ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 861-862
บทที่ 861 จังหวะไม่ตรงกันอยู่เสมอ
หลงซือเย่ยิ้มนิดๆ “ตอนนี้ฉันไม่แพ้เจ้านี่แล้ว ถึงเธอจะสั่งมาก็ไม่เป็นไร”
“ได้!” กู้ซีจิ่วหันหลังไปหมายจะไปสั่งอาหาร
หลงซือเย่กลับยืนขึ้น “ฉันไปเอง จะให้เธอวิ่งรอกได้ยังไงกัน?” เขาไปที่ช่องสั่งอาหาร รออยู่ครู่หนึ่ง ก็ถือจานสองใบเดินกลับมา จานหนึ่งคือปลาหางกระรอก[1] อีกจานหนึ่งคือเนื้อแกะผัดกระเทียม
สองอย่างนี้เป็นของโปรดกู้ซีจิ่ว เดิมทีโรงอาหารของที่นี่ไม่มีสิ่งนี้ วิธีทำอาหารหลายหย่างนี้เป็นกู้ซีจิ่วถ่ายทอดให้พ่อครัวใหญ่ของที่นี่
อาหารควันกรุ่นสองจานนี้วางอยู่เบื้องหน้ากู้ซีจิ่ว ในที่สุดก็ดึงดูดความอยากอาหารของกู้ซีจิ่วได้บ้างแล้ว เพียงแต่เธอยังค่อนข้างกังวลอยู่ “ฉันจำได้ว่าคุณไม่ชอบพวกผัดเปรี้ยวหวาน และเกลียดอาหารต่างๆ ที่มีกระเทียม…”
เธอโปรดปรานอาหารพวกนี้เป็นการเฉพาะ แต่ชาติก่อนตอนอยู่ต่อหน้าหลงซีจะไม่กินเด็ดขาด เนื่องจากหลงซือเย่ผู้นี้ค่อนข้างเลือกกิน อาหารที่เกลียดก็มีมากมาย
หลงซือเย่ยิ้ม เลิกคิ้วถาม “ถ้างั้นฉันเกลียดอะไรบ้าง? เธอจำได้ไหม?”
คำถามข้อนี้กู้ซีจิ่วตอบคล่องปานนับทรัพย์สินในบ้านตน “ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ? คุณไม่กินกระเทียม ไม่กินผักชี ไม่กินขึ้นฉ่าย ไม่กินต้นหอม มะเขือยาวชอบกินแค่แบบผัดเต้าเจี้ยว…” เธอร่ายออกมาชุดใหญ่
สายตาที่หลงซือเย่มองเธอล้ำลึกเล็กน้อย ถอนหายใจเบาๆ “ในอดีตของที่ฉันเกลียดมากมายขนาดนี้เชียว ฉันกลับไม่รู้เลยว่าตัวเองเคยจุกจิกถึงเพียงนี้ เธอจำได้ชัดเจนขนาดนี้พบเห็นได้ยากนัก”
กู้ซีจิ่วแย้มยิ้ม ไม่พูดอะไร
เธอจำเรื่องพวกนี้ได้เป็นเรื่องปกติมาก อย่างไรเสียชาติก่อนเธอก็ไปกินข้าวกับเขาอยู่บ่อยๆ เพื่อแผนไล่ตามคนของตน เธอจึงศึกษารสชาติที่เขาโปรดปรานจนทะลุปรุโปร่งยิ่ง ประกอบกับเธอมีความจำเป็นเลิศ ด้วยเหตุนี้เธอเลยร่ายเรื่องเหล่านี้ออกมาได้โดยไม่ต้องทบทวนเลย
อันที่จรงหลงซือเย่ค่อนข้างละอายใจ ชาติก่อนเธอใส่ใจรสชาติที่เขาชอบเสมอ เก็บงำความชอบของตัวเองไว้ดียิ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยสนใจนิสัยการกินของเธอ จำได้ไม่กี่อย่างเท่านั้น…
แววตาเขาวูบไหวเล็กน้อย เขาทราบว่าตนไม่ควรไล่ตอนเธอจนเกินไป เช่นนั้นเธอจะถอยหนีลูกเดียว ทั้งสองคนแม้แต่เพื่อนก็เป็นไม่ได้ แบบนั้นเขาจะไม่เหลือความหวังอีกเลย!
เขารู้จักนิสัยใจคอเธอดี เข้าใจลักษณะนิสัยของเธอ
ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอยเพื่อรุก ยอมถอยกลับมาอยู่ในฐานะเพื่อนก่อน ไม่ก่อให้เธอเกิดแรงกดดันในใจ ใช้ฐานะเพื่อนดูแลอยู่ข้างกายเธอ…
เธอจะเป็นของเขาในไม่ช้าก็เร็ว!
