ลำนำบุปผาพิษ - ตอนที่ 997-998
บทที่ 997 เสียงนั้น…เธอคุ้นหูยิ่งนัก
ในวินาทีนี้เอง ในสมองของกู้ซีจิ่วมีข้อสงสัยหลายอย่างวาบเข้ามา ดวงตาจับจ้องอยู่ที่สนับข้อมือหนังสัตว์ของเขา ปรารถนาจะให้เขาถอดออกมาให้ดูใจจะขาด
เธอใจลอยอย่างหนัก แม้แต่หรงเช่อจะพูดอะไรกับเธออีกก็ไม่ได้ยินเลย
“ซีจิ่ว? ซีจิ่ว?”
ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้สติ มองไปทางหรงเช่อ “หา?”
แววตาหรงเช่อวูบไหวเล็กน้อย กล่าวอย่างทีเล่นทีจริงว่า “คิดอะไรอยู่? ใจลอยเหลือเกิน อยู่ต่อหน้าข้าก็ยังใจลอยถึงเพียงนี้ ทำลายศักดิ์ศรีของข้ามากเลยนะ”
กู้ซีจิ่วเคาะหว่างคิ้วของตัวเอง “ขออภัยด้วย อืม ท่านพูดว่าอะไรนะ?”
สายตาของหรงเช่อจดจ้องบนหน้าเธอ “ซีจิ่ว วิชาแพทย์ของเจ้าก็ยอดเยี่ยมมาก ไม่ทราบว่าพอจะรักษาพี่ชายของข้ากับทหารเหล่านั้นได้หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “เรื่องนี้ต้องได้พบผู้ป่วยก่อนถึงจะทราบ…ท่านวางใจเถอะ วิชาแพทย์ของเจ้าสำนักหลงเลิศล้ำยิ่ง ถ้าเขายอมลงมือ พิษขององค์รัชทายาทกับเหล่าทหารน่าจะสามารถแก้ไขได้”
เพิ่งกล่าวประโยคนี้ออกไม่ทันไร พลันมีเสียงสตรีผู้หนึ่งแว่วมาจากชั้นล่าง “คุณชายหรงอยู่ที่นี่หรือไม่?”
เสียงนั้นอ่อนหวานเสนาะหู เสมือนสั่นระฆังเงินอยู่ข้างหู
กู้ซีจิ่วใจหายวาบ!
เสียงนั้น…เธอคุ้นหูยิ่งนัก ถึงแม้ในอดีตจะเคยได้ยินเสียงนี้กล่าวเพียงไม่กี่ประโยค ทว่าทำให้เธอลืมไม่ลงไปชั่วชีวิต!
เสียงนี้คล้ายจะเป็นเสียงของเย่หงเฟิง!
ครั้งนั้นก่อนที่เธอจะสลบแล้วถูกนำไปผ่าตัด หลงซีเคยให้เธอพบหน้าเย่หงเฟิงหนึ่ง ถึงแม้ทั้งสองคนจะพูดคุยกันอย่างจำกัดเพียงไม่กี่ประโยค แต่สำเนียงยโสโอหังของคุณหนูใหญ่คนนี้ยังคงสลักลึกในความทรงจำของเธอ
ยิ่งไปกว่านั้นคือการทะลุมิติของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูใหญ่คนนี้โดยตรง ยากที่เธอจะลืมลง!
เพียงแต่เย่หงเฟิงที่เธอพบครานั้นหยิ่งยโสวางอำนาจ แต่เสียงสตรีนางนี้กลับฟังดูอ่อนหวานนุ่มนวล
หรงเช่อลุกขึ้นมาแล้ว “น่าจะเป็นคนของเจ้าสำนักหลง ข้าจะไปดู” พลางเดินออกไป
บทสนทนาสั้นๆ แว่วมาจากด้านนอก
“ซือเย่มีเหตุถ่วงรั้งให้ล่าช้า ต้องใช้เวลาเล็กน้อยกว่าจะมาถึง จึงสั่งให้หงเฟิงมาบอกกล่าวเป็นการเฉพาะ”
“ไม่เป็นไร ข้ารออีกหน่อยได้ ลำบากแม่นางต้องมาแจ้งถึงที่นี่ ขึ้นไปดื่มน้ำดื่มท่าสักหน่อยดีหรือไม่?”
“ตกลง”
ผ่านไปครู่หนึ่ง หรงเช่อก็พาสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามา
ใบหน้าของสตรีนางนี้คลุมแพรโปรงผืนหนึ่งไว้ เผยให้เห็นเพียงนัยน์ตาโตงดงามคู่หนึ่ง แต่งตัวคล้ายเสี่ยวหลงหนี่ว์ในซีรีส์ที่ฉายทางทีวียิ่งนัก พลิ้วไหวดั่งนางเซียน
กู้ซีจิ่วหรี่ตาเล็กมองดูสตรีนางนี้ ขณะนี้ไม่ทราบว่าในใจมีความรู้สึกเช่นไรบ้าง
สายตาเธอเฉียบคม มองออกว่าสตรีนางนี้คือโฉมงามที่หลงซือเย่ซุกซ่อนไว้ในโลงน้ำแข็ง บัดนี้ในที่สุดก็ฟื้นคืนชีพแล้ว!
