ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1047+1048
บทที่ 1047 เขาเป็นเด็กน้อยยังไม่หย่านมจริงๆ
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่า ดูจากท่าทีเช่นนั้นของหลงซือเย่แล้ว การตรวจอาการให้ตี้ฝูอีคงไม่มีหวังแล้วแน่นอน ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องโอบกอดความหวังเอาไว้อีกแล้ว นั่งอยู่ในศาลาอีกพักหนึ่ง คำนวณเวลาว่าตี้ฝูอีน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว เธอจึงกลับขึ้นโรงเตี๊ยม คิดจะไปดูสักหน่อยว่าสรุปแล้วการฟื้นฟูของเขาเป็นยังไงบ้าง ทว่ากลับพบหลงซือเย่ยืนอยู่หน้าราวบันไดห้องโถงของชั้นสอง
เธอใจเต้นแวบหนึ่ง รีบก้าวเข้าไป “คุณ…คุณไม่ได้ไปแล้วเหรอ” เธอนึกว่าเขาจากไปแล้วเสียอีก
หลงซือเย่ตอบอย่างเย็นชา “เรื่องที่รับปากไว้แล้วฉันจะไม่บิดพลิ้ว”
“ถ้างั้นจะรักษาให้เขาตอนนี้เหรอ? ต้องการให้ฉันทำอะไรบ้าง?” น้ำเสียงกู้ซีจิ่วผ่อนคลายขึ้นมาทันที
“ฉันก็รอปรึกษาเรื่องนี้กับเธออยู่ ตัวยาอื่นๆ ฉันเตรียมไว้เกือบพร้อมแล้ว แต่ยังขนาดตัวอยาชนิดหนึ่งที่เธอต้องไปเก็บด้วยตัวเอง”
….
ภูเขาสัชฌะเทวะเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ตีนเขาทางทิศใต้ของหุบเขาถามสวรรค์ สาเหตุที่มันทีชื่อเสียงมิได้เกี่ยวข้องกับระดับความอันตรายของมัน แต่เป็นเพราะในภูเขาลูกนี้มีลำธารสายหนึ่งที่ขึ้นชื่อยิ่งนัก ลำธารนี้มีชื่อว่าธารเทพสัชฌะ ในลำธารมีสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่เรียกว่าสัตว์ร้ายเทพสัชฌะ สัตว์ชนิดนี้ดุร้ายยิ่งนัก ร่ำลือกันว่าเป็นสัตว์ร้ายขั้นแปด ต่อให้เป็นผู้ที่ฝึกฝนพลังวิญญาณจนบรรลุขั้นเก้าแล้วก็ไม่อยากเข้าใกล้มัน คิดจะสังหารมันก็ต้องสิ้นเปลืองยุทธ์ยิ่งนัก หสกพลาดพลั้งไปอาจบาดเจ็บสาหัส
แต่ทั้งร่างของมันคือสมบัติล้ำค่า หนังสามารถหลอมสร้างเป็นชุดเกราะที่ฟันแทงไม่เข้า เขาสร้างเป็นแตรเขาสัตว์ชนิดหนึ่งได้ ยามที่เป่าจะเกิดท่วงทำนองพิเศษที่สามารถเรียกสัตว์ร้ายนับร้อยมาได้ โลหิตเป็นยาบำรุงชั้นเลิศ กล่าวกันว่าโลหิตของมันหลอมกลั่นเป็นโอสถเซียนที่สามารถเสริมสร้างกระดูกกล้ามเนื้อของคนได้ ยกระดับความแข็งแก่งทนทานของมนุษย์
ทว่าสิ่งที่ล้ำค่าและหายากที่สุดกลับเป็นเส้นเอ็นของมัน ร่ำลือกันว่าเอ็นนี้สรรพคุณช่วยฟื้นฟู ถ้านำเส้นเอ็นนี้มาประกอบกับตัวยาหลายชิดที่เข้าคู่กัน จะทำให้คนฟื้นฟูขึ้นมาทันที…
