ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 447 ภรรยาสร้างความประหลาดใจให้เขา / ตอนที่ 448 ปีศาจสุนัขจิ้งจอกไปแล้วหรือไม่
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 447 ภรรยาสร้างความประหลาดใจให้เขา / ตอนที่ 448 ปีศาจสุนัขจิ้งจอกไปแล้วหรือไม่
ตอนที่ 447 ภรรยาสร้างความประหลาดใจให้เขา
เฝิงเยี่ยไป๋กลับเมืองหลวงโดยไม่หยุดพัก เขาไม่ได้ทูลให้ฮ่องเต้ทราบเนื่องจากใจมุ่งแต่ที่บ้านเท่านั้น อีกทั้งไม่ได้ส่งจดหมายแจ้งมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าเขากลับมาแล้วทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเอง ยามที่กลับมาก็แอบย่องเข้ามา ปีนกำแพงหลังคา อยากสร้างความประหลาดใจให้กับภรรยาเขา เพียงแต่นึกไม่ถึงว่ามาถึงประตู ภรรยากลับสร้างความประหลาดใจให้เขาเสียเอง
ทันทีที่ได้ยินว่ามีเสียงผู้ชายอยู่ในห้อง ไฟโกรธของเขาก็ลุกขึ้นมาทันที อยากจะพุ่งเข้าไปดูว่าตกลงเป็นใครที่ไม่อยากมีชีวิตแล้วกล้าเข้าห้องภรรยาเขา เพียงแต่เมื่อไฟโกรธพุ่งถึงศีรษะ เขากลับใจเย็นลงมา เสียงนั้นคุ้นหูยิ่งนัก จากนั้นก็ได้ยินเสียงตำหนิของเฉินยาง ในใจพอเดาได้แล้ว จึงแอบฟังเสียเลย ฟังถึงตอนหลัง ได้ยินอวี่เหวินลู่มีท่าทีที่จะไม่ไปไหน เขาถึงได้เผยตัวออกมา
อวี่เหวินลู่ถูกเฝิงเยี่ยไป๋จ้องใส่ก็ขนลุกขึ้นมา เขายืนตัวตรง เชิดคางสูงถามคำถามแสนโง่เขลาว่า “ไฉนเจ้าถึงกลับมาแล้ว”
เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ได้รังเกียจคำถามโง่ๆ ของเขา เขาค่อยๆ ดับไฟโกรธแล้วพูดว่า “หากข้าไม่กลับมาอีก ภรรยาข้าคงถูกเจ้ารังแกจนต้องไปตากลมหนาวอยู่ข้างนอกเสียแล้ว” เขาเรียกซั่งเหมยไปประคองเฉินยางนั่งกลับไปที่เตียง แล้วเผยอมุมปาก เหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ของเอามาแล้ว”
“เฝิงเยี่ยไป๋ ขอให้เจ้าร่วมมือกับพวกเราอย่างจริงใจ ไม่เช่นนั้น ถึงเวลาเจ้าเองตายอย่างไรก็ยังไม่รู้”
การขู่เช่นนี้ฟังแล้วก็เหมือนดั่งเด็ก เฝิงเยี่ยไป๋หัวเราะหึๆ ไม่รู้ความหมาย “ไฉนพ่อเจ้าถึงส่งเจ้ามา หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาได้ขาดคนสืบตระกูลเป็นแน่”
“เฝิงเยี่ยไป๋ เจ้าอย่าดูถูกคนนัก” เขาชี้ไปที่รอบๆ ห้อง “หากข้าเป็นอะไรขึ้นมา พวกเจ้าก็หนีไม่พ้น!”
“คิดว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเองหรือ ที่นี่คือเมืองหลวง เก็บนิสัยเช่นนั้นของเจ้ากลับไปเสีย เปิดเผยมากนักจะสร้างความลำบากให้ตัวเองเอาได้ง่ายๆ เจ้าก็คงไม่อยากให้พ่อเจ้าบุกเมืองหลวงมาเพื่อจะเก็บศพเจ้ากระมัง”
เล่นลิ้นกับเด็กคนหนึ่งช่างไม่น่าภูมิใจนัก เขาก้มศีรษะลง เหลือบเห็นกระบอกใส่ม้วนกระดาษที่เขาแขวนไว้ที่เอวแล้วก็ยิ้มขึ้นมา “ที่ส่งมาเป็นของจริงหรือของปลอม คงไม่ใช่เอามาหลอกข้ากระมัง”
อวี่เหวินลู่หยิบกระบอกใส่ม้วนกระดาษโยนให้เขา “พระบิดาข้าพูดแล้วทำจริง ในเมื่อรับปากเจ้าแล้ว ก็จะไม่เอาของปลอมมาหลอกเจ้า อีกอย่าง… เจ้าไม่ใช่ว่าเก่งกาจนักหรือ หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เจ้าจะไม่รู้ได้หรือ รู้ทั้งรู้ยังจะถามอีก!”
