ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 755-756
บทที่ 755 ไม่เข้าท่าจริงๆ
ในยุคนี้ เหล่าชนชั้นสูงล้วนชมชอบให้สาวใช้อาบน้ำให้มิใช่หรือ? หรือว่าเขาจะเป็นแตกต่างจากคนส่วนใหญ่!
น้ำเสียงตี้ฝูอีราบเรียบ “ร่างกายอันล่ำค่าของข้าจะให้คนสัมผัสมันง่ายๆ ได้อย่างไร?” อย่าว่าแต่สาวใช้เลย แม้กระทั่งพวกมู่เฟิงก็ยังไม่เคยเห็นจริงๆ จังๆ เลย…
ตามปกติเขาใช้คาถาทำความสะอาดก็สิ้นเรื่องแล้ว การอาบน้ำแช่น้ำแบบปกติทั่วไปล้วนเป็นงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ ของเขา
ตี้ฝูอีเสนอแผนการออกมาแผนแล้วแผนเ ล้วนถูกกู้ซีจิ่วปฏิเสธทั้งสิ้น จากนั้นทั้งสองก็พบว่า ปัญหาการอาบน้ำกลายเป็นปัญหาใหญ่ไปแล้ว…
ปัญหาข้อนี้ยังปรึกษาหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมไม่ได้ ก็มีปัญหาอื่นโผล่ขึ้นมาอีกแล้ว จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็พบว่าตนเองค่อนข้างอยากเข้าห้องน้ำ เป็นอาการปวดเบา…
เธอนึกถึงท่าทางของผู้ชายเวลาเข้าห้องน้ำ สีหน้าพลันเขียวคล้ำ!
ดูเหมือนว่าจะต้องจับ…ตี้ฝูอีน้อย…
ตี้ฝูอีเชี่ยวชาญการอ่านสีหน้า เมื่อเห็นว่าจู่ๆ กู้ซีจิ่วก็นั่งขยุกขยิกอยู่บ้าง ก็เงียบไปครู่หนึ่ง ถามออกมาประโยคเดียว “ปวดเบาหรือ?”
ใบหน้าหล่อเหลาของกู้ซีจิ่วขึ้นสีนิดๆ จ้องมองตี้ฝูอี “ข้าขอพูดหน่อย ท่านมิใช่เทพเซียนผู้สูงส่งหรือหรือ? เทพก็ยังต้อง…ยังต้องปลดทุกข์อีกหรือ?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจ “ข้าบำเพ็ญเพียรตัดธัญญะทั้งห้าแล้ว หากว่าร่างกายยังปกติดี ย่อมไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ แต่ยามนี้ร่างนั้นกลับประสบเหตุเหนือความคาดหมาย ก่อนที่พลังวิญญาณจะฟื้นฟูกลับคืนมา มันจะเป็นเช่นเดียวกับคนทั่วไป”
เรื่องอาบน้ำละไว้ก่อนได้ ทว่าเรื่องการปวดเบากลับละไว้ไม่ได้เลย กู้ซีจิ่วตัดสินใจ ไปปลดทุกข์ในห้องสุขาของเรือนนี้
แน่นอนว่าเธอใช้ท่านั่งยองๆ ไม่ใช่ท่ายืน…
เคราะห์ดีที่ในห้องสุขาไม่มีคนอื่น มิเช่นนั้นฉากนี้คงน่าตะลึงพรึงเพริดโดยแท้ ไม่แน่อาจมีคนคิดว่าน้องชายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เกิดความผิดปกติอันใด หรือถูกตอนจนกลายเป็นขันทีไปแล้ว…
เมื่อเธอคลี่คลายปัญหาที่ตึงมือได้ เพิ่งจะก้าวออกมา ก็ได้พบมู่เฟิงที่เข้ามารายงาน “นายท่านขอรับ อาจารย์ใหญ่กู่บอกว่าขอเชิญแม่นางกู้ไปที่โถงจันทร์ล่อง ทุกคนจัดงานฉลองพิธีปักปิ่นของนางเรียบร้อยแล้วขอรับ”
กู้ซีจิ่วท่าทางเรียบเฉย “ข้ารู้แล้ว เดี๋ยวจะไปเรียกนางมา”
จิตใจของกู้ซีจิ่วค่อนข้างซึมเศร้าอยู่บ้าง เดิมทีนี่เป็นวันเกิดครบอายุสิบห้าปีเป็นที่ผู้อื่นเฝ้ารอยิ่งนัก แต่ยามนี้ในร่างนั้นกลับเป็นคนอื่น…
เพียงแต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ช่วยอะไรไม่ได้ เรื่องที่เธอกับเขาสลับร่างกันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ให้คนนอกรู้ไม่ได้เด็ดขาด!
