ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2290 ราชันมาร 4 / บทที่ 2291 ราชันย์มาร 5
บทที่ 2290 ราชันมาร 4
ผ่านไปครู่หนึ่ง สตรีนางนั้นก็ออกมาบอกเขา ด้านในไม่มีคนที่เขาตามหาอยู่…
หลัวเจิ้งโง่งมไปแล้ว!
เขามองหนูน้อยในเข่งสะพายหลัง หนูน้อยก็เบิกตาแป๋วแหววมองเขาเช่นกัน
“แม่เจ้าไปไหนเสียแล้ว? สวรรค์ นางคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ กระมัง?”
หนูน้อยไม่สนใจเขา หลับตาลงไปแล้ว
หลัวเจิ้งย่อมไม่หวังว่าทารกน้อยคนหนึ่งอย่างเขาจะตอบอะไรเขาได้ เขาตามหาดูจนทั่วแล้ว ทำได้เพียงกลับไปที่เหลาสุราอีกครั้ง เผื่อว่าแม่นางน้อยฮวาซวี่เยวี่ยกลับมาแล้วเล่า?
เขาโอบอุ้มความหวังไว้แล้วกลับไปที่เหลาสุรา พอเข้าประตูร้านไปก็สังเกตเห็นว่าบรรยากาศในเหลาสุราผิดปกติ!
แขกเหรื่อที่เดิมทีจับกลุ่มกินดื่มพูดคุยกันต่างคุกเข่าอยู่บนพื้น หันหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน
หลัวเจิ้งมองไปยังทิศทางนั้นตามสัญชาตญาณ ร่างกายพลันแข็งทื่อ!
เขามองเห็นนางกำนัลที่มัดผมมวยสองข้างสี่คนกำลังห้อมล้อมดรุณีชุดขาวเกล้าผมทรงเมฆาเหินนางหนึ่งเดินขึ้นชั้นบนไป
แผ่นหลังของดรุณีชุดขาวนางนั้นช่างคล้ายกับ…คล้ายกับองค์หญิงน้อยผู้นั้น!
สวรรค์ องค์หญิงน้อยผู้สูงศักดิ์ท่านนี้มาที่เหลาสุราทำไม?
มิน่าเล่าผู้คนที่นี่ถึงตกตะลึงปานถูกฟ้าผ่า…
คล้ายจะสัมผัสถึงอะไรได้ ดรุณีชุดขาวนางนั้นหันหน้ามา สายตาร่อนลงบนร่างหลัวเจิ้งที่ยืนอยู่ตรงปากประตูพอดี
ว่ากันตามจริงแล้ว ร่อนลงบนร่างหมาป่าเงินตัวน้อยที่อยู่ข้างกายเขาต่างหาก
นัยน์ตาใสกระจ่างโชนแสงแวบหนึ่ง!
ดวงตานางดุจคลื่นวารี เพ่งพินิจจนหนังศีรษะหลัวเจิ้งค่อนข้างชาหนึบแล้ว มือไม้เก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าควรจะวางไว้ตรงไหนดี
บนหน้าขององค์หญิงน้อยยังคงคลุมแพรโปร่งไว้ ทำให้คนมองเห็นดวงหน้าของนางไม่ชัด แต่บนร่างนางคงจะกรุ่นด้วยกลิ่นผกา ภายในห้องโถงจึงเต็มไปด้วยกลิ่นหอมเจือจางชนิดหนึ่ง มอมเมาใจคน
นางหันไปกระซิบคุยกันนางกำนัลข้างกายสองสามประโยค นางกำนัลคนนั้นพยักหน้านิดๆ พลันเหินร่าง ร่อนลงเบื้องหน้าหลัวเจิ้ง
“หมาป่าเงินตัวนี้ขายหรือไม่?”
สติหลัวเจิ้งยังไม่กลับคืนมาชั่วขณะ
“หา?”
นางกำนัลคนนั้นเอ่ยว่า
“เจ้าเป็นเผ่ามนุษย์จากด้านนอกที่เข้ามาค้าขายกระมัง? องค์หญิงของพวกเราต้องตาหมาป่าเงินตัวนี้ของเจ้า เจ้าจงขายมันให้องค์หญิงของพวกเราซะ เจ้าจะเรียกราคาเท่าไหร่?”
หลัวเจิ้งตอบไปตามสัญชาตญาณ
“เรื่องนี้…หมาป่าเงินตัวนี้ไม่ใช่ของผู้น้อย เป็นของสหายคนหนึ่ง”
“เช่นนั้นสหายเจ้าล่ะ?”
“นาง…นางฝากลูกและหมาป่าไว้ให้ข้าน้อยช่วยดูแล บอกว่าจะออกไปสักพัก ย…ยังไม่กลับมา”
“เช่นนั้นหมาป่าเงินตัวนี้สรุปแล้วขายหรือไม่?”
