ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง - ตอนที่ 547 แต่งไปแล้วก็ไปตามสามี / ตอนที่ 548 มกุฎราชกุมารไม่ใช่ผู้ที่ต่อกรได้ง่าย
- Home
- ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง
- ตอนที่ 547 แต่งไปแล้วก็ไปตามสามี / ตอนที่ 548 มกุฎราชกุมารไม่ใช่ผู้ที่ต่อกรได้ง่าย
ตอนที่ 547 แต่งไปแล้วก็ไปตามสามี
อวี่เหวินลู่ถูกนางยั่วก็โมโหทันที ได้ยินนางบอกว่าไม่ได้มีความคิดเดียวกับพวกเขาแล้วไฉนถึงไม่พอใจเช่นนี้ ใครมีความคิดเดียวกับนาง เฝิงเยี่ยไป๋? หากจะพูดจริงๆ ละก็ เฝิงเยี่ยไป๋กับนางถึงไม่ได้มีความคิดเดียวกัน เมื่อเขาเ**้ยมขึ้นมา มีไม่กี่คนที่เทียบเขาได้ ฝีมือไม่ด้อยไปกว่าฮ่องเต้ เพียงแค่นางไม่เคยเห็นเท่านั้นเอง
ที่จริงแล้วที่เขากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อมาสืบข่าว สงครามครั้งนี้ราบรื่นยิ่งนัก ช่างทำเอาไม่สบายใจ ได้ยินว่าฮ่องเต้ถูกเว่ยหมิ่นทำร้าย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น มกุฎราชกุมารเข้าราชกิจ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง สืบข่าวในราชสำนักให้รู้แจ้งแล้ว พวกเขาจะได้เข้าวังอย่างมั่นใจ
มายังไม่สำคัญ มาแล้วถึงได้สังเกต เฝิงเยี่ยไป๋นี่คือจะถอนตัวแล้ว ในบ้านก็ย้ายของไปเกือบหมดแล้ว แม้แต่คนรับใช้ก็ให้กลับบ้านแล้ว นี่คือคิดจะนั่งภูดูเสือสู้กันเอง เอาตัวเองออกจากเรื่องนี้แล้ว เพียงแต่ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็อยู่ในเรื่องนี้ ตอนนี้สายชวนใกล้จะไหม้ถึงที่แล้ว เขากลับกลัวระเบิดหนีไปเองเสียแล้ว เพื่อสิ่งใดกัน ยามนี้คิดจะถอย เช่นนั้นแล้วก็ไม่ควรเข้ามาตั้งแต่แรก
“อย่าบอกว่าพวกเราไม่ได้มีความคิดเดียวกัน เฝิงเยี่ยไป๋คิดอยากจะหนีเอาตอนนี้ไม่ได้ง่ายเช่นนั้นนัก นามในราชโองการของฮ่องเต้องค์ก่อนไม่แน่ก็เป็นเขา เรื่องนี้เขาหลุดไม่พ้น จะเป็นอะไรก็ต้องรู้กัน แผ่นดินนี้จะเป็นของใคร ไม่ถึงสุดท้ายก็ไม่มีใครรู้ ตอนนี้พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว หลังจากนี้ก็ไม่แน่เสียแล้ว อาจจะกลายเป็นศัตรูกัน เขาไปยามนี้ ช่างขายหน้านัก”
ก็รู้ว่าหวังหนังจากเสือไม่มีผลดี ตอนนี้ทำเอาเขามาพัวพันแล้ว จะต้องลากเจ้าลงน้ำ ยมบาลต่อกรง่าย ผีร้ายยากจะสู้ คราวนี้เป็นเช่นไร ทำเอาตัวเองมีแต่กลิ่นคาว
เฉินยางตะลึงเล็กน้อยแล้วก็สวนกลับว่า “พวกเราไม่ได้มีอะไรจะแย่งกับพวกเจ้า ในมือสามีข้าไม่มีอำนาจ ไม่มีทหาร แย่งกับพวกเจ้าไม่ได้ แผ่นดินนี้แล้วแต่พวกเจ้า ใครอยากได้ก็เอาไป พวกเราเพียงอยากจะกลับไปใช้ชีวิตสงบสุข พวกเจ้าก็ตีด่านเอี้ยนหงแตกแล้วไม่ใช่หรือ ดูจากเช่นนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่สามีข้าต้องช่วยแล้ว นี่เป็นเรื่องของพวกเจ้า อย่าได้ดึงเขาเข้าไปเกี่ยวทุกเรื่อง”
