ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 433 ถ้ายังวุ่นวายอีกจะโยนท่านออกไป / ตอนที่ 434 หัวหน้าหานอุ้มท่านออกมา
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 433 ถ้ายังวุ่นวายอีกจะโยนท่านออกไป / ตอนที่ 434 หัวหน้าหานอุ้มท่านออกมา
ตอนที่ 433 ถ้ายังวุ่นวายอีกจะโยนท่านออกไป
เหลียงอู๋เย่ว์ถูกหานสือถีบไกลออกไปอยู่หลายจั้ง ไม่รู้ว่าบาดเจ็บหรือไม่ ล้มอยู่บนพื้นร้องอยู่สองทีก็ไม่ขยับแล้ว
เฉินยางหันศีษะมองใส่หานสือ “เจ้าดึงเขาออกก็พอแล้ว ไฉนถึงยังถีบเขาอีก” จากนั้นก็มองเหลียงอู๋เย่ว์ด้วยความกังวล “เจ้าคงไม่ถีบเขาจนตายแล้วกระมัง”
หายสือหึเบาๆ “เขาเป็นผู้ชายอกสามศอก จะถูกถีบตายเสียง่ายๆ ได้อย่างไร กลับเป็นพระชายาท่าน ถึงเวลาแล้ว นานกว่านี้ข้าน้อยไม่อาจรับไว้ เชิญกลับเสียเถิด!”
เขาคนนี้ช่างไม่รู้จักปรับตัวเสียจริง บอกว่าธูปหนึ่งดอกก็คือธูปหนึ่งดอก ให้เงินก็ไม่ยอมรับ เฉินยางไม่พอใจนัก เมินเฉยกับคำเตือนของหานสือ ค่อยๆ เดินไปที่ข้างๆ เหลียงอู๋เย่ว์ หานสือหรี่ตาลง สีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก “พระชายา ข้าน้อยขอเตือนท่าน อย่าได้สร้างปัญหาให้กับตัวเอง ตอนนี้ท่านอ๋องก็ไม่อยู่เมืองหลวง หากเกิดเรื่องขึ้น ไม่มีใครสามารถปกป้องท่านได้”
นางได้ยินแล้ว ก็ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง เพียงแต่หลังจากชะงักแล้วก็เดินไปข้างหน้าต่อ ไม่สะทกสะท้านเลย คนหนึ่งก็เป็นคนหัวดื้อสองคนก็เป็นคนหัวดื้อ ต่างดื้อใส่กัน ใครก็ไม่ยอมใคร
หานสือคลำดาบที่เอว คิดจะชักดาบขวางนาง นางเป็นผู้หญิง จะใจกล้าเพียงใดได้ คมดาบอยู่ตรงหน้าจะไม่กลัวหรือ เพียงแต่สายตาเห็นท้องที่กลมโตของนาง ก็ทิ้งความคิดนี้ไป พูดอย่างไรนางก็ไม่ฟัง จึงก้าวเดินขึ้นไป แล้วอุ้มนางขึ้นมา ปลายเท้าเปลี่ยนทิศ ก้าวเท้าเดินไปข้างนอก
สองเท้าของเฉินยางลอยจากพื้นทันที นางก็ตกใจ หลังจากที่หมุนเคว้งไปรอบหนึ่ง ก็เห็นว่าตัวเองถูกอุ้มอยู่ เงยหน้าขึ้นไปก็เจอกับใบหน้าบึ้งตึงของหานสือ ก็รีบดิ้นขึ้นมา “เจ้า… เจ้าปล่อยข้าลงมา! เจ้าอยากได้เงินไม่ใช่หรือ ข้าให้เจ้าเป็นพอ! ธูปหนึ่งดอกเจ้าตกลงได้ ขอเวลาชาหนึ่งถ้วยจะเอาชีวิตเจ้าได้หรืออย่างไร เจ้าอยากได้มากมายเท่าไรข้าก็จะให้เจ้า ข้าขอเพียงพูดกับเขาเสียเล็กน้อย จะเสียเวลาเจ้าหรือ”
ผู้หญิงคนนี้แม้ว่าจะตั้งครรภ์อยู่ เพียงแต่เขาอุ้มแล้วก็รู้สึกว่าหนักไม่สู้ปากของเขา เขารังเกียจที่นางพูดมาก จึงยืนนิ่งแล้วขู่ด้วยน้ำเสียเ**้ยมโหดว่า “อย่าคิดว่าท่านเป็นพระชายาอะไรนั่นแล้วข้าจะไม่กล้าแตะต้องท่าน หากยังวุ่นวายอีก ข้าจะโยนท่านออกไป!”
