ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 823-824
บทที่ 823 เจ้าใช้ตัวตนที่แท้จริงมาหาดีหรือไม่
อวิ๋นชิงหลัวมองเจ้าตัวที่อยู่เบื้องหน้าอีกครั้ง ยิ่งมองเขายิ่งขัดตา เป็นครั้งแรกที่ใช้พลังวิญญาณผลักเขาออกไปทันที “ปล่อยข้านะ! เจ้านับว่าเป็นสิ่งใด…”
พลังยุทธ์ของนางไม่ต่ำต้อย อีกทั้งอาการบาดเจ็บในยามนี้ดีขึ้นเจ็ดแปดส่วนแล้ว การผลักนี้จึงทรงพลังยิ่ง ต่อให้เป็นก้อนเหล็กก็ถูกนางซัดออกไปทันทีได้
แต่คนผู้นั้นแค่ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งเข้ามาอย่างดุร้ายอีกครั้ง ลำแสงสีขาวพัวพันอยู่รอบปลายนิ้ว ดุจเชือกไหม มัดอวิ๋นชิงหลัวอย่างแน่นหนาในชั่วพริบตาเดียว!
อาภรณ์นางขาดไปหมดแล้ว เขามัดนางอย่างมีชั้นเชิงนัก ทำให้ส่วนที่ควรนูนทั้งหมดของนางนูนเด่นออกมา มัดนางไว้ด้วยท่วงท่าที่น่าอับอายยิ่ง
อวิ๋นชิงหลัวเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ เอ่ยด้วยเสียงสั่นๆ “เจ้า…เจ้าไม่ใช่หุ่นของข้า! ที่แท้เจ้าเป็นใครกันแน่?!” วรยุทธ์ของคนผู้นี้สูงส่งกว่านางมาก!
คนผู้นั้นปลดหน้ากากออกช้าๆ “เจ้าว่าข้าคือใครเล่า?”
ใบหน้านั้นยังคงมีเพียงดวงตาและริมฝีปากเช่นเดิม เป็นรูปลักษณ์หุ่นตัวนั้นของนาง แต่ว่า แต่ว่าวรยุทธ์ในร่างนี้ของมันมาจากไหนกันล่ะ?
นางคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ “เจ้า…เจ้าเป็นดวงจิตของผู้ใด?! มาสิงสู่ในสังขารหุ่นเชิดของข้า!”
คนผู้นั้นใส่หน้ากากเข้าไปอีกครั้ง มุมปากหยักยิ้มชั่วร้ายแวบหนึ่ง “เด็กดี เจ้าฉลาดมาก ข้าเป็นดวงวิญญาณจากภายนอกจริงๆ หุ่นเชิดตัวนี้ของเจ้าไม่มีวิญญาณและสติปัญญา ไหนเลยจะรอบรู้เช่นข้าได้? มาเถอะ…ให้ข้าปรนนิบัติเจ้าอย่างดีเถิด”
พลางอุ้มนางขึ้นเตียง…
ลีลาของคนผู้นี้ล้ำเลิศยิ่ง มองปราดเดียวก็รู้ว่าช่ำชองการเล้าโลมสตรี เพียงครู่ดียวก็ทำให้อวิ๋นชิงหลัวหอบกระเส่า แทบจะเอ่ยวาจาไม่ออกแล้ว
นางชิงชังคนที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ แต่ร่างกายกลับอาวรณ์ลีลาของคนผู้นี้อย่างน่าอับอาย…
นางไม่เข้าใจความคิดของคนผู้นี้เลย คนนผู้นี้น่าจะเป็นคนเจ้าชู้คนหนึ่ง แต่กลับอยากปรนนิบัตินางเท่านั้น มองนางล่องลอยสู่สวรรค์ด้วยน้ำมือเขา…
เขาเสื่อมสมรรถภาพหรือ? หรือว่าเป็นเพราะเขาอยู่ในหุ่นตัวนี้เลยทำอย่างอื่นไม่ได้?
