ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2077+2078
บทที่ 2077 เงื่อนไขของจักรพรรดิเซียน 2
กู้ซีจิ่วนั่งอยู่ในคฤหาสน์หลังหนึ่ง
คฤหาสน์หลังนี้ตั้งอยู่ ณ ชั้นฟ้าที่เจ็ด เป็นบ้านที่กู้ซีจิ่วเพิ่งซื้อได้ไม่นาน
ตั้งอยู่ใจกลางเมือง อยู่ในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านยิ่งนัก ห่างจากคฤหาสน์หลังนี้ไปไม่ไกลก็คือตลาดสดที่คึกคัก
เจ้าหอยยักษ์ไม่เข้าใจยิ่งนักว่าทำไมเจ้านายของบ้านตนถึงเลือกซื้อบ้านในสถานที่ที่คึกคักถึงเพียงนี้ ตามนิสัยของนางชมชอบความสงบไม่ชอบความวุ่นวายมาโดยตลอด
ดังนั้นในยามที่เพิ่งได้คฤหาสน์หลังนี้มาครอบครอง เจ้าหอยยักษ์ยังอดไม่ไหวเอ่ยถามไป กู้ซีจิ่วตอบมันเพียงไม่กี่คำว่า
“กบดานในเมืองใหญ่”
เจ้าหอยยักษ์ใคร่ครวญอยู่ครึ่งค่อนวันก็ยังแสดงท่าทีว่าไม่เข้าใจ ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงถามมันอย่างที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด
“เจ้าชอบอาหารของร้านเซียนมาเยือนไหม?”
เจ้าหอยยักษ์ตอบอย่างตรงไปตรงมายิ่ง
“ชอบสิ!”
“ที่นี่อยู่ใกล้ร้านเซียนมาเยือนมาก วันหน้าเจ้าสามารถไปกินอาหารที่นั้นได้สบายๆ เลย”
เจ้าหอยยักษ์ตาลุกวาวแล้ว!
ที่แท้เจ้านายก็คิดเพื่อมัน น่าซาบซึ้งเหลือเกิน!
ในไม่ช้าเจ้าหอยยักษ์ก็พบข้อดีของคฤหาสน์หลังนี้แล้ว ภายในลานของคฤหาสน์หลังนี้มีตาน้ำพุแห่งหนึ่งอยู่ น้ำที่ผุดออกมาจากตาน้ำพุเป็นสีน้ำนม เย็นจัดไปถึงกระดูก ขนาดคนดื่มมันในวันที่อากาศร้อนที่สุดในรอบปีก็ยังทนไม่ไหวจนแข็งกระด้างไป
เจ้าของเดิมของที่นี่ไม่ชอบใจ ผนึกน้ำพุพิษเอาไว้
แต่หลังจากกู้ซีจิ่วได้เห็นก็ตกลงซื้อมันอย่างไม่ลังเลเลย เนื่องจากมันคือน้ำพุโอสถที่พบเห็นได้ยากนัก หากใช้น้ำพุนี้มาหลอมยาลูกกลอนจะทำให้ปริมาณของเม็ดยาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว! ประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกคือต้องใช้วิธีหลอมกลั่นแบบพิเศษของเธอ
ตอนนั้นหลังจากกู้ซีจิ่วออกมาจากตำหนักนภาลัย ความคิดที่ต้องการจะมีบ้านเป็นของตัวเองก็แรงกล้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ถ้ามีบ้านเป็นของตัวเอง ยามที่ได้รับบาดเจ็บอีกก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนคนอื่นแล้ว และไม่ต้องเกรงว่าแผลยังไม่หายดีก็จะถูกคนอื่นไล่ออกมา
