ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1207+1208
บทที่ 1207 ไม่อยากมอบเธอให้ผู้อื่นอีก
ทางลับสายนี้ทอดยาวประมาณสี่ถึงห้าร้อยเมตร ถึงแม้เขาบาดเจ็บ ก็วิ่งออกไปได้ในสามถึงสี่นาที ยามนี้ทางออกอยู่เบื้องหน้า เขาโล่งใจและวิ่งต่อไปอีกไม่กี่ก้าว
“พรึบ!” ตาข่ายใหญ่ผืนหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากเบื้องบน ทำให้ทางออกถูกปิด
หากไม่ใช่เพราะเขาถอยหลบได้ทันเวลา ตาข่ายใหญ่ผืนนั้นก็จะปกคลุมเขาในทันที!
ตาข่ายผืนนั้นไม่รู้ว่าทำมาจากวัสดุโลหะอันใด ด้านบนล้วนเป็นตะปูเหล็กปลายแหลมถี่ สีเขียวมรกต แค่มองก็รู้ว่ามีพิษร้าย!
เขายิ้มอย่างเย็นชา และไม่ตื่นตระหนก ท่ามกลางความสงสัย เขาควานหาถุงมือคู่หนึ่งขึ้นมาสวมใส่
ถุงมือนี้ฟันแทงไม่เข้า หลังจากที่เขาสวมใส่ถุงมือก็เริ่มฉีกตาข่ายนี้ จากนั้นจึงพบว่า…ฉีกไม่ขาด!
ถึงแม้เขาบาดเจ็บ แต่พละกำลังในตอนนี้ก็เพียงพอที่จะถลกหนังแรด! ไม่เพียงฉีกไม่ขาด แต่ตะปุเหล็กที่ดูเหมือนไม่ได้แหลมคมเป็นพิเศษกลับเจาะทะลุถุงมือเขาคู่นั่นฉีกขาด เป็นรูเล็กๆ ตรงนิ้วมือ
ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ ถูกพิษเข้าแล้ว!
เคราะห์ดีที่เขาพกยาถอนพิษหลายชนิดติดตัวมาไม่น้อย เขารีบควานหาและกินไปหลายชนิด
ดีที่หนึ่งในยาถอนพิษนั้นถูกต้องกับอาการ ใบหน้าที่เขียวคล้ำค่อยๆ จางหาย มือที่เดิมทีไม่มีความรู้สึกก็กลับมามีความรู้สึก เขาถอนหายใจหนึ่งเฮือก และยังฮึ่มเสียงเย็นชา
เขาเป็นบุรุษที่เชี่ยวชาญการใช้พิษร้าย ไม่มีผู้ใดในโลกนี้เปรียบได้! พิษที่ร้ายแรงขนาดนี้ก็ถูกเขาถอนพิษได้อย่างง่ายดายไม่ใช่หรือ?
หลังจากถอนพิษ เขาวิเคราะห์ตาข่ายผืนนั้นอีกครั้ง ด้วยความชำนาญทักษะด้านกลไก หลังจากวิเคราะห์อย่างใจเย็นอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็หาปุ่มเปิดตาข่ายผืนนี้เจอ เขามองดูด้วยความดีใจ ขณะกำลังจะไปเปิดก็ได้ยินเสียงก้องดังมาจากพื้นที่ห่างไกล! ผืนดินใต้ฝ่าเท้าสั่นสะเทือน…
และตามด้วยเสียงระเบิดที่ดังกึกก้องดังบุปผาผลิบานรอบด้าน…
สีหน้าเขาแปรเปลี่ยน วังใต้พิภพนี้เขาเป็นคนสร้างมันมา เขาย่อมเข้าใจดีว่าเสียงระเบิดเหล่านี้หมายถึงอะไร โม่เจ้า ไอ้คนเลวนั่นจุดฉนวนทั่วทั้งวังใต้พิภพแล้ว! เขาต้องการฝังทุกคนให้ตายทั้งเป็น!
หลงฟั่นย่อมไม่อยากถูกฝังอยู่ที่นี่ ดังนั้น เขายิ่งพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อเปิดตาข่ายผืนนั้น
เส้นทางลับที่เขาอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากจุดระเบิดเหล่านั้น ยังคงปลอดภัยได้สักสามนาที
หากไม่ต้องทำลายตาข่ายเบื้องหน้านี้ เขาจะหลบหนีออกจากเส้นทางลับ ขึ้นเรือเหินอัคคีนั้นได้ก่อนที่ลาวาจะไหลหลากมาที่นี่
แต่เพราะเขารีบร้อน ยิ่งรีบร้อน มือก็ยิ่งสั่น เมื่อเขาเปิดตาข่ายผืนใหญ่นั้นไม่ได้ ด้านหลังก็มีคลื่นลาวาไหลเข้ามาแล้ว…
ไอระเบิดที่แผดเผานั้นทำให้เขาหายใจไม่ออก เมื่อเปิดตาข่ายผื่นใหญ่นั้นได้ เขาก็สาวเท้ารีบรุดทันใด ในที่สุดก็เห็นสระลาวา แต่ต้องตกตะลึงงงงวยอยู่ตรงนั้น
เรือเหินอัคคีในสระลาวาหายไปแล้ว!
