ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 985-986
บทที่ 985 สาวน้อยผู้นี้มีวิธีจริงๆ น่ะหรือ?
ความมีเมตตาธรรมคือข้อดีของนาง หากนางแสวงหาเพียงยุทธภพที่ซื่อตรงเปิดเผย บุคลิกเช่นนี้จะทำให้นางเปรียบเสมือมัจฉาได้วารี
แต่สำหรับการเป็นผู้มีอำนาจกลับไม่เหมาะ หากมีเมตตาธรรมเกินไป จะถูกสิ่งเหล่านี้ผูกมัดไว้ได้ง่ายๆ
ขณะที่เขากำลังจะถือโอกาสกล่าวต่อสักหลายประโยค คาดไม่ถึงว่าริมฝีปากแดงของกู้ซีจิ่วจะหยักยิ้มแวบหนึ่ง ยื่นมือมาลูบศีรษะเขา
“เสี่ยวเหยียนนั่ว นี่เจ้ากำลังสอนหลักการจัดการเรื่องราวให้ข้าใช่ไหม? ฮ่าๆ นึกไม่ถึงว่าเด็กน้อยอย่างเจ้าจะเข้าใจเรื่องราวอย่างชัดเจนถึงเพียงนี้…”
ตี้ฝูอีเงียบงัน
กู้ซีจิ่วมองนัยน์ตาดำขลับคู่นั้นของเขา ยิ้มออกมาอีกครา “สิ่งเหล่านี้ที่เจ้าพูดมาข้าล้วนเข้าใจทั้งสิ้น วางใจเถิด ข้าจะไม่สู้ตายกับสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นอย่างไม่ประมาณกำลังตน ข้ามีวิธีของข้าอยู่ ในเมื่ออยู่บนพื้นฐานที่กำลังของข้าสามารถทำได้ ถ้าไม่ลองสักหน่อยข้าเกรงว่าแม้แต่จะหลับก็คงหลับไม่ลง!”
เขาเกิดความอยากรู้อยากเห็น “เจ้ามีวิธีอะไร?”
แม้แต่นางเซียนขี่เจียวที่บรรลุพลังวิญญาณขั้นสิบก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย สาวน้อยผู้นี้มีวิธีจริงๆ น่ะหรือ?
กู้ซีจิ่วมองสีหน้าเขา หลังจากโอ้เอ้ชักช้าเพื่อยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอยู่พักหนึ่ง ถึงได้ยกยิ้มอีกครา หลอกล่อให้อยากรู้ “อีกเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง เจ้ารอชมก็พอ”
ร่างกายเปล่งแสงวาบ หายไปจากจุดเดิม
ตี้ฝูอีพูดไม่ออกเลย
เขาชักจะสนใจขึ้นมาจริงๆ แล้ว ยกมือขึ้นกอดอก อยากเห็นว่าสาวน้อยคนนี้จะเล่นลูกไม้อันใดอีก
แน่นอนว่าเขาได้ส่งกระแสบอกสี่ทูตแล้ว ให้พวกเขาเตรียมลงมือได้ทันท่วงที…
เหล่าผู้อาวุโสอย่าง กู่ฉานโม่ เทียนจี้เยวี่ย เชียนเยวี่ยหร่านและฮวาอู๋เหยียนก็ซุ่มอยู่ในจุดลับตาแห่งหนึ่ง ชมการต่อสู้อยู่ตรงนั้น
การต่อสู้ระหว่างสตรีขี่เจียวกับสัตว์ประหลาดทั้งสองอยู่ในสายตาพวกเขาทั้งหมด พวกเขาประหลาดใจกับพลังทำลายล้างอันแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดอัปลักษณ์พวกนี้ อีกทั้งรู้สึกว่านางเซียนที่ดินแดนเบื้องบนส่งมาผู้นี้มีความสามารถรอบด้านนัก หากต้องสู้กันตัวต่อตัว พวกเขาทั้งหลายน่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนางทั้งสิ้น
โดยเฉพาะฮวาอู๋เหยียน ผู้ชมการต่อสู้ด้วยความรู้สึกหลากหลาก เดิมทีนางคือสตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินนี้ แต่ยามนี้ดรุณีขี่เจียวนางนั้นกลับฉกฉวยความโดดเด่นของนางไปเสียแล้ว…
คนเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือผู้เลิศล้ำ ย่อมมองออกว่าดรุณีขี่เจียวมิใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ประหลาดสองตัวนั้น จะพ่ายแพ้ในไม่ช้าก็เร็วนี้
สิ่งที่ทุกคนค่อนข้างอึดอัดใจคือไม่ทราบว่าทูตเฉิงเอ้อคิดอะไรยู่ เรียกพวกเขามาที่นี่ ทว่าสั่งให้ดักซุ่มอยู่ ไม่ส่งสัญญาณให้พวกเขาลงมือเสียที
เพียงแต่ได้มองให้มากหน่อยก็ไม่เลว ยิ่งมองนานเท่าไหร่ก็ยิ่งค้นพบจุดอ่อนของสัตว์ประหลาดทั้งสองได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ยามที่ลงมือก็จะมีความมั่นใจยิ่งขึ้น
การต่อสู้เช่นนี้มิใช่จะพบเห็นได้ทั่วไป ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงมองอย่างเคลิบเคลิ้มยิ่ง โลหิตร้อนระอุนัก
และในยามนี้เองจู่ๆ กู้ซีจิ่วก็ปรากฏตัวขึ้นบนฟ้า ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นเธอก็ซัดฝ่ามือใส่สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งอย่างรุนแรง! ดึงดูดความสนใจจากสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้สำเร็จ มันคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วหันมาไล่ล่าเธอ!