เฉินยางตกใจ แล้วหุบปากอย่างรวดเร็ว
หานสือเลิกคิ้วด้วยความดูหมิ่น “ท่านคิดว่าพวกเรานี้ล้วนเป็นคนโง่หรือ ตกลงให้ท่านเวลาธูปหนึ่งดอกถือเป็นบุญคุณแล้ว ขอเพิ่มเวลาชาหนึ่งถ้วย? หึ! อย่าว่าแต่ชาหนึ่งถ้วย ต่อให้พริบตาเดียว พรุ่งนี้เกิดเรื่องขึ้นมา เรื่องไปถึงฮ่องเต้นั้น พวกเราล้วนต้องถูกตัดศีรษะ!”
ซั่งเหมยจับคนไปไกล นางถูกหานสืออุ้มมาจากศาลาฝั่งตะวันออกมา นางเพิ่งจะหากลับมาจากฝั่งเหนือ เห็นภาพแล้วก็ตกใจ นางจ้องตาถลน ครึ่งวันก็ยังไม่ได้สติกลับมา
“ปล่อยข้าลง!” เฉินยางทำหน้าเย็นชาตบไปที่แขนของเขาอยู่หลายที
หานสือปล่อยนางลง มือกำไว้ที่ด้ามดาบ ใบหน้ายังคงตึงเครียด เตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รีบพานายหญิงเจ้าไป หลังจากนี้ไม่ให้มาที่นี่อีก ไม่เช่นนั้น ก็อย่าโทษที่ข้าไม่ไว้หน้า ไปฟ้องฮ่องเต้แล้ว”
ซั่งเหมยบ่นด้วยความโกรธแค้น “เช่นนั้นแล้วเจ้ายังรับเงินพวกข้าอีก เจ้ามันขี้โกง ฟ้องเจ้าออกไปแล้วเจ้าก็ไม่ได้ดี”
หานสือเคาะไปที่โต๊ะหลายที กวาดตามองซั่งเหมย ค่อยๆ พูดว่า “ใครเห็นข้ารับเงินบ้าง เพียงคำพูดโกหกของพวกเจ้า ฮ่องเต้ก็เชื่อพวกเจ้าแล้ว? ท้องอยู่ก็อยู่ในบ้านให้ดีๆ เสีย ไม่มีเรื่องใดก็อย่ามายุ่งเรื่องของผู้ชาย วันนี้หากไม่ใช่ข้ามือไว ตอนนี้ก็คงมีหนึ่งศพสองชีวิตแล้ว”
ตอนที่ 434 หัวหน้าหานอุ้มท่านออกมา
วั่งเหมยได้ยินหานสือพูดเช่นนี้ ก็ตกใจจนเหงื่อซึม โชคนังดีที่ไม่ได้เป็นศพเดียวสองชีวิต หากเป็นศพเดียวสองชีวิตจริง พรุ่งนี้ท่านอ๋องกลับมา นางก็ต้องตายตามไปด้วย นางลูบอกด้วยความหวาดกลัว ความตึงเครียดเดี๋ยวคลายเดี๋ยวหด ทำเอานางแทบเสียสติ
“นายหญิง ท่าน… เป็นความผิดพลาดของบ่าว ท่านทำเอาบ่าวตกใจแทบแย่!” จากนั้นก็หันไปขอบคุณหานสือ เพียงแต่ไม่ค่อยเต็มใจนัก “ขอบคุณหัวหน้าหานที่ช่วยนายหญิงบ้านข้า!”
หานสือเม้มปาก แล้วแบมือยื่นไปทางเฉินยาง
เฉินยางยังไม่ทันตั้งสติกลับมา จ้องมองมือเขาแล้วงุนงง ซั่งเหมยหยิบเศษตำลึงเงินวางไว้ในมือเขา “เงินๆ ๆ โกงเอาให้ตายไปเลย ในเมื่อเอาเงินจากนายหญิงพวกเราแล้ว เช่นนั้นแล้วเรื่องในวันนี้ ก็พูดออกไปไม่ได้ รับของคนอื่นต้องทำงานรู้หรือไม่ เจ้าต้องเก็บความลับให้สนิทเสีย”
หานสือชั่งน้ำหนักเงินในมือ “เช่นนั้นเท่านี้ยังไม่พอ!”
