเล็กน้อย “ฮ่องเต้ยังมีเรื่องใดตรัสสั่งหรือไม่”
ฮ่องเต้ก็ไม่พูดจาอ้อมค้อมกับเขาแล้ว พระองค์เสด็จวนไปมา “เรารู้ว่าเจ้าฉลาด ตั้งแต่เมื่อก่อนที่เรียน ‘วิชาการเมือง’ นั้นเจ้าก็เก่งที่สุด เราให้เจ้าไปเยี่ยมเยือนประชาชน เจ้าจะไม่รู้จุดประสงค์ของเราหรือ เรารู้ เจ้าทะนงตนแค้นเราในใจไม่ยอมช่วยเรา เพียงแต่เรื่องเกี่ยวโยงถึงทั้งแคว้น ความแค้นส่วนตัววางเอาไว้ก่อน เราจะบอกเจ้าให้ก็ได้ ราชโองการที่พระบิดาทิ้งไว้ให้นั้น เป็นราชโองการที่แต่งตั้งฮ่องเต้องค์ใหม่อยู่จริง เพียงแต่ในนั้นมีชื่อสองคน คนหนึ่งคือซู่อ๋อง อีกคนก็เป็นเจ้า เจ้ารู้สึกว่าเรื่องนี้ซู่อ๋องจะไม่รู้หรือ เจ้าคิดดูดีๆ ตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรา เจ้าก็เป็นศัตรูตัวเอกของเขาเช่นกัน เขาคิดจะก่อกบฏขึ้นครองเป็นฮ่องเต้ ราชโองการก็เป็นสิ่งขัดขวางมากที่สุด ขอเพียงมีเค้าลาง ไม่สนว่าจะใช่หรือไม่ ก็ต้องรีบดับ ถึงยามนั้นเสียเมืองหลวงไป เจ้ายังคิดว่าเจ้ายังมีทางรอดหรือ”
แอบวางแผนใส่เขาไม่ได้ ตอนนี้ก็คิดจะดึงเขาเข้ามาเป็นพันธมิตร ด้านหนึ่งก็ชมว่าเขาฉลาด อีกด้านก็คิดว่าเขาเป็นคนโง่ ตัวพระองค์เองสู้รบกับซู่อ๋อง คิดจะใช้ตัวเองเป็นหอกแนวหน้า ช่างเป็นแผนที่ดีเสียเหลือเกิน
“ฮ่องเต้ตรัสถูกยิ่งนัก เพียงแต่ราชโองการนั้นกระหม่อมแม้จะไม่เคยเห็น แต่ก็รู้ กระหม่อมไม่ได้มีเชื้อสายราชวงศ์ ตั้งแต่อดีตการแต่งตั้งฮ่องเต้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะแต่งตั้งคนนอกตระกูล ฮ่องเต้เป็นกังวลมากไปแล้ว”
คิดว่าเขาจะถูกหลอกง่ายเสียหรือ เพียงประโยคสองประโยคง่ายๆ ของพระองค์ก็จะหลอกล่อเขาได้หรือ ตอนนี้ฮ่องเต้ป่วยหนักหาหมอมั่ว รู้ว่าตัวเองมีแต่คนรังเกียจ ก็ยังจะหาศัตรูมาช่วยพระองค์ ไม่กลัวว่าตัวเองจะตายเร็วยิ่งขึ้นหรือ
ฮ่องเต้ปั้นพระพักตร์ขึ้นมา “ยามที่พระบิดาอยู่นั้น ไทเฮาเรียกได้ว่าได้ความรักไปหมดสิ้น ไม่มีใครได้รักความรักจากพระบิดาเท่านางมาก่อนเลย ส่วนเจ้า ตั้งแต่เด็กก็ได้ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น คนมักพูดว่ารักบ้านถึงนก พระบิดาปฏิบัติกับเจ้าเป็นดั่งลูกตัวเอง แผ่นดินนั้นเป็นต้าเยี่ยที่ต้องสืบต่อไป ขอเพียงรักษาแผ่นดินได้ เขาจากไปแล้ว บรรพบุรุษก็ไม่โทษเขาที่จากไปเร็วเกินไป ขอเพียงมีผู้ที่มีความสามารถ ใครจะเป็นฮ่องเต้ก็ไม่สำคัญ”
เฝิงเยี่ยไป๋ฟังพระองค์อย่างเงียบๆ ไม่พูดอะไร ฮ่องเต้เกลียดที่สุดที่เขามีท่าทางไม่พูดอะไรเช่นนี้ พูดอย่างไรก็ไม่หวั่นไหว ไม่สนว่าจะพูดเรื่องใดกับเขา เขาก็มักจะมีท่าทางไม่สนใจเช่นนั้น ไม่ใส่ใจเลย บางครั้งอาจจะไม่ใช่ไม่ใส่ใจ แต่คือดูหมิ่น
ฐานะของเขานั้นแม้จะเป็นขุนนาง เพียงแต่ท่าทีนั้นกลับไม่ต่ำเลย ความหยิ่งนั้นกดไม่ลง ต่อให้เขาเคารพคนก็ไม่มีท่าทางเช่นนั้นเลย
