ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1426+1427
บทที่ 1426 นายท่านคาดการณ์แม่นยำดั่งเทพเซียนโดยแท้!
เขาลอบจัดวางหน่วยกล้าตายไว้ข้างกายทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม ปะปนจนได้รับความไว้ใจจากทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมแล้ว ขอเพียงเขาสั่งการคนเหล่านี้ก็จะลงมือเลย
ในเมื่อทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ได้รับการอบรมบ่มเพาะจากเขา ย่อมทราบดีว่าจุดอ่อนของเขาอยู่ตรงไหน คิดจะสังหารเขาก็มิใช่เรื่องยากเย็นจนเกินไป…
เมื่อจัดการทุกอย่างแล้ว เขานอนลงบนเตียงอีกครั้ง เงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวจากห้องพักของพวกตี้ฝูอี แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย ตี้ฝูอีคงกลัวผู้อื่นจะรบกวนการอภิรมย์ของพวกเขาทั้งคู่ จึงติดตั้งเขตแดนไว้…
ตอนนี้พวกเขาจะประกอบกิจกันอยู่หรือเปล่านะ?
หลงฟั่นกำมือแน่น แววตามืดดำล้ำลึก คล้ายมีเลือดลมพลุ่งพล่านอยู่ในทรวง เขาหลับตาลงเล็กน้อยสะกดความพลุ่งพล่านในทรวงลงไป
ให้เขาได้ใจไปสักพักแล้วกัน เขาจะต้องมีช่วงเวลาที่ร่ำไห้ ต้องมีช่วงเวลาที่ถูกตัวเขาหลงฟั่นเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้า!
เป็นเขาที่สร้างซีจิ่วขึ้นมา สตรีที่เลิศล้ำที่สุดในโลกนี้ สมควรต้องเป็นของเขา…
….
ไม่ทราบเช่นกันว่าผ่านไปนานเพียงใด กู้ซีจิ่วนอนอยู่ในอ้อมแขนของตี้ฝูอี แทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว ยังไม่ลืมจะเอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง “ท่านขยันขันแข็งถึงเพียงนี้ ข้าจะท้องหรือเปล่านะ?”
ขณะที่เธอสะลึมสะลืออยู่คล้ายจะรู้สึกว่าตี้ฝูอีจุมพิตเธอคราหนึ่ง ดูเหมือนจะตอบอะไรมาสักประโยคหนึ่ง แต่เธอเหน็ดเหนื่อยและง่วงงุนเกินไป ได้ยินไม่ชัดก็ผล็อบหลับไปแล้ว
ตี้ฝูอีหลุบตามองดวงหน้ายามหลับใหลของนาง นางนอนหลับอย่างสงบยิ่งนักอยู่ในอ้อมขนเขา แขนข้างหนึ่งโอบเอวเขาไว้กึ่งหนึ่ง นี่เป็นท่าทางที่ต้องการพึ่งพายิ่งนัก ราวกับขอเพียงมีเขาอยู่ข้างกาย ต่อให้พายุฝนโหมกระหน่ำหนักหนาเพียงใดนางก็ไม่หวั่น
ตี้ฝูอียื่นมือทัดเส้นผมที่ยุ่งเหยิงตรงหน้าผากไปไว้หลังหูให้นาง หลับตาทำสมาธิอยู่ครู่หนึ่ง นิ้วมือเคลื่อนไหวเล็กน้อย คล้ายทำมุทราอันใดอยู่
ผ่านไปประมาณครึ่งเค่อ เขาก็ยืดกายขึ้น ล้วงป้ายหยกสื่อสารออกมาติดต่อกับมู่เฟิงแล้วสั่งการทันที “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมผู้นั้นมีภัย พวกเจ้าสี่คนไปคุ้มกันหน่อย”
มู่เฟิงยังงัวเงียจากการนอนอยู่ แต่ยามที่ได้รับการติดต่อจากตี้ฝูอีก็มีสติแจ่มใสขึ้นมาทันที ประสบการณ์ที่ติดตามบากบั่นมาหลายปีทำให้เขาเคยชินกับการตอบรับคำสั่งทันที “ขอรับ!”
“มีไหวพริบหน่อย อย่าทำให้ตัวปลอมผู้นั้นคลางแคลงว่าพวกเจ้าถอนพิษได้แล้ว”
“รับทราบ!”
“นายท่านขอรับ ผู้ที่ลอบสังหารไอ้ตัวปลอมต้องจับเป็นเพื่อไต่สวนไหมขอรับ?”