ตอนนี้นางปกป้องสามีด้วยความร้อนรน แม้จะไม่ได้หวังว่าอวี่เหวินลู่จะล้มเลิกความคิดก่อนหน้านี้เพียงเพราะคำพูดของนางสองสามประโยค เพียงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเถียงกับเขา
อวี่เหวินลู่หัวเราะ นางมีความคิดแคบ ผมยาวแต่ไร้ซึ่งความคิด “ผู้ชายน่ะ ไม่สนว่าเป็นผู้ชายเช่นใด ในใจมักจะอยากได้อำนาจยิ่งใหญ่ เฝิงเยี่ยไป๋ก็เป็นผู้ชาย เป็นผู้ชายก็ไม่ยกเว้น ใครไม่อยากเป็นฮ่องเต้บ้าง เจ้าแคว้นเจ้าแผ่นดิน มีอำนาจแล้ว อยากได้สิ่งใดก็ได้ ทุกวันเจอใบหน้าเดิมๆ เมื่อเวลาผ่านไปก็ย่อมเบื่อหน่าย เพียงแต่ฮ่องเต้ไม่เหมือนกัน วังหลังหญิงงามสามพัน สามตำหนักหกหมู่เรือนเจ็ดสิบสองพระสนม คัดเลือกทุกปี ต่อให้พบวันละคนก็ไม่หมด อยากได้ความสดใหม่ รับรองว่าสดใหม่ทุกวัน ข้าไม่เชื่อว่าเฝิงเยี่ยไป๋จะไม่เคยคิด หากเขาจะแย่งจริงๆ ละก็ แผ่นดินนี้จะว่าอย่างไรเขาก็ได้แบ่งอยู่”
เฉินยางฟังออกว่าเขากำลังสร้างความร้าวฉานอยู่ เพียงแต่ในเมื่อเฝิงเยี่ยไป๋บอกแล้ว แผ่นดินของตระกูลอวี่เหวินไม่อยู่ในสายตาของเขา ก็ยิ่งไม่สนใจแผ่นดินนี้ หากเขามีใจจะแย่งชิง ก็จะไม่ไปกับนางในยามนี้ เพียงแต่ในเมื่อเขาพูดเช่นนี้แล้ว นางก็จะเชื่อเขา นางแต่งกับเขาแล้ว แต่งกับใครก็ติดไปชั่วชีวิต สามีตัวเองไม่เชื่อเขาจะเชื่อใครอีก
ตอนที่ 548 มกุฎราชกุมารไม่ใช่ผู้ที่ต่อกรได้ง่าย
คนใช้ของจวนท่านอ๋องถูกเฝิงเยี่ยไป๋ส่งกลับไปกว่าครึ่ง พอถึงยามค่ำคืน จวนที่ใหญ่โตก็เงียบเหงาจนน่าตกใจ ผู้ชายมีความกล้า ไม่รู้สึกว่ามีอะไร ผู้หญิงออกไปก็ไม่ได้ใจกล้าเช่นนี้ ต้องเรียกคนไปด้วยกัน ไม่เช่นนั้นไม่กล้าออกไป ระหว่างทางเฝิงเยี่ยไป๋เจอไม่กี่คน เจอแล้วก็เป็นสาวใช้ที่มากันเป็นคู่ ย่อตัวถวายความเคารพส่งเขาไปด้วยสายตาถึงกล้าลุกขึ้น
ยิ่งเป็นเช่นนี้ ในจวนมีความเคลื่อนไหวอะไรก็ยิ่งทำเอาสังเกตได้ง่าย เฉาเต๋อหลุนถูกเขาสั่งไปส่งบ่าวที่ส่งออกไป ยามนี้ไม่ได้อยู่ในจวน เขาเดินไปตามแสงจันทร์ ก้าวเท้ายาวๆ ไปทางห้องนอน
อวี่เหวินลู่ก็อยู่ในห้องนอนของเขากับเฉินยาง คนมีวิชา การฟังย่อมไม่แย่ อวี่เหวินลู่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเฝิงเยี่ยไป๋นานแล้ว เพียงแต่ก็ไม่หลบซ่อน นั่งอยู่ตรงนั้นดื้อๆ ในใจคิดอยู่ว่าหากเฝิงเยี่ยไป๋เข้าใจผิดละก็ เขาก็จะไม่อธิบาย กลับจะดูว่าความรักของพวกเขาจะแน่นแฟ้นได้เพียงใดเชียว!
