ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1089+1090
บทที่ 1089 หยั่งเชิง 5
เมื่อตื่นขึ้นมาอย่างแท้จริงก็พบว่าตนถูกขังไว้ในโลงแก้วผลึกเหมือนหนูทดลอง!
กู้ซีจิ่วมีความทรงจำวัยเด็กอยู่ มองปราดเดียวก็จำได้ว่าโครงสร้างของห้องวิจัยแห่งนั้นคุ้นตานัก เป็นสไตล์ของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนั้น! สมัยเด็กเธอก็เคยถูกแช่ไว้ในสารเพาะเลี้ยงเหมือนกัน…
ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอว่องไวเสมอมา ใคร่ครวญเพียงแวบเดียวก็ทราบแล้วว่าตนติดกับหลงฟั่น ถูกสลับตัวเสียแล้ว
ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ว่าตนถูกเปลี่ยนร่างด้วย ถึงแม้ในสถานการณ์เช่นนี้เธอจะอยากด่าทอบรรพบุรุษของหลงฟั่นยิ่งนัก แต่ในยามนั้นเธอทำได้เพียงเล่นตามน้ำไป…
เธอไม่รู้จริงๆ ว่าในห้องวิจัยแห่งนั้นสรุปแล้วมีกล้องวงจรปิดอยู่ตรงไหน แต่เธอมั่นใจว่าห้องวิจัยแห่งนั้นถูกจับตามองอย่างครอบคลุมไร้จุดบอด มีความเป็นไปได้แปดส่วนว่าหลงฟั่นคนนั้นจะแอบจับตามองเธออยู่ในห้องอื่น…
โชคดีที่ในช่วงสะลึมสะลือเธอได้ยินบทสนทนาของพวกเขาเข้า ดังนั้นการสูญเสียความทรงในชาตินี้จึงเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล
เธอจำเป็นต้องเล่นละครตบตา สลับมาอยู่ในร่างกายที่ไม่คุ้นเคย แถมยังอยู่ในอาณาเขตของผู้อื่นอีก หากเธอไม่เสียความทรงจำตามที่ผู้อื่นตั้งค่าไว้ หลงฟั่นผู้ดื้อด้านคนนั้นอาจจะมีกระบวนท่าอื่นมาจัดการกับเธออีก ไม่แน่ว่าอาจใช้เธอเป็นหนูทดลองอีกหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะเธอเสียความทรงจำไปจริงๆ…
ตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียง ในใจไม่ทราบเช่นกันว่ารู้สึกอย่างไร
ตี้ฝูอีตามหาแหล่งกบดานของมารสวรรค์ตนนี้มาโดยตลอดแต่ว่าไม่พบ นึกไม่ถึงว่ายามนี้เธอกลับหาพบโดยบังเอิญ เกิดไข้สูงคราหนึ่งก็แล่นเข้ามาที่นี่ทันที…
แปลกจัง ตี้ฝูอีบอกว่าเธอไม่อาจเปลี่ยนร่างถือกำเนิดใหม่ได้อีกแลวมิใช่หรือ? ถ้าเปลี่ยนร่างอีกดวงวิญญาณจะแตกสลายกระจัดกระจาย แล้วทำไมเธอถึงเปลี่ยนได้ล่ะ? แถมยังเปลี่ยนได้ราบรื่นมากด้วย ใช้ร่างนี้อย่างไม่รู้สึกอึดอัดติดขัดเลยสักนิด เสมือนเป็นร่างของตัวเอง
หรือจะเกี่ยวข้องกับมีดนั้นของเย่หงเฟิง? บนมีดนั้นลงคำสาปพิศวงอันใดที่ทำให้บรรลุผลลัพธ์เช่นนี้ได้งั้นหรือ?
ไม่จำเป็นต้องถามเลย ที่ครั้งนี้หลงซือเย่สมคบกับเย่หงเฟิงลอบทำร้ายเธอ คนที่อยู่เบื้องหลังก็คือหลงฟั่น มิเช่นนั้นเธอคงไม่ฟื้นขึ้นมาในห้องวิจัยของหลงฟั่นหรอก
ดูเหมือนลูกไม้ของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องคนนี้จะมากมายเหนือธรรมดาจริงๆ ทำให้คนหาทางป้องกันไม่ได้
ส่วนหลงซือเย่…
มือที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มของเธอพลันกำแน่น เขาปองร้ายเธอถึงเพียงนี้ จิตใจที่มีมโนธรรมไม่เจ็บปวดเลยจริงๆ หรือ?
ยังมีดวงวิญณาณนั้นที่ฟื้นขึ้นมาในร่างเดิมของเธออีก ที่แท้แล้วมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ใดกัน? รู้ว่าตี้ฝูอีจะมองออกหรือเปล่า?
