ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 749-750
บทที่ 749 ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง?
เดิมทีกู้ซีจิ่วก็เล่นละครเก่งอยู่แล้ว เมื่อแปลงโฉมเป็นผู้ใดก็แสร้งเป็นผู้นั้น นับประสาอะไรกับร่างกายของเธอในยามนี้ที่เดิมทีก็เป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริงอยู่แล้ว แถมเธอยังคุ้นเคยกับเขาด้วย ย่อมลอกเลียนลักษณะท่าทางของได้สมบูร์ณ ต่อให้เป็นมู่เหล่ยก็มองไม่ออกในระยะเวลาสั้นๆ
มู่เหล่ยปลาบปลื้มยินดี ในที่สุดเจ้านายของบ้านตนก็จะไปหาแม่นางกู้อย่างซื่อตรงเปิดเผยแล้ว! หรือในที่สุดเขาจะรับรู้ถึงความรู้สึกที่ตนมีต่อแม่นางกู้แล้ว ตัดสินใจจะไขว้คว้าแม่นางกู้กลับใช่หรือไม่?
เจ้านายตนควรจะทุ่มเทกำลังให้มากขึ้นจริงๆ ถ้าเดี๋ยวชิดใกล้เดี๋ยวถอยห่างเช่นนี้ต่อไป นายหญิงน้อยก็ถูกหลงซือเย่ชิงตัวไปแล้ว!
อันที่จริงสองวันมานี้มู่เหล่ยว้าวุ่นแทนเจ้านายยิ่งนัก เนื่องจากเขาได้ยินข่าวซุบซิบระหว่างหลงซือเย่กับกู้ซีจิ่วที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์มาไม่น้อย ทราบว่าระยะนี้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันยิ่งนัก หลงซือเย่จะไปรายงานตัวกับนางที่นั่นทุกวัน แถมยังมีคนมากมายเห็นว่าสองคนนั้นจูงมือกันเดินเล่นด้วย…
ความหวานแหววนั้นทำให้มู่เหล่ยอิจฉาตาร้อนแทนเจ้านายของบ้านตน!
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเจ้านายของบ้านตนใส่ใจยิ่งนัก แต่กลับทำเป็นนิ่งเฉยเสีย สองวันมานี้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย สุราไม่ห่างมือเลย ลูกน้องอย่างเขาก็ไม่กล้าตักเตือน ทำได้เพียงร้อนรนกังวลแทนเขา
ยามนี้ดีขึ้นแล้ว ในที่สุดนายท่านประจักษ์แจ้งแล้ว เป็นฝ่ายรุกก่อนแล้ว!
แต่หวังว่าจะยังไม่สายเกินไป!
เนื่องจากเจ้านายไม่ได้บอกว่าไม่ให้เขาตามไป ดังนั้นมู่เหล่ยจึงตัดสินใจตามไปดูแลอยู่ข้างกายเจ้านาย
ถึงอย่างไรร่างกายของเจ้านายก็บาดเจ็บอยู่มิใช่หรือ? แถมเมื่อคืนยังสลบกลับมาอีก
กู้ซีจิ่วรีบเร่งเดินทาง ระหว่างทางพบอาจารย์ละลูกศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์มากมาย คนเหล่านี้เมื่อพบเห็นเขาย่อมพากันทำความเคารพ…
ไม่ว่ากู้ซีจิ่วจะเดินไปที่ใด ที่นั่นล้วนคุกเข่าคารวะทั้งสิ้น เป็นฉากที่อลังการนัก
ในบรรดานี้มีคู่แฝดเล่อชิงซิ่งและเล่อจื่อซิ่งด้วย พี่น้องคู่นี้มอง ‘ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’ ด้วยแววตาที่ค่อนข้างซับซ้อนอยู่บ้าง คล้ายกับมองชายใจทรามที่ได้แล้วทิ้ง…
กู้ซีจิ่วคร้านจะสนใจ ตอนนี้เธอพะวงอยู่เพียงเรื่องเดียว เธอกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายสลับร่างกันจริงๆใช่ไหม?!
ยามที่มาถึงเรือนจิตวายุ ก็ได้พบกู่ฉานโม่ ดูเหมือนเขาเพิ่งจะไปดู ‘กู้ซีจิ่ว’ มา เมื่อเห็น ‘ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’ มาถึง เขาก็เอ่ยทักทาย “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย นี่ท่าน…มาเยี่ยมแม่นางกู้หรือ?”
กู้ซีจิ่วถือโอกาสถามเสียเลย “ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง?”
