ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 745-746
บทที่ 745 รู้สึกว่าตนถูกวิญญาณแม่พระอันใดสิงสู่เสียแล้ว
แน่นอนว่าด้วยฝีมือที่ล้ำเลิศปานนั้นของเขามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วนที่เหตุการณ์ประเภทนี้จะไม่เกิดขึ้น
แต่ว่า ถ้าหากเกิดขึ้นเล่า? ถ้าหากน่ะ?
เป็นครั้งแรกในชีวิตนี้ที่กู้ซีจิ่วสับสนวุ่นวายถึงเพียงนี้ รู้สึกว่าตนถูกวิญญาณแม่พระอันใดสิงสู่เสียแล้ว….
หลังจากนอนพลิกไปพลิกมาดังแผ่นแป้งทอดอยู่หลายตลบ สุดท้ายก็พลิกกายขึ้นนั่ง
เวรเอ้ย! ไม่สนแล้ว! หากไม่ไปดูที่นั่นคืนนี้เธอคงนอนไม่หลับทั้งคืน แทนที่จะนอนพลิกไปพลิกมาดั่งแผ่นแป้งทอดเช่นนี้ มิสู้ไปดูเสียเลย
ถ้าเขาจากไปแล้วก็ดี เธอก็วิ่งกลับมานอนตามปกติเสีย มิได้หนักหนาอะไร!
เธอตัดสินใจโดยพลัน ใช้วิชาเคลื่อนย้ายทันที…
อันที่จริงด้วยสุขภาพของเธอในยามนี้ไม่เหมาะจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา ยิ่งไปกว่านั้นคือสถานที่แห่งนั้นไกลนัก เธอเคลื่อนย้ายถึงสองครั้งกว่าจะถึงที่นั่น
เธอก่นด่าว่าตัวเองโง่งมไปพลาง เคลื่อนย้ายไปพลาง ผ่านไปหนึ่งนาที ยามนี้เธอปรากฏตัวขึ้นที่ริมสระแล้ว…
หลังจากได้เห็นสภาพแวดล้อมริมสระชัดเจน หยาดเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผากเธอก็ย้อยลงมา!
กองไฟริมสระดับมอดแล้ว ถัดจากโขดหินก้อนนั้นที่ตี้ฝูอีเคยนั่งอยู่ มีซากเสือดาวนอนระเกะระกะอยู่หลายตัว โลหิตเจิ่งนอง มีกระบี่เปื้อนเลือดเล่มหนึ่งตกอยู่ข้างๆ
จากนั้นก็มีร่องรอยการฉุดลากบนพื้นดิน
ร่องรอยนี้ลากยาวเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขา ต้นหญ้าตามทางถูกกดทับไม่น้อย…
กู้ซีจิ่วตรวจสอบรอยลากนั้นอย่างรวดเร็ว พบว่าที่ถูกลากไปน่าจะเป็นคนหนึ่งคน
ยามนี้ไม่ต้องคิดเป็นครั้งที่สองเลยว่าผู้ที่ถูกลากไปเป็นใคร กู้ซีจิ่วรีบติดตามรอยลากไปทันที
ในที่สุด เธอก็ได้เห็นเขาอีกครั้ง
เขากองอยู่ตรงนั้น ร่างกายคล้ายมีเยื่อชั้นหนึ่งคุ้มครองอยู่ มีเสือดาวห้าตัวกำลังกัดงับเยื่อนั้นแล้ววิ่งลากไป…
ตี้ฝูอีที่อยู่ภายในเยื่อนั้นหลับตานิดๆ ไม่รู้ว่าถูกงับจนสลบไป หรือว่ากำลังรวบรวมกำลังอยู่
กู้ซีจิ่วสบถเสียงแผ่วคราหนึ่ง ด้านหนึ่งก็ชมเชยที่ตนฉลาดปราดเปรื่องคาดคะเนเรื่องราวได้ปานเทพเซียน อีกด้านหนึ่งก็ใคร่ครวญหาวิธีช่วยเหลือคน
ต่อสู้ย่อมไม่เหมาะแน่นอน ตอนนี้เธอยังบาดเจ็บอยู่
ใช้ได้เพียงพิษ…
เพียงแต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเสือดาวพวกนี้จะร้ายกาจยิ่งนัก ยาพิษธรรมดาย่อมเป็นพิษต่อพวกมัน มีแต่ต้องใช้พิษร้ายแรงเท่านั้น
เธอตรวจค้นถุงเก็บอขงอยู่ครู่หนึ่ง หาของที่เหมาะสมไม่พบ พบเพียงยาสลบชนิดรุนแรงขวดหนึ่ง รุนแรงชนิดที่สามารถล้มช้างได้ทันที
ต่อให้เสือดาวเหล่านี้ไม่เกรงกลัวพิษ ก็น่าจะเกรงกลัวยาสลบอยู่บ้าง อย่างน้อยๆ ก็สามารถทำให้พวกมันสลบไสลได้หลายนาที…
กู้ซีจิ่วเคลือบยาสลบบนเข็มเงิน จากนั้นก็ไล่ตามเสือดาวหลายตัวนั้นไป เมื่อถึงจุดที่ห่างกับพวกมันสิบกว่าจั้งก็ตะโกนเสียงดัง!