บางทีเธอทำได้เพียงมองตี้ฝูอีใช้ร่างเธอปักปิ่นรับคำอวยพรจากผู้อื่น…
เธอเข้าห้องไปบอกสถานการณ์กับตี้ฝูอีครู่หนึ่ง ตี้ฝูอีหลุบตามองการแต่งกาย กล่าวอย่างเด็ดขาด “วันพิธีเช่นนี้ต้องโดดเด่นเจิดจรัส จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า!”
ร่างนี้ของกู้ซีจิ่วยังสวมชุดตัวเมื่อคืนอยู่ เป็นชุดนั้นที่หลงซือเย่ซื้อให้เธอ เรื่องดูดีนั้นดูดี แค่ดูเรียบๆ ไปหน่อย ไม่เข้ากับบุคลิกของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อคืนเธอสวมชุดนี้ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายหน แถมยังใส่นอนทั้งคืน ต่อให้ชุดดูดีแค่ไหนก็ยับยู่ยี่หมดแล้ว ไม่เข้าท่าจริงๆ
แต่จะเปลี่ยนเป็นชุดไหนล่ะ?
ตัวกู้ซีจิ่วมีเสื้อผ้าอยู่ไม่มาก และส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องแบบของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์
ตี้ฝูอีคุ้ยถุงเก็บของเธออยู่เนิ่นนานก็ไม่พบชุดที่ทำให้เขารู้สึกว่าเข้าทีเลยสักตัว จึงสั่งการกู้ซีจิ่วทันที “นี่ เปิดมิติเก็บของของข้าหน่อย ข้าจะมอบชุดหนึ่งให้เจ้า”
ในเมื่อกู้ซีจิ่วอยู่ในร่างของตี้ฝูอี มิติเก็บของของเขาย่อมต้องอยู่ที่เธอเช่นกัน
————————————————————————————-
บทที่ 756 หลอกนางไม่ได้จริงๆ
เธอปฏิบัติตามที่ตี้ฝูอีบอก ใช้วิชาเล็กน้อยเพื่อเปิดมิติเก็บของนั้น ถึงได้พบว่าภายในห้วงมิติของเขากว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ ข้าวของหลากหลายละลานตา มีข้าวของมากมายจนเธอไม่มีทางระบุชื่อได้
เมื่อคืนยามที่เขาเปิดมิติเก็บของนี้ต่อหน้าเธอ กู้ซีจิ่วได้เห็นแค่ซอกมุมน้อยๆ ของภูเขาน้ำแข็งในช่องมิตินี้ ทว่าทั้งหมดทั้งมวลที่ได้เห็นยามนี้กลับ…
สามารถบรรยายได้แค่ประโยคเดียว…มากมายดั่งดวงดาวบนนภา
กู้ซีจิ่วมองแวบเดียวในสมองก็มีความรู้สึกอนิจจังยิ่งนักผุดขึ้นมา…คนผู้นี้มั่งมีโดยแท้! มั่งมีเกินไปแล้ว!
ผู้คนมักใช้คำส่าร่ำรวยดั่งอาณาจักรเปรียบเปรยถึงคนรวย แต่ข้าวของในมิติเก็บของของคนผู้นี้ไม่อาจให้วลีนั้นมาเปรียบเปรยได้แล้ว คงต้องกล่าวว่าร่ำรวยดุจโลกา
แถมวิธีจัดเก็บข้าวของในมิติของเขาก็พิเศษนัก ขอเพียงกดปุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องในบรรดาหลายปุ่ม ช่องใหญ่ช่องหนึ่งก็จะดีดตัวขึ้นมา…
ค่อนข้างคล้ายฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ยิ่งนัก…
ตี้ฝูสั่งให้กู้ซีจิ่วช่องลับอยู่หลายช่อง ในที่สุดก็พบรายการเสื้อผ้า ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งของตี้ฝูอี สุดท้ายก็ดึงเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาได้…
เมื่ออาภรณ์ชุดนั้นเข้าสู่มือกู้ซีจิ่วก็รู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก หลังจากปิดมิติเก็บของ เธอก็ก้มมองอาภรณ์ชุดนั้น ในที่สุดก็กระจ่างว่าเหตุใดถึงรู้สึกคุ้นเคย
นี่มิใช่อาภรณ์ไหมเงือกจันทราชุดนั้นหรอกหรือ?!