หลัวเจิ้งใจเต้นแวบหนึ่ง พยักหน้า
“ขาย! เพียงแต่ราคาที่นางบอกไว้ค่อนข้างสูง…”
“กี่กษาปณ์มารเล่า? คงมิใช่หมื่นกษาปณ์มารกระมัง?!”
นางกำนัลเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มนิดๆ
เหงื่อไหลจากหน้าผากของหลัวเจิ้งแล้ว
“มิใช่หนึ่งหมื่น เป็น…เป็นหนึ่งแสน…ถ้าเช่นนั้น พวกท่านรอสหายข้ากลับมาก่อนแล้วค่อยเจรจากันเองดีไหม?”
หนึ่งแสน?!
ราคานี้เห็นได้ชัดว่าทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ตกตะลึง สายตาที่ทุกคนมองหลัวเจิ้งเสมือนมองคนละเมอผู้หนึ่ง
นางกำนัลตัวน้อยก็ขมวดคิ้วแล้ว
“ราคานี้…”
“เช่นนั้นก็หนึ่งแสน ข้าผู้เป็นองค์หญิงจะเอา!”
น้ำเสียงองค์หญิงน้อยเยือกเย็น ยื่นคำขาด
ฝูงชนตะลึงงัน!
หลัวเจิ้งอ้าปากหวอ!
หลัวเจิ้งว้าวุ่นนัก เอ่ยอย่างลำบากใจยิ่ง
“นี่…เจ้าของมันไม่อยู่…”
“ในเมื่อเจ้าทราบราคาที่นางจะขาย ก็ขายแทนนางแล้วค่อยมอบเงินให้ตอนนางกลับมาสิ หรือเจ้ายังคิดจะให้องค์หญิงของพวกเราต้องรออยู่ที่นี่อีก?”
นางกำนัลคนนั้นหงุดหงิด
“รู้ไว้นะว่าราคานี้มิใช่ผู้ใดก็สามารถซื้อได้! พลาดไปก็น่าเสียดายแล้ว”
ย่อมไม่สามารถให้องค์หญิงน้อยผู้สูงส่งมารออยู่ที่นี่ได้ อีกอย่างสิ่งที่นางกำนัลคนนี้พูดมาก็มีเหตุผล หลัวเจิ้งตัดสินใจตอบตกลง
เมื่อค้าขายกันสำเร็จ ก็คล้ายว่าจะสุขสันต์กันถ้วนหน้า
ทว่าหมาป่าน้อยเหวอไปแล้ว!
————————————————————————————-
บทที่ 2291 ราชันย์มาร 5
ยามที่นางกำนัลคนนั้นจะอุ้มมัน เส้นขนสีเงินทั่วร่างมันลุกชันขึ้นมา เห่าใส่นางกำนัลนางนั้นอยู่ตลอด
เห็นได้ชัดว่านางกำนัลผู้นั้นมีวรยุทธ์ ย่อมไม่เห็นการขัดขืนของหมาป่าน้อยตัวหนึ่งอยู่ในสายตา ยื่นนิ้วหนึ่งออกมา แสงครามสายหนึ่งผุดขึ้น มัดหมาป่าเงินตัวน้อยไว้
หมาป่าน้อยตกอยู่ในความร้อนรน พลันอ้าปาก ไม่น่าเชื่อว่าจะพ่นวารีสายหนึ่งออกมา สายน้ำพุ่งเข้าใส่นางกำนัลนางนั้น
นางกำนัลคนนั้นไม่ทันระวัง ถูกพ่นใส่หน้าเต็มๆ
ไม่น่าเชื่อว่าหมาป่าน้อยตัวนี้เป็นศาสตร์วิชาธาตุน้ำ! แถมเวทวิชายังไม่อ่อนด้อยเลยด้วย…
ต้องทราบก่อนว่าที่โลกนี้ สัตว์ประเภทที่ใช้เวทวิชาได้มีน้อยยิ่ง มีเพียงสัตว์ร้ายที่มีผลึกวิญญาณบนร่างที่สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์ตามธาตุได้ เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะเป็นวิชาธาตุดินหรือไม่ก็ธาตุไม้ ธาตุน้ำกลับพบเห็นได้น้อยมาก
อีกทั้งสัตว์ร้ายที่สามารถใช้เวทวิชาได้ก็ต้องบำเพ็ญเป็นหลักร้อยปีขึ้นไป แต่หมาป่าน้อยตัวนี้มองแล้วยังไม่เต็มขวบด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าจะสำแดงศาสตร์วิชาธาตุน้ำที่บริสุทธิ์ถึงเพียงนี้ได้
หมาป่าน้อยตัวนี้ไม่ธรรมดา! ทั่วทั้งแดนอสุรานี้เกรงว่าจะไม่ปรากฏตัวที่สองขึ้นอีกแล้ว!
ฝูงชนที่เดิมทียังรู้สึกว่าองค์หญิงน้อยจ่ายแสนกษาปณ์มารเพื่อซื้อหมาป่าตัวหนึ่งกลับช่างผลาญเงินเหลือเกิน เสียเปรียบมหาศาล
ต้องทราบก่อนว่าหนึ่งแสนกษาปณ์มารสามารถซื้อคฤหาสน์สุดหรูหราในอาณาจักรมารได้หนึ่งหลังเชียวนะ!
