ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1167+1168
บทที่ 1167 ข้ากับเจ้าสนิทชิดเชื้อกันมากหรือ (3)
กู้ซีจิ่วนิ่งเงียบ ทว่าไม่รู้ด้วยเหตุอันใด ถึงแม้เขาจะทำตัวกะล่อนใส่เธอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย
ทั้งที่ตอนนี้เธอรังเกียจผู้ชายทุกคน…
เธอสงบจิตใจลง “ตี้ฝูอี เจ้าเป็นผู้ควบคุมความฝันของข้าใช่หรือไม่?” เหมือนเธอจะนึกถึงอะไรบางอย่าง “ไม่ใช่ว่าความฝันทั้งหมดคือความไม่รู้สึกตัวเช่นนั้นหรือ? เหตุใดช่วงนี้ข้ากลับฝันต่อเนื่องและได้พบเจ้าทุกครั้ง…เจ้าว่าเพราะเจ้าถูกตรึงไว้ ปรารถนาให้มีผู้ใดมาปลดปล่อย เจ้าจึงมาควบคุมความฝันของข้าใช่หรือไม่? ทำให้ข้าฝันถึงอะไรที่เรียกว่า ‘ความทรงจำ’ ทำให้ข้าสงสารเจ้ามากยิ่งขึ้น…”
เธอยิ่งอนุมานก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นเช่นนี้ เมื่อพูดมาถึงตรงนี้สุ้มเสียงค่อนข้างสั่นเครือ
เธอรู้สึกว่าความฝันเหล่านี้มีบางอย่างผิดปกติ ไม่เหมือนความฝันจริงๆ กลับเหมือนถูกใครบางคนควบคุมอยู่…
ตี้ฝูอีคาดไม่ถึงว่านางจะตั้งข้อสงสัยได้มากถึงเพียงนี้ อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ ต่อให้แม่นางน้อยสูญเสียความทรงจำ แต่ความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลของนางกลับดีเยี่ยมยิ่งนัก หลอกลวงได้ไม่ง่ายเลย
“ข้าไม่ได้ควบคุมความฝันเจ้า ซีจิ่ว ความฝันนี้เจ้าเป็นคนควบคุมมันเอง เจ้าเป็นเจ้าของความฝันนี้…”
“แต่เหตุใดข้าจึงฝันถึงแต่เจ้า?”
“นั่นเป็นเพราะเจ้าชอบข้าอย่างไรเล่า ก่อนที่เจ้าจะสูญเสียความทรงจำ เจ้ากับข้ารักกัน”
หัวใจกู้ซีจิ่วพลันสั่นไหว “พูดจาเหลวไหล คนที่ข้าชอบคือพี่โม่ต่างหาก…”
ตี้ฝูอีเหลือบมองนาง “เจ้าชอบเขาแบบไหน?”
ใบหน้างดงามของกู้ซีจิ่วแดงระเรื่อ เธอในตอนนี้พูดอย่างตรงไปตรงมา “เมื่อเจอเขา หัวใจข้าสั่นไหว รู้สึกตื่นเต้น ชอบอยู่ข้างกายเขา ชอบฟังคำพูดของเขา ชอบทำตามที่เขาบอก…”
“ปฏิกิริยาของลูกกลอนสุรภี! ซีจิ่ว ความรู้สึกที่เจ้ามีต่อเขาเป็นเพราะปฏิกิริยาของลูกกลอนสุรภี”
กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจ ตี้ฝูอีจึงอธิบายสรรพคุณของลูกกลอนสุรภีให้นางฟังอย่างละเอียด
กู้ซีจิ่วตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ความจริงเธอยังประหลาดใจเรื่องที่เธอได้กลิ่นเหม็นของผู้ชายคนอื่น ตอนนั้นโม่เจ้าอธิบายว่าเป็นเพราะร่างโคลนนิ่ง เธอจึงมีประสาทสัมผัสรับกลิ่นที่ไม่เหมือนใคร ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว….
ทว่าพูดได้ยากว่าตี้ฝูอีที่อยู่ต่อหน้านี้จะไม่หลอกลวงเธอ โม่เจ้าบอกว่าตี้ฝูอีเป็นมารร้าย เป็นคนที่ชั่วช้าที่สุด ทำการสิ่งใดไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล…
เธอบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่สักครู่หนึ่ง สายตาร่อนลงบนใบหน้าของเขา “เจ้าว่าข้าคือเจ้าของความฝันนี้ที่แท้จริง? ปรารถนาสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นใช่ไหม?”