ยกตัวอย่างเช่นหากผู้ที่ล้มป่วยมาเนิ่นนานกินมันเข้าก็จะฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรง สาวน้อยที่เสียโฉมกินมันเข้าไปรูปโฉมก็ฟื้นฟูกลับเป็นแหมือนเก่าก่อน
ตัวยาที่หลงซือเย่ให้กู้ซีจิ่งไปเก็บมาด้วยตัวเองก็คือเอ็นสัตว์ร้ายเทพสัชฌะชนิดนี้ เนื่องจาการเก็บเอ็นของสัตว์ร้านชนิดนี้มีเงื่อนไขพิเรนทร์อยู่ข้อหนึ่ง หลังจากสัตว์ร้ายชนิดนี้ตายจะต้องใช้โลหิตสาวพรหมจรรย์เช็ดทำความสะอาดบาดแผลมัน เช่นนี้ถึงจะเลาะเอ็นออกมาได้
การทำเรื่องนี้จะต้องใช้ความกล้ายิ่งนัก และพลังวิญญาณต้องบรรลุขั้นเจ็ดด้วยถึงจะทำได้
ถึงแม้ในสำนักของหลงซือเย่จะมีศิษย์หญิงอยู่ไม่น้อย แต่ที่ตรงตามเอนไขทั้งสองข้อนี้กลับไม่มีเลยสักคน ดังนั้นจึงทำได้เพียงให้กู้ซีจิ่วลงมือด้วยตัวเอง
แน่นอน ยามที่หลงซือเย่กล่าวแผนการนี้ออกมา กู้ซีจิ่วลังเลอยู่บ้าง เธอไม่วางใจที่จะต้องทิ้งตี้ฝูอีไว้ในโรงเตี๊ยมเพียงเพียงลำพัง
ดูเหมือนหลงซือเย่จะองความกังวลขอเธอออกในแวบเดียว เอ่ยหยันออกมา “เขาอายุสิบห้าแล้ว เธอเห็นเขาเป็นเด็กน้อยยังไม่หย่านมจริงๆ หรือไง? แยกจากคนดูแลไม่ได้เลยสักก้าวงั้นสิ? เธอจะไม่ไปก็ได้นะ แต่อาการป่วยนี้ของเขาเกรงว่ารักษาไม่ได้แล้วเหมือนกัน!”
กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว่าตัวเองตื่นตูมไปหน่อย แต่พอนึกถึงมารสวรรค์ที่หนีไปตนนั้นขึ้นมา เธอก็รู้สึกอยู่เสมอว่าไม่ค่อยปลอดภัย จึงเงียบไปชั่วขณะ
หลงซือเย่ขมวดคิ้วอย่างทนไม่ได้ “กู้ซีจิ่ว เธอเป็นแม่นมของคนอื่นไปแล้วหรือไง? กลายเป็นแม่เฒ่าใจเสาะแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ยกไม่ขึ้นวางไม่ลง! ที่นี่เป็นอาณาเขตของฉันนะ รอบข้างเต็มไปด้วยศิษย์ของสำนักถามสวรรค์ ขอเพียงเขาไม่รนหาที่ตายฆ่าตัวตายเอง ก็ไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับเขาเด็ดขาด ถ้าหากเธอไม่วางใจ ฉันจะส่งเขาขึ้นไปที่เขาถามสวรรค์ ที่นั้นปลอดภัยแน่นอน แม้แต่แมลงวันสักตัวก็อย่าหมายจะบินเข้าเข้าไปได้!”
พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว กู้ซีจิ่วย่อมตอบตกลงเช่นกัน เธอตรงไปหาตี้ฝูอี กลับพบว่าเขายังคงเข้าฌานอยู่ มีแสงสีม่วงรางๆ โอบล้อมเขาไว้
กู้ซีจิ่วอยู่กับเขามานาน ทราบว่ายามที่แสงสีม่วงชนิดนี้โผล่ออกมาจากร่างเขาไม่อาจรบกวนได้เด็ดขาด
————————————————————————————-
บทที่ 1048 ใครพูดกันนะว่าจบรักมิตรภาพสิ้น?
