ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2045+2046
บทที่ 2045 ถูกทรมาน 3
กลิ่นเนื้อย่างยังคงเป็นสิ่งที่มันชื่นชอบที่สุด ยั่วให้มันอยากจนน้ำลายไหล แต่พอเปิดฝาหอยออกมา สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่เนื้อย่าง แต่เป็นน้ำมันเดือดพล่าน!
ในครั้งแรกที่มันถูกกลิ่นหอมนี้ล่อลวง ได้แง้มฝาออกเล็กน้อย ผลคือหวิดจะโดนน้ำมันเดือดๆ ทะลักเข้ามาในเปลือกหอยแล้ว!
โชคดีที่มันหุบฝาได้เร็วพอ! ถึงหลบเลี่ยงหายนะไปได้
ด้วยเหตุนี้ ร่างกายนุ่มนิ่มที่นอนอยู่ในเปลือกหอยของมันจึงถูกน้ำมันลวกเข้า มีหลายจุดที่พุพองขึ้นมา ขยับเล็กน้อยก็เจ็บปวดราวกับถูกไฟลน
เจ้าหอยยักษ์มีชีวิตอยู่มานานปานนี้แล้ว ยังไม่เคยถูกทรมานทั้งเป็นเช่นนี้เลย
ทุกนาทีทุกวินาทีล้วนทรมานแสนสาหัส จนมันอยากตายไปเสีย…
มีเสียงที่เยียบเย็นปานคมมีดสายหนึ่งแว่วมาจากด้านนอก
“เจ้ายังไม่ยอมรับอีกหรือ?”
ผายลม! ยอมรับกับปู่เจ้าสิ!
เจ้าหอยยักษ์รู้สึกว่าตนถูกปรักปรำ มันเพียงอยากจะล่ากวางชะมดกลับไปให้เจ้านายได้ลับฟันสักตัว เกิดความตะกละขึ้นมาชั่วขณะ เห็นว่ามีกวางชะมดอยู่ไม่น้อย จึงสังหารแล้วย่างให้ตัวเองกินสามสี่ตัว
ผลคือพบพานกับการซุ่มโจมตี!
มีเสินจวินสามคนคิดจะล่ามัน ซ้ำยังบอกว่ามันเป็นมือสังหารสัตว์เซียนอันใดอีก เดิมทีมันคิดจะสู้กับเสินจวินสามคนนี้สักยก ทำให้อีกฝ่ายได้รู้ถึงความร้ายกาจของมัน แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ก็สัมผัสถึงไอดุร้ายมหาศาลหอบหนึ่งได้!
ประสาทสัมผัสในด้านนี้ของเจ้าหอยยักษ์เฉียบแหลมยิ่ง ไอดุร้ายนั้นรุนแรงมาก ทำให้เปลือกหอยของมันแทบจะลุกชันขึ้นมา สัญชาตญาณของมันสัมผัสได้ถึงอันตราย ไม่สนใจจะต่อสู้กับเสินจวินสามคนนั้นแล้ว หันหลังเผ่นหนีไป…
เสินจวินสามคนนั้นไล่ตามหลังมันมาอย่างกระชั้นชิด…
เจ้าหอยยักษ์วิ่งๆ อยู่ก็รู้สึกว่าสมองค่อนข้างมึนงง คลุ้มคลั่งอย่างยิ่ง และหิวโหยอย่างหนัก
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หันหลังกลับไปประจัญบานกับเสินจวินสามคนนั้น
ผลคือ สัญชาตญาณความเป็นสัตว์ของมันปะทุออกมา กินเสินจวินสามคนนั้นเข้าไป…
พอกินเสร็จมันก็คล้ายจะได้สติกลับมา ตกใจจนหุบเปลือกไม่ลงแล้ว!
เจ้านายสั่งห้ามไว้ชัดเจนไม่ให้มันกินคน ยิ่งไปกว่านั้นคือสิ่งที่มันกินยังเป็นเสินจวินที่มีชื่อแซ่สามคนอีกด้วย!