“ไม่ต้อง สังหารที่จุดเกิดเหตุได้เลย”
“ขอรับ”
ความจริงแล้วมู่เฟิงฉงนยิ่งนัก หากไม่มีถ้อยคำเหล่านี้ของตี้ฝูอีในยามนี้ หากพบเห็นมือสังหารเข้ามาปลิดชีพไอ้ตัวปลอม เขาคงนึกว่าเป็นการลงมือของนายท่านไปแล้ว!
วรยุทธ์ของตัวปลอมผู้นี้สูงส่งเกินไป หลายปีมานี้ถึงแม้จะมีคนมาลอบสังหารเขาเนกัน แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาทั้งสิ้น บ้างก็ถูกจับบ้างก้ถูกสังหาร ถูกสังหารยังดีเสียกว่า สิ้นเรื่องสิ้นราว ถ้าหากถูกจับจะถูกไอ้ตัวปลอมบีบคั้นให้สารภาพด้วยสารพัดวิธี ถูกเคี่ยวกรำจนคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง อยากตายก็ยากเย็นเหลือแสน เมื่อสาวตัวถึงผู้บงการได้ เจ้าตัวปลอมสั่งการให้ไปฆ่าล้างตระกูลผู้บงการรายนั้น ปีนั้นตระกูลไป๋หลี่ก็ถูกสังหารล้างตระกูลแบบนี้เช่นกัน…
วิธีที่ไอ้ตัวปลอมปฏิบัติต่อมือสังหารโหดเหี้ยมยิ่งนัก หลังจากสังหารคนแล้วยังนำร่างคนไปแขวนประจานด้วย ย่อมข่มขวัญฝูงชนเป็นธรรมดา เกือบปีแล้วที่ไม่เห็นมือสังหารบุกเข้ามา และส่วนใหญ่มือสังหารจะเลือกลงมือในยามที่ไอ้ตัวปลอมผู้นี้ออกไปข้างนอก ไม่มีมือสังหารรายไหนสามารถเข้ามาในคฤหาสน์นี้ได้…
ครั้งนี้เป็นผู้ที่มาคือใคร? แล้วนายท่านรู้ได้อย่างไร?
มู่เฟิงคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ แต่ยังคงเรียกพี่น้องทั้งสามมา เฝ้ารออยู่ในละแวกเรือนนอนของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม
ผ่านไปสักครู่ ภายในเรือนนอนก็มีเสียงต่อสู้วุ่นวายแว่วออกมาจริงๆ…
พวกมู่เฟิงทั้งสี่สบตากันแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจ นายท่านคาดการณ์แม่นยำดั่งเทพเซียนโดยแท้!
———————————————————————-
บทที่ 1427 ติดตามข้ารุ่งเรืองขัดขืนข้าต้องตาย
พวกมู่เฟิงทั้งสี่สบตากันแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจ นายท่านคาดการณ์แม่นยำดั่งเทพเซียนโดยแท้!
จากนั้นก็รอต่อไปอย่างอดทน…
คืนนี้ถูกลิขิตให้เป็นคืนที่ไม่อาจข่มตานอนได้ และคืนนี้ก็เป็นคืนแรกในประวัติการณ์ที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมค่อนข้างหลับไม่ลง
ในอดีตเขาสมควรจะเป็นคนที่เลิศล้ำยิ่งนักผู้หนึ่ง เพียงแต่สิ้นชีพมาเนิ่นนานเกินไปเขาลืมเลือนอดีตของตนไปหมดแล้ว ท่องอยู่ในปรโลกทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ทราบเลยว่ามาสิงสู่ร่างนี้เข้าตั้งแต่ยามไหน จากนั้นมีคนบอกเขาว่า นี่คือสังขารของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี เขากลายเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอีแล้ว!