วินาทีนี้ ลาวาในสระลาวาโดนผลกระทบจากระเบิดภายนอก จนล้นขอบสระและรวมตัวกันมาที่ฝ่าเท้าของเขา
ส่วนด้านหลังของเขายังมีคลื่นลาวาอีกระลอกหนึ่งกำลังไหลหลากมา แม้แต่ทางที่จะถอยหลังกลับก็ไม่มีแล้ว!
เขาหลุบตาลง รู้ว่าครั้งนี้ถึงขีดจำกัดของตัวเองจริงๆ แล้ว สังขารนี้ก็มิอาจรักษาไว้ได้แล้วจริงๆ…
ในเมื่อมิอาจหลบหนีได้แล้ว เขาสงบจิตใจลง ยังใช้โอกาสวินาทีสุดท้ายสัมผัสถึงตำแหน่งของกู้ซีจิ่ว เด็กคนนั้นขึ้นเรือเหินอัคคีไปแล้ว ดูเหมือนจะหนีออกไปได้แล้ว
นิ้วมือของเขากระชับแน่น กระตุกริมฝีปากเบาๆ เด็กคนนั้นเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวดังจิ้งจอกน้อย เขาไม่อยากมอบเธอให้ผู้อื่นแล้ว
ต่อไปเขายังมีโอกาสได้พบเจอเธออีก ถึงเธอจะหนีไปจนสุดขอบฟ้า เขาก็ตามหาเธอได้ เพราะเขาไม่เพียงติดตั้งจีพีเอสไว้บนตัวเธอ ยังทำให้เซลล์ประกอบของร่างโคลนนิ่งนั้นเชื่อมโยงกับร่างโคลนนิ่งอีกร่างหนึ่งของเขา…
—————————————————————————
บทที่ 1208 เธอคิดถึงร่างเดิมของตัวเอง…
การเชื่อมโยงนี้ไม่ใช่อุปกรณ์ใดที่ตรวจสอบได้ เป็นเหมือนกระแสจิตพิเศษระหว่างฝาแฝด เขาสามารถใช้กระแสจิตนี้ตามหาเธอได้อีกครั้ง บางทียังอาจตามหาฐานลับที่แท้จริงของตี้ฝูอีได้…
ลาวาถาโถมเข้ามา เขายืนอยู่ตรงนั้นทำได้เพียงเผชิญหน้ากับความตาย หยาดเหงื่อโซมหน้าปล่อยให้ลาวากลืนกินเขาไป…
ร่างกายนี้ของเขามอดม้วย แต่กายจิตของเขาหนีออกไปได้ ทว่าวิธีการเผชิญหน้ากับความตายเช่นนี้ทำให้กายจิตของเขาบาดเจ็บสาหัส เป็นเรื่องยากยิ่งนักที่กายจิตจะต้องทะลวงผ่านลาวาที่ถล่มทลายทั้งหมดนี้…
…
ผ่านไปหลายวัน ในที่สุด กู้ซีจิ่วได้พบกับร่างเดิมของตัวเองอีกครั้ง
มันอยู่ในโลงผลึกแก้ว หลับตาราวกับกำลังนอนหลับอยู่ เห็นได้ชัดว่า บาดแผลที่หัวใจได้รับการรักษาอย่างดีแล้ว ดูไม่ออกว่าเสื้อคลุมที่สวมใส่มาจากไหนกัน แต่ดูจากผิวพรรณที่เรียบลื่นและเงางามเช่นนี้ ใบหน้าเล็กถึงขั้นแดงระเรื่อ ก็รู้ได้ทันทีว่ามันฟื้นฟูได้อย่างยอดเยี่ยม
โลงผลึกแก้วนี้วางอยู่ที่ตำหนักน้ำแข็งแห่งหนึ่งภายในวังค้ำนภาของตี้ฝูอี
เดิมที ตี้ฝูอีอยากพาเธอกลับไปวังอู๋ถงมรกต ฐานลับที่แท้จริงของเขา แต่กู้ซีจิ่วไม่ยินยอม สัญชาตญาณเธอรู้สึกว่าร่างโคลนนิ่งนี้ของตัวเองมีปัญหา ต่อให้ใช้วรยุทธ์ทำลายอุปกรณ์บอกตำแหน่งนั้นได้ เธอยังคงรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย…
วังอู๋ถงมรกตของตี้ฝูอีเป็นความลับยิ่งนัก และเป็นที่อยู่อาศัยของเทพศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน ไม่มีคนภายนอกล่วงรู้มาก่อน สถานที่ลับขนาดนั้น กู้ซีจิ่วไม่ต้องการพาร่างที่ไม่ปลอดภัยเช่นนี้ไป ดังนั้น เธอจึงเสนอให้กลับวังของเขาในฐานะทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก่อน ถึงแล้วค่อยว่ากัน