แต่ยามนี้พอได้เห็นพลังเวทย์บริสุทธิ์ที่หมาป่าน้อยสำแดงออกมา พลันรู้สึกว่าองค์หญิงน้อยจ่ายราคานี้ช่างคุ้มค่าแล้ว! เป็นองค์หญิงน้อยที่สายตามีแวว!
ถึงแม้หมาป่าน้อยจะมีความสามารถ และร้ายกาจยิ่งนัก แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่คู่มือของนางกำนัลที่พลังวิญญาณบรรลุขั้นหกแล้วผู้นั้น สุดท้ายก็ถูกจับ แล้วถูกส่งตัวให้องค์หญิงน้อยผู้นั้น
องค์หญิงน้อยอุ้มมันไว้ในอ้อมแขน นิ้วเรียวดีดหัวมันคราหนึ่ง
“ติดตามองค์หญิงอย่างข้าดียิ่งนัก องค์หญิงอย่างข้าจะทำให้เจ้าเก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ”
หมาป่าน้อยถูกมัดปาก ร่างกายก็ถูกมัดไว้ ได้แต่ส่งเสียงหงิงๆ นัยน์ตาที่ดุจพลอยทับทิมคู่นั้นมองไปที่เด็กน้อยในเข่งสะพายหลังอย่างคล้ายจะขอความช่วยเหลือ…
ดวงตาแป๋วแหววของเด็กน้อยก็มองดูมันเช่นกัน เม้มริมฝีปากกระจิดริดนิดๆ ไม่ส่งเสียงเลย
สายตาขององค์หญิงน้อยก็วนเวียนที่ดวงหน้าของเด็กน้อยแวบหนึ่ง มีร่องรอยความประหลาดใจวาบผ่านนัยน์ตา
เดินหน้าไปสองก้าวแล้วก็หยุดลง
หมาป่าน้อยตัวนี้นางซื้อได้ แต่บุตรของผู้อื่นนางคงบังคับผู้อื่นให้ขายไม่ได้กระมัง?!
แววตานางวูบไหวเล็กน้อย ไม่คิดจะกินข้าวที่นี่แล้ว สั่งการนางกำนัลข้างกายสองประโยค แล้วอุ้มหมาป่าน้อยจากไป
นางกำนัลคนนั้นเดินมาหยุดเบื้องหน้าหลัวเจิ้ง มอบตั๋วเงินใบหนึ่งให้เขา เป็นตั๋วเงินมูลค่าสองหมื่นกษาปณ์มาร
“สุภาพบุรุษท่านนี้ องค์หญิงของข้ารีบร้อนออกมา พกตั๋วเงินมาไม่พอ เจ้าตามกลับไปรับเงินที่จวนองค์หญิงของพวกเราดีหรือไม่?”
เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว หลัวเจิ้งย่อมตอบตกลง
“ดี!”
แบกหนูน้อยในเข่งเดินตามนางกำนัลคนนั้นออกประตูไป
เขาขายหมาป่าเงินตัวน้อยแทนผู้อื่นโดยพลการ เงินนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมอบกลับไปให้นางโดยไม่ตกหล่นเลยสักแดงเดียว…
ได้แต่หวังว่าแม่นางน้อยจะไม่ถือโทษเขา
จะว่าไปแม่นางคนนั้นไปอยู่ไหนแล้วกันแน่?
….
กู้ซีจิ่วที่หลัวเจิ้งพะวงถึงอยู่ตลอดย่อมมิได้จากมาเพราะอยากถ่ายท้อง เธอตรงไปที่ตำหนักราชันย์มาร
นางสืบถามมาชัดเจนแล้ว ราชันย์มารองค์ใหม่พำนักอยู่ที่ตำหนักราชันย์มาร
ส่วนราชันย์มารผู้นี้ ตอนอยู่บนถนนกู้ซีจิ่วได้เห็นชัดเจนแล้ว
เป็นตี้ฝูอี!
ถึงแม้เขาจะสวมเสื้อผ้าแตกต่างไปจากปกติ ถึงแม้เขาจะสวมหน้ากากบดบังบนหน้าไว้ ถึงแม้ร่างกายเขาก็คล้ายจะมีความเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย น้ำเสียงก็เปลี่ยนไป แต่กู้ซีจิ่วก็ยังคงจำเขาได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น!
วิธีปลอมตัวเช่นนี้ของเขาถ้าหลอกลวงผู้อื่นอาจจะตบตาได้ แต่ยังอ่อนด้อยเกินกว่าจะตบตาเธอได้!
ถึงอย่างไรเธอกับเขาก็สนิทชิดเชื้อกันมานานยิ่ง ถึงขั้นที่เคยเนื้อแนบเนื้อมาแล้ว…
เขาก็คือตี้ฝูอี ของแท้รับประกัน!