“เรามองดูแล้วอวี้เต๋อนั้นก็เป็นคนไม่ฉลาด ให้เขาไปสืบข่าวคนอื่นก็สืบอะไรไม่ได้ เราว่าก็ให้เจ้าไปดีกว่า ครั้งนี้อย่าได้กลบเกลื่อนเราแล้ว เดินทัพออกศึกมีความผิดพลาดไม่ได้ ความผิดพลาดนั้นอาจเกี่ยวพันถึงแคว้น เจ้าดูให้ดีๆ หากเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมา เราจะลงโทษเจ้า”
ตอนที่ 424 แผ่นดินหญิงงามล้วนเอาหมด
นี่คือบีบบังคับเขาเข้าหาคมดาบ เขาพูดจากลบเกลื่อนอยู่หลายครั้ง ฮ่องเต้ทนไม่ไหว ไม่อยากถอดยศของเขา กลัวถอดแล้วจะไม่มีคนใช้ได้อีก เขาตายคนเดียวไม่เป็นไร ตอนนี้ราชสำนักย่ำแย่ คลื่นใดๆ โถมเข้ามาก็สามารถทำเอาวุ่นวายได้ ก้าวต่อๆ ไปล้วนต้องระวังเป็นพิเศษ
อ๋องเต้รู้ว่าเขาต้องปฏิเสธอีกแน่นอน ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว และก็รู้ถึงความคิดของเขานั่นแล้ว อย่างไรเสียก็ให้ราชโองการกดเขาสะใจกว่า จะมีคำพูดมากมายเพียงใดก็ให้เขากลั้นอยู่ในท้อง ให้เขาหงุดหงิดตาย
เฝิงเยี่ยไป๋ขานรับ แล้วถามถึงเรื่องของเว่ยหมิ่น “ตอนนี้จัดงานอภิเษกเกรงจะไม่เหมาะ ฎีกาก็ได้ให้ฝ่าบาททอดพระเนตรแล้ว ประชาชนต่างทุกข์ยาก ตอนนี้กลับจัดงานอภิเษกให้ท่านหญิง จะให้ประชาชนมองฝ่าบาทอย่างไร พวกเขากินไม่อิ่มนอนไม่หลับ ฝ่าบาทกลับฉลองอยู่ที่นี่ จะกลายเป็นที่นินทาเอาได้ ชื่อเสียงกษัตริย์อาจเสียหายได้”
คำพูดนี้พูดได้อย่างไม่เกรงใจนัก มีความโกรธอยู่ในใจ ตำพูดที่พูดออกมาก็ยิ่งเหมือนดั่งสั่งสอน
ฮ่องเต้กลับตรัสว่า “ตอนแรกก็ควรจะสมรสอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องต่างๆ ในตอนหลังทำให้ลืมจัดเสีย ตอนนี้เว่ยหมิ่นมีครรภ์ ไม่รีบจัดเตรียม หรือจะรอให้ลูกของนางคลอดออกมาแล้วถึงจัดงานอภิเษกหรือ”
เรื่องนี้พระองค์มีความเห็นแก่ตัว สุดท้ายงานอภิเษกนี้ต้องไม่สำเร็จแน่นอน ตอนนี้ก็เพียงสร้างเหตุการณ์ คิดจะใช้ยืนยันว่าฮ่องเต้เช่นพระองค์นั้นไม่ได้มีใจเป็นอื่น หลังจากนั้นไม่ว่าทั้งสองคนนี้ใครจะเกิดเรื่องใดขึ้นก็ไม่เกี่ยวกับพระองค์ จะจัดการอย่างไรก็ต้องตามพระทัยพระองค์อีกไม่ใช่หรือ
วิธีแกล้งตายนั้น บรรพบุรุษของพระองค์ก็เคยใช้มาก่อนแล้ว ตอนนี้พระองค์นำมาใช้ก็ถือว่าได้วิชาจากครูดี แผ่นดินพระองค์เอา หญิงงามพระองค์ก็จะเอา เรื่องนี้ไม่อาจให้ใครมาแย้งได้
เฝิงเยี่ยไป๋ถามอีกว่า “กระหม่อมได้ยินว่าวันก่อนท่านหญิงเกือบจะแท้งลูก ไม่ทราบว่าฝ่าบาทได้สืบสาเหตุเจอหรือไม่”
ฮ่องเต้ตรัสตอบอย่างไหลลื่นนัก “ย่อมสืบมาแล้ว เห็นว่าตอนที่เดินเล่นอยู่ในสวนนั้นเท้าลื่น เราได้ลงโทษบ่าวที่อยู่ข้างกายนางแล้ว ตอนนี้ก็ดูแลจนไม่เป็นไรแล้ว ร่างกายดีอยู่ เจ้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเหล่านี้แล้ว คิดเรื่องราชกิจเสียมากหน่อย เวลาที่เราให้เจ้ามีไม่มาก”
กลัวเขาจะมองพิรุธอะไรออกกระมัง!