เจ้าหอยยักษ์รู้สึกว่า คนรักสันโดษอย่างนางควรจะเสาะหาหุบเขาลึกที่มีขุนเขาเขียวสายธารใสสักแห่ง สร้างคฤหาสน์ที่มีกลิ่นอายเก่าแก่เรียบง่ายสักหลัง เช่นนั้นถึงจะเข้ากับรสนิยม
แต่กู้ซีจิ่วบอกมันว่า คนเช่นนั้นไม่เรียกว่ารักสันโดษ เรียกว่าล่อเหยื่อ เป็นการดึงดูดความสนใจผู้มีอำนาจ สุดท้ายก็จะถูกผู้มีอำนาจเชื้อเชิญให้ออกจากเขาไปเป็นนักพรตยอดฝีมือ อีกอย่างการพำนักอยู่ในหุบเขาลึกก็ไม่สะดวกสบายด้วย
แต่การพำนักอยู่ในเมืองที่พลุกพล่านจะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้มีอำนาจ หากเธอเหน็ดเหนื่อยจากการรอนแรมอยู่ด้านนอก กลับมาก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
คฤหาสน์หลังนี้ของกู้ซีจิ่วหลังจากซื้อมาแล้วก็ถูกเธอแปลงโฉม และเสาะหาช่างตกแต่งธรรมดาๆ มาตกแต่งปรับปรุง ทุกอย่างล้วนธรรมดาจนไม่อาจธรรมดาไปกว่านี้ได้แล้ว ไม่ดึงดูดความสนใจของผู้ใดเลยสักนิด
หลังจากกู้ซีจิ่วซื้อคฤหาสน์หลังนี้มา ไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้ใดมาเลยจริงๆ แม้แต่หลงซือเย่ก็ไม่ทราบเรื่อง
เธอพักอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้อย่างสงบกว่าสิบวันแล้ว ทุกวันล้วนฝึกฝนวรยุทธ์ หลอมโอสถ เดินเล่นอยู่ในสวน มีความสุขอยู่กับตัวเองจนผ่านพ้นไปในแต่ละวัน
หากมิใช่เพราะจู่ๆ หลงซือเย่ก็เกิดเรื่องขึ้น วันเวลาที่มีความสุขของเธอก็คงดำเนินต่อไป
หลังจากเธอหายดีแล้ว ก็ไปเยี่ยมเยือนจวนแม่ทัพของหลงซือเย่รอบหนึ่ง ผลคือมองเห็นจวนแม่ทัพถูกปิดตาย ได้ทราบข่าวจากอดีตพ่อบ้านของจวนแม่ทัพว่า หลงซือเย่ละเมิดกฎสวรรค์ บ้านถูกตรวจค้น ตัวคนถูกจับกุมไป…
ด้วยความสามารถของกู้ซีจิ่วสามารถสืบถามต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวได้ง่ายดายยิ่ง เธอใคร่ครวญไปในทิศทางเดียวกับตี้ฝูอี เธอรู้สึกว่าจุดประสงค์ที่จักรพรรดิเซียนจับหลงซือเย่เพื่อจะบีบให้เธอโผล่ออกมา…
หลังจากใคร่ครวญอยู่สักพัก จึงบุกไปยังชั้นฟ้าที่เก้าเสียเลย ไปพบหน้าจักรพรรดิเซียน
การเข้าพบจักรพรรดิเซียนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จักรพรรดิเซียนงานยุ่งยิ่งกว่าประธานบริษัทของยุคปัจจุบันที่มีงานยุ่งรัดตัวทุกวันเสียอีก เวลาในทุกๆ วันล้วนจัดสรรไว้แน่นเอี๊ยด ถ้าคิดจะเข้าเฝ้าตามขั้นตอนปกติ กู้ซีจิ่วยื่นเทียบนัดหมายเพื่อเข้าเฝ้า…
ถ้าเป็นเช่นนั้น คงจะล่าช้าไปหลายวัน
ดังนั้นกู้ซีจิ่วจึงใช้วิชาเคลื่อนย้าย…