ซั่งเหมยทำตาถลนมองเขา “ยังไม่พอ นี่เทียบได้กับเบี้ยหวัดครึ่งปีของเจ้าแล้ว เจ้ายังคิดจะเอาเท่าไรอีก”
“เมื่อครู่ที่ให้มาเป็นเงินช่วยชีวิต ครั้งนี้ที่ต้องให้คือเงินค่าปิดปาก เงินเท่านี้… เจ้าเอาให้ขอทานในตรอกหรือ”
ซั่งเหมยยังคิดจะเถียง เฉินยางกดมือนางไว้ห้ามนาง แล้วหยิบตั๋วเงินจากเสื้อส่งให้เขา “เท่านี้พอแล้วกระมัง ขอให้หัวหน้าหานรักษาสัจจะ เก็บความลับนี้แทนข้าด้วย”
หานสือเก็บตัวเงินใส่ไว้ในเสื้อ หว่างคิ้วก็ได้คลายลง “ย่อมเป็นเช่นนั้น ข้ารับเพียงเงินที่ข้าควรจะรับ ในเมื่อท่านกำชับแล้ว ก็ย่อมทำงานให้ดีที่สุด พระชายาเชิญกลับไปเสียเถิด กลับไปแล้วก็อย่าได้มาอีก”
หานสือผู้นี้เป็นคนเห็นแก่เงิน เพียงแต่ไม่ใช่คนเห็นแก่เงินที่รับเงินทุกทาง เมื่อครู่ให้เงินเขาเพิ่มอีกให้เขายอมให้เวลาเสียอีกหน่อยเขาก็ไม่ยอม ครางนี้มาขอเงินกลับสบายใจยิ่งนัก เขามีระเบียบของตัวเอง ระเบียบในวังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ที่เขานี้กลับไม่ ก็ไม่กลัวจะผิดใจกับใคร อย่างไรเสียก็น่าประหลาดยิ่งนัก
ระหว่างทางกลับ ซั่งเหมยสงสัยอยู่ตลอด สุดท้ายก็ทนไม่ไหว พลางลูบไปที่ท้องเฉินยาง พลางถามว่า “นายหญิง เมื่อครู่… ไฉนถึงเป็นหัวหน้าหานอุ้มท่านออกมาหรือ”
เฉินยางก้มศีรษะมองนาง “เขาคนนี้น่าประหลาดนัก หากเป็นคนอื่นมีโอกาสโกยเงินเช่นนี้ แทบอยากจะให้พวกเราอยู่ต่อนานเสียอีกหน่อยด้วยซ้ำ ฮ่องเต้ปประทับอยู่ในวัง ย่อมไม่ลงมาใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ด้วยตัวพระองค์เอง ขอเพียงเขาไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ ไฉนเขาถึงดื้อดึงเช่นนี้”
ซั่งเหมยก็เก่งเพียงฝีปากเท่านั้น เรื่องที่ต้องใช้สมองนั้นนางทำไม่ได้ นางจึงส่ายหน้าบอกไม่ทราบ จู่ๆ ก็เหมือนนึกสิ่งใดขึ้นมาได้ แล้วพูดว่า “คนในจวนท่านหญิงก็น่าประหลาดนัก เห็นพวกเราก็เหมือนดั่งเห็นผีเช่นนั้น บ่าวจับคนหนึ่งมาถามพวกเขาทำไมถึงเห็นพวกเราแล้วก็วิ่งหนี ท่านลองเดาดูว่าพวกเราพูดว่าอย่างไร”
เฉินยางส่ายหน้า “พูดว่าอะไร?”
“พวกเขาว่า “ฮ่องเต้มีราชโองการจะประหารทั้งจวนท่านหญิง กององครักษ์ที่อยู่หน้าประตูนั้นได้ปล้นของมีค่าในจวนท่านหญิงไปหมดสิ้นแล้ว พวกเขาเหล่านี้ บอกว่าอยู่ในจวนเตรียมงานอภิเษก ที่จริงแล้วก็คือรอความตาย ฆ่าพวกเขาคือกลัวพวกเขาออกไปพูดเหลวไหล ที่จริงแล้วที่อยากจะฆ่าคือท่านจวิ้นหม่า”
เรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก ฮ่องเต้คิดจะแย่งภรรยาคนอื่น แต่ก็ไม่อยากแบกชื่อเสียนี้ จึงได้แต่หาวิธีทำให้เหลียงอู๋เย่ว์ตาย พอเป็นเช่นนั้นแล้ว เว่ยหมิ่นก็กลายเป็นหม้าย เช่นนั้นพระองค์ก็สามารถเก็บนางไว้ในวังหลังอย่างถูกต้อง
เฉินยางร้อนรนขึ้นมา หากเป็นไปตามสถานการณ์เช่นนี้ เฝิงเยี่ยไป๋ไม่อยู่ในเมืองหลวง เช่นนั้นไม่เท่ากับว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่พระองค์จะลงมือหรอกหรือ