ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1894+1895
ตอนที่ 1894 ตอนนี้นางถูกทุบตีจนอ่วมแล้ว!
เสินเนี่ยนโม่พึงพอใจ ตบศีรษะคนผู้นั้นเบาๆ “แบบนี้สิถึงจะเป็นเด็กดี!” แล้วสั่งการอีกประโยคหนึ่ง “ผมเจ้ายุ่งจนแทบจะกลายเป็นรังนกแล้ว ไปสางให้เรียบเสีย มิเช่นนั้นนายน้อยเช่นข้าเห็นแล้วจะหงุดหงิด”
สีหน้าคนผู้นั้นระทมขมขื่น “ขอรับ!”
กู้ซีจิ่วแล้วนึกขัน เจ้าเด็กแสบผู้นี้จู้จี้เกินไปแล้ว! ไม่เพียงแต่เป็นโรครักสะอาดเท่านั้นยังเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำด้วย…
เธอมองคนที่ถูกขี่ผู้นั้น อันที่จริงเรือนผมไม่นับว่ายุ่งเหยิงเลย เพียงชี้โด่เด่ออกมานิดหน่อยเท่านั้น
คนผู้นี้น่าจะไม่ใช่ข้ารับใช้ของเสินเนี่ยนโม่กระมัง?
แล้วเป็นใครกัน?
เธอมองเสินเนี่ยนโม่อีกแวบหนึ่ง รู้สึกอยู่เสมอว่าอาการเจ้าเด็กแสบคนนี้คล้ายกับคนผู้หนึ่ง ทว่านึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าคล้ายกับผู้ใด…
ความเคลื่อนทางด้านนี้ทำให้คนมากมาบนท้องถนนตะลึง พากันล้อมวงเข้ามา
ผู้คนที่อยู่ที่นี่เห็นได้ชัดว่ามีหลายคนยิ่งนักที่รู้จักหยวนเสินจวินผู้นี้ ยามนี้เมื่อเห็นนางจะประมือกับเด็กน้อยคนหนึ่ง ล้วนรู้สึกว่าน่าสนใจ ด้วยเหตุนี้คนจึงล้อมวงเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ…
หยวนเสินจวินเกรงว่าจะถูกผู้อื่นนินทาลับหลังว่าเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก จึงเอ่ยเสียงดัง “เด็กน้อย ข้าผู้เป็นเสินจวินไม่อยากจะประมือกับเด็กน้อยอย่างเจ้าเลย เจ้าสำนึกเสียใจตอนนี้ก็ยังทันนะ เพียงโขกศีรษะขอขมาข้าก็พอ…”
เสินเนี่ยนโม่พลันเหินกายขึ้นมา แสงสีรุ้งผุดขึ้นมาจากฝ่ามือ “จะสู้ก็สู้สิ จะพูดเหลวไหลมากมายไปทำไม?!”
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงประมือกัน…
และเมื่อเกิดการทะเลาะต่อตีขึ้นทางด้านนี้ มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกอยู่ ยามนี้จึงเล่าต้นสายปลายเหตุให้ผู้ที่มาทีหลังเข้าใจ
ด้วยเหตุนี้สายตาของคนมากมายจึงไปรวมอยู่ที่ร่างของกู้ซีจิ่วกับหลงซือเย่ ที่แท้การต่อยตีครั้งนี้ก็มีสาเหตุมาจากสองคนนี้!
เพียงแต่ สองคนนี้ทำตัวเป็นตาเฒ่าอยู่โยง ชมเรื่องครื้นเครงอยู่ด้านข้าง ปล่อยให้เด็กน้อยคนหนึ่งออกหน้าแทน…
ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ไม่รู้จักเสินเนี่ยนโม่เลย ดังนั้นจึงสนใจใคร่รู้ยิ่งนักว่าเด็กน้อยคนนี้คือใคร?