เสียงตะโกนของเธอได้ผลยิ่ง เสือดาวเหล่านั้นเหลียวกลับมาเพราะได้ยินเสียง เข็มเงินในมือกู้ซีจิ่วก็พุ่งออกไป…
และวินาทีนั้นเสือดาวพวกนั้นก็พบเธอและกระโจนเข้ามาแล้ว
ความแม่นยำของกู้ซีจิ่วน่าพรันพรึงนัก เข็มเงินทุกเล่มล้วนปักเข้าที่ดวงตาของเสือดาวเหล่านั้น…
กู้ซีจิ่วทะยานกายถอยหลัง นับเลขอยู่ในใจ ‘หนึ่ง สอง สาม…’
ยามที่นับถึงเจ็ด ในที่สุดเสือเหล่านั้นก็ส่ายโงนเงนดั่งเมามาย ค่อยๆ ล้มลงไปช้าๆ
กู้ซีจิ่วก็ไม่เกรงอกเกรงใจ ก้าวเข้าไปแล้วชักกระบี่ออกมาบั่นคอทีละตัว…
เธอรู้สึกว่าการแทงทะลุหัวใจสัตว์ร้ายเหล่านี้ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ มีแต่ต้องตัดหัวถึงจะปลอดภัยจริงๆ
แต่เห็นได้ชัดว่าเธอประเมินคระดับความเหนียงของหนังเสือดาวเหล่านี้ต่ำไป พยายามฟันอยู่หลายครั้งก็ฟันหนังเสือเหล่านั้นไม่ขาดเสียที สั่นสะเทือนจนข้อมือเหน็บชา
เสือเหล่านี้ดูเหมือนจะต้องอาศัยพลังวิญญาณเท่านั้นถึงจะสังหารได้ มิเช่นนั้นก็ทำอันใดพวกมันไม่ได้จริงๆ
เสือเหล่านี้ทรงพลังนัก ถูกกู้ซีจิ่วทำให้ชาไปได้ไม่นาน ก็เริ่มมีแรงลืมตาแล้ว…
ไม่ดีแล้ว! ถ้ารอจนพวกมันฟื้นฟูเป็นปกติเธอจะพาคนหลบหนีไปก็ไม่ทันการแล้ว!
————————————————————————————-
บทที่ 746 ได้! ฟังคำเจ้า
กู้ซีจิ่วทำได้เพียงละวางความคิดที่จะสังหารพวกมันให้สาสมไป วิ่งไปข้างกายตี้ฝูอีทันที เขาลืมตาแล้ว ภายใต้แสงจันทร์นัยน์ตาเขาสุกสกาวดั่งแสงดาว มองเธออย่างแจ่มใสหาใดปาน “ซีจิ่ว เจ้าทิ้งข้าไม่ลงจริงๆ ด้วย!”
กู้ซีจิ่วชะงักฝีเท้า คร้านจะพูดไร้สาระกับเขา และยามนี้ก็ไม่มีเวลามาพูดไร้สาระแล้วด้วย
เธอก้มลงโอบประคองเขาขึ้นมา อาศัยจังหวะที่เสือพวกนั้นยังไม่รู้สึกตัวดี พยายามใช้วิชาเคลื่อนย้ายสุดกำลัง เลือนหายไปจากจุดเดิม
….
คืนนี้กู้ซีจิ่วยุ่งนัก เธอเหนื่อยแทบตาย ซ้ำยังบาดเจ็บสาหัสอยู่ ดังนั้นการเคลื่อนย้ายในครั้งแรกที่เธอโอบตี้ฝูอีผู้ตัวหนักอึ้งไว้จึงเคลื่อนย้ายได้ไม่ไกลนัก เป็นระยะทางเพียงสองลี้เท่านั้น
ระยะนี้ย่อมมิใช่ระยะห่างที่ปลอดภัย ด้วยเหตุนี้เธอจึงพักหายใจครู่หนึ่งแล้วเคลื่อนย้ายต่อ หนนี้คืบหน้าขึ้นมาหน่อย เคลื่อนย้ายได้สามลี้
การเคลื่อยย้ายติดต่อกันสองครั้งทำให้เธอตาลายจนเห็นดาว ก้มมองเขาที่ถูกลากอยู่ อดไม่ได้ที่จะออกความเห็น “ตี้ฝูอี ข้าว่าท่านควรลดน้ำหนักได้แล้ว!”