กู้ซีจิ่วอยู่กับเขามานาน ทราบว่ายามที่แสงสีม่วงชนิดนี้โผล่ออกมาจากร่างเขาไม่อาจรบกวนได้เด็ดขาด และต้องใช้เวลาอย่างต่ำสามชั่วยามขึ้นไป แน่นอว่าไม่อาจเคลื่อนย้ายเขาได้ด้วย
เธอออกมาคุยกับหลงซือเย่ครู่หนึ่ง หลงซือเย่ก็จัดการเรื่องได้น่าวางใจนัก รีบโยกย้ายลูกศิษย์ของตนที่พลังวิญญาณบรรลุขั้นเจ็ดตอนกลางสองคนแล้วมาคุ้มกันอยู่หน้าประตูทันที ไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนรบกวนคนที่อยู่ด้านใน
มีสองคนนี้คอยคุ้มกัน ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็วางใจแล้ว
หลงซือเย่กล่าวไว้ว่า หากมีคนประสงค์ร้ายต่อคนที่อยู่ในห้องจริง แล้วศิษย์ทั้งสองของเขาต้านไว้ไม่อยู่ เช่นนั้นถึงกู้ซีจิ่วอยู่ที่นี่ก็ต้านไว้ไม่อยู่เช่นกัน
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสามคนถึงได้ออกเดินทาง
เป็นสามคนจริงๆ เนื่องจากระดับของสัตว์ร้ายสูงเกินไป การสังหารสัตว์ร้ายด้วยฝีมือของกู้ซีจิ่วเพียงคนเดียวเป็นเรื่องเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย จำเป็นต้องมีหลงซือเย่เป็นผู้ช่วย น่าจะต้องการหลีกเลี่ยงข้อครหา หลงซือเย่จึงพาเย่หงเฟิงไปด้วย
โชคดีที่ภูเขาสัชฌะเทวะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ระยะทางสามสี่ร้อยลี้ ทั้งสามคนโดยสารกระเรียนตัวนั้นของหลงซือเย่ สามารถไปกลับได้ในเวลาหนึ่งชั่วโมง เมื่อรวมวลาที่สังหารสัตว์ร้ายเทพสัชฌะตัวนั้นแล้ว สามชั่วโมงก็น่าจะกลับมาด้แล้ว
การเดินทางราบรื่นยิ่งนัก ไปถึงเขาสัชฌะเทวะได้โดยไร้อุปสรรค
การเดินทางครั้งนี้หลงซือเย่แทบไม่พูดอะไรเลย เหมือนตอนนั้นที่เขาเพิ่งรู้จักกู้ซีจิ่ว สูงส่งเย็นชา ไม่ดูหมิ่นเหยียดหยาม
กู้ซีจิ่วย่อมไม่คิดจะยั่วยุเขา ดังนั้นเธอก้แทบไม่พูดเลยเช่นกัน เย่หงเฟิงเม้มริมฝีปากมอบคนนั้นทีคนนี้ที เธอลองพูเหยั่งเชิงหลงซือเย่ดู ทว่าหลงซือก็ไม่แยแสเท่าไหร่ เป็นเช่นนี้อยู่สองสามครั้ง แม้กระทั่งเย่หงเฟิงก็ไม่กล้าพูดมากแล้ว
กู้ซีจิ่วไม่เคยเดินทางอย่างอึดอัดใจถึงเพียงนี้มาก่อนเลย และไม่เคยคิดว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นยามที่อยู่กับหลงซือเย่ ไม่อาจหวนกลับไปประสานงานเข้าขารู้ใจกันดั่งวันวานได้อีกแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจ
ใครพูดกันนะว่าจบรักมิตรภาพสิ้น? ชายหญิงที่เคยคบหากันเมื่อเลิกราแล้วยังคงเป็นเพื่อนกันได้นั้นมีอยู่น้อยยิ่งนักจริงๆ