ตอนนั้นจักรพรรดิเซียนกำลังสะสางราชกิจอยู่ในห้องอักษร เมื่อเห็นเธอปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันก็ตกตะลึงยิ่งนัก
โชคดีที่วรยุทธ์เขาเลิศล้ำ ไม่ถึงกับตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
————————————————————————————-
บทที่ 2078 เงื่อนไขของจักรพรรดิเซียน 3
หลังจากกู้ซีจิ่วเข้าไปก็แจ้งฐานะของตนให้ชัดเจน
กู้ซีจิ่วตรงไปตรงมายิ่งนัก เริ่มเจรจากับจักรพรรดิเซียนอย่างสัตย์ซื่อจริงใจ
รูปการณ์ไม่เอื้อต่อหลงซือเย่ยิ่งนักจริงๆ
ในมือของจักรพรรดิเซียนมีหลักฐานอยู่กองใหญ่ มีคำให้การจากอดีตลูกน้องพวกนั้นของอวิ๋นเยียนหลี คนเหล่านั้นลอบส่งข่าวว่าอวิ๋นเยียนหลีติดต่อหาข้าเก่าเต่าเลี้ยงเพื่อก่อกบฏ มีรายชื่อ มีหนังสือประทับโลหิตที่กรีดเลือดร่วมสาบานเป็นพันธมิตรกัน มีพยานยืนยัน…
หลักฐานทั้งชุดวางเรียงรายกันอยู่ตรงนั้น บ่งบอกได้ว่าเรื่องที่อวิ๋นเยียนหลีคิดก่อกบฏเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน
และในไม่กี่เดือนนี้หลงซือเย่ก็เคยติดต่อกับอวิ๋นเยียนหลี ถึงแม้ในรายชื่อที่กรีดเลือดร่วมสาบานเป็นพันธมิตรจะไม่มีเขาอยู่ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องสงสัยในเรื่องนี้…
และเรื่องที่อวิ๋นเยียนหลียังมีชีวิตอยู่ หลงซือเย่ก็ไม่เคยรายงานแก่เบื้องบนเลย ต่อให้เขาไม่ใช่กบฏ แต่ก็มีโทษฐานที่ทราบความแล้วไม่รายงาน
จักรพรรดิเซียนนำหลงซือเย่ไปขังในคุกหลวงก็ไม่นับว่าทำผิด
หลังจากกู้ซีจิ่วอ่านข้อมูลเหล่านั้นจบ ก็ถามจักรพรรดิเซียนเพียงไม่กี่ประโยค
“ฝ่าบาท ท่านเชื่อจริงๆ หรือว่าหลงซือเย่ก่อกบฏ?”
จักรพรรดิเซียนเงียบงัน เขาย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว แต่…
กู้ซีจิ่วกล่าวต่อไปอีกว่า
“หลายปีมานี้หลงซือเย่ติดตามฝ่าบาทร่วมเป็นร่วมตาย เชื่อว่าฝ่าบาทคงจะรู้ว่าเขาเป็นคนเช่นใด อวิ๋นเยียนหลีเคยอุ้มชูเขา มีบุญคุณต่อเขา ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่าอวิ๋นเยียนหลียังมีชีวิตอยู่แต่ไม่รายงานต่อเบื้องบนก็ไม่ใช่หลักฐานว่าเขาจะเข้าร่วมการก่อกบฏของอีกฝ่าย ถึงอย่างไรฝ่าบาทก็ไว้วางใจหลงซือเย่นัก เชื่อว่าฝ่าบาทคงกระจ่างแจ้งข้อนี้ดียิ่ง ฝ่าบาทตั้งใจสร้างเรื่องทุกอย่างขึ้นมา น่าจะมิได้มุ่งเป้าไปที่เขาโดยเฉพาะ…พวกเราคนจริงไม่พูดจาอ้อมค้อม ฝ่าบาทต้องการให้ข้าทำอะไร? ถึงจะยอมปล่อยหลงซือเย่ลบล้างมลทินให้เขา?”