มันโดนข้อหาหนักแล้ว!
ขณะที่มันกำลังเสียศูนย์อยู่ ก็มีสัตว์เซียนอีกสามตัววิ่งเข้ามา สัตว์เซียนสามตัวนี้เป็นของเสินจวินสามคนนั้น ยามนี้กรูกันมาคงคิดจะมาล้างแค้นแทนผู้เป็นนาย
พวกมันด่าทอเจ้าหอยยักษ์อย่างรุนแรง ด่าว่ามันเป็นสวะในหมู่สัตว์เซียน เจ้าหอยยักษ์หัวร้อนขึ้นมาชั่วขณะ เปิดศึกกับสัตว์เซียนสามตัวนั้นอีกครั้ง และเขมือบสัตว์เซียนสามตัวนั้นเข้าไปเช่นกัน
และในขณะที่กินสัตว์เซียนสามตัวนี้อยู่ ได้ถูกสี่อารักษ์หล่นลงมาจากฟ้าพบเห็นเข้า…
สี่อารักษ์นี้แต่ละคนล้วนเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นซ่างเซียนขึ้นไป เจ้าหอยยักษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย จึงถูกจับกุม…
ยามที่มันเพิ่งถูกจับ ถูกขังเอาไว้ในขวดใบหนึ่ง ด้านในเย็นสบายยิ่งนัก ทำให้หัวที่ร้อนผ่าวของมันเย็นลงได้ ในที่สุดก็ทราบแล้วว่าตนทำผิดพลาดใหญ่หลวงอย่างไม่อาจแก้ไขได้…
หากว่าต้องการแค่ให้มันยอมรับผิด เจ้าหอยยักษ์ย่อมไม่โต้แย้ง
แต่คนเหล่านี้พูดปาวๆ ว่ามันเป็นสัตว์มารที่เขมือบกินสัตว์เซียนโดยเฉพาะ บอกว่ามันทำบาปมหันต์มากมาย บอกว่ามันสังหารสัตว์เซียนไปแล้วสิบแปดตัว ยามนี้ยังเพิ่มเสินจวินสามคนนั้นเข้าไปอีก…
เจ้าหอยยักษ์ไม่ยอมรับ มันยอมรับเพียงสิ่งที่มันกินเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ อารักษ์คนหนึ่งในหมู่นั้นจึงทรมานมัน เทมันออกมาจากในขวด ใช้สายฟ้าผ่ามัน ใช้กระบี่เฉือนมัน ใช้ไฟเผามัน…
จนปัญญาที่ระดับการบ่มเพาะของเจ้าหอยยักษ์สูงส่ง มีเปลือกหอยคุ้มกาย ทัณฑ์ทรมานเหล่านี้สำหรับมันแล้วล้วนเป็นหยาดฝนร่อนรินเท่านั้น ทำร้ายมันไม่ได้เลย
สุดท้ายยังคงเป็นอารักษ์ในชุดแดงคนหนึ่งที่ล้วงน้ำเตาใบนั้นออกมา…
ด้วยเหตุนี้ ชีวิตที่ทุกข์ทรมานปานตกนรกทั้งเป็นของเจ้าหอยยักษ์จึงได้เริ่มต้นขึ้น
น้ำเต้าลูกนี้ประหลาดยิ่งนัก มันอยู่ข้างในไม่เพียงแต่ถูกทรมานเท่านั้นยังโหยหิวแสนสาหัสด้วย
หิวจนท้องกับหลังแทบจะลีบติดกันอยู่หนึ่งวัน จนปรารถนาจะทึ้งเนื้อตัวเองมากินเสีย…
ยามนี้ผ่านไปสองวันแล้ว มันหิวจนสองตาดำมืดไปหมดแล้ว
————————————————————————————-
บทที่ 2046 ถูกทรมาน 4