ต่อไปเธอพยายามพบหน้าหลงซือเย่ให้น้อยที่สุดจะดีกว่า เลี่ยงไม่ให้เกิดความกระอักกระอ่วน
นามธารเทพสัชฌะนั้นโดดเด่นนัก สภาพแวดล้อมก็โดดเด่นยิ่งนักเช่นกัน น้ำตกเก้าสายไหลลงมาจากยอดผา ละอองน้ำสาดกระเซ็นลงสู่สระลึกเบื้องล่าง ป่าทึบที่เจริญงอกงามรายล้อมอยู่รอบสระลึก
สัตว์ร้ายเทพสัชฌะนั้นมีอยู่ที่ธารน้ำลึกแห่งนี้เท่านั้น ที่อื่นไม่มีอีกแล้ว
ในบรรดาคนทั้งสามวรยุทธ์ของเย่หงเฟิงอ่อนด้อยที่สุด เมื่อสัตว์ร้ายเทพสัชฌะโผล่ออกมา อย่าว่าแต่เธอจะเข้าต่อสู้คลุกวงในเลย ต่อให้อยู่ห่างไปเพียงเล็กน้อยก็เกรงว่าอาจตายได้ในเสี้ยววิ ดังนั้นหลงซือเย่จึงจัดการให้เย่หงเฟิงไปอยู่บนไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่อยู่ค่อนข้างไกลก่อน แล้วให้กู้ซีจิ่วคอยอยู่บนคาคบไม้นี้ด้วย เขาจะออกไปล่อสัตว์ร้ายเทพสัชฌะที่ริมสระผู้เดียว
สระลึกแห่งนี้กว้างใหญ่นัก เทียบเป็นครึ่งหนึ่งของทะเลสาบตะวันตก[1]ได้เลย ประกอบกับมีน้ำตกยักษ์เก้าสายที่ดูราวกับมังกร อยู่ห่างออกไปหลายลี้ก็ยังได้ยินซัดสาดโครมครามของสายน้ำ ว่าไปแล้วก็แปลก ธารน้ำหลั่งไหลลงมามากมยถึงเพียงนี้ ทว่าสระลึกแห่งนี้กลับไม่เต็มจนเอ่อล้นออกมา ราวกับใต้สระลึกแห่งนี้มีหลุมลึกไร้ก้นที่ถมไม่เต็มอยู่
กู้ซีจิ่วรู้จักที่นี่จากหยกนภา ใต้สระลึกแห่งนี้เชื่อมต่อกับธารน้ำใต้ดินบางแห่ง และสัตว์ร้ายเทพสัชฌะพวกนั้นก็ซ่อนเร้นอยู่ในธารน้ำใต้ดินเหล่านั้น ตามปกติแล้วจะไม่โผล่ขึ้นมาในธารเทพสัชฌะ ถ้าอยากล่อมันออกมาก็ต้องใช้วัวสองขาสัตว์ชนิดพิเศษของภูเขานี้มาเป็นเหยื่อล่อ และต้องเป็นวัวที่ยังเป็นๆ อยู่
โชคดีที่หลงซือเย่เตรียมการไว้นานแล้ว จับวัวชนิดนี้แบบเป็นๆ มาสองตัว ใส่ไว้ในถุงจุสวรรค์ใบนั้นของกู้ซีจิ่ว เมื่อมาถึงริมธารน้ำกู้ซีจิ่วก็ปล่อยวัวตัวหนึ่งออกมา
วัวชนิดนี้เป็นวัวน้ำปะเภทหนึ่ง เดิมทีเห็นน้ำก็จะลง แต่หลังจากมาถึงที่นี่ คงจะสัมผัสถึงอันตรายได้ เป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมลงไป
————————————————————————————-
[1] ทะเลสาบตะวันตก หรือที่รู้จักกันดีในชื่อทะเลสาบซีหู เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง มีทัศนียภาพสวยงามเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ความยาวจากทิศใต้ถึงทิศเหนือ 3.3 กิโลเมตร ความกว้างจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก 2.8 กิโลเมตร