ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 610
ร่วมมือกับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ 2
ถ้าตายแล้วขอเพียงดวงวิญญาณไม่ดับสลาย เขาก็ยังกลับชาติมาเกิดได้ อีกยี่สิบปีให้หลังก็จะมีชีวิตใหม่!
เมื่อคิดเช่นนี้ จิตใจเขาก็สงบขึ้นมา
แต่พอท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว เขาก็ลนลานอีกครั้ง!
เนื่องจากเขาทราบดี ขอเพยงท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่ ไม่ว่าในใจเขาจะซุกซ่อนสิ่งใดไว้ ล้วนถูกขุดค้นออกมาทั้งสิ้น…
เป็นไปตามคาด เมื่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จัดการเรื่องเชียนหลิงอวี่เรียบร้อยแล้ว สายตาก็มุ่งตรงมาที่เขา
เชียนหลิงเทียนหน้าซีดเผือด “อย่ามาถามอะไรข้า ข้าไม่พูดอะไรทั้งนั้น!”
ดวงตาท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยกโค้งเล็กน้อย ราวกับแย้มยิ้ม “เปิ่นจุนก็ไม่ได้ให้เจ้าพูดด้วยตัวเองนี่”
การถามนั้นยุ่งยากเกินไป ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์วางแผนจะใช้ทางลัด เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมา แสงเจ็ดสียังมิทันพุ่งออกมาจากปลายนิ้ว เชียนหลิงอวี่ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น “ท่านจะอ่านความทรงจำของข้าไม่ได้ ข้าจะระเบิด!”
“หือ?” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เลิกคิ้วมองเขา
“ข้าจะระเบิดจริงๆ นะ! เหมือนกับ…เหมือนกับอาจารย์จือ…ไม่สิ ข้าจะระเบิดรุนแรงยิ่งกว่าเขา! จะทำให้ทั่วบริเวณนี้ระเบิดไปด้วย!” เชียนหลิงเทียนข่มขู่ต่อ
กู่ฉานโม่รวมถึงคนอื่นๆ ที่เคยเห็นการเบิดของอาจารย์จือล้วนหน้าเปลี่ยนสีหมดแล้ว!
กู่ฉานโม่ร้องถาม “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเขาถึงระเบิด?”
เชียนหลิงเชิดหน้าขึ้น “รู้แน่นอน พวกเราไม่สามารถบอกความจริงได้ ไม่สามารถสารภาพเรื่องคนผู้นั้นได้ ต่อให้ถูกอ่านความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นก็ไม่ได้เช่นกัน พอไปแตะต้องเข้า พวกเราจะระเบิด ดวงวิญญาณแตกสลาย”
“เขา? เขาเป็นใคร?” กู่ฉานโม่ถามต่อ
เชียนหลิงเทียนส่ายหน้า “บอกไม่ได้ บอกไม่ได้จริงๆ…”
เขามองท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วยสีหน้าอ้อนวอน “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ หลิงเทียนทราบว่าครั้งนี้ทำผิดไปแล้ว ท่านจะสังหารหลิงเทียนก็ได้ เพื่อเป็นการชดใช้ แต่ท่านโปรดมอบโอกาสให้การเกิดใหม่ให้หลิงเทียนด้วยเถิดขอรับ อย่าได้ถามอีกเลย และอย่าพยายามอ่านความทรงจำของหลิงเลย เพราะพวกท่านจะไม่ได้เบาะแสใดจากสองวิธีการนี้ มีแต่จะทำให้ดวงวิญญาณของหลิงเทียนแตกสลายเท่านั้น”
จากนั้นก็หันไปมองกู่ฉานโม่ “อาจารย์ใหญ่กู่ขอรับ ท่านเคยเอ็นดูหลิงเทียนนัก ท่านโปรดสงสารหลิงเทียนด้วย มอบความสุขเพียงอย่างเดียวให้หลิงเทียนด้วยเถิดขอรับ…” เขาโขกศีรษะประหนึ่งทุบกระเทียม
กู่ฉานโม่เงียบงัน
เขาขมวดคิ้วแน่น สุดท้ายก็ใจอ่อนอยู่บ้าง เขามองไปที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านคิดเห็นประการใดขอรับ?”
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์สั่งการอย่างเฉยเมยประโยคเดียว “ให้ทุกคนออกไปซะ”
กู่ฉานโม่ไร้วาจา
เขาเดาออกว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะทำอะไร จึงนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วรีบให้เหล่าคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปจากที่นี่
ทว่าเขากลับไม่คิดจะออกไป สี่ผู้อาวุโสของหน่อยวลงทัณฑ์ก็ไม่คิดจะออกไปเช่นกัน พวกเขาต้องการร่วมเป็นร่วมตายกับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์!
“พวกเจ้าก็ไสหัวออกไปด้วย!” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เหลอบมองแวบเดียวก็ทราบความคิดของพวกเขาแล้ว จึงไล่คนไปอย่างไปม่เกรงใจ
“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ บางทีพวกเราจะช่วยงานได้…” กู่ฉานโม่ไม่ถอดใจ
“พวกเจ้าอยู่ที่นี่ก็เป็นได้แค่ตัวเกะกะ ไสหัวไปซะ!”
กลิ่นอายของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังเกินไป พวกกู่ฉานโม่ไม่กล้าโต้แย้ง ทำได้เพียงก้มหน้าออกไปจัดการทุกอย่าง ให้ผู้คนออกไปให้ไกลขึ้นหน่อย
ไม่มีใครทราบว่าการระเบิดของเชียนหลิงเทียนจะทรงอานุภาพเพียงใด เพื่อความปลอดภัยจึงต้องออกไปห่างๆ หน่อย
เหล่าฝูงชนต่างเจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ หายไปเพียงกู้ซีจิ่วคนเดียว
สีหน้ากู่ฉานโม่แปรเปลี่ยน “คงมิใช่ว่านางยังอยู่ในห้องโถงกระมัง?!”
….
เพียงพริบตาเดียวห้องโถงก็ว่างเปล่า เชียนหลิงเทียนคุกเข่าอยู่ตรงนั้นสีหน้าดั่งคนตาย “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่าน…ท่านต้องการให้ดวงวิญญาณหลิงเทียนแหลกสลายหรือขอรับ?”
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่ตรงนั้น เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าอาจจะไม่ตายก็ได้” แล้วเพ่งพิศเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่หลายครา ดูเหมือนจะมีรอยยิ้ม