ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 877-878
บทที่ 877 ปีกไก่ทั้งสองข้างล้วนยกให้เจ้า
“ไม่ทำให้เจ้าอดนอนทั้งคืนหรอก” ตี้ฝูอีเอ่ย “ข้าใคร่ครวญไว้ในใจแล้ว นั่งลงก่อนสิ ลองชิมฝีมือข้าดู”
กู้ซีจิ่วกล่าวคาดเดา “ความหมายของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคือจะลดจำนวนครั้งในการลงโทษให้ซีจิ่วหรือเจ้าคะ?”
ตี้ฝูอีมองเธอแวบหนึ่ง “จะเป็นไปได้อย่างไร? ข้าพูดคำไหนเป็นคำนั้นเสมอ ไม่อาจลดหย่อนผ่อนผันได้แม้แต่น้อย”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก ถ้างั้นเขาพูดทำไมว่าจะไม่ปล่อยให้ตนอดนอนทั้งคืน!
เธอยิ้มแวบหนึ่ง “เช่นนั้นขอบคุณยิ่งนักสำหรับความไว้วางใจของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ซีจิ่วมั่นใจว่าสิ่งที่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นผู้ย่างต้องยอดเยี่ยมแน่ แต่ว่าซีจิ่วเพิ่งกินอิ่มมา และไม่มีความอยากนื้อสัตว์สักเท่าไหร่ ข้าขอตัวไปอบอุ่นร่างกายก่อน เตรียมรับบทลงโทษ”
เธอหันหลังหมายจะเดินแยกไป
“ซีจิ่ว เจ้าจะย้ายห้องใช่ไหม? นี่เป็นงานเลี้ยงส่งที่ข้าจัดให้เจ้า จะไม่ไว้หน้ากันหน่อยหรือ?” ตี้ฝูอีที่อยู่ด้านหลังเธอเอ่ยขึ้น
กู้ซีจิ่วตะลึง “…ท่านรู้ได้ยังไง…” เธอถามยังไม่ทันจบก็หุบปากฉับ ด้วยความสามารถของตี้ฝูอี หากเขาอยากรู้เรื่องใดล้วนง่ายดายยิ่งนัก เพียงแต่เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะทราบได้รวดเร็วถึงเพียงนี้เท่านั้น
ช่างเถอะ เขารู้แล้วอย่างไรเล่า? เธอไม่มีอะไรต้องร้อนตัวอยู่แล้ว
ดังนั้นกู้ซีจิ่วจึงหันกลับไปแล้วนั่งลง “ขอบุณมากเจ้าค่ะ” จากนั้นก็มองเนื้อสัตว์ที่เขาย่างแวบหนึ่ง “ข้าเอาปีกไก่ข้างดียว”
ตี้ฝูอีกล่าวออกมาว่า “วางใจเถอะ ปีกไก่ทั้งสองข้างล้วนยกให้เจ้า” เขาย่างอย่างพิถีพิถัน โรยเกลือลงไปแล้วทาซีอิ๊วทับอีกชั้น…
กองไฟลุกโชน ส่องสะท้อนใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูราวกับมิใช่มนุษย์จริงๆ
วันนี้เขาไม่ได้สวมหน้ากากอย่างที่หาได้ยากนัก ภายใต้แสงดาราเครื่องหน้าทั้งห้าประณีตดั่งวาดแต้ม กู้ซีจิ่วมองแวบเดียวก็ละสายตา สายตาจดจ่ออยู่ที่ไก่ป่าย่างตัวนั้น จู่ๆ ก็พบว่าหน้าของไก่ป่าตัวนั้นดูเหมือนจะพิเศษอยู่บ้าง บนหัวไก่มีหงอนสองอัน ปีกทั้งสองก็เป็นรูปพัด กรงเล็บไม่คล้ายกรงเล็บไก่ รูปทรงค่อนข้างคล้ายดอกเหมย
เนื่องจากตัวไก่ถูกถอนขนออกนานแล้ว ดังนั้นกู้ซีจิ่วจึงไม่ทราบเช่นกันว่ายามที่ไก่ตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่มีลักษณะเช่นใด
ไก่ตัวนี้มองเผินๆ คือไก่ป่าตัวหนึ่ง แต่ถ้ามองให้ละเอียดจะเห็นว่าแตกต่างกัน
ตี้ฝูอีไม่พูดอะไร กู้ซีจิ่วย่อมไม่ต้องการเป็นฝ่ายพูดคุยกับเขาก่อนเช่นกัน ช่วงที่นั่งรอเนื้อสัตว์ย่างอยู่ตรงนั้นสมองเธอยังคงใคร่ครวญถึงเคล็ดวิชาที่ต้องใช้ต่อจากนี้