ตี้ฝูอีพยักหน้า “โดยหลักการแล้วเป็นเช่นนั้น”
กู้ซีจิ่วพยักหน้า “อืม!” เธอหลุบตาลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังรวบรวมสมาธิคิดสิ่งใดอยู่ จากนั้นใต้เท้าของตี้ฝูอีพลันว่างเปล่า พื้นดินแยกออกกลายเป็นหลุมหลุมหนึ่ง เขาตกลงไปในทันที
กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง ‘โอ้โห อัศจรรย์นัก!’
เธอกำลังยุ่งกับการคิดบางสิ่งอยู่ ทันใดนั้น ฝ่าเท้าของตี้ฝูอีที่ตกลงไปเหยียบถูกอะไรเข้า สิ่งนั้นนำเขากลับขึ้นมาในทันที
ตี้ฝูอีก้มหน้ามองดู พบว่าสิ่งที่ตัวเองเหยียบโดนเข้าคือดอกเห็ดขนาดมหึมา…
เขานิ่งเงียบ ‘พลังแห่งจินตนาการนี้! ยอดเยี่ยม!’
เขาจัดระเบียบเสื้อคลุมเล็กน้อย อมยิ้มมองดูนาง “คราวนี้เชื่อแล้วหรือยัง?”
ภาพฉากที่เกิดขึ้นทั้งหมดเหมือนกับความคิดของกู้ซีจิ่ว ในที่สุดเธอก็เชื่อแล้ว
เธอพิจารณาตี้ฝูอี “เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทางเหมือนไม่เกรงกลัวเลย? เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะใช้ความคิดทำให้เจ้าตกไปอยู่ใต้พื้นดินเลยหรือ?”
ตี้ฝูอีถอนใจเบาๆ “เจ้าทำไม่ลงหรอก”
กู้ซีจิ่วใจสั่นไหว
ใช่แล้ว เธอทำไม่ลง เธอมีความรู้สึกที่ดีต่อเขา และอยากอยู่ใกล้เขาอย่างมิอาจบรรยายได้…
“เจ้าบอกว่าพวกเราเคยรักกันมาก?”
“ใช่ รักกันมาก”
—————————————————
บทที่ 1168 ข้ากับเจ้าสนิทชิดเชื้อกันมากหรือ (4)
“ถึง…ถึงขั้นไหนแล้ว?”
ตี้ฝูอีกล่าวตอบ “แนบแน่น”
กู้ซีจิ่วขวยเขินใบหน้าแดงระเรื่อ คำพูดนี้ของเขาทำให้คนคิดไปไกลยิ่งนัก…
“ความหมายของเจ้าคือ? ข้ากับเจ้าเคย…เคยขึ้นเตียงกันแล้ว?” บางทีเรื่องราวในชาติก่อนอาจทิ้งร่องรอยไว้อย่างลึกซึ้ง กู้ซีจิ่วถึงแม้ไม่มีความทรงจำ กลับหลุดพูดคำพูดยุคปัจจุบันออกมาบ้างเป็นครั้งคราว
ทว่าตี้ฝูอีกลับไม่เข้าใจความหมายแฝงของคำว่า ‘เคยขึ้นเตียง’ ดังนั้นจึงหยุดชะงัก ตอบกลับเธออย่างเป็นธรรมชาติว่า “แน่นอน” เขากับเธอเคยนอนเตียงเดียวกันหลายครั้งหลายครา ถึงแม้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าเคยขึ้นเตียงกันแล้ว…
ใบหน้ากู้ซีจิ่วแดงก่ำขึ้นไปอีก ปฏิเสธเขาอย่างมั่นใจ “โกหก! ข้ายังบริสุทธิ์อยู่! ข้าเคยขึ้นเตียงกับเจ้าที่ไหนกัน? เจ้าโกหกเป็นแน่!” ร่างกายนี้ของเธอบริสุทธิ์หรือไม่เธอย่อมรู้ดีที่สุด
ตี้ฝูอีนิ่งอึ้ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจคำว่า ‘ขึ้นเตียง’ ที่นางพูดว่าหมายความว่าอะไรแล้ว!
ที่แท้เด็กคนนี้ไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์ขนาดนั้น!