เขาอารมณ์ร้อน เพราะยังหนุ่ม บนตัวมักจะมีความร้อนแรงที่กล้าสู้กล้าท้า ยโสยิ่งนัก วิชาเรียนได้แก่นแล้ว เพียงแต่ความสามารถในการเก็บซ่อนอารมณ์ยังขาดอยู่ ยังคงขาดประสบการณ์ หากซู่อ๋องยึดแผ่นดินได้จริงๆ วันหลังเขาก็ต้องเป็นผู้สืบทอด หากเป็นดั่งเช่นฮ่องเต้ในตอนนี้ แผ่นดินนี้ยังต้องมีการผันเปลี่ยน
เฝิงเยี่ยไป๋ม้วนแขนเสื้อ หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากสายคาดเอวแล้วเปิดตรงหน้าเขา บนนั้นมีรอยวาดไว้อยู่เป็น การจัดทัพของซู่หยางและเฟินหยาง ถึงขั้นระบุว่าพวกเขาจะเดินทัพทางใด จะล้อมตีเช่นไร คาดว่าจะเข้าตีเช่นไรก็เขียนเอาไว้อย่างละเอียด เหมือนดั่งตอนที่จัดวางทัพเขาก็อยู่ที่นั่น
การจัดวางทัพของซู่หยางและเฟินหยาง แม้แต่พ่อของเขาก็รู้เพียงบางส่วน เขากลับรู้แม้กระทั่งบนเรือบ้านสามารถใส่ทหารเท่าไหร่ มีอาวุธมากมายเพียงใดก็นับได้อย่างมีเหตุผล พอคิดดูดีๆ แล้ว ก็อดทำให้รู้สึกเสียวสันหลังไม่ได้
“หลายวันมานี้ข้าสืบสิ่งเหล่านี้มาได้ ในเมื่อจะก่อกบฏ เช่นนั้นใครก็มีใจแอบแฝง ไม่เพียงพ่อเจ้าอยากจะเป็นฮ่องเต้ อีกสองคนที่ถูกเมินเฉยอยู่ตลอดก็คิดเช่นนั้น พวกเขาแม้ต่อหน้าจะช่วยพ่อเจ้า เพียงแต่ลับหลังแล้ว ก็ล้วนแอบวางแผนอยู่”
ตอนที่ 448 ปีศาจสุนัขจิ้งจอกไปแล้วหรือไม่
เฉินยางฟังพวกเขาต่างคนต่างพูด แม้จะไม่ได้เข้าใจนัก เพียงแต่ก็พอเดาได้ เฝิงเยี่ยไป๋จะร่วมมือกับซู่อ๋อง ซู่อ๋องจะก่อกบฏ เขาก็ต้องเข้าร่วม นางยังคิดว่าที่เขาไปรอบนี้คือทำราชโองการจริงๆ นึกไม่ถึงว่ากลับเพื่อซู่อ๋อง
หากจะให้นางพูด นางก็ไม่รู้ว่าที่เฝิงเยี่ยไป๋ทำเช่นนี้ผิดหรือไม่ นางเป็นผู้หญิง หากคุยเรื่องทั่วไปกับนางก็อาจจะยังพอคุยได้ แต่จะคุยเรื่องการเดินทัพก่อกบฏ แผ่นดินเปลี่ยนมือ นางไม่อาจพูดแทรกได้เลย เพียงแต่นางเชื่อสามีตัวเอง เรื่องของผู้ชายนางไม่ยุ่งเกี่ยว แม้ว่านางจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ก็จะสร้างปัญหาให้เขาไม่ได้เช่นกัน
ตอนหลังพวกเขาคุยอะไรกัน เฉินยางก็ไม่ได้ฟัง นางสะลึมสะลือนั่งอยู่บนเตียง จนบนศีรษะมีเงามืดกดลงมา นางลืมตาอย่างยากลำบาก เมื่อเห็นว่าเป็นเฝิงเยี่ยไป๋ก็พุ่งเข้าไปกอดเขา “ท่านพูดจบเสียที เจ้าปีศาจสุนัขจิ้งจอกนั่นไปแล้วหรือ”
ซั่งเหมยถอยออกไปอย่างรู้ตัว ดี! ครึ่งคืนหลังของนางนี้ถือเสียว่าได้นอนหลับเต็มอิ่มแล้ว ท่านอ๋องกลับมาแล้ว มีเขาปรนนิบัติอยู่ข้างกาย กลับทำให้พวกนางสบายเสียแล้ว