นี่เปรียบเสมือนขนมเปี๊ยะท้องคำที่หล่นลงมาจากฟ้า ฟาดใส่เขาอย่างจัง
จากนั้นชีวิตของเขาก็ราวกับเปิดสูตรโกง มีคนมาถ่ายทอดวรยุทธ์ให้เขาในความฝัน บอกกล่าวอากัปกริยาในยามปกติของตี้ฝูอี เขาฉลาดเฉลียวยิ่งนัก เรียนรู้ได้ว่องไวยิ่ง อีกทั้งร่างกายนี้ก็แข็งแกร่งนัก พลังวิญญาณดั้งเดิมคือขั้นเก้าขึ้นไป และดวงวิญญาณของเขาก็แข็งแกร่งเช่นกัน สามารถควบคุมร่างนี้ได้ดั่งใจนึก ต่อมาเซียนหญิงลี่หวางก็มาอยู่ข้างกายเขา บอกเคล็ดลับการฝึกฝนมากที่ไม่มีในโลกใบนี้แก่เขา ยกตัวอย่างเช่นการฝึกฝนด้วยไอของวิญญาณอาฆาต…
เซียนหญิงลี่หวางควบคุมผู้คุ้มกันทั้งสี่ของทูตสวรรค์ฝ่ายให้เขา ให้พวกเขารับใช้เขา มีสี่ผู้คุ้มกันอยู่ข้างกาย ก็ไม่มีผู้ใดคิดว่าเขาเป็นตัวปลอมแล้ว และเขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองคือตัวปลอมเช่นกัน…
เขาคิดว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริงตายไปแล้ว และสวรรค์ก็เลือกให้เขาครอบครองสังขารนี้ ให้เขากลายเป็นตี้ฝูอี
ช่วงเวลาสองปีที่อยู่สูงส่งเหนือปวงชน ทำให้ความละโมบโลภมากของเขาขยายตัวสุดขีด คนในฝันเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์อยู่เสมอ แถมยังซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มหมอกด้วยทำให้เขามองไม่เห็นรูปร่างของอีกฝ่าย แต่คนผู้นั้นดีต่อเขายิ่งนักจริงๆ ให้เขาไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางของตี้ฝูอี เพียงให้กระทำการไปตามวิสัยของตนก็พอ ให้เขาได้ใช้ชีวิตตามอำเภอใจ…
ด้วยเหตุนี้เขาจึงหลงระเริงขึ้นเรื่อยๆ พฤติกรรมก็วิปริตขึ้นเรื่อยๆ นอกคอกขึ้นเรื่อยๆ แต่เนื่องจากเขามีอำนาจเด็ดขาด ประชาชนรากหญ้าเหล่านั้นจึงทำได้เพียงศิโรราบให้ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าติดตามข้ารุ่งเรืองขัดขืนข้าต้องตาย จนมาถึงวันนี้…
เขาได้ดั่งใจทุกอย่าง อย่างเดียวที่ไม่ค่อยได้ดั่งใจคือ คนในฝันเคยบอกเขาไว้ หากว่าเขาต้องการพลังยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด จะต้องฝึกฝนด้วยการครองตัวเป็นพรหมจรรย์ กล่าวก็คือเขาไม่อาจชิดเชื้อนารีได้
เขารู้สึกว่าข้อนี้ค่อนข้างฝืนนิสัยตามธรรมชาติของเขา แต่เพื่อให้ตนแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เขาจะอดทนข่มกลั้นสัญชาตญาณบุรุษของตนไว้
เพียงแต่คนในฝันก็เคยบอกไว้เช่นกัน ถ้าเขาบรรลุขั้นสิบแล้ว หากว่าไม่อยากทะลวงขั้นอย่างรวดเร็วต่อไปอีก ก็สามารถชิดเชื้อกับสตรีได้ ถึงขั้นที่สามารถอภิรมย์กับสตรีแปดนางได้ในหนึ่งคืน…
เขาเพิ่งบรรลุขั้นสิบเมื่อสองเดือนก่อน ครุ่นคิดอยู่หลายตลบ รู้สึกว่าเป็นช่วงที่ตนจะหาสตรีมาผ่อนคลายได้แล้ว
เมื่อทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายต้องการสตรีย่อมสะดวกง่ายดายยิ่งนัก ขอเพียงเขาเอ่ยออกไปเล็กน้อย คนมากมายก็จะแห่แหนกันมาเสนอตัวอุ่นเตียงให้
อันที่จริงเขากระหายกามายิ่งนัก แต่เซียนหญิงลี่หวางผู้นั้นกลับไม่อนุญาต บอกว่ายังไม่ถึงเวลา นี่ทำให้เขาหงุดหงิดยิ่ง
แต่เนื่องจากเรื่องมากมายยังต้องอาศัยเซียนหญิงลี่หวางผู้นี้อยู่ อีกทั้งเขาไม่อาจบ่ายหน้าหนีอีกฝ่ายอย่างแท้จริงได้ แต่ในใจก็ไม่ไคร่พอใจนัก
ส่วนคืนนี้เดิมทีเขาพักผ่อนไปแล้ว คนลึกลับที่ไม่ได้เข้าฝันเขามาหลายวันผู้นั้นได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
หนนี้เขานำข่าวอันประเสริฐมามอบให้เขาด้วย บอกว่าเขาสามารถกินเนื้อได้แล้ว! แถมคนผู้นั้นยังถ่ายทอดเคล็ดวิชาอย่างหนึ่งให้เขาด้วย บอกว่าขอเพียงใช้เคล็ดนนี้ยามประกอบกิจกับสตรี ไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้พลังยุทธ์ถดถอยลงเท่านั้น ยังจะทำให้ก้าวหน้าขึ้นอย่างมากด้วย! บอกว่าเคล็ดบำเพ็ญคู่นี้เป็นความลับสุดยอด
—————————————————————————-