“เจ้า…ตัวตนของเจ้าที่แท้…ที่แท้แล้วเป็นผู้ใดกัน? เจ้า เจ้าปล่อยข้านะ นะ…ในอนาคตเจ้าใช้ตัวตนที่แท้จริงมาหาดีหรือไม่?” น้ำเสียงอวิ๋นชิงหลัวสั่นพร่าเล็กน้อย
“เด็กดี ต้องการตัวจริงของข้าหรือ?” คนผู้นั้นเขยิบเข้าใกล้นาง ปลายนิ้วลูบไล้เรือนผมนางอีกครั้ง
“…เจ้า…เจ้าปรนนิบัติข้าเช่นนี้จะต้อง…จะต้องอึดอัดมากเป็นแน่ มิสู้เจ้าใช้ร่างจริงมา แล้วพวกเรา…”
เธออยากเห็นมากจริงๆ ว่าคนที่ลากเธอลงสู่ขุมนรกแห่งนี้คือผู้ใด
“เจ้าต้องการร่างจริงของข้าสินะ?” คนผู้นั้นยิ้มน้อยๆ แววตาไหวระยับ
“ใช่…ใช่แล้ว”
“เจ้าคิดว่า…เจ้าคู่ควรงั้นหรือ?” คนผู้นั้นยิ้มน้อยๆ เช่นเดิม ทว่าถ้อยคำที่กล่าวกลับเราะร้าย
อวิ๋นชิงหลัวตะลึง นางหน้าเปลี่ยนสีแล้ว “เช่นนั้นเจ้า…ที่เจ้าปรนนิบัติข้าเช่นนี้…”
“ประการแรกคือย้อมใจเจ้า ประการที่สองคือข้าต้องการใช้ร่างเจ้าเป็นที่ซ้อมมือ ได้เห็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่งกลายเป็นสาวน้อยสำส่อนในกำมือข้าก็เป็นความรู้สึกที่สมปรารถนายิ่งนัก” คนผู้นั้นพูดอย่างไม่เกรงใจเลย
อวิ๋นชิงหลัวตกตะลึง
นางกัดฟันเอ่ย “เจ้ามันวิปริต! เป็นเจ้า…เป็นเจ้าใช้การไม่ได้กระมัง?! อ้างเหลวไหลมากมายเช่นนี้…” คำพูดท่อนหลังเธอไม่ได้เอ่ยต่อไปอีก เพราะคนผู้นั้นดึงผมของนางไว้ กระชากให้นางหงายไปด้านหลัง นางเจ็บจนน้ำตาร่วง “เจ้าหยุดมือนะ…หยุดมือ!”
“เด็กดี อย่าได้ริอาจยั่วโมโหข้าผู้เป็น….ข้า! ค่าตอบแทนมิใช่สิ่งที่เจ้าจะรับไหว! ส่วนข้าจะใช้การได้หรือไม่นั้น ภรรยาของข้าถึงจะรู้ดี ส่วนเจ้า…ได้รับการปรนนิบัติจากนิ้วของข้าเจ้าก็ควรจะพอใจมากแล้ว! อย่าได้เพ้อฝันหาสิ่งที่เจ้าไม่สมควรได้รับ!” คนผู้นั้นข่มขู่
————————————————————————————-
บทที่ 824 สามารถกลับเท็จเป็นจริงได้เลย
เรือนผมของอวิ๋นชิงหลัวถูกเขาดึงจนเจ็บ มือเท้าก็ถูกเขาพันธนการไว้ ยามนี้เส้นไหมเหล่านั้นรัดร่างนางแน่น รัดเหมือนนางเป็นบ๊ะจ่างลูกหนึ่งจนแทบหายใจไม่ออก ทั้งร่างเจ็บเหมือนจะขาดออกจากกัน!
นางไม่กล้ายั่วโทสะเขาแล้ว!
“ข้า ข้าไม่ต้องการเจ้า…เจ้าเคยรับปากข้าไว้ หลังจากสังหารตี้ฝูอีแล้ว จะยกร่างของเขาให้ข้า…”
คนผู้นั้นบีบแก้มนาง “วางใจเถิด!” เขายืดกายขึ้นลงจากเตียง ดีดนิ้วคราหนึ่ง คลายพันธนาการบนร่างอวิ๋นชิงหลัว “อวิ๋นชิงหลัว ตอนนี้เจ้ามีแต่ต้องเป็นพวกเดียวกับข้า หากว่ากล้าเล่นลูกไม้อันใด เจ้าชดใช้ไม่ไหวแน่นอน!”
อวิ๋นชิงหลัวไหนเลยจะกล้าพูดเป็นอื่น ได้แต่รับปากท่าเดียว
จู่ๆ นางคล้ายจะนึกอะไรได้ “ถ้าพวกเราสังหารตี้ฝูอีแล้ว เช่นนั้น…เช่นนั้นจะอธิบายต่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างไร? เกรงว่าเขาคงพิโรธยิ่งนัก!”
คนผู้นั้นยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อนแวบหนึ่ง “วางใจได้ เทพศักดิ์สิทธิ์จะไม่ทราบ…ตี้ฝูอีก็จะไม่หายไปจริงๆ ข้าจะแทนที่เขาใช้ชีวิตต่ไป…จะไม่มีผู้ใดบนโลกนี้ทราบว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอีเปลี่ยนคนแล้ว…”
เขาสวมเสื้อคลุมสีม่วงตัวนั้นอีกครั้ง หมุนตัวในห้องนอนรอบหนึ่ง “เมื่อถึงเวลานั้นข้าก็สามารถแทนที่เขาได้อย่างสง่าผ่าเผย!”