หยวนเสินจวินยังคงเชี่ยวชาญการต่อสู้นัก สมชื่ออย่างยิ่ง อีกทั้งยามที่ลงมือก็เฉียบขาดดุดัน ไม่เหลือทางหนีทีไล่ ถึงขั้นที่ได้รับสมญานามว่ากวนอิมสังหาร
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ค่อนข้างมีใจเที่ยงธรรม ต่างถลกแขนเสื้อเตรียมพร้อมอยู่ด้านข้าง หากว่าเด็กน้อยพลาดท่าพวกเขาจะรีบเขาไปช่วยคนทันที เลี่ยงไม่ให้หนูน้อยที่งดงามถึงเพียงนี้ถูกทุบจนน่วมเข้าจริงๆ…
แทบไม่มีผู้ใดมองเสินเนี่ยนโม่ในแง่ดีเลย…
แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งเค่อ ทุกคนก็เริ่มเห็นใจหยวนเสินจวินแล้ว…
เหตุผลไม่ใช่อื่นใดเลย ตอนนี้นางถูกทุบตีจนอ่วมแล้ว!
เรือนผมถูกสายลมกรีดเฉือนไปกว่าครึ่ง ใบหน้าซีดหนึ่งถูกซัดจนม่วงช้ำ มุมปากมีโลหิตไหลย้อยออกมา…
หยวนเสินจวินมิได้ทำตามที่ลั่นวาจาไว้เลย ที่บอกว่าจะต่อให้เสินเนี่ยนโม่สามกระบวนท่า แค่กระบวนท่าที่สองก็ถูกเสินเนี่ยนโม่ถีบจนกระเด็น ซี่โครงแทบจะหัก ดังนั้นนางจึงเริ่มลงมือในกระบวนท่าที่สาม…
นางต่อสู้อย่างดุดันเหี้ยมหาญเสมอมา แต่ยามที่ต่อกรกับเสินเนี่ยนโม่กลับคล้ายว่าจะถูกอีกฝ่ายจูงจมูกไปเสีย กระบวนท่าของเสินเนี่ยนโม่ไม่แพรวพราว ทว่าใช้การได้จริงยิ่งนัก ซ้ำยังว่องไวและรวดเร็วด้วย
ผู้ที่มีวรยุทธ์ต่ำต้อยเหล่านั้น มองกระบวนท่าที่เสินเนี่ยนโม่สำแดงได้ไม่ชัดเจนเลย เห็นเพียงมีเงาร่างวูบไหวหมุนวนอยู่รอบกายของหยวนเสินจวิน…หมุนจนทำให้คนวิงเวียนตาลาย
ยามนี้กู้ซีจิ่วเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์แล้ว ย่อมมองเห็นกระบวนท่าที่เสินเนี่ยนโม่สำแดงอย่างชัดเจน หัวใจพลันสั่นไหว
เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะ!
อายุน้อยขนาดนี้ก็สามารถสำแดงกระบวนยุทธ์ที่ซับซ้อนเหล่านั้นได้ลื่นไหลถึงเพียงนี้แล้ว!
การต่อสู้ครั้งนี้ดำเนินไปได้ไม่นาน ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ หยวนเสินจวินก็ถูกซัดจนหมอบแล้ว!
ซี่โครงหักไปสองสามซี่ เส้นผมก็เหลืออยู่เพียงไม่กี่ปอย ทั้งหน้าบวมช้ำไปหมด สองตาปูดโปนจนกลายเป็นขีด
เธอนอนพังพาบอยู่บนพื้นลุกไม่ขึ้น จ้องเสินเนี่ยนโม่อย่างไม่อยากจะเชื่อ “เจ้า…เจ้าเป็นใครกันแน่?!”