เฝิงเยี่ยไป๋ขานรับ “เรื่องที่ฝ่าบาทตรัสมอบให้กระหม่อม น้าน้อยจะพยายามอย่างเต็มที่ เพียงแต่ขอให้ฝ่าบาทให้กระหม่อมได้พบท่านหญิงสักครั้ง หากไม่ได้พบ กระหม่อมยากจะวางใจ”
ฮ่องเต้ตรัสว่า “นางอยู่ในวังไม่ขาดสิ่งใด หมอหลวงเก่าแก่ที่อยู่สำนักหมอหลวงนั้นวันๆ ก็ตามอยู่ข้างหลังนาง ไทเฮาตั้งครรภ์ก็ยังไม่ได้เช่นนี้เลย มีเราปกป้องนางอยู่ เจ้ายังมีอะไรไม่วางใจอีก แม้ว่าพวกเจ้าจะเป็นพี่น้องกัน เพียงแต่อย่างไรเสียทั้งสองคนก็แต่งงานกันแล้ว เพื่อไม่ให้คนอื่นนินทาเอาได้ เจ้าไปเยี่ยมนางจะ ไม่เหมาะสม”
ไม่เหมาะสม? กลัวจะได้พูดคุยกันแล้ว พระองค์จะเสียพระพักตร์กระมัง ครั้งก่อนเว่ยหมิ่นเกือบแท้ง นอกจากพระองค์ที่แอบวางแผนแล้ว ในวังยังมีใครกล้าทำอีก
เขาพูดอีกว่า “ในเมื่อกระหม่อมไม่อาจเข้าไปเยี่ยมได้ เช่นนั้นจวิ้นหม่าก็คงเข้าวังเยี่ยมได้กระมัง แม้ว่าจะมีระเบียบที่ท่านหญิงกับจวิ้นหม่าก่อนงานอภิเษกไม่อาจพบหน้ากันได้ เพียงแต่ยามนี้ไม่ดั่งอดีต พวกเราก็มีลูกแล้ว ระเบียบเหล่านั้นก็ควรจะผ่อนเบาลงเสียบ้าง ฮ่องเต้ทรงคุณธรรม ความผูกพันครอบครัวนี้ ก็คงนึกถึงอยู่กระมัง!”
ประโยคของเขานี้ทำเอาข้ออ้างของฮ่องเต้ก็พูดออกมาแล้ว พระองค์เอาจริยธรรมมาเป็นข้ออ้าง เขาก็เอาสิ่งนี้มาอุดพระโอษฐ์พระองค์ สามีภรรยารักกันเป็นความผูกพัน อย่างว่าแต่พระองค์เป็นฮ่องเต้เลย ต่อให้พระองค์เป็นพระเจ้าก็ไม่มีอำนาจยุ่งเกี่ยว
คราวนี้ฮ่องเต้ลำบากเสียแล้ว ปากนี้ช่างทำเอาพระองค์แค้นจับพระทัยยิ่งนัก อยู่ดีๆ ต้องเป็นศัตรูกับพระองค์ให้ได้ รอให้ถึงเวลาแล้ว จะต้องกำจัดปัญหานี้ให้ได้