ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2550 เจ้าดีใจไหม 3 / บทที่ 2551 เจ้าดีใจไหม 4
บทที่ 2550 เจ้าดีใจไหม 3
“แม่นางกู้ พวกเราไปดูพี่ใหญ่คุนกันหน่อยไหม?”
เฟิงหรูฮั่วเห็นกู้ซีจิ่วเป็นผู้นำโดยปริยายแล้ว
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า
“ไม่จำเป็น คุนเสวี่ยอี๋ยังไม่ถูกจับได้ หากข้าเดาไม่ผิด อุปกรณ์สอดแนมในตำหนักทองหลังนั้นน่าจะถูกซ่อมดีแล้ว ถ้าพวกเราบุ่มบ่ามเข้าไปเยี่ยม จะเกิดพิรุธได้ง่ายๆ พวกเราไปดูที่จัตุรัสราชธรรมดีกว่า…”
“แล้วเสี่ยวฉือของข้า…”
กู้ซีจิ่วมุ่นหัวคิ้วนิดๆสูดหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง
“ถ้าข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ เสี่ยวฮือน่าจะหนีไปได้แล้ว หรือไม่ก็…”
“หรือไม่ก็อะไร?”
“หรือไม่ก็ถูกแขวนไว้ที่ตำแหน่งที่เตะตาที่สุดในจัตุรัสราชธรรม รอให้พวกเราไปติดกับ!”
เฟิงหรูฮั่วพูดไม่ออกแล้ว
นางกำมือแน่น กำจนปลายนิ้วซีดขาวไปหมดแล้ว
เงียบอยู่พักหนึ่ง พลันจับแขนเสื้อกู้ซีจิ่ว
“พวกเรากลับกันเถอะ!”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วแวบหนึ่ง เธอนึกว่าเฟิงหรูฮั่วจะไปช่วยงูให้ได้โดยไม่สนใจอะไรทั้งซะอีก นึกไม่ถึงเลย…
“เสี่ยวฉือเป็นสัตว์เลี้ยงของข้าน้อย ข้าน้อยย่อมห่วงใยอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้พวกเราจะถูกจับไม่ได้…”
กู้ซีจิ่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฟิงหรูฮั่วผู้นี้ไม่เสียทีที่เป็นองครักษ์ของตี้ฝูอี ในช่วงเวลาคับขันยังคงกระจ่างแจ้งนัก รู้ลำดับความสำคัญ
เธอเม้มริมฝีปากบางนิดๆ บีบไหล่เฟิงหรูฮั่วทีหนึ่ง
“วางใจเถอะ อวิ๋นเยียนหลีคิดจะจับเสี่ยวฉือไว้ล่อพวกเรา ไม่มีทางปล่อยให้มันตายหรอก พรุ่งนี้ข้าจะหาทางช่วยมันออกมาด้วย”
เฟิงหรูฮั่วพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เช่นนั้นขั้นต่อไปพวกเราจะทำอะไร?”
“ข้ายังต้องการไปที่จัตุรัสราชธรรมสักเที่ยวอยู่”
เธอจำเป็นต้องไปสำรวจดูหน่อย ดูการตระเตรียมส่วนใหญ่ของอวิ๋นเยียนหลี เธอจะได้หาทางรับมือถูก
“เจ้ากลับไปนั่งรอที่เหลาสุราเถอะ แล้วข้าจะกลับมาพาเจ้าออกไป”
กู้ซีจิ่วบอกเฟิงหรูฮั่ว
“แม่นางกู้ ให้ข้าน้อยไปกับท่านเถอะ จะปลอดภัยกว่า วางใจเถิด ต่อให้ข้าน้อยเห็นเสี่ยวฉือถูกจับไว้ที่นั่นก็จะไม่ลงมือ”
เฟิงหรูฮั่วไม่เห็นด้วยที่จะต้องแยกกับเธอ
“ไม่ต้องหรอก เจ้าไปที่เหลาสุราเถอะ ถือโอกาสสืบดูด้วยว่ายังมีข่าวอื่นใดอีกหรือไม่ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งถึงจะไม่พ่าย”
พอกู้ซีจิ่วสั่งการจบ ไม่รอให้เฟิงหรูฮั่วได้เอ่ยวาจา เธอก็เคลื่อนย้ายหายไปเลย
เฟิงหรูฮั่วจนปัญญา ได้แต่เข้าไปที่เหลาสุราข้างๆ ฟังชาวบ้านซุบซิบนินทาต่อ การฟังครั้งนี้ทำให้นางได้ยินลู่ทางหนึ่งเข้าจริงๆ
เนื่องจากเมืองเล่อกั่วไม่มีพิรุณโลหิตตกลงมากว่าสิบวันแล้ว เหล่าชาวบ้านจึงแคลงใจในตัวอวิ๋นเยียนหลียิ่งนัก มียอดฝีมือมากมายลอบตรวจสอบเรื่องนี้อย่างลับๆ อยู่
กู้ซีจิ่วกลับมาเร็วมาก หลังจากเธอรวมตัวกับเฟิงหรูฮั่วแล้ว ขณะที่กำลังจะเคลื่อนย้ายจากไป บนถนนพลันมีเสียงโหวกเหวกขึ้นมา
มีบางคนตะโกนขึ้นมา
“เจ้าเมืองอวิ๋นกับว่าที่ฮูหยินออกตรวจเมืองแล้ว!”