ในเมื่อทุกอย่างนี้ล้วนเป็นอุบายของหลงฟั่น คาดว่าดวงวิญญาณที่ฟื้นขึ้นมาในร่างเธอก็ต้องเป็นลูกน้องของท่านเจ้าผู้นี้แน่ๆ นายทัพผู้แข็งแกร่งย่อมไม่มีพลทหารที่อ่อนแอ หากว่านางก็เป็นนักแสดงที่ยอมเยี่ยมเหมือนกัน ตี้ฝูอีอาจจะมองไม่ออกก็ได้ ไม่แน่ว่าอาจหลงกลผู้อื่นเข้าแล้ว!
พลังยุทธ์ของเขายังไม่ฟื้นฟูสู่สภาพเดิม หากเผยฐานะที่แท้จริงให้กู้ซีจิ่วตัวปลอมคนนั้นทราบเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ เกรงว่าจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ขึ้น!
กู้ซีจิ่วนอนอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนสงบนิ่ง ความจริงแล้วในใจกลับมีเปลวเพลิงกำลังลุกโชนอยู่ ปรารถนาจะกลายเป็นสายลมแล้วมุดออกไปยิ่งนัก กลับไปอยู่ข้างกายตี้ฝูอี เตือนให้เขาระวัง…
แต่สถานที่แห่งนี้กลับออกไปได้ยากนัก วันนี้กู้ซีจิ่วตามท่านเจ้าผมเงินผู้นั้นตะลอนอยู่ในสิ่งปลูกสร้างที่คล้ายกับสุสานใต้ดินแห่งนี้อยู่ครึ่งค่อนวัน ตั้งแต่ต้นจนจบไม่พบเห็นทางออกตรงไหนเลย
ส่วนเธอก็รับรู้ได้จากการสังเกตว่า การป้องกันของสถานที่แห่งเนี้แน่นหนาไร้ช่องโหว่ยิ่งกว่าถังเหล็กเสียอีก และเมื่ออยู่ที่นี่วิชาเคลื่อนย้ายของเธอก็มีขีดจำกัด ทุกครั้งสามารถเคลื่อนย้ายได้เพียงสิบกว่าเมตรเท่านั้น แถมยังไม่สอามารถผ่านกำแพงที่กั้นขวางไว้ไปได้…
ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เธอจะหลอบหนีออกไปได้โดยตรงจึงแทบจะเป็นศูนย์
เธอไม่มีแม้กระทั่งกำลังเสริมใดๆ ด้วยซ้ำร่างเดิมของเธอถูกผู้อื่นยึดครองแล้ว หากตี้ฝูอีมองออกยังพอว่า หากว่ามองไม่ออก ไม่แน่ว่าอาจพา ‘กู้ซีจิ่ว’ คนนั้นกลับไปที่ฐานทัพของเขาแล้วก็ได้!
————————————————————————————-
บทที่ 1090 หยั่งเชิง 6
ถ้าหากตี้ฝูอีมองออกจะต้องหาทางช่วยเหลือเธออย่างแน่นอน แต่เขาจะมองออกหรือเปล่า? ถ้ามองย้อนกลับไป ต่อให้เขามองออกก็หาที่นี่ไม่เจออยู่ดี สถานที่แห่งนี้ซุกว่อนไว้มิดชิดเหลือเกิน! ใครจะไปคิดว่าในภูเขาไฟจะมีโลกอีกใบอยู่
หนทางถูกตัดขาด แทบจะมองไม่เห็นความหวังใดๆ แล้ว
ในใจกู้ซีจิ่วถึงขึ้นเกิดความคิดจะฆ่าตัวตายขึ้นมาวูบหนึ่ง ถ้าหากเธอตายไปตอนนี้ วิญญาณจะกลับไปโดยอัตโนมัติหรือเปล่านะ?
ขณะที่เธอกำลังพิจารณาถึงอัตราความเป็นไปได้ของวิธีนี้อยู่ จู่ๆ ก็สัมผัสถึงบางอย่างได้ ลืมตาขึ้นมาทันที
สวมอาภรณ์สีนวลจันทร์ ดวงหน้าลุกสกาวผ่องแผ่วยิ่งกว่าแสงจันทร์ มีกลิ่นอายเยือกเย็นติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
หลงซือเย่!
กู้ซีจิ่วลุกขึ้นนั่งทันที สองมือกำแน่น หรี่ตามอง ตื่นตัวไปทั้งร่าง “คุณเป็นใครอีก? บุกรุกเข้ามาในห้องฉันมีจุดประสงค์อะไร?”
หลงซือเย่ผงะไป “…ซีจิ่ว เธอจำฉันไม่ได้เหรอ?!”
กู้ซีจิ่วเอียงคอนิดๆ “ฉันควรจำคุณได้เหรอ?”
หลงซือเย่นิ่งงัน
ความปวดดร้าวพาดผ่านนัยน์ตาเขา ก้าวเข้ามาหา “ซีจิ่ว ฉันคือหลงซี…”
สีหน้ากู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนเล็กน้อย “หลงซี?!”