อันที่จริงกู้ซีจิ่วค่อนข้างใจลอยอยู่บ้าง หูเธอดีมาก ได้ยินความเคลื่อนไหวจากโต๊ะนั้นของตี้ฝูอีบ้างเป็นครั้งคราว
ได้ยินเล่อจื่อซิ่งแนะนำอาหารให้เขาอย่างกระตือรือร้น ได้ยินนางขอคำชี้แนะเรื่องปัญหาในระหว่างการฝึกฝนจากเขา และได้ยินคำตอบของเขา
เขาผู้นี้ความจริงแล้วนิสัยไม่ค่อยดีนัก ปกติจะคร้านอธิบายความรู้แก่ลูกศิษย์ บางครั้งมีศิษย์ไปถามคำถามเขาหลังเลิกรียน ส่วนใหญ่เขาจะตอบกลับเพียงโยคเดียวว่า ‘ไปศึกษาเอาเอง’ จากนั้นก็เดินหนีผู้อื่นไปทันที
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาใส่ใจเล่อจื่อซิ่งคนนี้เป็นพิเศษ เนื้อหาที่นางถามออกมา เขาแทบจะพูดออกมาอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น แม้กระทั่งถ้อยคำที่ว่า ‘นอนไม่คุยกินไม่พูด’ ก็อย่าได้พูดถึงอีกเลย
กู้ซีจิ่วใช้ตะเกียบคีบอาหารในจานมา มุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้ม
เธอรู้สึกว่าค่อนข้างน่าขัน ดูเหมือนจังหวะของเธอกับตี้ฝูอีจะไม่ตรงกันอยู่เสมอ
ต่อให้มีความรู้สึกแล้วอย่างไรเล่า? เธอกับเขาอาจถูกลิขิตให้ไร้วาสนาต่อกัน…
ช่างเถอะ ตอนนี้เธอยังเด็กอยู่นะ! ยังเร็วเกินไปที่จะมาใคร่ครวญเรื่องพวกนี้!
ตอนนี้เธอควรให้ความสำคัญกับการเรียนของตัวเอง ความก้าวหน้าของตัวเองก่อน ไม่ใช่มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องรกๆ ใคร่ๆ พวกนี้…
….
คาบแรกของวันนี้คือวิชาของตี้ฝูอี
ครั้งนี้กู้ซีจิ่วไม่โดดเรียนแล้ว
————————————————————————————-
บทที่ 862 นี่พุ่งเป้ามาที่เธอหรือ?
ไม่ว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อตี้ฝูอีจะเป็นความรู้สึกอะไร เธอก็ไม่เคยเห็นการเรียนของตนเป็นเรื่องขำๆ
วิชาเหินหาวที่ตี้ฝูอีสอนเหมาะสมกับเธอมากจริง ถึงอย่างไรเธอก็ฝึกฝนพลังวิญญาณธาตุลม การต่อสู้ในยามปกติก็อาศัยความเร็วในการชิงชัย และวิชาเหินหาวนี้ก็มีส่วนช่วยในการพัฒนาความเร็วเป็นอันมาก
เธอขาดเรียนไปหนึ่งคาบ แถมเนื้อหาที่บรรยายในคาบนั้นยังสำคัญมากด้วย ถึงแม้จะอ่านบันทึกที่หลานไว่หูคัดลอกมาให้เธอแล้ว แต่ก็ไม่กระจ่างเท่าฟังในชั้นเรียน
อย่างไรเสียจิ้งจอกน้อยก็ใชมือดีด้านการจดบันทึก เนื้อหาทั้งหมดที่จดมาไม่มากมายหลายจุดที่ทให้กู้ซีจิ่วอ่านแล้วงงงวย
วันนี้เธอจึงมาเรียน เตรียมจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ตรวจสอบส่วนที่ขาดหาย ชดเชยเนื้อหาที่ขาดไปในคาบที่แล้ว
แผนการของเธอยอดเยี่ยมมาก แต่แผนการนี้กลับไม่เป็นท่า คาบนี้เป็นคาบปฏิบัติจริง! เนื้อหาที่ปฏิบัติก็เป็นเนื้อหาที่เธอขาดเรียนในคาบที่แล้ว
….