กู่ฉานโม่ตอบว่า “ที่แท้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ใส่ใจนางถึงเพียงนี้ วางใจเถิด ตอนนี้อาการบาดเจ็บของนางไม่หนักหนาแล้ว เช้านี้กินอาหารไปไม่น้อย น่าจะหายดีในไม่ช้า”
กู้ซีจิ่วตะลึง กล่าวเช่นนี้คือ ร่างของเธอตื่นแล้ว?! ซ้ำยังกินอาหารไปไม่น้อย…
“ตอนนี้นาง…ทำอะไรอยู่?” กู้ซีจิ่วถามอีกประโยคหนึ่ง
“เอ่อ ตอนนี้นางคงจะพูดคุยกับเจ้านักหลงอยู่กระมัง? ยามที่ผู้เฒ่าออกมาเจ้าสำนักหลงเพิ่งมาถึง เจ้าสำนักหลงผู้นี้ปฏิบัติต่อกู้ซีจิ่วดียิ่งนัก วันหนึ่งๆ มาเยี่ยมนางอยู่หลายครั้ง…” วาจาที่กู่ฉานโม่เอ่ยออกมาแฝงนัยยะล้ำลึกยิ่งนักเอาไว้…
ทว่าความรู้สึกเลวร้ายในใจกู้ซีจิ่วกลับพุ่งกระฉูดขึ้นมา!
หากว่าตอนนี้ผู้ที่ครอบครองร่างของเธอคือตี้ฝูอี ด้วยนิสัยของเขา เกรงว่าหลงซือเย่คงถูกเขาหลอกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!
วุ่นวายแล้ว! วุ่นวายไปหมด!
กู้ซีจิ่วไม่สนใจคุยกับกู่ฉานโม่แล้ว หันหลังจากไปทันที
ได้ยินกู่ฉานโม่บ่นพึมพำแว่วๆ อยู่ด้านหลังว่า “ตอนนี้เห็นคุณค่าของแม่นางบ้านอื่นขึ้นมาแล้วหรือ? เกรงว่าจะสายไปแล้ว!”
เมื่อเธอเข้าประตูเรือนไป ก็พบหลงซือเย่ที่ออกมาจากห้องพอดี ไม่ทราบว่า ‘กู้ซีจิ่ว’ ที่อยู่ในห้องคุยอะไรกับเขา สีหน้าเขาจึงค่อนข้างซีดเซียว ย่างก้าวก็โซเซอยู่บ้าง ท่าทางเหมือนได้รับความกระทบเทือนอะไรมา
กู้ซีจิ่วร้องเรียกเขาตามสัญชาตญาณ “หลงซือเย่…”
————————————————————————————-
บทที่ 750 มีวูบหนึ่งที่อยากเตะเจ้าคนผู้นี้ให้กระเด็น
ฝีเท้าหลงซือเย่หยุดชะงัก มองเธออย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แม้แต่เสียงทักทายก็ไม่มี หันหลังรีบก้าวออกไป
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
ปากเธออ้าออกนิดๆ ในใจใคร่ครวญว่าต้องตามไปบอกเรื่องที่เธอสลับร่างกับตี้ฝูอีให้หลงซือเย่ทราบหรือไม่…
เท้าเธอเพิ่งจะขยับ ประตูห้องพลันเปิดออก สาวน้อยนางหนึ่งยืนขวางประตูอยู่ ดวงตาคู่นั้นมองมาที่เธอ มุมปากยิ้มมิเชิงยิ้ม เอ่ยทักทายเธอด้วยน้ำเสียงใสกระจ่าง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก
สาวน้อยผู้นั้นคือร่างของ…กู้ซีจิ่ว
เป็นครั้งแรกที่กู้ซีจิ่วได้ยืนพินิจร่างกายตัวเองจากมุมมองของคนนอก มองเห็นร่างของตนเอ่ยทักทายตน เธอรู้สึกปวดประสาทเหลือเกิน…
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ สาวเท้าเข้าไปด้านใน “พวกเรามาคุยกันหน่อย!”
เธอต้องรู้ให้ได้ว่าสรุปแล้วเกิดอะไรขึ้น!