ส่วนสัตว์ร้ายอีกตัวเนื่องจากได้รับความลำบากจากดรุณีขี่เจียวนางนั้นค่อนข้างมาก กำลังไล่งับนางอย่าดุร้ายอยู่ จึงไม่สนใจสหายที่ถูกล่อไปชั่วขณะ
เดิมทีดรุณีขี่เจียวนางนั้นกำลังถูกสัตว์ประหลาดสองตัวนี้ไล่ล่าจนพบทางตันแล้ว จนตรอกเหลือแสน การเคลื่อนไหวของกู้ซีจิ่วย่อมทำให้แรงกดดันของนางลดลงมาก พอจะพักหายใจได้บ้าง
นางสละเวลามามองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง ลอบกำหมัดแน่น ในใจไม่เกิดความซาบซึ้งตื้นตันอันใด กลับรู้สึกชิงชังยิ่งกว่าเดิม
หากมิใช่เพราะเด็กสาวคนนี้ นางไม่มีทางถูกสัตว์ประหลาดสองตัวนี้จับจ้องอีกครั้ง ไม่น่าอดสูจนตรอกถึงเพียงนี้กระมัง?
เดิมทีนางคิดจะชักภัยไปให้ผู้อื่นอีกครา แต่พอนึกถึงท่าร่างพิสดารของเด็กสาวผู้นี้ นางก็หยุดลงอีกครั้ง
————————————————————————————-
บทที่ 986 หากถูกเขมือบลงไปจะทำอย่างไร?!
หากนางล่อสัตว์ประหลาดทั้งหมดไปอยู่รอบกายเด็กสาวผู้นั้น แล้วถูกนางล่อกลับมาอีกต้องแย่แน่!
คนยักษ์เกราะทองข้ารับใช้ของนางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอย่างแท้จริง ระหว่างที่ต่อสู้อยู่ก็มองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง “ราชินี ท่าร่างของเด็กสาวผู้นี้ไม่เลวเลย วิชายุทธ์นี้ของนางคืออันใดกัน?”
ดรุณีขี่เจียวเดือดดาลขึ้นมาทันที “วิชายุทธ์ของมนุษย์โลกที่พลังวิญญาณยังไม่บรรลุขั้นแปดคนหนึ่งจะมีอะไรดีกัน? คู่ควรให้เจ้าชมเชยหรือ?”
คนยักษ์เกราะทองไม่กล้าพูดอีกแล้ว
ดรุณีขี่เจียวหัวเราะหยันคราหนึ่ง แล้วมองกู้ซีจิ่วอีกแวบ ความขุ่นขึ้งพาดผ่านดวงตา
เด็กสาวผู้นั้นคงเกรงว่าจะล่วงเกินนางผู้เป็นคนจากดินแดนเบื้องบนเข้า ด้วยเหตุนี้จึงวิ่งออกมาแบ่งเบาภาระนางอีกครั้ง คิดจะถือโอกาสสร้างความประทับใจแก่เซียนจากดินแดนเบื้องบนอย่างนางกระมัง?
เหอะ! การดีดลูกคิดรางแก้วของเด็กสาวไหนเลยจะเล็ดรอดสายตาของนางไปได้?
ดรุณีขี่เจียวยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าตนคาดเดาได้ถูกต้อง
เด็กสาวผู้นั้นต้องคิดจะร่วมมือกับเซียนอย่างนางเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเป็นแน่ ถ้าหากสู้ไม่ได้ ไม่แน่นางอาจจะใช้ลูกไม้เดิมซ้ำอีกครั้ง ล่อสัตว์ประหลาดกลับมาอีก…
นางจะไม่ปล่อยให้นางได้สมปรารถนาหรอก!
ในเมื่อเด็กสาวผู้นี้ลากสัตว์ประหลาดไปแล้ว เช่นนั้นก็รับผิดชอบให้ถึงที่สุดเถิด ถูกสัตว์ประหลาดกัดตายได้จะดีที่สุด!