แต่มันยังคงมีศักดิ์ศรีอยู่ คนที่อยู่ด้านนอกข่มขู่หลอกล่อสารพัดมันล้วนกัดฟันแน่นยอมรับเพียงสิ่งที่ตนเคยทำเท่านั้น ข้อหาอื่นไม่รับเด็ดขาด
เจ้าหอยยักษ์ขดตัวอยู่ในเปลือกหอยไม่พูดไม่จา คนที่อยู่ด้านนอกทุกหนึ่งหรือสองชั่วยามจะเอ่ยถามมันครั้งหนึ่ง แรกเริ่มมันยังโวยวายอาละวาดอยู่ ยามนี้ด้านชาไปเสียแล้ว
คนที่อยู่ด้านนอกผู้นั้นคล้ายจะคาดไม่ถึงว่าหอยตัวหนึ่งจะหัวแข็งได้ถึงเพียงนี้ ชะงักไปครู่หนึ่ง เกลี้ยกล่อมมัน
“เจ้าเป็นเพียงสัตว์เซียนตัวหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องแบกรับแทนผู้อื่นหรอก ขอเพียงเจ้ายอมสารภาพถึงผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังเจ้า ข้าผู้เป็นอารักษ์ก็จะปล่อยเจ้าออกมา ให้เจ้าได้กินอาหารดีๆ รับลมชมเมฆด้านนอก อากาศก็แจ่มใส สบายกว่าในน้ำเต้ามากนัก”
เจ้าหอยยักษ์กัดฟันแน่นไม่โต้ตอบ
ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ เดิมทีก็เป็นมันเองที่ทนไม่ไหวจับสามคนนั้นกิน เกี่ยวอะไรกับเจ้านายด้วย?!
อารักษ์ชุดแดงผู้นั้นกลับเอาแต่หลอกล่อมันอยู่ตลอด ให้มันบอกว่าเจ้านายเป็นผู้บงการ…
“เฮอะ ดูทรงแล้วเจ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ ต้องมอบโทษทัณฑ์อันโหดเหี้ยมให้เจ้าแล้ว!”
เสียงจากด้านนอกก็โมโหแล้วเช่นกัน
ไม่ทราบเช่นกันว่าอีกฝ่ายใช้วิชาอาคมอันใดกับน้ำเต้า จู่ๆ ภายในน้ำเต้าก็เต็มไปด้วยหนามเหล็กร้อนระอุ หนามเหล็กเหล่านี้ทิ่มแทงลงบนเปลือกหอยของมันปานพายุฝนโหมกระหน่ำ…
เปลือกหอยของเจ้าหอยยักษ์ที่แต่เดิมไม่กริ่งเกรงศาตราวุธใดๆ เลย อาวุธลับธรรมดาไม่มีทางทำร้ายมันได้
แต่อย่างไรเสียเปลือกหอยของมันก็โดนเคี่ยวกรำถูกแช่แข็งถูกไฟลนมาสองวัน ค่อนข้างเปราะบางแล้ว ปิดไม่สนิทเล็กน้อย อีกทั้งเข็มเหล็กเหล่านี้บางเฉียบปานเส้นขนวัว สามารถลอดผ่านรอยแยกของเปลือกมันเข้ามาได้…
ด้วยเหตุนี้ ผ่านไปครู่หนึ่งร่างกายนุ่มนิ่มของเจ้าหอยยักษ์ที่ขดอยู่ในเปลือกหอยก็ถูกทิ่มแทงด้วยเข็มมากมาย ทิ่มจนมันกลายเป็นเม่นไปแล้ว
เข็มเหล็กเหล่านั้นเมื่อทิ่มลงบนร่างแล้วเจ็บปวดกว่าโดนเข็มธรรมดาทิ่มหลายเท่านัก!
เจ็บปวดเหลือเกิน!