หลานไว่หูก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเห็นกู้ซีจิ่วเข้ามา จึงทำความเคารพเธอก่อน “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย”
กู้ซีจิ่วเจ็บปวดนัก แต่กยังโบกมือให้นางลุกขึ้น กล่าวกับหลานไว่หูอย่างอ่อนโยน “จิ้งจอกน้อย เจ้าออกไปก่อน ข้า…ตัวข้ามีเรื่องต้องคุยกับแม่นางกู้”
เรื่องนี้ประหลาดและอยู่น่าเหลือเชื่อเกินไป ด้วยลางสังหรณ์ของกู้ซีจิ่วจึงไม่อยากให้มีคนรู้มากนัก เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เสียงนี้ของเธอทำให้หลานไว่หูเบิกตากว้างมองเธออย่างยากจะอธิบาย
จิ้งจอกน้อยชื่อเล่นนี้มีเพียงคนที่สนิทชิดเชื้อกันถึงจะเรียกขานนางเช่นนี้ อย่างเช่นกู้ซีจิ่ว เชียนหลิงอวี่ เยี่ยนเฉิน…
นึกไม่ถึงว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็จะเรียกขานนางเช่นนี้ด้วย
กู้ซีจิ่วเห็นหลานไว่หูมีท่าทางคับข้องหมองใจก็ประหลาดใจอยู่บ้าง หัวใจเต้นแรงแวบหนึ่ง หรืออีกฝ่ายจะกลั่นแกล้งเอาเปรียบจิ้งจอกน้อย?!
สายตาเธอมองไปที่ร่างกายของตนทันที!
สายตาของ ‘ก็ซีจิ่ว’ ที่อยู่ตรงข้ามนิ่งเฉยไม่รู้สึกรู้สา นั่งเอื่อยเฉื่อยไม่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น ทว่าแย้มยิ้มแวบหนึ่ง “วันนี้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอ่อนโยนเหลือเกิน” แล้วหันไปคุยกับหลานไว่หู “หลานไว่หู เจ้าออกไปก่อน ตัว…ข้ามีบางอย่างจะคุยกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย”
หลานไว่หูเม้มริมฝีปากน้อยๆ สุดท้ายก็ออกไป
ในที่สุดภายในห้องก็เหลือเพียงคนทั้งสอง กู้ซีจิ่วมอง ‘ตัวเอง’ ที่อยู่ตรงหน้า “ตี้ฝูอี นี่มันเรื่องอะไรกัน?!”
ตี้ฝูอีถอนหายใจหนักๆ “ก็อย่างที่เจ้าเห็น พวกเราสลับร่างกัน”
“เป็นเล่ห์กลของเจ้าใช่ไหม?” กู้ซีจิ่วสูดหายใจ
หลงซือเย่แบมือยักไหล่ “ข้าไม่ถึงขั้นล้อเล่นกับเรื่องเช่นนี้ ตอนข้าตื่นขึ้นมาก็ตกใจเหมือนกัน!”
กู้ซีจิ่วจ้องมองเขา คิดจะมองหาพิรุธเล็กน้อยจากใบหน้าของเขา แต่ก็มองไม่เห็น
ตี้ฝูอีค่อยๆ เพ่งพิศกู้ซีจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้า “สังขารนี้เจ้าคุ้นชินหรือไม่? มีจุดไหนที่รู้สึกไม่สบายหรือเปล่า? นึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่สังขารข้าถูกผู้อื่นเข้าครอบครอง” จากนั้นก็เพ่งพิศเธออีกครา ก้าวเข้ามาหา “ผูกสาบเสื้อหลวมเกินไป” แล้วยื่นมือมาจัดการสาบเสื้อให้เธอ
กู้ซีจิ่วรีบถอยหลังทันที “อย่าขยับมือไม้วุ่นวาย! มีวิธีเปลี่ยนกลับไปหรือไม่?”
ตี้ฝูอีมองเธอ “เจ้าใช้ร่างของข้าทำสีหน้าดั่งยอมตายเพื่อรักษาพรหมจรรย์เช่นนี้คงไม่มีกระมัง? หรือเจ้าเกรงว่าข้าจะใช้ร่างกายนี้ข่มเหงตน?”
เส้นเลือดบนหน้าผากกู้ซีจิ่วปูดโปน กล่าวอย่างเหลืออด “เจ้าอย่าได้ใช้ร่างข้ามาปรนนิบัติเอาใจ…”
ตี้ฝูอีกลับไปนั่งอีกครั้ง “เช่นนั้น เจ้าก็ใช้ร่างข้ามามาปรนนิบัติเอาใจดีไหม? มา! ทุบข้าให้ข้าก่อน แล้วก็มานวดไหล่ ข้าไม่ใส่ใจหรอก”
กูซีจิ่วพูดไม่ออก
เหตุใดมีวูบหนึ่งที่เธออยากเตะเจ้าคนผู้นี้ให้กระเด็นกันนะ!
“พูดจาเหลวไหลให้น้อยหน่อย! สรุปแล้วมีวิธีเปลี่ยนกลับหรือไม่?”