หน้าผาแห่งหนึ่งสูงประมาณห้าสิบจั้ง พื้นราบบนหน้าผาเกลี้ยงเกลาเป็นมันวับ
บนพื้นวางโต๊ะยาวตัวหนึ่งไว้ บางโต๊ะวางผลไม้สีแดงฉ่ำวาวขนาดแตกต่างกันไว้จำนวนหนึ่ง ผลไม้เหล่านี้มียี่สิบแปดลูกพอดีไม่ขาดไม่เกิน
และชั้นเรียนเมฆาม่วงห้องหนึ่งก็มีศิษย์ยี่สิบแปดคนพอดีเช่นกัน
ตี้ฝูอีนั่งอยู่หลังโต๊ะยาว กวาดตามองเหล่าศิษย์ที่ยนเรียงรายอยู่เบืองหน้าดั่งต้นไป๋หยางน้อย เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “นีคือผลชาดเทวะ สรรพคุณของมันข้าไม่ต้องพูดพวกเจ้าก็คงรู้ดี วันนี้จะทดสอบความชำนาญที่พวกเจ้ามีต่อวิชาเหินหาวสักหน่อย พวกเจ้าจงกระโดดลงไปใต้ผาให้ข้าซะ จากนั้นคอยใช้วิชาเหินหาวเหินขึ้นมา ผลชาดเทวะเหล่านี้ขนาดไม่เท่ากัน สรรพคุณย่อมแตกต่างเช่นกัน ศิษย์ที่ขึ้นมาถึงก่อนสามารถเลือกได้ตามสบาย ถึงก่อนย่อมได้เลอผลที่ใหญ่ที่สุด ขึ้นมาคนสุดท้ายย่อมเหลือเพียงผลที่เล็กที่สุด หากมีคนที่ใช้วิชาเหินหาวขึ้นมาไม่ได้เลย เช่นนั้นผลไม้นี้ก็จะไม่มส่วนของเขา สามารถนำผลไม้ของเขามาเป็นรางวัลให้ผู้ที่มาถึงคนแรกได้ อนุมานเช่นนี้ ทุกคนฟังทราบหรือไม่?”
“รับทราบ!” สายตาเหล่าศิษย์เปล่งประกาย ตอบอย่างพร้อมเพรียง น้ำเสียงกึกก้องมีพลัง
ผลชาดเทวะ เป็นผลไม้ล้ำค่าที่หายากมากชนิดหนึ่ง มีส่วนช่วยในการยกระดับพลังวิญญาณอย่างมาก ผลชาติเทวะธรรมดาราคาผลละหนึ่งร้อยหินวิญญาณ ส่วนผลชาดเทวะชั้นเลิศราคาอย่างน้อยห้าร้อยหินวิญญาณขึ้นไป!
สำหรับลูกศิษย์เหล่านี้แล้ว นี่คือรางวัลที่มีค่ายิ่ง!
ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายช่างสมเป็นขาใหญ่ของแผ่นดินยิ่งนัก ใจกว้างถึงเพียงนี้!
ด้วยเหตุนี้สายของศิษย์แทบทั้งหมดล้วนลุกวาวแล้ว ผู้คนพากันสะบัดไม้สะบัดมือ เตรียมแย่งชิงที่หนึ่งกันอย่างฮึกเหิม
ทว่าหัวใจกู้ซีจิ่วกลับจมดิ่งลงไปแล้ว!
ภาคปฏิบัติของวิชาเหินหาวนี้ต้องการพลังวิญญาณมหาศาลนัก บรรทัดฐานคือจะต้องบรรลุพลังวิญญาณขั้นหกตอนกลาง และตอนนี้เธอเพิ่งจะประมาณขั้นห้ากับอีกสองส่วน
เธอเรีนวิชานี้เดิมทีก็ค่อนข้างกินแรงอยู่แล้ว แผนการในใจคือเรียนรู้ทักษะไว้ก่อน รอจนพลังวิญญาณบรรลุขั้นหกตอนกลางค่อยปฏิบัติจริงก็ยังไม่สาย กลับนึกไม่ถึงเลยว่า…
ชั้นเมฆาม่วงห้องหนึ่งในเมื่อเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ศิษย์ในชั้นเรียนย่อมไม่ธรรมดายิ่ง นอกจากตัวประหลาดอย่างกู้ซีจิ่ว คนอื่นล้วนบรรลุขั้นหกตอนกลางขึ้นไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือบางคนบรรลุขั้นแปดแล้ว…
การใช้วิชาเหินหาวนี้สำหรับศิษย์คนอื่นแล้วอาจไม่หนักหนาเกินไป แต่สำหรับกู้ซีจิ่วแล้วนับว่ายากประหนึ่งให้ปีนขึ้นสวรรค์!
ประกอบกับเธอขาดเรียนคาบก่อนที่เป็นบทเรียนสำคัญ ดังนั้นการปฏิบัติครั้งนี้เธอจึงไม่เข้าใจเลยสักนิด
นี่เขาพุ่งเป้ามาที่เธอหรือ?
เขาไม่สนใจเธออีกต่อไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม? ด้วยเหตุนี้จึงคิดไล่เธอไปแบบอ้อมๆสินะ?
กู้ซีจิ่วสูดลมหายใจเบาๆ ความจริงแล้วเธอไม่ได้สนใจผลไม้นั้นสักเท่าไหร่
————————————————————————————-
[1] ปลาหางกระรอก เป็นการนำปลาทั้งตัวมาบั้งเป็นริ้วๆ แล้วนำไปทอดให้บานฟู ดูคล้ายหางกระรอก จากนั้นก็ราดด้วยน้ำ