ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1419 (1)+(2)
บทที่ 1419 ดูเหมือนไอ้สารเลวนี้กำลังจะก่อเรื่องแล้ว! (1)
คืนนี้หลงซือเย่ดื่มสุราไปไม่น้อยเลย ถึงแม้จะกินลูกกลอนสร่างเมาของเธอไปแล้ว แต่ผลจากอาการเมามายสมควรยังคงอยู่ อย่างเช่นหน้าแดง หายใจหอบหนัก คลุ้งกลิ่นสุรา ยามนี้ทั้งร่างของหลีเมิ่งซย่ายังมีกลิ่นสุราอยู่เลย!
แต่หลงซือเย่ในยามนี้กลับไม่มีผลกระทบจากอาการเมามายเลย เขาดูคล้ายว่าหลับไปตามปกติ กู้ซีจิ่วเข้าใกล้เขาเล็กน้อย ไม่ได้กลิ่นสุราจากร่างเขาเลยสักนิด
เขามียาสร่างเมาสูตรพิเศษหรือ?
หากว่าหลงซือเย่มียาเช่นนี้อยู่จริง จะต้องมอบให้เธอกับหลีเมิ่งซย่าแน่นอน ไม่มีทางงกไว้คนเดียว และเมื่อเขาสร่างเมาฉับไวถึงเพียงนี้ ก็ไม่น่าจะรั้งอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้…
ยามนี้เขาคือหลงฟั่นสินะ?
หลงฟั่นกับหลงซือเย่ในยามนี้ค่อนข้างแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นหงซือเย่โหนกคิ้วกว้าง สันจมูกโด่ง หลงซือเย่จะองอาจกว่าหลงฟั่นเล็กน้อย หลงฟั่นจะค่อนข้างอ้อนแอ้นนุ่มนวล แฝงความเจ้าสำอางเล็กน้อย
ยามแปลงโฉมขอเพียงเสริมแสงเงาเล็กน้อยก็ส่งผลให้สันจมูกดูโด่งขึ้นได้ ทว่ายังคงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ
คนที่หลับอยู่บนเตียงในยามนี้เป็นหลงซือเย่จริงๆ มิใช่ผู้อื่นแปลงโฉมปลอมตัวมา
หรือว่าในร่างเขาจะมีสองวิญญาณจริงๆ?
สำหรับสถานการณ์เช่นนี้กู้ซีจิ่วไม่สามารถตรวจสอบได้ เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง จึงหันหลังแล้วใช้วิชาเคลื่อนย้ายจากไป
สิ่งที่เธอไม่เห็นคือ หลังจากเธอจากไปได้ไม่นาน หลงซือเย่ที่อยู่ด้านหลังก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขามองตำแหน่งที่กู้ซีจิ่วเคยยืนอยู่อย่างค่อนข้างใจลอย สักพักมุมปากเขาก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
เสี่ยวซีจิ่ว ในที่สุดเธอก็ปรากฏตัวแล้ว!
เธอรู้ไหมว่าฉันตามหาตัวเธอลำบากยากเย็นมากแค่ไหน!
ไม่ได้เจอกันแปดปี ไม่น่าเชื่อว่าพลังวิญญาณจะบรรลุขั้นสิบแล้ว ดูเหมือนว่าร่างกายเล็กที่เธอใช้อยู่จะเข้ากันมากสินะ
เขาหลับตาลงนิดๆ คล้ายจะจับสัมผัสอะไรบางอย่าง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงลืมตาขึ้น
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเธออยู่ห้องข้างๆ ทว่าเขายังคงสัมผัสถึงเธอไม่ได้อยู่ดี ดูท่าตัวจับสัมผัสในร่างเธอจะถูกเธอสลายไปแล้ว สาวน้อยสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้งแล้ว!
