ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 425 ขอให้ท่านอ๋องอวยพร / ตอนที่ 426 นั่นก็เป็นลูกชายท่าน ท่านไม่รักเขาหรือ
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 425 ขอให้ท่านอ๋องอวยพร / ตอนที่ 426 นั่นก็เป็นลูกชายท่าน ท่านไม่รักเขาหรือ
ตอนที่ 425 ขอให้ท่านอ๋องอวยพร
ฮ่องเต้ไม่ให้เขาไปเยี่ยมเว่ยหมิ่น เขาก็ไม่อาจฝืนบุก จึงได้แต่สะบัดแขนเสื้อจากไป ทุกๆ ครั้งที่เข้าวังมาก็มีเพียงความหงุดหงิด เขาเพิ่งกลับมา ก็จะให้เขาไปที่ซู่หยางอีก ครั้งนี้จะต้องสืบข้อมูลมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นฝั่งฮ่องเต้กัดไม่ปล่อยแน่นอน จะต้องกัดจนเนื้อหลุดออกมาให้ได้
ยามที่เขากลับไปนั้น น่าอวี้รอเขาอยู่ที่สวน เฉินยางกลางคืนดื่มเหล้าไปเล็กน้อย ตอนนี้ก็ได้นอนไปแล้ว น่าอวี้ไม่ได้ปิดบังเขา นางชูไหเหล้าขึ้น ยิ้มให้เขาด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย “ข้าถามท่านหมอแล้ว ท่านหมอบอกว่าดื่มน้อยไม่เป็นไร ยามที่นางดื่มข้าก็อยู่ข้างๆ ดื่มเพียงไม่กี่คำเท่านั้น ช่วยให้นอนหลับ ไม่เป็นไร”
เมื่อครู่เฝิงเยี่ยไป๋ยังมีความโกรธรอปะทุอยู่ ตอนนี้สงบลงแล้ว ก็มีความอดทนที่จะนั่งกับนาง
“น้องชายของเจ้าข้าได้ส่งคนไปตามหาแล้ว ไม่กี่วันก็คงได้ผล” เขาคิดว่านางน่าจะมาเพื่อเรื่องนี้ ไม่รอให้นางอ้าปาก ตัวเองก็พูดขึ้นมาก่อนแล้ว
น่าอวี้อมยิ้มกล่าวขอบคุณ นางก้มหน้ามองแก้วลายครามที่อยู่บนโต๊ะ เหมือนดั่งคิดสิ่งใดอยู่ “ท่านอ๋อง ข้ามีเรื่องจะพูดกับท่าน”
เฝิงเยี่ยไป๋เหลือบมองนาง แล้วดื่มเองแก้วหนึ่ง “เรื่องใดหรือ”
เรื่องนี้ไม่ได้ยากจะเอ่ยปากนัก เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ได้มีความรักให้กับนาง ย่อมไม่สนใจว่านางจะอยู่กับใคร ดังนั้นเรื่องที่จะพูดนั้น ในใจก็ไม่มีภาระ และก็ไม่ลังเล นางถามเขาอย่างเปิดเผยว่า “วันก่อนท่านอ๋องบอกว่ารอให้งานสำเร็จลุล่วงจะหาคู่ดีๆ ให้ข้า ไม่ทราบว่าคำพูดนี้ยังใช้ได้อยู่หรือไม่”
ภาพที่เฉินยางดื่มเหล้าแล้วเมาแล่นผ่านในหัวของเขา เขานิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งถึงได้พูดว่า “ย่อมใช้ได้อยู่”
เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว คิ้วน่าอวี้โค้งลง เม้มปากเผยลักยิ้มจางๆ ออกมา “ในเมื่อใช้ได้อยู่ เช่นนั้นข้าอยากขอให้ท่านอ๋อง… อวยพรข้ากับอิ๋งโจว”
เฝิงเยี่ยไป๋เกือบจะพ่นเหล้าออกมา “อิ๋งโจว?” ไม่ใช่ว่าพวกเขาสองคนจะไม่เหมาะสม เพียงแต่ข่าวนี้มากะทันหันเกินไป สองคนนี้เมื่อก่อนไม่เคยได้รู้จักกันเลย ถึงขั้นไม่เคยได้เจอหน้ากัน วันนี้จูๆ นางก็มาบอกว่าจะอยู่กับอิ๋งโจว เขาย่อมประหลาดใจ
น่าอวี้ตกใจกับการตอบสนองนี้ของเขา ในใจกระตุกเล็กน้อยรีบถามว่า “ท่านอ๋องไม่เห็นด้วยหรือ”
แก้วชาของเขาถูกบีบอยู่ในมือหมุนไปหมุนมา “ไม่ใช่ เจ้าอย่าได้คิดมาก ข้าไม่ได้ไม่เห็นด้วย เพียงแต่… เพียงแต่ประหลาดใจว่าพวกเจ้าสองคนอยู่ด้วยกันได้อย่างไร”