เป็นชุดนั้นที่กล่าวว่าจะมอบให้เป็นของขวัญวันปักปิ่นของเธอ ทว่าถูกเขาเผาทิ้งที่ริมสระ!
กู้ซีจิ่วเงยหน้ามองเขาทันที “อาภรณ์ชุดนี้ถูกท่านเผาไปแล้วมิใช่หรือ?!”
สายตาเธอราวกับจะมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา ตี้ฝูอียื่นมือมาหยิบอาภรณ์ชุดนั้นไปจากมือเธอ จากนั้นจึงกล่าวอธิบาย “ข้าทำให้มันคือสภาพเดิมได้ทันเวลา”
กู้ซีจิ่วมิใช่ตัวโง่งม “ไร้สาระ! ตอนนั้นท่านไม่มีพลังวิญญาณแล้ว จะทำให้ชองที่ถูกเผาคืนสภาพเดิมได้อย่างไร? ท่านเห็นข้าโง่หรือไง?!”
ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ หลอกนางไม่ได้จริงๆ…
ภายใต้สายตากดดันของกู้ซีจิ่ว เขาทำได้เพียงบอกความจริง “อาภรณ์ชุดนี้ข้าได้มาอย่างลำบากลำบนนัก ย่อมไม่อาจเผาทิ้งได้ง่ายๆ ที่ถูกเผาคืออาภรณ์อีกชุดหนึ่ง…”
ที่เขาเผาอาภรณ์ในยามนั้นเป็นการตบตาเธอจริงๆ!
เพียงแต่ตอนนั้นท่ามือเขาว่องไวนัก แถมเธอยังไม่ได้จับตามองเขาตลอดเวลา ดังนั้น ‘แผนร้าย’ ของเขาถึงได้บรรลุผล
เมื่อนึกถึงท่าทางของตนที่เห็นอาภรณ์ชุดนี้ถูกเผาในยามนั้นขึ้นมา กู้ซีจิ่วก็สงบเยือกเย็นไม่อยู่แล้ว!
หรี่ตามองกระโปรงชุดนั้น “ข้ารู้สึกว่าอาภรณ์ชุดนี้สมควรถูกเผาจริงๆ!”
ตี้ฝูอีกระแอมคราหนึ่ง “ให้ข้าสวมใส่อย่างงดงามก่อนสักสองสามวัน จากนั้นหากเจ้าไม่ชอบก็เผาทิ้งอีกคราได้” กล่าวไปพลาง เริ่มถอดเสื้อผ้าบนร่างไปพลาง
มือไม้เขาว่องไว รอจนกู้ซีจิ่วมีปฏิกิริยาตอบสนองอีกครั้ง ก็พบว่าเขาเริ่มถอดเสื้อผ้าชั้นในแล้ว…
กู้ซีจิ่วหน้าเขียวแล้ว!
รีบพุ่งไปตะครุบมือเขาไว้ทันที “ไม่อนุญาตให้ถอดต่อแล้ว!”
ตี้ฝูอีเงยหน้ามองนาง “ชุดด้านในนี้ก็สกปรกแล้ว จำเป็นต้องถอด” จากนั้นพลันชะงักไปวูบหนึ่ง “เจ้าเหรงว่าข้าจะมองเรือนร่างเจ้าหรือ? ถ้างั้นเอาเช่นนี้ดีไหม เจ้าช่วยข้าเปลี่ยน ข้าหลับตาไว้ก็สิ้นเรื่องแล้ว”
จากนั้นก็ไม่ขยับเขยื้อนต่อจริงๆ หลับตากางแขนรอให้เธอมาช่วย
กู้ซีจิ่วยุ่งยากใจจริงๆ แถมเธอยังใช้ร่างของตี้ฝูอีอยู่ด้วย!
ถ้าเธอเข้าไปช่วยเขาสวมเสื้อผ้า หากมีคนนอกมาเห็นเข้ามิกลายเป็นท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเปลี่ยนชุดให้กู้ซีจิ่วเองกับมือหรอกหรือ?
นี่เป็นเรื่องที่ต้องเป็นสามีภรรยากันถึงจะทำได้ แต่เธอกลับถูกชะตาบีบคั้นให้ทำในยามนี้…
เธอมองตี้ฝูอีที่หลับตาประหนึ่งเนื้อปลาบนเขียงอีกครั้ง โทสะพวยพุ่งขึ้นมากว่าเดิม!
ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าผลจะเป็นเช่นนี้ คืนนั้นเธอก็คงไม่บุ่มบ่ามไปช่วยเหลือเขา!