มิน่าเขาถึงจับสัมผัสเธอไม่ได้เลยมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ และหาตัวเธอไม่พบ ยังนึกอยู่ว่าเธอประสบเหตุไม่คาดฝันอันใดไปนานแล้ว ถึงขั้นที่เคยเรียกวิญญาณเธอ แต่ก็เรียกมาไม่ได้เลย
นึกว่าดวงวิญญาณนางถูกผู้อื่นทำให้แตกสลายไปเสียแล้ว ทำให้เขาเป็นกังวลอยู่เนิ่นนาน โศกเศร้าอยู่เนิ่นนาน…
เขายิ้มแวบหนึ่ง มุมปากหยักยิ้มอ่อนโยน ดวงตาคู่นั้นถึงขั้นที่เจือแววรักใคร่เอ็นดู คล้ายจะปีติยินดียิ่งนัก ท่าทางนั้นเหมือนศิลปินคนหนึ่งคนที่คิดว่าผลงานชิ้นเอกที่ตนพึงพอใจที่สุดถูกปืนใหญ่ถล่มไปแล้ว กลับคาดไม่ถึงว่าจะยังอยู่ ถึงขั้นที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิมด้วย
เสี่ยวซีจิ่ว ถึงแม้เธออยากให้ฉันตายอยู่ตลอด แต่ดูเหมือนฉันจะยิ่งชอบเธอขึ้นเรื่อยๆ แล้ว! เธอควรเป็นของฉัน และเป็นแค่ของฉัน…
เพียงน่าเสียดายที่ร่างนั้นถูกผู้อื่นทำให้มีมลทินแล้ว ไม่สมบูรณ์แบบปานนั้นอีกต่อไป…
แต่ก็ไม่เป็นไร เขาสามารถสร้างร่างใหม่ที่สมบูรณ์พร้อมให้เธออีกร่างได้ แน่นอนว่าพลังวิญญาณในร่างจะถดถอยลง แต่นั่นก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน ขอเพียงดวงวิญญาณนางแข็งแกร่งก็พอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือเด็กสาวจะแข็งแกร่งมากมายไปทำไมเล่า? ทำให้เชื่องยาก ไม่เชื่อฟังคำสั่ง ต้องอ่อนแอสักหน่อยสิเช่นนี้ยามที่รั้งไว้ข้างกายเขา จะได้ไม่ปองร้ายเขาอยู่ตลอดเวลา…
ดูเหมือนสาวน้อยจะนึกสงสัยเขาขึ้นมาแล้ว ถึงได้เร้นกายเข้ามาแอบดูเขา…
โชคดีที่เขาไม่ได้เผยพิรุธอะไร เธอน่าจะตรวจไม่พบอะไร
สรุปแล้วเธอคุยอะไรกับหลงซือเย่กันแน่? หลายปีมานี้เธอไปอยู่ที่ไหนมา? เหตุใดจึงฝ่าทะลวงขั้นได้รวดเร็วถึงเพียงนี้? ร่างกายเธอไม่บริสุทธิ์แล้ว คงจะครองคู่กับตี้ฝูอี นึกไม่ถึงว่าตี้ฝูอีที่หายสาบสูญไปนานหลายปีจะครองคู่โบยบินกับเธอแล้ว…แล้วตอนนี้ตี้ฝูอีอยู่ที่ไหนกัน?
—————————————————————-
บทที่ 1419 ดูเหมือนไอ้สารเลวนี้กำลังจะก่อเรื่องแล้ว! (2)
คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในสมองเขา เขาอยากเรียกวิญญาณอีกดวงในร่างให้ตื่นมาแถลงไขยิ่งนัก แต่ก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะสัมผัสถึงเขาแล้วป้องกันอย่างสมบูรณ์ได้…
เห็นทีว่าเขาจะต้องหลอมรวมกับอีกฝ่ายให้เร็วขึ้นเสียแล้ว! มีเพียงเขาผสานเป็นหนึ่งเดียวกับอีกฝ่ายอย่างแท้จริง ถึงจะกระทำเรื่องที่ตนต้องการได้ เรื่องมากมายก็จะง่ายดายดั่งลงแรงครึ่งเดียวได้ผลเท่าตัว
เขาหลุบตาครุ่นคิดอยู่ตรองนั้น จู่ๆ มือเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว คิ้วขมวดมุ่น ราวกับปวดใจยิ่งนัก
เขาวางมือบนทรวงอก มุมปากยกขึ้นคล้ายจะหยักยิ้ม
อาซี แกทรมานมากใช่ไหม?
นางในดวงใจกลายเป็นภรรยาของชายอื่น แกเลยเริ่มใช้เหล้าย้อมใจอีกครั้งสินะ?
ไร้ค่าจริงๆ!