เฉินยางไล่ก็ไล่ไม่ไป คนนี้ช่างหน้าด้านนักไม่สนว่าจะด่าอย่างไรเขาก็ไม่สนใจ นางก็ไม่อาจต่อสู้กับเขาได้ สร้างความวุ่นวายขึ้นมา ไม่ดีต่อใครๆ เลย จึงได้แต่นั่งอยู่ที่นั่นจ้องตากับเขา จะแพ้เขาไม่ได้
เฝิงเยี่ยไป๋นึกไม่ถึงว่าอวี่เหวินลู่ยังจะกลับมา พอเข้ามาดูในห้อง ก็เห็นเขาจ้องตากับเฉินยาง อวี่เหวินลู่เห็นเขากลับมาแล้ว ก็รีบเก็บสีหน้าไว้ ทำหน้ากรุ้มกริ่ม ยิ้มอย่างมีเลศนัย
ละครเด็กๆ ช่างไม่คุ้มค่าที่จะคาดเดานัก มองดูก็ดูออก เขาเห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้ พอเห็นคนอื่นดีกว่าก็เป็นต้องเข้าไปยุ่ง ไม่ทำร้ายคนอื่นก็จะไม่ยอมเช่นนั้น
“ไฉนเจ้าถึงกลับมาอีก”
จะเถียงกับเขาจะทำให้เขาดูไม่ใจกว้าง อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มีความเป็นภัยต่อตัวเองเลย เฉินยางก็ดูถูกเขา พวกเขาสองคนมีลูกด้วยกันแล้ว ระหว่างพวกเขาไม่อาจมีชายใดหญิงใดเข้ามาแทรกได้ ตอนนี้มาใส่ไฟตรงนี้ สายไปเสียแล้ว
สายตาอวี่เหวินลู่เหลือบมองเฉินยาง ตอบไม่ตรงคำถามว่า “เฝิงเยี่ยไป๋ เจ้าเก็บกวาดจวนสะอาดเช่นนี้คงไม่ใช่ว่าคิดจะหนีไปกระมัง”
เฝิงเยี่ยไป๋กลับยอมรับอย่างเปิดเผย เขาโอบเฉินยางนั่งลงพร้อมกัน จิบชาแล้วพูดว่า “ใช่แล้วจะอย่างไร ในวังเป็นเช่นไรเจ้าก็คงจะรู้ พวกเจ้าสู้เสียอีกหน่อย จะบุกฝ่าเข้าวังก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้”
“มกุฎราชกุมารไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่ายนัก เจ้าไปเช่นนี้แล้ว เจ้าคิดว่าเขาจะปล่อยเจ้าไปหรือ”
ย่อมไม่ เพียงแต่ “พวกเจ้าจะปล่อยเขาไปหรือ ฮ่องเต้ไม่เคยปรานีศัตรูของตัวเอง คิดว่าซู่อ๋องก็คงไม่นึกถึงความผูกพันน้าหลานแล้วปล่อยมกุฎราชกุมารไปกระมัง!”
มกุฎราชกุมารก็คือเสือที่ยังไม่โต ปล่อยเขาไปก็เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่า อนาคตหากมีวันใดที่เขาเติบโตขึ้นมา จะต้องเป็นภัยไม่น้อย แผ่นดินนี้ย่ำแย่แต่เดิม ผ่านศึกภายในครั้งนี้ก็เพียงพอแล้ว หากมีอีกครั้ง จะให้แคว้นอื่นมองอย่างไร ไม่ต้องรอให้พวกเขาลงมือ คนในตระกูลอวี่เหวินก็สู้กันเองแล้ว ก็เท่ากับให้โอกาสพวกเขาได้เข้ามาไม่ใช่หรือ!
เขาวางแผนได้ฉลาดนัก แม้ว่าเขาจะอยู่ในแผนตอนเริ่ม เพียงแต่ทุกก้าวของเขา ทุกท่วงท่าล้วนค่อยๆ ปัดตัวเองออกไป เขาไม่ได้ตั้งตำแหน่งของตัวเองในกระดานตั้งแต่แรก การวางแผนทางทหารเขารู้เป็นอย่างดี สู้กับมกุฎราชกุมาร มกุฎราชกุมารจะต้องจนปัญญา สองเสือสู้กันต้องมีฝ่ายใดที่บาดเจ็บ ถึงยามนั้นจะยังมีใครสนใจเขาได้อีก