เสินเนี่ยนโม่ปัดมือกะจ้อยร่อย “เจ้าสนใจแล้วหรือว่าข้าเป็นใคร! เจ้าแพ้แล้ว สมควรรับโทษได้แล้ว”
————————————————————————————-
ตอนที่ 1895 เจ้าต้องโขกศีรษะขอขมาสามครั้ง
หยวนเสินจวินนิ่งงัน
บทลงโทษนั้นขายหน้าเกินไปแล้ว! นางรู้สึกว่านางจะขายหน้าคนผู้นั้นไม่ได้…
ดังนั้นนางจึงฝืนยันกายขึ้นมา ไม่พร้อมที่จะรับบทลงโทษนั้น เจตนาทำเป็นเลอะเลือน “หือ ที่เจ้าบอกให้ข้าขอโทษแม่นางผู้นี้น่ะหรือ? ได้สิ ข้าขอโทษ เช่นนี้ได้แล้วกระมัง?”
เสินเนี่ยนโม่กอดอกแล้ว “เจ้าต้องโขกศีรษะขอขมาสามครั้ง! ยังต้องคลานอีกสามรอบด้วย แล้วก็ด่าตัวเองว่าเจ้าใช้ตาสุนัขของตนมองหมิ่นผู้อื่น!”
“ข…ข้าผู้เป็นเสินจวินไม่เคยพูดเช่นนี้เสียหน่อย เด็กน้อยเจ้าจำผิดแล้ว…” นางยืนกรานปฏิเสธ รวบรวมกำลังลุกขึ้นมา ถอยหลังไป คิดจะเฉไฉหลบหนี
การถอยนี้ของนางหวิดจะเหยียบลงบนร่างคนผู้หนึ่งแล้ว
นางรีบหันไปมอง สิ่งที่เห็นกลับเป็นใบหน้าของกู้ซีจิ่ว
นางสะดุ้งโหยง!
เมื่อกี้นางเห็นกู้ซีจิ่วห่างออกไปหลายจั้งชัดๆ มาอยู่ด้านหลังนางตั้งแต่ยามใดกัน?! ไม่น่าเชื่อว่านางจะจับสัมผัสไม่ได้เลยสักนิด!
กู้ซีจิ่วไม่ได้พูดอะไรกับนางมากนัก หยิบยันต์ถ่ายทอดเสียงแผ่นหนึ่งออกมา เปิดใช้ยันต์ บทสนทนาก่อนหน้านี้ของคนสองสามคนแว่วออกมาอย่างไม่ตกหล่นไปเลยสักคำ ฝูงชนที่มุงดูอยู่ต่างได้ยินชัดเจน
วิธีนี้ของกู้ซีจิ่วเป็นการตบหน้าหยวนเสินจวินเข้าอย่างจัง นางอับอายจนพาลโกรธแล้ว “เสี่ยวเซียนชั้นต่ำอย่างเจ้ามีคุณสมบัติอะไรให้ข้าผู้เป็นเสินจวินโขกศีรษะให้เจ้ากัน ข้าผู้เป็นเสินจวินไม่โขก! เจ้าจะทำอะไรได้?!”
ในบรรดาคนที่มุงดูอยู่ มีคนส่วนหนึ่งที่เป็นสหายของหยวนเสินจวินอยู่ด้วย ในบรรดาคนเหล่านั้นไม่ขาดแคลนผู้เยี่ยมยุทธ์เลย พวกเขาก็พากันขอความเมตตาให้แก่หยวนเสินจวิน ให้พวกเสินเนี่ยนโม่ทั้งสามให้อภัยและละเว้นคนเสีย ซ้ำยังกล่าวว่าถึงแม้หยวนเสินจวินจะทำไม่ถูก แต่ความจริงถึงอย่างไรก็เป็นความจริง ชนชั้นเสี่ยวเซียนอย่างกู้ซีจิ่วอยู่ข้างกายหลงซือเย่แล้วทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเป็นสาวใช้ได้ง่ายๆ จริงๆ…
คนเหล่านี้ล้อมอยู่รอบกายของหยวนเสินจวิน ทำให้หยวนเสินจวินฮึกเหิมขึ้นมา นางถลึงตามองเสินเนี่ยนโม่ “เด็กน้อยคนนี้น่าชังเกินไปแล้ว! ต่อให้เจ้ามีฐานะสูงส่ง เป็นฝ่าบาทจากจวนอันใด ก็ไม่อาจใช้เสินจวินผู้หนึ่งต่างสัตว์พาหนะได้กระมัง?! ก่อนหน้านี้เขาขี่คอของเสินจวินคนหนึ่งอย่างลอยหน้าลอยตา จองหองอย่างยิ่ง!”