น่าอวี้มีท่าทีดั่งสาวน้อยพูดว่า “วันก่อนร่างกายข้าไม่สบาย โรคเก่ากำเริบ ได้ยินว่าท่านหมออิ๋งโจววิชารักษาสูงส่ง จึงได้เชิญให้เขามาจับชีพจรให้ข้า พอไปๆ มาๆ เช่นนี้ จึง… ท่านอ๋องไม่ทราบ หัวใจของผู้หญิงนั้นล้วนเหมือนดั่งน้ำแข็งที่ละลายในฤดูใบไม้ผลิ เพียงพระอาทิตย์อุ่นๆ ก็สามารถทำให้ละลายได้ รักคนคนหนึ่งอาจไม่ใช่เพราะเขาเก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋น หน้าตาหล่อเหลาแต่จะต้องเป็นเพราะเขาดีกับข้า อิ๋งโจวดีกับข้า และข้าก็… ก็ไม่อยากเสียเวลากับคนที่เป็นไปไม่ได้อีก”
ผู้ชายจะว่าฉลาดก็ฉลาด จะว่าโง่ก็โง่ เฝิงเยี่ยไป๋เป็นคนฉลาด เพียงแต่เรื่องชายหญิงนั้น กลับคิดไม่ได้ดั่งคนนอก เมื่อก่อนเขารู้เพียงหาความสุข ผู้หญิงข้างกายเปลี่ยนไปคนแล้วคนเล่าไม่มีความรัก ตอนหลังรักเฉินยางเข้าให้ แม่นางโง่นี้ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ความคิดตรงไปตรงมาไม่ต้องให้เขาเดา ถึงขั้นไม่หาเรื่องโดยไร้เหตุผล ดังนั้นจิตใจของผู้หญิงดั่งทะเล บางครั้งเขาก็ยากจะมองออกนัก
เมื่อก่อนคิดว่าน่าอวี้บอกว่ามีคนในใจเป็นเพียงข้ออ้าง นึกไม่ถึงว่าจะเป็นจริงเช่นนั้น เพียงแต่คิดได้ก็ดีเสีย เขารับปากนาง ก็สามารถทำให้ได้แล้ว
น่าอวี้กับอิ๋งโจว เขาก็ยินดี ข้างกายภรรยาเขานั้นก็มีชายหม้ายอยู่คนหนึ่ง ไล่ไปได้ก็ดี ไล่ไปได้แล้วเขาก็สบายใจ
ตอนที่ 426 นั่นก็เป็นลูกชายท่าน ท่านไม่รักเขาหรือ
ตอนกลางดึกเฉินยางตื่นขึ้นมา คลำไปที่ข้างกาย ว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด ในผ้าห่มก็เย็นอยู่ นางนั่งขึ้นมา ในห้องมืดสนิท อะไรก็มองไม่เห็น กำลังคิดจะไปจุดไฟอยู่ ข้างหน้าก็มีแขนหนึ่งยื่นมาคว้าข้อมือนางเอาไว้ แล้วดึงแขนกลับมา
“ท่านพี่?”
นางเรียก ไม่มีใครตอบ จากนั้นก็ถูกคล้องใต้แขนไว้อุ้มขึ้นมา สะโพกขึ้นแล้วลง นั่งอยู่บนตักคนหนึ่ง
“ท่านเป็นอะไรหรือ ไฉนถึงไม่พูดอะไรเลย” นางกลัวจะตกลงไป จึงคล้องมือไปที่คอของเขาแล้วขยับไปข้างหน้าเล็กน้อย
“อยากจุดไฟก็บอก ข้างนอกล้วนมีคนเฝ้าเวรยามอยู่ ข้างในห้องมืดเช่นนี้ หากหกล้มแล้วจะทำอย่างไรดี” เขาตำหนิเสียงหวาน กลิ่นเหล้าหวานๆ บนตัวได้โชยเข้าจมูกของนาง เฉินยางดมอย่างละเอียด รู้สึกคุ้นเคยนัก
“น่าอวี้บอกท่านหมดแล้วหรือ”
“เจอกันแล้ว” เขาพูดต่อ “ในเมื่อพวกเขารักกัน ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่อวยพรพวกเขา”
นางพยักหน้าอยู่ในความมืด พยักหน้าเสร็จแล้วถึงนึกขึ้นได้ว่าเขามองไม่เห็น นางตอบอืม แล้วค่อยๆ พูดว่า “ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น ท่านหมออิ๋งโจวเป็นคนรักเดียวใจเดียว ในเมื่อเขารักน่าอวี้ ก็จะต้องดีกับนางแน่ๆ”
เฝิงเยี่ยไป๋ยกขาเขย่านางเล็กน้อย “เจ้าไม่โกรธหรือ”
“ทำไมข้าต้องโกรธ” จู่ๆ ในหัวก็มีความคิดหนึ่งแล่นผ่าน นางกำหมัดทุบเขา “ท่านยังสงสัยข้ากับท่านหมออิ๋งโจว ท่าน… ท่านมันไร้เหตุผลยิ่งนัก!”