ตี้ฝูอีกหลุบตาลงเล็กน้อย และไม่รู้ว่าคิดอะไรจึงยินดีตอบตกลง ดังนั้น จึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังอาณาจักรเฟยซิง กลับวังค้ำนภา
อาณาจักเฟยซิงเพิ่งเปลี่ยนองค์จักรพรรดิใหม่ หรงเจียหลัวเพิ่งสืบทอดราชบัลลังก์ เรื่องราวยุ่งยากซับซ้อนต่างรอเขาไปจัดการ ทว่าเมื่อได้ยินว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกลับอาณาจักรจึงมาเยี่ยมเยียนสักครั้ง
ตี้ฝูอีเป็นพวกซึนเดเระ ร่างกายของเขาตอนนี้ไม่สู้ดี ไม่ประสงค์รับแขก จึงให้สานุศิษย์ปฏิเสธไป ไม่ให้หลงเจียหลัวเข้าแม้แต่ประตูใหญ่ หลงเจียหลัวจึงทำได้แค่กลับไปอย่างไม่พอใจ
แน่นอนว่า กู้เซี่ยเทียน พ่อของกู้ซีจิ่วในชาตินี้ที่ไม่รู้ว่าไปรับข่าวสารมาจากไหน ว่ากู้ซีจิ่วก็อยู่ที่วังค้ำนภา ตั้งใจมาเยี่ยมเยียนอย่างเป็นทางการ ปรารถนาที่จะได้พบลูกสาวที่หายสาบสูญเป็นเวลานาน เขายิ่งเลวร้ายกว่า ถูกยามเฝ้าประตูของวังค้ำนภาปฏิเสธไปโดยที่ไม่ได้เข้าไปรายงานแม้แต่น้อย…
หลังจากที่กู้ซีจิ่วมาถึงวังค้ำนภา ตี้ฝูอีส่งสาวใช้มารับใช้นางสี่คน ให้นางพักผ่อนก่อน
อย่างไรเสีย นางพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อกำจัดอุปกรณ์บอกตำแหน่งนั้น เหนื่อยล้าอ่อนแรงยิ่งนัก ควรจะพักผ่อนให้มากก่อนแล้วค่อยหารือกันต่อ
กู้ซีจิ่วว้าวุ่นในใจ เธอคิดถึงร่างเดิมของตัวเอง…
ดังนั้น หลังจากหลับไปตื่นหนึ่งก็รีบไปหาตี้ฝูอี เพื่อถามดูว่าร่างเดิมของตัวเองนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ยังถูกอูอู๋เหยียนยึดครองอยู่หรือไม่
ผลลัพธ์คือตี้ฝูอีกำลังกักตนอยู่ในสถานะที่ไม่อาจรบกวนได้ ดังนั้นเธอจึงออกไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้รอบหนึ่ง จากนั้นก็ได้พบกับเจ้าหอยยักษ์…
เจ้าหอยยักษ์น่าจะกำลังคลายความเบื่อหน่ายภายในสวนดอกไม้ วินาทีที่มองเห็นกู้ซีจิ่ว มันกระโจนเข้าหาดังลูกกระสุนปืนใหญ่ หยุดห่างจากเธอไปหนึ่งจั้ง ตัวน้อยภายในเจ้าหอยยักษ์จ้องมองเธอน้ำตาเอ่อล้น “นาย…นายท่าน!”
กู้ซีจิ่วคาดไม่ถึงว่าจะเจอมันที่นี่ ตอนแรกที่เธอออกมาทำภารกิจกับอิงเหยียนนั่ว เนื่องจากกลัวว่าพาสัตว์เลี้ยงวิญญาณสามตัวไปด้วยจะโจ่งแจ้งเกินไป ดังนั้นเธอจึงให้พวกมันอยู่ที่สำนักชุมนุมสวรรค์ ทั้งสามตัวฝึกฝนที่เขาลูกนั้น ยามที่กู้ซีจิ่วออกมายังบอกลาพวกมัน ทำกับข้าวให้ทั้งสามตัวกินมื้อหนึ่ง
———————————————————————-