อันที่จริงเรือนร่างของตี้ฝูอีสมส่วนอย่างยิ่ง ชนิดที่ว่าเพิ่มหนึ่งส่วนก็ท้วมไป ลดหนึ่งส่วนก็ผอมไป หากเป็นคนอื่นปรามาสว่าเขาอ้วน คาดว่าเขาคงซัดคนผู้นั้นออกนอกจักรวาลไปแล้ว แต่ยามนี้เป็นกู้ซีจิ่วที่ปรามาส เขากลับรู้สึกหวานชื่น ยิ้มน้อยๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ได้! ฟังคำเจ้า”
กู้ซีจิ่วตะลึง ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่ปากร้ายมาตลอดเปลี่ยนเป็นว่าง่ายเช่นนี้ ทำให้กู้ซีจิ่วไม่ชินยิ่งนัก
เธอมองไปด้านหน้า ยังต้องเคลื่อนย้ายอีกสามครั้งถึงจะส่งตี้ฝูอีกลับเรือนได้…
เสียงคำรามของพยัคฆ์แว่วมา เป็นอันชัดเจนว่าเสือพวกนั้นฟื้นคืนสติแล้ว น่าจะไล่ตามมาได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง
ด้วยการเคลื่อนย้ายต่อเนื่องกันสามครั้งเช่นนี้ กู้ซีจิ่วถึงพาตี้ฝูอีเข้ามาในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ได้ มองเห็นประตูใหญ่ของคฤหาสน์หลังนั้นอยู่ไกลๆ…
มารดาเถิด ในที่สุดก็กลับมาได้แล้ว!
กู้ซีจิ่วถอนหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอก หนนี้กู้ซีจิ่วสิ้นเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ ยามนี้จิตใจผ่อนคลาย เบื้องหน้าพลันมืดมัว ล้มลงไปเสียงดังตึง วินาทีที่ล้มลงไปหน้าผากของเธอบังเอิญโขกลงบนหน้าผากตี้ฝูอีพอดี ชนเข้ากับแถบแพรนัยน์ตาจิ้งจอกบนหน้าผากเขา…
เบื้องหน้าเธอพร่าเลือนเห็นดาววิบวับ จากนั้นก็ไม่ทราบอะไรอีกเลย
….
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด เมื่อกู้ซีจิ่วฟื้นจากการสลบ จมูกก็ได้กลิ่นหอมอ่อนจางสายหนึ่งเป็นอันดับแรก ทว่ากลิ่นหอมนั้นคุ้นเคยยิ่งนัก เป็นเอกลักษณ์ของตี้ฝูอี!
การลืมตาช่างกินแรงเธอเหลือเกิน สิ่งที่ปรากฏในครรลองสายตาคือม่านระย้าสีเงิน…
สมองเธอค่อนข้างทึ่มทื่อไปชั่วขณะ ค่อยๆ กะพริบตา รับรู้ได้ช้าๆ ว่าม่านเตียงนี้มิใช่ม่านเตียงที่เธอนอนเป็นประจำ เตียงของเธอไม่มีของหรูหราเลอค่าเช่นนี้…
ด้วยเหตุนี้เธอจึงกะพริบตาอีกครั้ง ตั้งสติ หันมองรอบข้าง
นอกเหนือจากม่านเตียงที่โปร่งแสงแล้ว เธอเห็นว่าห้องนี้จัดแต่งอย่างดงามและมีรสนิยมยิ่งนัก
ฉากกั้นลม เครื่องเรือน แจกันดอกไม้ กระถางกำยาน…
ข้าวของทุกชิ้นล้วนบ่งบอกถึงรสนิยมและความพิเศษของผู้เป็นเจ้าของ
กู้ซีจิ่วยกมือขึ้นเคาะจุดไท่หยาง[1]ตามสัญชาตญาณ ผู้ที่สามารถจัดแต่งห้องให้ประณีตงดงามถึงเพียงนี้ได้ยามนี้ย่อมมีใช่ใครอื่น
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี!
ที่นี่คล้ายจะเป็นห้องนอนของตี้ฝูอี!
ฉากก่อนที่จะสลบไปแวบขึ้นมาในสมอง เธอก็ทราบแจ่มแจ้งแล้ว
เธอพาตี้ฝูอีกลับมาได้ แล้วสลบไปที่หน้าเรือน ในที่สุดก็ทำให้มู่เฟิงตกอกตกใจ ช่วยเหลือทั้งสองกลับมา…
ไม่ถูกสิ! ช้าก่อน!
หากว่าทั้งสองคนล้วนถูกช่วยกลับมา เช่นนั้นตามหลักแล้วควรจะจัดให้เธอไปอยู่ที่ห้องพักแขกสิ มิใช่ในห้องนอนของตี้ฝูอี!
เธอนอนอยู่ที่นี่ เช่นนั้นตี้ฝูอีไปนอนที่ไหน?
————————————————————————————-
[1] จุดไท่หยาง เป็นจุดที่อยู่ตรงขมับบริเวณหางคิ้ว