ชายชาตรีอกสามศอก เมื่อชอบสิ่งใดฉกชิงมาเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว หากแกครอบครองเธอแต่แรก ไหนเลยจะมีเรื่องของตี้ฝูอีได้? แกให้เกียรติเธอเกินไป ถ้าแกบีบบังคับเธอสักนิด ก็เผด็จศึกไปแล้ว ตี้ฝูอีแข็งแกร่งกว่าแก ห้าวหาญกว่าแก ฐานะสูงกว่าแก แกถึงได้แพ้หมดรูปแบบนี้…
วางใจเถอะ ยกทุกอย่างให้ฉัน ฉันจะช่วยให้แกได้ครอบครองเธอ ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของแก ศิโรราบให้แกไปชั่วชีวิต…
เขายกมือขึ้นแล้วมองดูมือตน ยิ้มอีกแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงเบาว่า “อาซี ร่างนี้ของแกสมบูรณ์แบบมาก ฉันจะช่วยหล่อหลอมให้ร่างนี้ของแกไปถึงจุดสูงสุด ช่วยให้แกได้ยืนอยู่สูงเหนือปวงชน อย่าต่อต้านฉันเลย แกกับฉันเดิมทีก็เป็นหนึ่งเดียวกันอยู่แล้ว…”
น้ำเสียงเขาทุ้มต่ำ ดึงดูด แฝงความสั่นพร่าที่พิสดาร ราวกับกำลังสะกดจิตปลอบขวัญดวงวิญญาณที่ค่อนข้างกระสับกระส่าย…
ยามที่เขาอ้าปากดูเหมือนจะได้กลิ่นสุราเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วนิดๆ “ภายหน้าไม่อนุญาตให้ดื่มสุราแล้ว ข้ารังเกียจกลิ่นสุรา!”
เขาหลับตาลงมือทำมุทราตรงหน้าหน้าอก ดูเหมือนจะชำระสิ่งต่างๆ ในร่างอยู่…
….
กู้ซีจิ่ววนไปทั่วทุกซอกทุกมุมภายในโรงเตี๊ยมแล้ว ในที่สุดก็พบแผ่นโลหะเล็กๆ แปลกๆ ชิ้นหนึ่งอยู่ในห้องครัว แผ่นโลหะนี้ฝังตัวอยู่ที่มุมตู้ หลอมเป็นเนื้อเดียวกับตะปูบนตู้ ถ้าไม่สังเกตให้ละเอียดไม่มีทางมองความผิดปกติของมันออก
กู้ซีจิ่วกดฝ่ามือลงบนแผ่นโลหะนั้น แผ่นโลหะแข็งๆ ที่ฝังตัวอยู่ก็ร่วงลงบนฝ่ามือเธออย่างไร้สุ้มเสียง
บนแผ่นโลหะมีตราผนึกอยู่ เธอจึงทำลายผนึกนั้นเสีย สัมผัสได้ทันทีว่าบนนั้นมีพลังวิญญาณประหลาดที่แข็งแกร่งอยู่…
เธอล้วงยันต์ถ่ายทอดเสียงของตัวเองออกมา ยันต์ถ่ายทอดสียงส่องแสงกะพริบถี่รัว ชัดเจนยิ่งนักว่าได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้
เธอมองโครงสร้างของแผ่นโลหะอย่างละเอียดอีกครั้ง หรี่ตาเล็กน้อย เป็นของที่มีวิทยาการสูงยิ่งนัก! ทั้งยังผสานเข้ากับพลังวิญญาณของยุคนี้ด้วย เห็นทีว่าสิ่งนี้จะเป็นของหลงฟั่น
เธอมองสีสันของโลหะแผ่นเล็กๆ นี้ คล้ายจะเก่าอยู่บ้าง น่าจะเป็นปีๆ แล้ว
เพียงแต่ก็ยากจะบอกได้ว่ามีคนจงใจทำให้สิ่งนี้ดูเก่าหรือไม่..
ของทุกอย่างพอเกี่ยวข้องกับตัวหลงฟั่นแล้ว เช่นนั้นก็จะเกิดเครื่องหมายคำถามนับไม่ถ้วนขึ้น ทุกอย่างดูเป็นไปได้ทั้งนั้น
หากว่าในร่างของหลงซือเย่มีวิญญาณดวงที่สองอยู่จริงๆ จะใช่หลงฟั่นไหมนะ?
ถึงแม้จะกล่าวไว้ว่าในยุคนี้วิญญาณสองดวงไม่อาจอยู่ร่วมกันในร่างเดียวได้ แต่อย่างไรเสียชาติก่อนหลงซือเย่ก็เป็นร่างโคลนนิ่งของหลงฟั่น สนามพลังของดวงวิญญาณคนทั้งสองย่อมใกล้เคียงกันยิ่งนัก เช่นนั้นร่างกายของหลงซือเย่ก็น่าจะเข้ากับสนามพลังของหลงฟั่นได้ดียิ่งนัก เรื่องที่เขาสิงร่างหลงซือเย่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นคือหลงฟั่นผู้นี้เป็นพวกคลั่งชีววิทยามีความรู้บางอย่างที่คนอื่นไม่รู้ บางทีเขาอาจจะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้…
กู้ซีจิ่วมองแผ่นโลหะชิ้นเล็กๆ ในมือปฏิกิริยาแรกคืออยากทำลายมันทิ้ง ขณะที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็ชะงักไปอีกครั้ง ถ้าเธอทำลายสิ่งนี้ทิ้งในยามนี้เกรงว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นได้…
——————————————————————–