ที่ทวีปแห่งนี้ การขี่อยู่บนศีรษะของผู้อื่นถือเป็นการหยามเกียรติประการหนึ่ง หยวนเสินจวินสาธยายเรื่องที่ก่อนหน้านี้เสินเนี่ยนโม่ขี่คอของเสินจวินคนหนึ่งออกมาอย่างฉาดฉานรอบหนึ่ง ท่าทางราวกับทนเห็นความอยุติธรรมไม่ได้ ยามนี้นางผันตัวมาเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมแล้ว ติเตียนเรื่องนี้เป็นการใหญ่ “ต่อให้เสินจวินผู้นี้เป็นข้ารับใช้ของเจ้า เจ้าให้เขาอุ้มเจ้าก็ยังพอทน แต่กลับให้ผู้อื่นแบกเจ้า ไม่เห็นผู้อื่นเป็นคนเกินไปแล้ว! จักรพรรดิเซียนองค์ปัจจุบันไม่พิสมัยการเห็นข้ารับใช้ไม่ใช่คนที่สุด หนำซ้ำขารับใช้คนนี้ของเจ้ายังเป็นเสินจวินคนหนึ่งด้วย…”
ลากตัว ‘ข้ารับใช้เสินจวิน’ ที่ยืนนิ่งปานหุ่นไม้อยู่ตรงนั้นตลอดเข้ามา “เจ้าอย่าได้กลัวเขา! ต่อให้เขาจะสูงส่งอย่างไรก็ไม่อาจสูงส่งไปกว่าจักรพรรดิเซียนได้ เจ้าเป็นเสินจวินผู้มีเกียรติเหตุใดต้องไปเป็นข้ารับใช้เขา เจ้า…”
เสินเนี่ยนโม่มองนางเล่นละคร เมื่อได้ยินนางเอ่ยมาถึงตรงนี้ ถึงได้เปิดปากเอ่ย “เขาไม่ใช่ข้ารับใช้ของข้าผู้เป็นนายน้อย” กวักมือเรียก ‘ข้ารับใช้’ คนนั้นคราหนึ่ง “มานี่ เจ้าอธิบายหน่อยสิว่าเจ้าเป็นผู้ใด”
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นหวาดกลัวเขา มองดูเขา จากนั้นก็มองดูคนอื่นๆ จู่ๆ ก็คุกเข่าลงเบื้องหน้าเสินเนี่ยนโม่เสียงดังตุบ “ฝ่าบาทน้อย เป็นผู้น้อยที่พันไม่ควรหมื่นไม่ควร มองเห็นฝ่าบาทน้อยรูปโฉมงดงามจึงเกิดความคิดจะลักพาตัว ฝ่าบาทน้อยใช้ผู้น้อยต่างวัวต่างม้า ล้วนเป็นผู้น้อยที่ยินยอมพร้อมใจ นับว่าเป็นการทำคุณไถ่โทษ…”
ฝูงชนตกตะลึง…
หยวนเสินจวินพูดไม่ออกแล้ว…
ที่แท้คนผู้นี้คือโจรลักพาตัว คิดจะหลอกล่อลักพาตัวเด็กน้อยคนนี้ กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกเด็กน้อยคนนี้ควบคุมแทน ถึงได้ถูกเด็กน้อยใช้ต่างสัตว์พาหนะเช่นนี้…
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ผู้คนล้วนชิงชังโจรลักพาตัวอย่างยิ่ง
————————————