อวิ๋นชิงหลัวเงียบงัน
จู่ๆ นางก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมา รู้สึกได้รางๆ ว่าจุดประสงค์ของคนผู้นี้ดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายดายเพียงแค่แทนที่ตี้ฝูอีเท่านั้น…
ที่แท้เขาคือผู้ใดกัน?!
สามารถสิงสู่หุ่นเชิดของนางได้ตามอำเภอใจ เช่นนั้นเขาย่อมมิใช่คนธรรมดา! แค่พลังยุทธ์เช่นนี้ก็เพียงพอจะทำใต้หล้าตกตะลึงแล้ว!
คนผู้นั้นมองออกไปด้านนอก หัวเราะเบาๆ “ยามนี้น่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว! ได้เวลารวบแหแล้ว”
เขาดึงอวิ๋นชิงหลัวขึ้นมา เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “มาเถิด ชิงหลัว เรียกหุ่นไม้ตัวน้อยของเจ้ากลับมาสิ ดูความเคลื่อนไหวของตี้ฝูอี”
อวิ๋นชิงทำได้เพียงเชื่อฟังเขา เรียกหุ่นตัวน้อยของตนกลับมา ทราบจากปากหุ่นตัวน้อยว่าตี้ฝูอีและกู้ซีจิ่วยังคงชมดอกไม้อยู่ที่สวนสวรรค์สุคันธา ยามนี้กำลังนั่งจิบสุราอยู่ในศาลาบุปผาหลังหนึ่งที่สวนสรรค์สุคันธา…
คนผู้นั้นหัวเราะฮ่าๆ “สวรรค์อำนวยข้าโดยแท้!” พลันหันหลังก้าวออกไป
….
ใบเฟิงแดงฉาน สายธารไหลริน
สุดท้ายหลงซือเย่ก็มารอคนผู้นั้นอยู่ที่นี่ หนนี้คนผู้นั้นมาในชุดสีม่วง หน้ากากบนใบหน้าก็เป็นแบบเดียวกับตี้ฝูอี ด้วยเหตุนี้หลงซือเย่จึงสะดุ้งโหยง “ตี้ฝูอี?!”
คนผู้นั้นหยักยิ้มแวบหนึ่ง “เจ้าสำนักหลง ข้าเหมือนเขาถึงเพียงนั้นจริงๆ หรือ?”
หลงซือเย่เพ่งพิศเขาจากบนจรดล่างสองครา ถอนหายใจแล้วเอ่ย “สามารถกลับเท็จเป็นจริงได้เลย!”
คนผู้นั้นพยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนี้ก็ดี! เจ้าสำนักหลง ท่านสามารถปลดเขตแดนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ได้แล้ว…”
หลงซือเย่ต้องการคำยืนยันอีกครั้ง “คนของเจ้าจะไม่ทำอันตรายซีจิ่วแน่นะ?”
คนผู้นั้นแย้มยิ้ม รอยยิ้มทรงเสน่ห์ “วางใจเถิด! ข้าจะไม่ทำอันตรายนางเด็ดขาด! ข้าจะคุ้มครองนางอย่างดี ขนสักเส้นก็จะไม่บุบสลาย”
หลงซือเย่หลับตาเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งในที่สุดก็พยักหน้า “ได้! ข้าจะปลด…”
….
อารมณ์ของอวิ๋นชิงหลัวซับซ้อนยิ่งนัก นางทราบว่าแผนการที่ ‘หุ่นเชิด’ ตัวนี้ของนางยอดเยี่ยมมาก ใช้นางเป็นตัวหมากลับ จากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากความเกลียดชังที่หลงซือเย่มีต่อตี้ฝูอีมาหลอกเขาให้เปิดเขตแดน ให้กองกำลังของเขาบุกเข้าโจมตีสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ที่ว่างเปล่าแห่งนี้
ส่วนผู้คุ้มกันทั้งสามที่อยู่ข้างกายตี้ฝูอีก็ถูกเขาใช้แผนการอื่นกีดกันออกไป ตอนนี้ข้างกายตี้ฝูอีเหลือผู้คุ้มกันเพียงคนเดียว แถมตี้ฝูอีก็สูญเสียพลังวิญญาณไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเพื่อรักษากู้ซีจิ่ว ยามนี้พลังยุทธ์ถดถอยยิ่งนัก ตอนนี้ถ้าหากถูกศัตรูโจมตีเข้าจริงๆ มีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วนที่เขาต้านทานไว้ไม่ไหว…