เฝิงเยี่ยไป๋ทำหน้าเคร่งขรึม เม้มปากมองนางแล้วถอนหายใจ “เจ้าเป็นเช่นนี้ ข้ายิ่งดูก็ยิ่งไม่วางใจ หลายวันที่ข้าออกไปนั้นล้วนคิดถึงเจ้าอยู่ตลอด เพียงแต่เจ้าล่ะ ไฉนถึงไม่รู้จักรักตัวเองเสียเลย เจ้าเถียงกับเขา ที่โกรธคือตัวเอง ไยต้องหงุดหงิดกับเขา เรียกเฉาเต๋อหลุนมาจับคนไปเลย เจ้าได้รับความน้อยใจจากเขามากเท่าไร ข้าจะเอาคืนแทนเจ้าก็พอ”
เขาไม่พูดนางกลับไม่ได้รู้สึกอะไร พอเขาพูดนางก็บุ้ยปากรู้สึกไม่ดีเสียแล้ว นางชนที่อกของเขาด้วยความหงุดหงิด คนรักกลับมาแล้ว มีคนค้ำฟ้าไว้ให้นางแล้ว นางย่อมสงบ นางยื่นมือไปโอบเอวเขาไว้ ใบหน้าถูที่อกของเขา “ข้าไม่ได้กลัวเขาเสียหน่อย ใครจะรังแกข้าได้ ครั้งนี้ท่านไปนานเหลือเกิน ข้ากลัวจริงๆ ว่าท่านจะไม่กลับมา”
เฝิงเยี่ยไป๋นวดศีรษะของนาง “ไม่ต้องถูแล้ว ข้าเดินทางมาทั้งวัน สกปรก”
“ไม่สกปรก!” นางกอดแน่นยิ่งขึ้น มือเกาเอวของเขา อยากจะพิงใกล้กว่านี้ เพียงแต่ระหว่างกลางมีท้องคั่นอยู่ แยกทั้งสองคนออกจากกันแล้ว
“เมื่อใดเขาถึงจะออกมาได้ ข้าพาเขาไหนต่อไหนอยู่ทุกวัน เหนื่อยแทบตายแล้ว ตอนนี้นอนหลับพลิกตัวก็ไม่ได้ ได้แต่นอนหงาย” น้ำเสียงขึ้นจมูกหนักมาก เหมือนดั่งร้องทุกข์ออกมา
เฝิงเยี่ยไป๋รักภาพนี้ของนางที่สุด เขาจูบที่ใบหน้าของนางเบาๆ พูดอย่างอ่อนโยนว่า “ลำบากเจ้าเสียแล้ว หลังจากนี้พวกเราก็มีลูกเพียงคนเดียว ไม่มากไปกว่านี้ เจ้าลำบาก ข้าก็รู้สึกลำบากเช่นกัน”
จากกันเล็กน้อยมีความสุขมากกว่าแต่งงานใหม่ๆ ทั้งสองคนหวานซึ้งกันอยู่พักหนึ่ง เล่าเรื่องช่วงที่เขาจากไปนั้นให้เขาฟังทั้งหมด พูดถึงหานสือก็ไม่ค่อยชัดเจนแล้ว
“ข้าให้เงินเขาขอให้เขาปล่อยข้าให้อยู่ต่อเสียอีกหน่อย เขาไม่ยอม เพียงแต่ยามที่ไปนั้นก็มาขอเงินกับข้าอีก ทั้งเงินที่ช่วยชีวิตข้า ทั้งค่าปิดปาก ข้าก็พูดไม่ถูกว่าทำไม เพียงแต่รู้สึกว่าเขาคนนี้ประหลาดนัก”
“ช่วยชีวิตเจ้าหรือ” สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ตรวจนางอย่างละเอียดขึ้นมา “ไฉนเขาถึงช่วยชีวิตเจ้าได้”
เฉินยางไม่ได้พูดถึง นางรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “ข้ายืนไม่นิ่ง จึงเกือบหกล้ม เป็นเขาที่ดึงข้าเอาไว้”
ตอนนี้เขาถึงได้หยุดมือ แล้วคิดไปตามที่นางพูดอย่างละเอียด “หานสือเป็นหัวหน้ากององครักษ์ที่อยู่ข้างพระกายฮ่องเต้ ข้าก็เคยเห็นหน้าเขาอยู่หลายครั้ง เป็นคนที่ดื้อด้านนัก ไม่เหมือนกับคนที่โลภมาก ตามความจริงแล้ว หากเจ้าไปเขาควรจะจับเจ้าไปพบฮ่องเต้ทันที ไฉนถึงยังช่วยเจ้าได้อีก”