นางคิดไม่ออกว่าจะหาคำพูดอะไรมาด่าเขาแล้ว นางโกรธจนพูดไม่ออก ได้แต่หอบหายใจ
เฝิงเยี่ยไป๋หัวเราะ ก้มศีรษะลงไปจูบนาง เฉินยางหลบไป เอามือผลักเขา “ออกไป ข้าจะนอน!”
ทั้งๆ ที่นางกับอิ๋งโจวไม่ได้มีอะไรเลย เขากลับดี เข้าใจนางผิดอยู่ทุกครั้ง พูดเหมือนดั่งนางโหยหาผู้ชายเช่นนั้น เรื่องที่นางไม่เคยทำ ไฉนถึงต้องทนการสงสัยจากเขา
เขารู้ตัวว่าล้อเล่นเกินเหตุแล้ว ก็ยิ่งไม่ยอมปล่อยนาง “โกรธขึ้นมาเสียจริงแล้ว? ข้าล้อเจ้าเล่นน่ะ เรื่องวันนี้ หากนางไม่ได้มาหาเจ้าก่อน ก็คงไม่มาหาข้า ข้าเชื่อใจเจ้า ข้าเชื่อว่าเจ้ารักข้า จริงหรือไม่”
เฉินยางดันจะขัดกับเขา นาไม่ลังเล พูดขึ้นมาว่า “ผิดแล้ว ข้าไม่รักท่าน”
คราวนี้กลับดี ใจที่ร้อนรุ่มอยู่จมอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง เขากลายเป็นน้อยใจขึ้นมา “ไม่รักข้าแม้แต่น้อยเลยหรือ ไม่รักข้าแล้วทำไมถึงยังมีลูกกับข้า ข้าจำได้ว่าเจ้าเคยบอกว่าเจ้าชอบข้า”
นางพูดอย่างมีหลักการว่า “ข้าเคยบอกว่าชอบท่าน เพียงแต่ข้าชอบท่านได้ก็ชอบคนอื่นได้ ข้าชอบคนมากมายได้ เพียงแต่ความรักให้ได้เพียงคนเดียว”
เขาเอาใบหน้าถูนาง “เห็นแก่หน้าลูกชาย เจ้ารักข้าเสียหน่อยไม่ได้หรือ เจ้ามีสามีที่ดีเช่นนี้ ไฉนถึงยังรังเกียจอยู่ทุกครั้งเล่า”
ในใจนางคิดว่า ข้าไม่ได้รังเกียจท่าน เพียงแค่โกรธท่านเท่านั้น นางโกรธที่เขาไม่เข้าใจตัวเอง ยังบีบบังคับนางอีก ปากก็ยิ่งไม่ไว้หน้าขึ้นมา “ลูกชายออกมาแล้ว ท่านต้องหลีกทางให้”
ผลนี้เขาคิดไว้อยู่แล้ว เขายิ้มแห้งๆ ฝ่ามืออันใหญ่กุมที่ท้องนาง ท้องที่กลมโตนี้ โตวันโตคืน ข้างในมีชีวิตเล็กๆ ใส่อยู่ รวมเลือดเนื้อของนางกับเขา คิดแล้วก็ดีใจ
“เช่นนั้นหลังจากนี้ข้ายังต้องแย่งความรักกับลูกชายตัวเองหรือ” เขาแกล้งทำเป็นไม่พอใจ “เช่นนั้นก็รีบไล่เขาไปเสีย ในใจเจ้าจะได้ไม่ต้องมีเขาแล้วมีเพียงข้า”
เฉินยางยังคิดว่าเขาพูดจริง จึงรีบพูดว่า “อย่านะ นั่นก็เป็นลูกชายของท่าน ท่านไม่รักเขาหรือ ท่านจะไล่เขาไปที่ใด”