พลันยิ้มหยัน “คุณหลอกใครอยู่? หรือคุณก็ถูกหลงฟั่นทำให้ทะลุมิติมาด้วย? หรือว่าเป็นร่างโคลนเหมือนกัน? แต่รูปลักษณ์ของคุณไม่เหมือนเขาเลย! เป็นผลงานที่ล้มเหลวของหลงฟั่นเหรอ?”
สีหน้าหลงซือเย่ซีดเซียว “เธอไม่มีความทรงจำของโลกนี้จริงๆ เหรอ?”
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว “ความทรงจำของโลกนี้?” ชะงักไปเล็กน้อย กล่าวคล้ายจะหยั่งเชิงดู “ฉันควรมีความทรงของโลกนี้เหรอ?”
หลงซือเย่สูดหายใจนิดๆ “แน่นอนว่าเธอควรมี ซีจิ่ว เธอทะลุมิติมาที่นี่ตั้งนานแล้ว ทะลุมิติมาเป็นคุณหนูกู้ซีจิ่วสวะไร้พลังของจวนแม่ทัพ…”
กู้ซีจิ่วหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่ได้ปฏิเสธในทันที “พูดต่อไป!”
หลงซือเย่ชะงักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนเรื่องราวจะยืดยาวเกินกว่าจะเล่าออกมาได้ “ซีจิ่ว เรื่องของเธอยาวมาก ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดคุยกัน ไปเถอะ! ฉันจะพาเธอออกไป!”
ก้าวเข้ามาดึงมือของกู้ซีจิ่ว
ข้อมือของกู้ซีจิ่วพลันพลิกตวัด ของมีคมเปล่งประกายชิ้นหนึ่งโผล่ออกมาจากแขนเสื้อ การคว้านี้เกือบทำให้หลงซือเย่เกือบคว้าถูกของมีคมแล้ว
สิ่งนี้ค่อนข้างคล้ายมีดผ่าตัด เห็นได้ชัดว่ากู้ซีจิ่วหยิบฉวยมาจากที่ไหนสักแห่ง ดูเฉียบคมเยียบเย็นยิ่งนัก เยียบเย็นเหมือนแววตาของเธอ “คุณอ่านนิยายแนวแมรี่ซูมากไปหรือเปล่า? ทั้งเป็นสวะไร้พลัง! ซ้ำเรื่องราวยังยาวมากอีก ถ้างั้นคงไม่ใช่ว่ารากฐานวิญญาณของฉันเคยถูกทำลายด้วยกระมัง? แถมยังรู้จักท่านอ๋ององค์ชายมาดเท่มากมายอีกด้วยใช่หรือเปล่า? พบปาฏิหาริย์อยู่ไม่ขาด พลังยุทธ์พุ่งพรวดเสมือนดอกงาแทงยอดสูง ใต้หล้านี้ไร้ผู้ต่อกร นำทัพพี่น้องชายหญิงกวาดล้างใต้หล้า กลายเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดินใช่ไหม?”
สำเนียงเธอเต็มไปด้วยความเสียดสีประชดประชัน นัยน์ตามีเพียงความตื่นตัว หลงซือเย่ก้าวเข้ามา น้ำเสียงคล้ายจะข่มความเศร้าหมองไว้ “ซีจิ่ว เธอต้องเชื่อฉัน…”
กู้ซีจิ่วเอียงคอ น้ำเสียงไม่ยินดียินร้อน “เชื่อคุณ? คุณคือหลงซีตัวจริง?”
หลงซือเย่พยักหน้า “ใช่! ซีจิ่วหลังจากเธอฆ่าตัวตายฉันก็ฆ่าตัวตายตาม และทะลุมิติมาเหมือนกัน เพียงแต่ทะลุมาก่อนหน้าเธอหลายปีนัก ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าสำนักถามสวรรค์ พวกเราได้พบกันอีกครั้งแถมยังเกี่ยวพันกันลึกซึ้งนัก…”
ดูเหมือนเขาจะอธิบายเรื่องยืดยาวให้เธอฟังอย่างรวบรัด อธิบายสั้นๆ ว่าเธอกับเขาได้รู้จักพบพานกันอีกครั้ง
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เอ่ยถึงตี้ฝูอีเลย บอกเพียงว่าเธอกับเขาได้พบกันอีกหน…
กู้ซีจิ่วฟังอยู่เงียบๆ ยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง “ความหมายของคุณคือ ฉันในยุคนี้ชอบคุณอีกครั้งงั้นเหรอ?”
หลงซือเย่สูดหายใจเบาๆ คราหนึ่ง “ใช่! ซีจิ่ว ชาตินี้พวกเรารักกัน…”
….
ถึงตอนนี้ ทุกคนเดาได้ออกไหมว่าหลงซือเย่คนนี้เป็นตัวจริงหรือตัวปลอม?
————————————————————————————-