เจ้าหอยยักษ์เจ็บจนน้ำตาไหล ร้องโหยหวนขึ้นมาอย่างอดไว้ไม่อยู่…
เสียงร้องโหยหวนเสียดแหลมปานนกหวีด พุ่งออกไปจากปากน้ำเต้า…
ทำให้พื้นดินด้านหน้าก็สั่นสะเทือนตามไปด้วยเช่นกัน
“น่าตายนัก!”
มีบางคนสบถออกมา อุดฝาน้ำเต้าเสีย ด้วยเหตุนี้เสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดทรมานของเจ้าหอยยักษ์จึงถูกกักกั้นไว้ในน้ำเต้า เมื่อเป็นเช่นนี้ น้ำเต้าก็กลายเป็นพื้นที่ปิดกั้นแล้ว เสียงอันไร้รูปลักษณ์ถูกสะท้อนให้ดังขึ้นหลายเท่า เจ้าหอยยักษ์หวิดจะถูกเสียงของตัวเองทำเอาหูหนวกแล้ว…
ขณะที่เจ้าหอยยักษ์มึนงงอยู่ ก็ได้ยินเสียงบางคนบ่นว่า
“เจ้าสาม เจ้าทำอะไรน่ะ? เจ้าขังมันไว้ข้างในนานขนาดนี้แล้วนะ การทรมานเช่นนี้เพียงพอจะให้มันรับสารภาพทุกอย่างแล้ว แต่มันยังยืนกรานไม่ยอมรับ บางทีพวกเราอาจจะค้นหามาผิดทางแล้วก็ได้ มันไม่ใช่สัตว์มารที่พวกเราตามหาอยู่จริงๆ เป็นแค่เรื่องบังเอิญ…”
“พี่ใหญ่ เรื่องราวบนโลกไม่ได้ประจวบเหมาะพอดีปานนั้น พวกเราเห็นมันเขมือบสัตว์เซียนเข้าไปกับตา แถมมันยังเขมือบเสินจวินสามคนเข้าไปด้วย ขัดต่อฟ้าดินจริงๆ สมควรตายเป็นหมื่นครั้ง! สัตว์เซียนที่มีเจ้าของบนโลกนี้ล้วนได้รับการสั่งสอนกฏระเบียบ ไม่อาจกินคน ไม่อาจกินสัตว์เซียนที่อยู่ในขั้นหกขึ้นไปได้ ทว่ามันกลับเขมือบเข้าไปโดยไม่แยแสเลย เป็นนักโทษที่กระทำผิดจนเป็นสันดานแล้วชัดๆ! มันเป็นแค่สัตว์ขั้นเก้า ไม่กล้าโอหังถึงเพียงนี้แน่ น่าจะมีเจ้านายอยู่เบื้องหลัง เจ้านายของมันสิถึงจะเป็นตัวการที่อยู่เบื้องหลัง”
“ไม่ใช่นะ! เจ้านายของบ้านข้า…ไม่เคยอนุญาต…ให้ข้ากินคน! เป็นข้า…ที่ทำเอง!”
เจ้าหอยยักษ์ที่อยู่ในน้ำเต้าร้องคำรามเสียงขาดห้วง น้ำเสียงแหบแห้งอย่างยิ่ง มันเจ็บจนแทบจะสลบอยู่แล้ว
“นายของเจ้าคือผู้ใด?” เถี่ยหลิวฉวยโอกาสถาม
“นายของมันคือข้าเอง!”
น้ำเสียงเยียบเย็นสายหนึ่งพลันแว่วขึ้นบนต้นไม้ใหญ่เหนือศีรษะของสี่อารักษ์
เจ้าหอยยักษ์ที่เดิมทีเจ็บจนสมองพร่าเบลอไปหมดแล้ว ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ ก็กระโดดผึงขึ้นมาโดยไม่สนใจเข็มเหล็กทั่วร่างเลย
“เจ้า…เจ้านาย”
น้ำตาเอ่อนองดั่งแม่น้ำสายใหญ่ ไหลรินลงมา