จักรพรรดิเซียนชื่นชมในความผ่าเผยซื่อตรงของนางยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้เขาจึงกล่าวเงื่อนไขของตนออกมาเช่นกัน
“เนี่ยนโม่เป็นบุตรชายของสหายเรา เราไม่ต้องการเห็นชื่อเสียงของเขามัวหมอง”
กู้ซีจิ่วย่อมเข้าใจดีว่าเขาสื่อถึงอะไร
ชื่อเสียงของเสินเนี่ยนโม่ดีงามยิ่งนักเสมอมา เรื่องเดียวที่ทำให้เขามัวหมองก็คือเรื่องที่ไม่นานมานี้เขาตัดขาดกับคณะอาจารย์ ลุ่มหลง ‘นางมารเฒ่า’…
เธอหลุบตาลงครู่หนึ่ง รู้สึกขบขันอยู่บ้าง จ้องตรงไปที่จักรพรรดิเซียน
“ฝ่าบาทก็คิดว่าการที่ข้าและเขาอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องเสียหายมัวหมองหรือ?”
จักรพรรดิเซียนชะงักไปครู่หนึ่ง มองแววตาที่ค่อนข้างเฉียบคมของนาง
“ท่านผู้สูงศักดิ์รักเขาจริงๆ หรือ? ถึงขั้นที่สามารถอยู่เพื่อเขาตายเพื่อเขาได้หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วไม่พูดไม่จา
จักรพรรดิเซียนเบนสายตาไป กล่าวต่อว่า
“หากว่ามิใช่ ท่านโปรดปล่อยเขาไปเถิด ถึงอย่างไรเขาก็ยังเด็ก”
ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็แย้มยิ้ม เอ่ยเรียบๆ ว่า
“ฝ่าบาทคิดมากไปแล้ว ข้าผู้ทรงศักดิ์เห็นเนี่ยนโม่เป็นเด็กน้อยเสมอมา ยามนั้นที่พูดเช่นนั้นออกไป เป็นเพียงคำพูดด้วยอารมณ์โมโหชั่วขณะเท่านั้นกลับคาดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างแพร่ไปในหมู่ชน ฝ่าบาทวางพระทัยเถิด ข้าผู้ทรงศักดิ์จะหาโอกาสกล่าวเรื่องนี้ให้ชัดเจนต่อหน้าผู้คน”
จักรพรรดิเซียนถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เราจะจัดการหาโอกาส ให้ท่านได้พูดจาให้ชัดเจนดีหรือไม่?”
“แล้วหลงซือเย่ล่ะ?”
“เราจะหาทางล้างมลทินให้เขา!”
กู้ซีจิ่วตอบตกลง ด้วยเหตุนี้เมื่อผ่านการจัดการอย่างรอบคอบของจักรพรรดิเซียนแล้ว จึงมีงานเลี้ยงผกาเซียนในวันนี้เกิดขึ้น…
ตอนที่กู้ซีจิ่วได้รับเทียบเชิญ กำลังอยู่ในบ้านของตน
ข้าหลวงของตำหนักสวรรค์มาส่งเทียบเชิญให้เธอโดยเฉพาะ เชื้อเชิญเธอไปร่วมงาน
หลังจากข้าหลวงกลับไปแล้ว เจ้าหอยยักษ์ก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ
“เจ้านาย นึกไม่ถึงเลยว่าคนของจักรพรรดิเซียนจะหาที่นี่เจอด้วย บ้านหลังนี้ถูกเปิดเผยเสียแล้ว”
กู้ซีจิ่วหมุนกิ่งไม้กิ่งหนึ่งอยูในมือ ถอนหายใจเบาๆ
“นั่นสิ จักรพรรดิเซียนผู้นี้มีความสามารถเหลือเกิน!”
ไม่กี่วันมานี้เธอขลุกตัวอยู่ในบ้าน หลังจากออกมาจากชั้นฟ้าที่เก้าแล้ว ก็ใช้วิชาเคลื่อนย้าย ทำให้ผู้อื่นไม่มีทางสะกดรอยตามได้
เวลาเธออยู่ข้างนอกก็อ้อมวนไปวนมาหลายรอบ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีผู้ใดสะกดรอยตามมา ถึงจะกลับเข้าบ้านตัวเอง กลับนึกไม่ถึงว่าจะถูกคนของจักรพรรดิเซียนหาเจอ
…………..