นางส่งสัญญาณให้คนยักษ์เกราะทอง รีบหันหลังจากไป สัตว์ประหลาดจระเข้ตีนเป็ดตัวนั้นกำลังโกรธเกรี้ยวสุดขีด ย่อมตามหลังไปติดๆ
ทิ้งระยะห่างจากฝั่งนี้ของกู้ซีจิ่วอย่างรวดเร็วยิ่ง…
กู่ฉานโม่ย่อมจดจำศิษย์ของตนได้ เขาตกใจจนหน้าถอดสี
เขาทราบความสามารถของกู้ซีจิ่วดี แต่สัตว์ประหลาดชนิดนี้ต่อให้เขาลงมือด้วยตัวเองก็ยังไม่แน่ว่าจะสู้ไหว ยังต้องร่วมมือกับคนอื่นถึงจะปราบลงได้
เด็กสาวคนนี้พลังวิญญาณยังไม่ถึงขั้นแปดเลย กลับออกไปสู้กับสัตว์ประหลาดที่ดุร้ายปานนี้เพียงลำพัง…
หากถูกเขมือบลงไปจะทำอย่างไร?!
กู่ฉานโม่กำหมัดแน่น ทั่วร่างล้วนตึงครียดขึ้นมา ในใจได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ขอเพียงกู้ซีจิ่วตกอยู่ในอันตราย เขาจะออกไปช่วยชีวิตคนโดยไม่แยแสอะไรทั้งนั้น ไม่สนใจสัญญาณสั่งการของทูตเฉิงเอ้อแล้ว!
ศิษย์คนนี้ของเขาจะพลาดพลั้งประสบเหตุไม่ได้เด็ดขาด!
ดวงตาชราภาพของเขาเบิกกว้าง มองกู้ซีจิ่วใช้วิชาเคลื่อนย้ายวนเวียนอยู่รอบตัวสัตว์ประหลาดที่ลักษณะคล้ายพญาหงส์ตัวนั้น หัวใจแทบกระเด้งขึ้นมาถึงลำคอ
บัดนี้วิชาเคลื่อนย้ายของกู้ซีจิ่วแสดงศักยภาพขั้นสูงสุดแล้ว ไปมาอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้ที่ซุ่มมุงดูอยู่วิงเวียนตาลาย
เพียงแต่การเคลื่อนย้ายทุกครั้งของเธอล้วนไม่ไปไหนไกลนัก เพื่อไม่ให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นสูญเสียเป้าหมายไล่ล่า การเดินเกมเช่นนี้ของเธอย่อมยกระดับความโกรธเกรี้ยวที่สัตว์ประหลาดตั้วนั้นมีต่อเธอให้เพิ่มขึ้นอย่างง่ายดาย สัตว์ประหลาดตัวนั้นกวดซ้ายไล่ขวา ปากกัดหางแกว่ง ล้วนทำร้ายอีกฝ่ายไม่ได้เลยสักนิด เธอยังคงกระโดดไปกระโดดมาตรงริมปากของมันอยู่เสมอ ประหนึ่งแมวหยอกหนู นี่ทำให้เพลิงโทสะของมันพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ สีสันบนร่างเริ่มแปรเปลี่ยน แดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าระดับความโกรธของมันใกล้จะเต็มพิกัดแล้ว…
ยามที่สีสันบนร่างของสัตว์ประหลาดตัวนั้นกายเป็นสีแดงฉาน จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็หัวเราะเสียงดังออกมา ใช้วิชาเคลื่อนย้ายกลางอากาศ ล้วงสิ่งหนึ่งออกมาจากร่าง อาศัยจังหวะยามสัตว์ประหลาดตัวนั้นอ้าปากกว้างงับเข้ามา ขว้างเข้าไปทันที!
เธอลงมืออย่างกะทันหัน ฝ่ายสัตว์ประหลาดตัวนั้นเมื่อพายุโทสะเต็มเปี่ยมก็อ้าปากกว้างสุดขีด แม้แต่ลำคอที่ปิดสนิทมาโดยตลอดก็เผยออกมาเช่นกัน
สิ่งที่อยู่ในมือกู้ซีจิ่วพุ่งผ่านปากมุดลงไปในลำคอของมันโดยตรง
จากนั้นเธอก็ใช้วิชาเคลื่อนย้ายทันที!
เสียง ‘ตูม!’ ดังสนั่นหวั่นไหวอื้ออึง เสียงนั้นราวกับหลุมหลบภัยแห่งหนึ่งระเบิดออก
ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของฝูงชน จู่ๆ ก็มีแสงเจิดจ้ากลุ่มหนึ่งระเบิดออกมาจากท้องของ ‘พญาหงส์’ สัตว์ประหลาดร่างใหญ่ยักษ์ตัวนั้น ตามด้วยเสียงกู่ร้องโหยหวนของ ‘พญาหงส์’ ตัวนั้น ทั้งร่างถูกระเบิดออกเป็นชิ้นๆ โลหิตสีดำอมม่วงกระฉูดไปทั่วนภา โปรยปรายลงมาเสมือนฝนโลหิต
————————————————————————————-