กู้ซีจิ่วก่อนสูญเสียความทรงจำมีความคิดหนักแน่น เยือกเย็น นางไม่มีทางพูดคำพูดเช่นนี้อย่างแน่นอน
แต่หลังจากที่สูญเสียความทรงจำนางไม่มีการยับยั้งชั่งใจ คิดอยากพูดสิ่งใดก็พูดออกมาเลย ตรงไปตรงมา ไม่พูดอ้อมค้อม…
ตี้ฝูอีมองลึกเข้าไปในดวงตานางพลางพูดช้าๆ “ที่เราไม่เคยขึ้นเตียงกัน นั่นก็เป็นเพราะเจ้าคิดว่าร่างกายของเจ้าอายุยังน้อย อยากให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ข้าให้เกียรติเจ้ามาตลอด ย่อมโอนอ่อนตามใจเจ้า”
กู้ซีจิ่วมองร่างกายตัวเองอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายเธอในตอนนี้คือกายจิต และมีลักษณะเช่นเดียวกับตอนที่เธอตายไปชาติที่แล้ว ดูเหมือนอายุประมาณยี่สิบปี
เธอคิดถึงร่างกายตอนที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง รูปโฉมน่าจะอายุมากกว่าสิบแปด
ไม่เด็กแล้วนะ!
“อายุร่างกายของข้าน่าจะไม่เด็กแล้วกระมัง?” กู้ซีจิ่วบ่นพึมพำ “ข้ารู้สึกว่าตอนนั้นที่ข้าไม่ยอมรับเจ้า สาเหตุคงไม่ใช่เพราะร่างกายเด็ก นั่นเป็นข้ออ้าง ข้าน่าจะไม่ได้รักเจ้า…”
ตี้ฝูอีเหลือบมองนาง “ข้าก็รู้สึกว่าไม่เด็กแล้ว รองรับ.ของข้าได้..ที่แท้นั่นก็เป็นข้ออ้างเช่นนั้นหรือ…”
เสียงของเขาเยือกเย็นไม่รีบร้อน กู้ซีจิ่วตัวสั่นสะท้าน เชิดคางขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ข้าไม่ได้รักเจ้าย่อมต้องหาข้ออ้าง”
“เช่นนั้น หากเจ้ารักข้าล่ะ? เจ้าจะยินยอม…”
“ก็คงเป็นเช่นนั้น ในเมื่อทั้งสองฝ่ายรักกัน คงไม่มีมาคิดเล็กคิดน้อยกับบางสิ่งที่ไม่จำเป็น…” จิตใต้สำนึกของกู้ซีจิ่วยังมีแนวคิดของยุคปัจจุบันอยู่ ในความคิดเธอ ตราบใดที่ชายหญิงรักกันจริง ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม ต่อให้ร่วมหลับนอนกันก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงคืนวันส่งตัวเข้าหอ
ตี้ฝูอีพยักหน้า “ดีมาก ข้อจะจดจำคำเจ้าเอาไว้” เมื่อถึงเวลาเขาจะลงมือด้วยตัวเอง ไม่ต้องยับยั้งชั่งใจอีก!
กู้ซีจิ่วไร้เดียงสา ไม่รู้ตัวว่าบทสนทนาในครั้งนี้ เธอได้เผยไต๋ตัวเองออกมาไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เธอรู้สึกว่าการพูดคุยหัวข้อสนทนานี้ต่อไปไม่เหมาะสำหรับเด็ก อีกทั้งไม่เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ ดังนั้นจึงเริ่มเปลี่ยนหัวข้อ “เจ้าหิวหรือไม่?”
เห็นได้ชัดว่าตี้ฝูอีคิดเลยเถิดไปไกลแล้ว ดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องมองเธอ “หิว! ข้าหิวมาก!” ความจริงแล้วกายจิตกับกายจิตร่วมอภิรมย์กันได้ เพียงแต่ความไวของประสาทสัมผัสจะไม่สูงมากนัก
เขาปรารถนาจะร่วมอภิรมย์กับนางยิ่งนัก แต่เขาเป็นผู้พึงใจในความสมบูรณ์แบบ เขารู้สึกว่าครั้งแรกของเขากับนางจะต้องไร้ที่ติและทำด้วยความเต็มใจ ต่างฝ่ายต่างมีความประทับใจที่ลึกซึ้งซึ่งกันและกัน
หากต้องการความสมบูรณ์แบบ กายจิตกับกายจิตไม่เหมาะสมอย่างเห็นได้ชัด แต่หากว่านางต้องการเชื้อเชิญเขา…
กู้ซีจิ่วกะพริบตา เบื้องหน้าปรากฏทะเลสาบผืนใหญ่ขึ้นทันใด ระลอกคลื่นกระเพื่อมไหว ภายในทะเลสาบมีปลาที่อุดมสมบูรณ์กำลังกระโดดโลดเต้น กู้ซีจิ่วไม่รู้ไปเอาเบ็ดตกปลามาจากไหน “ข้าจะตกปลาให้เจ้ากิน”
ตี้ฝูอีกล่าวอันใดไม่ออก
————————————————–