ทำให้เธอต้องประสบเรื่องราวพิสดารเช่นนี้ และไม่มีผู้ใดเข้าใจ
ยังดีที่ในห้องนี้มีแค่พวกเขาสองคน ดังนั้นเธอไปช่วยเขาสวมเสื้อผ้ายามนี้ก็ไม่เป็นไร
กู้ซีจิ่วตัดใจได้ทันที ทำได้เพียงหยิบอาภรณ์ชุดนั้นให้เขาลงบนเตียงแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา
มือไม้เธอว่องไวมาก พยายามจะไม่แตะเนื้อต้องตัวอีกฝ่าย ต้องทราบก่อนว่าถึงแม้เนื้อตัวนี้จะเป็นของเธอ แต่ยามนี้ผู้ที่สัมผัสรับรู้ได้กลับเป็นตี้ฝูอี…
แต่เรื่องราวช่างบังเอิญเหลือเกิน กู้ซีจิ่วเพิ่งจะสวมกางเกงตัวในผืนใหม่ให้ตี้ฝูอีได้ข้างหนึ่ง ยังมิทันได้ใส่อีกข้างเข้าไป หลานไว่หูก็พุ่งเข้ามาปานพายุลูกน้อย “ซีจิ่ว…”
สมองกู้ซีจิ่วระเบิดตูม รีบดึงผ้านวมบนเตียงมาคลุมหัวตี้ฝูอีไว้ทันที!
หลานไว่หูก็นึกไม่ถึงว่าจะได้พบเห็นฉากร้อนแรงเช่นนี้ ยืนอ้าปากหวอนิ่งงันปานถูกฟ้าผ่าอยู่ตรงปากประตูครู่หนึ่ง แล้วหันหลังวิ่งจากไปทันที “ข้า…ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น…”
เงาร่างเลือนหายไปดั่งควันสายหนึ่ง!
กู้ซีจิ่วตกตะลึง
เสร็จกัน! ในสายตาของจิ้งจอกน้อยเกรงว่าจะคิดว่าเธอกับตี้ฝูอีกำลังเล่นพลิกผ้าห่มกันอยู่…
ต่อไปเกรงว่าถึงกระโดดลงแม่น้ำหวงก็คงล้างไม่สะอาดแล้ว![1]
เธอย้อนเวลากลับไปได้ไหมนะ?
ตี้ฝูอีก็ฉุดตัวเองออกมาจากผ้าห่มแล้ว เขาค่อนข้างมีสติปัญญา ยามนี้จึงออกความเห็นว่า “ซีจิ่ว เรื่องนี้จัดการได้ง่าย เจ้าใช้ตัวตนของข้าไล่ตามหลานไว่หูไป บังคับให้นางสาบานว่าจะปิดปากไว้ก็สิ้นเรื่อง!”
กู้ซีจิ่วถลึงตาจ้องเขาอย่างโมโหแวบหนึ่ง “ไม่ต้องบังคับให้นางสาบานหรอก จิ้งจอกน้อยมิใช่คนพูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้อน!”
ตี้ฝูอีลุกขึ้นนั่ง มองเธออย่างไม่เข้าใจอยู่บ้าง “เห็นนั้นเจ้าแสดงท่าทีแบบนี้ทำไม? มองสิว่าเจ้าทำให้ใบหน้าของข้ายุ่งเหยิ่งจากกลายเป็นอันใดไปแล้ว?”
กู้ซีจิ่วสูดลมหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เธอคิดไว้แล้วชัดๆ ว่าจะต่อไปจะเคียงคู่โบยบินกับหลงซือเย่ แถมยังเคยเปรยกับจิ้งจอกน้อยไว้รางๆ จิ้งจอกน้อยยังกล่าวอย่างกระตือรือร้นอยู่เลยว่าเจ้าสำนักหลงยอดเยี่ยมมาก เป็นคนดีเหมาะจะออกเรือนด้วย…
ผลคือเพิ่งผ่านไปไม่ถึงสองวัน ก็ทำให้จิ้งจอกน้อยเห็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกำลังสวมกางเกงให้ตัวเธอกู้ซีจิ่ว…
นี่…นี่จะทำให้จิ้งจอกน้อยคิดว่ากู้ซีจิ่วเป็นคนเหลาะแหละโลเลหรือเปล่า?!
————————————————————————————-
[1] กระโดดลงแม่น้ำหวงก็คงล้างไม่สะอาด อุปมาถึง แก้ต่างอย่างไรก็ไม่พ้นมลทิน