“เหตุใดต้องย้ายห้อง?” ตี้ฝูอีคล้ายถามออกมาคล้ายไม่มีเจตนา
กู้ซีจิ่วก็ตอบอย่างไม่อินังขังขอบ “พลังวิญญาณของข้าไม่เพียงพอ ตามบทเรียนบางส่วนของห้องหนึ่งไม่ทัน…” เธอพูดข้ออ้างที่บอกแก่กู่ฉานโม่ตอนนั้นออกมาอีกรอบ
“ตามบทเรียนไหนไม่ทัน?” ตี้ฝูอีเริ่มถามซักไซ้ให้ถึงที่สุด
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วนิดๆ ถึงแม้ตี้ฝูอีก็นับว่าเป็นอาจารย์ของห้องหนึ่งเหมือนกันแต่ก็เป็นเพียงอาจารย์ที่ได้รับการเชื้อเชิญมาสอนเท่านั้น ผลคะแนนทั่วไปรวมถึงการย้ายห้องเรียนของศิษย์อะไรพวกนั้นดูเหมือนเขาจะไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย
กู้ซีจิ่วไม่อยากถกเถียงกับเขา ดังนั้นจึงยิ้มแวบหนึ่ง “ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย แต่นี่คือเรื่องส่วนตัวของซีจิ่ว ไม่อยากบอกแก่ผู้อื่น”
ตี้ฝูอีไม่พูดอะไรอีก จดจ่อกับการย่างเนื้อสัตว์ตามเดิม
หนนี้ฝีมือของเขาพัฒนาขึ้นไม่น้อย เนื้อสัตว์ยังทันย่างสุกดี กลิ่นหอมก็ลอยอบอวลไปครึ่งลี้แล้ว
กู้ซีจิ่วกินข้าวมาแล้วจริงๆ ท้องจึงไม่รู้สึกหิว แต่พอได้กลิ่นหอมหวนนี้ เอสัมผัสได้ว่าหนอนตะกละในท้องเธอเคลื่อนไหวแล้ว อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไก่ย่างเหลืองอร่ามตัวนั้นอยู่หลายแวบ
ในที่สุดเนื้อสัตวก็ย่างสุกดีแล้ว เขาฉีกปีกไก่ข้างหนึ่งให้เธอ “เอ้า ลองชิมสิ”
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเนื้อสัตว์เพิ่งย่างเสร็จ สมควรร้อนลวกมือยิ่งนัก แต่พอส่งมาถึงมือเธอก็กลายเป็นอุ่นปานกลาง สามารถนำเข้าปากได้เลย
————————————————————————————-
บทที่ 878 กินปีกต้องกินเป็นคู่
กู้ซีจิ่วรับปีก ‘ไก่’ นี้ไว้ ยังไม่กินเข้าไปทันที เธอแน่ใจแล้วว่าสิ่งนีไม่ใช่ไก่ป่าแน่นอน
“นี่คือนกอะไร?” แม้แต่ปีกก็ยังงดงามถึงเพียงนี้
ตี้ฝูอียื่นเข็มเงินเล่มหนึ่งส่งให้ “เอ้า ให้จิ้มมันสิ”
กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจเหตุผล แต่ก็รับมาแล้วจิ้มลงบนปีกข้างนั้นจริงๆ จากนั้นก็ดึกออกมามอง ก็ยังไม่เห็นอะไรปรากฏออกมา
“ไม่มีพิษใช่ไหมล่ะ” ตี้ฝูอีแย้มยิ้มมองเธอ “เจ้าสามารถกินได้แล้ว”
กู้ซีจิ่วหน้าทะมึน “ท่านคิดมากไปแล้ว ข้าไม่ได้คิดว่าปีกนี้มีพิษ” เหตุผลที่เธอยังไม่กินเป็นเพรารู้สึกว่าปีกนี้รูปร่างประหลาด คงมิใช่ไก่ป่ากลายพันธุ์อะไรทำนองนั้นใช่ไหม?
ตี้ฝูอียิ้มบางๆ “เจ้าไม่ได้คิดว่าปีกนี้มีพิษจริงๆ นั้นแหละ แต่ในใจเจ้าต้องคิดแน่นอนว่า ที่แท้แล้วทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้คิดจะวางแผนร้ายอะไรกับข้าอีกใช่หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก เขาเป็นหนอนในท้องผู้อื่นใช่ไหม?