ดูเหมือนข่าวลือจะไม่เป็นเท็จ เย่หงเฟิงทะลุมิติมาจริงๆ และดูจากรูปการณ์แล้ว เธอใช้ร่างกายนี้ได้ยอดเยี่ยมยิ่ง แม้กระทั่งพลังวิญญาณก็ฝึกฝนได้
ตอนนั้นหลงซือเย่ไม่ได้โกหกเธอจริงๆ ร่างกายนี้คือผลงานที่สมบูรณ์แบบยิ่งนักของเขา และเป็นอัจฉริยะด้านพลังวิญญาณ ดูจากท่าทางของเธอ พลังวิญญาณน่าจะบรรลุถึงขั้นห้าแล้ว
กู้ซีจิ่วนึกว่าเมื่อเห็นเธอปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ตนคงจะรู้สึกอึดอัดใจ คาดไม่ถึงว่าจิตใจกลับสงบนิ่งยิ่งนัก ไม่มีความรู้สึกใดเป็นพิเศษ
“โอ้ ท่านมีแขกอื่นหรือ?” หญิงสาวคนนั้นกวาดสายตามองหน้ากู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีคราหนึ่ง ที่สำคัญคือหยุดอยู่ที่ใบหน้าของกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
“พวกเขาคือสหายของข้า บังเอิญพบกันที่นี่ จึงเชิญมานั่งด้วยกัน ท่านนี้คือแม่นางกู้ซีจิ่วจากสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ท่านนี้คือ…” หรงเช่อแนะนำทั้งสองฝ่าย
เนื่องจากตี้ฝูอีปกปิดฐานะไว้ ดังนั้นตอนที่กู้ซีจิ่วแนะนำอิงเหยียนนั่วก่อนหน้านี้จึงไม่ได้เอ่ยอะไรมากนัก
บอกเพียงว่าเป็นน้องชายสหายคนหนึ่งของตน ไม่ได้พูดอย่างอื่นอีก ด้วยเหตุนี้หรงเช่อจึงไม่สนใจตี้ฝูอีเลย
————————————————————————————-
บทที่ 998 สรุปแล้วท่านนี้คือผู้ใดกัน?
ส่วนหญิงสาวคนนั้นมีนามว่าเย่หงเฟิงจริงๆ หลังจากเข้าห้องมาเธอก็ปลดแพรคลุมหน้าลง
เมื่อหรงเช่อได้เห็นใบหน้าของเธอชัดๆ ก็ดูเหมือนจะค่อนข้างประหลาดใจ ยิ้มน้อยๆ และเอ่ยขึ้นว่า “แม่นางเย่ช่างคล้ายคลึงกับซีจิ่วเหลือเกิน! หากไม่ทราบคงนึกว่าพวกเจ้าเป็นฝาแฝดกัน”
เย่หงเฟิงยิ้มหวานคราหนึ่งพลางเอ่ยตอบ “ใช่แล้ว ข้าก็ตกใจเช่นกัน”
กู้ซีจิ่วก็ยิ้มแวบหนึ่ง “ใช่แล้ว บังเอิญเหลือเกิน”
นัยน์ตาของตี้ฝูอีมีแววสนุกสนานพาดผ่านแวบหนึ่ง เขาไม่พูดอะไรเลย หลังจากขึ้นมาก็ทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหน แทบจะไม่ค่อยเปิดปาก
ทุกคนนั่งลงอีกครั้ง หรงเช่อจะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น จึงชงชาให้เย่หงเฟิงด้วยตัวเอง จากนั้นก็พูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง
กู้ซีจิ่วหมุนถ้วยชาในมือเบาๆ มองกริยาวาจาของเย่หงเฟิง เธอแน่ใจมากว่าเย่หงเฟิงคนนี้ไม่มีความทรงจำของชาติก่อน แถมนิสัยยังแตกต่างจากชาติก่อนด้วย เย่หงเฟิงในชาติก่อนสมกับเป็นคุณหนูใหญ่นัก เย่อหยิ่งวางอำนาจ แต่เย่หงเฟิงคนนี้กลับเป็นกระต่ายน้อยว่านอนสอนง่าย ดูใสซื่อไร้เดียงสายิ่งผิดกับชาติก่อนลิบลับ
สภาพแวดล้อมรอบข้างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะนิสัยคนเป็นอย่างมาก หรือว่านี่คือนิสัยดั้งเดิมของเธอ? ชาติก่อนแค่ถูกโอ๋จนเสียคนไป?
ผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วยาม ในที่สุดหลงซือเย่ก็มาถึงแล้ว
เขายังคงสวมหน้ากาก สวมชุดสีขาวพลิ้วไหว บุคลิกคล้ายจะเย็นชาขึ้นกว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนมาก
เห็นได้ชัดว่าเขานึกไม่ถึงว่าจะได้พบกู้ซีจิ่วที่นี่ พอก้าวเข้าประตูมาฝีเท้าก็ชะงัก! ดวงตาจับอยู่ที่ร่างเธอ “ซีจิ่ว!”
กู้ซีจิ่วยกมือทักทายเขา “ไม่ได้พบกันเสียนานนะ เจ้าสำนักหลง”
หลงซือเย่เม้มปากนิดๆ เอ่ยเสียงเบา “เธอเรียกฉันว่าครูฝึกหลงเหมือนเดิมเถอะ ฟังแล้วคุ้นหูกว่า”
กู้ซีจิ่วก็คล้อยตามกดเสียงให้เบาลง “ได้ ครูฝึกหลง”
หลงซืเย่พยักหน้านิดๆ กวาดสายตาไปรอบๆ สุดท้ายสายตาก็ร่อนลงบนใบหน้าของตี้ฝูอี “ท่านผู้นี้คือ? พระอนุชาขององค์ชายแปดหรือ?”
จักรพรรดิซวนมีโอรสธิดามากมาย ถัดจากหรงเช่อไปก็ยังมีน้องชายน้องสาวอีกหลายคนจริงๆ และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่อายุแปดเก้าขวบอยู่จริง…
หรงเช่อหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ตัวข้าไหนเลยจะมีอนุชาที่งามสง่าถึงเพียงนี้ ท่านนี้เป็นสหายตัวน้อยที่ซีจิ่วพามาด้วย”
ตี้ฝูอีนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น ริมฝีปากน้อยหยักขึ้นนิดๆ ยิ้มแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร เขาน่ารักผุดผ่องมาตั้งแต่เกิด ด้วยรอยยิ้มนี้ สามารถทำให้หัวใจคนหลอมละลายด้วยความน่ารักได้ ด้วยเหตุนี้หลงซือเย่จึงอดไม่ได้ที่จะมองเขาอีกสองสามครั้ง
ในที่สุดคนก็มาถึงแล้ว หรงเช่อให้ทางร้านจัดสุราอาหารขึ้นโต๊ะอีกครั้ง ทุกคนนั่งลงอีกครา
ครั้งนี้หลงซือเย่คือแขกผู้สูงศักดิ์เชื้อเชิญมาเป็นตัวหลัก ย่อมได้นั่งในตำแหน่งผู้ทรงเกียรติ ส่วนฐานะของกู้ซีจิ่วก็ไม่ต่ำเช่นกัน หรงเช่อจึงจัดให้เธอนั่งด้านขวาของหลงซือเย่ ตี้ฝูอีนั่งอยู่ทางขวาของกู้ซีจิ่ว
หลงซือเย่สุขุมเย็นชามาโดยตลอด แต่เห็นได้ชัดว่าเขาปฏิบัติต่อเย่หงเฟิงไม่เลวเลย ระหว่างที่นั่งบางครั้งก็ตักอาหารให้เธอ ซ้ำยังช่วยสลับอาหารที่เธอชอบไปไว้ด้านหน้าของนางด้วย ถึงขั้นที่บางครั้งก็ช่วยแกะกุ้งให้เธออะไรทำนองนั้น ซ้ำยังดูแลเป็นอย่างดี
ยามที่เขาทำเรื่องเหล่านี้เสมือนไม่ได้เจตนา แต่ดวงตากลับเหลือบมองกู้ซีจิ่วอยู่บ่อยครั้ง ราวกับอยากเห็นว่าเธอจะมีปฏิกิริยาใดหรือไม่
กู้ซีจิ่วกลับเพิกเฉยกับเรื่องเหล่านี้ของเขา ความสนใจของเธออยู่ที่ร่างของเด็กน้อยข้างกาย
เด็กน้อยคนนั้นงดงามยิ่งนักจริงๆ แต่กลับดูอ่อนแอกระเซาะกระแซะ ค่อนข้างบอบบาง และเลือกกินเป็นพิเศษ กินกุ้งก็จะกินแค่เนื้อส่วนเล็กๆ ตรงด้านหลังของกุ้ง กินผักก็กินแค่ผักกวางตุ้ง ของที่ไม่กินมีมากมายนัก จุกจิกยุ่งยากไม่ธรรมดา
หลังจากกู้ซีจิ่วคอยมองเด็กน้อยอยู่หลายครา ก็ยุ่งง่วนจัดการให้เขาอยู่เงียบๆ ดูทุ่มเทกายใจยิ่งกว่าปรนนิบัติน้องชายแท้ๆ ของตนเสียอีก
ทันใดนั้นหลงซือเย่รู้สึกว่าตนกินไม่ลงแล้ว เขาเอ่ยถามกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว สรุปแล้วท่านนี้คือผู้ใดกัน?”
————————————————————————————-