ตี้ฝูอีเบิกตากว้างมองดูเธอ “ข้าเดาถูกหรือเปล่า? อย่าโป้ปด! ต้องพูดความจริง”
กู้ซีจิ่วก็ไม่เกรงใจเช่นกัน “ท่านเดาถูกครึ่งเดียว ข้ากำลังคิดอยู่จริงๆ ว่าท่านต้องการทำอะไรกันแน่? ส่วนแผ่นร้ายอันใดนั่น เป็นท่านคาดเดาไปเอง ไม่เกี่ยวข้องกับข้า”
เมื่อครู่เธอกำลังเดาอยู่จริงๆ ว่าที่เขาทำเช่นนี้มีจุดประสงค์ใด คล้ายกลยุทธ์ตบหัวแล้วลูบหลังยิ่งนัก แต่เธอไม่รู้สึกหวั่นไหวกับกลยุทธฺนี้เลย
ตี้ฝูอีถอนหายใจ “กินก่อนเถอะ ข้าจะคุยกับเจ้าทีหลัง ข้าเกรง่าถ้าพูดจบเจ้าจะไม่มีอารมณ์กินแล้ว”
ทั้งร่างของกู้ซีจิ่วเตรียมพร้อมป้องกันขึ้นมาทันที เขาคิดจะทำอะไร? คิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีกแล้วใช่ไหม?
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง “ข้ารู้สึกวาท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายพูดออกมาก่อนดีกว่า ท่านทำลับๆ ล่อๆ เช่นนี้ ข้ายิ่งไม่มีอารมณ์กินแล้ว”
ตี้ฝูอียืนกรานยิ่งนัก “เจ้ากินก่อน สิ่งนี้ถ้าเย็นแล้วจะไม่อร่อย คุณค่าทางอาหารจะหายไปด้วย น่าเสียดายเกินไป!”
เนื้อย่างชิ้นเดียวมีคุณค่าอาหารมากจนเกรงว่าจะสูญเสียไปเชียวหรือ? ทำให้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้เห็นค่าถึงเพียงนี้
กู้ซีจิ่วมองปีกนกในมือ เอาเถอะ กินเลยแล้วกัน!
เธอกินคำเล็กๆ เข้าไปก่อนคำหนึ่ง จากนั้นก็ตะลึงงัน
เนื้อนั้นนุ่มเด้งเหมือนวุ้น กลิ่นหอมอวลจมูก ซ้ำยังแฝงกลิ่นละมุนของใบไผ่ไว้ด้วย ยามที่อยู่ในปากจะค่อยๆ เผยออกมา กลิ่มหอมอบอวลอยู่ทั่วปาก กลิ่นอายพิสุทธิ์สายหนึ่งไหลลงคอ ตรงเข้าสู่ปอด
อร่อยเหลือเกิน!
เธอยังไม่เคยกินเนื้อสัตว์ที่รสชาติแบบนี้มาก่อนเลย!
กู้ซีจิ่วกินปีกนั้นจนหมดอย่างรวดเร็ว
เพิ่งกินชิ้นนี้หมด อีกชิ้นหนึ่งก็ยื่นเข้ามาแล้ว “กินปีกต้องกินเป็นคู่ ปีกเดียวบินไม่ขึ้นหรอก”
กู้ซีจิ่วนึกไม่ถึงว่าตี้ฝูอีจะท่าทีเป็นมิตรเช่นนี้ เดิมทีเธอไม่คิดจะเอาอีกอัน แต่ในเมื่ออร่อยขาดนี้แถมเขายังยกให้อย่างกระตือรือร้นถึงเพียงนี้อีก…
เช่นนั้นเธอก็ไม่เกรงใจแล้ว!
ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง รับไปแล้วเริ่มกินปี ‘ไก่’ ชิ้นที่สอง
กินอยู่พักหนึ่ง ตี้ฝูอีก็ยื่นน้ำเต้าใส่สุราสีเขียวอ่อนลูกหนึ่งให้ “กินแต่เนื้อจะเลี่ยนเกินไป ดื่มสุราแกล้มหน่อยเถิด’
ครั้งนีกู้ซีจิ่วไม่ได้รับของเขาไว้ หยิบน้ำเต้าสุราใบหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของตนทันที “ข้าก็มีสุราของตัวองเช่นกัน”
ขณะที่กำลังจะเปิดจุกดื่ม ข้อมือก็ถูกกุมไว้ “สุรานี้ของเจ้าใช้ไม่ได้ กินหงส์ครามแล้วจะต้องดื่มสุราน้ำพุชะล้างข่ม ถึงจะทำให้มันแสดงสรรพคุณสูงสุดออกมาได้”
น้ำเต้าสุราในมือกู้ซีจิ่วแทบร่วงลงพื้น หลงลืมแม้แต่จะชักข้อมือกลับมาจากฝ่ามือที่เกาะกุมไว้ของอีกฝ่าย “หงส์คราม?!” เธอมองนกประหลาดที่ปีกสองข้างหายไปตัวนั้นอีกครา “นี่คือหงส์ครามหรือ?!”
สวรรค์ เธอไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง?!
————————————————————————————-