กู้ซีจิ่วใจสั่นแวบหนึ่ง พิงหน้าต่างแล้วมองลงไป
บนท้องถนนผู้คนถอยหลบเข้าไปยังสองข้างทางด้วยตัวเอง ขบวนม้ากลุ่มหนึ่งเคลื่อนมาจากที่ไกลๆ
มีทหารรักษาการณ์สิบนายคอยเปิดทางให้อยู่ด้านหน้า มีรถม้าเปิดประทุนคันหนึ่งถูกโอบล้อมไว้ตรงกลาง รูปแบบของรถม้าคันนี้หรูหราทว่าเรียบง่าย ในความสง่างามแฝงความทรงอำนาจไว้ ในรถม้ามีคนนั่งเรียงกันอยู่สองคน
หนึ่งสวมชุดขาว หนึ่งสวมชุดเขียว
ชุดขาวคือบุรุษหนุ่มที่ง่ามสง่าดั่งต้นอวี้ ในความสง่างามแฝงความสูงศักดิ์เอาไว้ และในความสูงศักดิ์ก็แฝงไอชั่วร้ายเอาไว้จางๆ ด้วย เป็นอวิ๋นเยียนหลีนั่นเอง
และสตรีชุดเขียวที่อยู่ข้างกายเขาบอบบางดุจดอกอวี้หลัน (แมกโนเลีย) บนหน้าคลุมแพรเขียวโปร่งบางผืนหนึ่งไว้ เผยให้เห็นเพียงดวงตาใสกระจ่างดุจวารีคู่หนึ่ง ยามที่เหลือบแลรอบข้างเล็กน้อย จะแผ่ความรู้สึกที่ทำให้คนใจสั่นได้ คนผู้นี้คือ…‘กู้ซีจิ่ว’
จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็รู้สึกปวดประสาทอยู่บ้าง ฉากนี้ค่อนข้างโจมตีนัยน์ตาเธออยู่บ้าง…
โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นมือข้างหนึ่งของอวิ๋นเยียนหลีจับมือของ ‘กู้ซีจิ่ว’ ไว้ตลอด ซ้ำยังเป็นการจับแบบประสานมือกันด้วย
ส่วน ‘กู้ซีจิ่ว’ ก็กึ่งๆ เอนซบร่างของอวิ๋นเยียนหลีอย่างเฉื่อยชาอยู่
————————————————————————————-
บทที่ 2551 เจ้าดีใจไหม 4
ส่วน ‘กู้ซีจิ่ว’ ก็กึ่งๆ เอนซบร่างของอวิ๋นเยียนหลีอย่างเฉื่อยชาอยู่ ทั้งสองคนดูคล้ายจะรักใคร่กลมเกลียวยิ่งนัก…
เฟิงหรูฮั่วโมโหแล้ว!
ยามนี้นางย่อมทราบดีว่า ‘กู้ซีจิ่ว’ ที่อยู่บนรถม้าคือคุนเสวี่ยอี๋ที่สวมรอย
นางรู้สึกว่ากู้ซีจิ่วคือว่าที่ภรรยาขององค์ราชัน คุนเสวี่ยอี๋ใช้รูปโฉมนี้ไปสนิทสนมกลมเกลียวกับอวิ๋นเยียนหลีเช่นนี้ จะทำให้กู้ซีจิ่วเสื่อมเสียชื่อเสียง!
ขณะที่นางกำลังจะส่งกระแสเสียงหาคุนเสวี่ยอี๋ ให้เขายืดตัวตรงๆ หน่อย เอาอุ้งเท้าออกมาจากฝ่ามือของอวิ๋นเยียนหลีเสีย
กู้ซีจิ่วกลับคีบกุ้งตัวโตอุดปากนางไว้ทันที เอ่ยเสียงแผ่ว
“ห้ามส่งกระแสเสียง! อวิ๋นเยียนหลีอยู่ใกล้กับเขาเกินไป สามารถรับฟังได้! ที่เขาเป็นเช่นนี้เพราะยังคงหลงกลพวกเราอยู่…”
เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาจากขมับของเฟิงหรูฮั่ว คิดตกแล้ว หุบปากทันที ไม่ส่งกระแสเสียงไปสักแอะแล้ว
พวกกู้ซีจิ่วอยู่บนชั้นสองของเหลาสุรา ห่างจากด้านล่างค่อนข้างไกล แถมยังมีคนจอแจมากมาย ภายในเหลาสุราไม่เงียบสงบ ดังนั้นการกระซิบสนทนากันของกู้ซีจิ่วกับเฟิงหรูฮั่ว คนด้านล่างจึงไม่ได้ยิน
รถม้าคันนั้นวิ่งไม่เร็ว ค่อยๆ เคลื่อนผ่านถนนไป
หลังจากรถม้าไปแล้ว กู้ซีจิ่วก็ไม่โอ้เอ้อีก พาเฟิงหรูฮั่วเคลื่อนย้ายจากไปทันที
เธอไปๆ มาๆ อยู่หลายเที่ยว ผู้คนในเมืองสัมผัสถึงไม่ได้เลยสักนิด
อวิ๋นเยียนหลีย่อมสัมผัสไม่ได้เช่นกัน ยามนี้นางในดวงใจกึ่งๆ เอนพิงอยู่บนร่างของตน เขาค่อนข้างพอใจอยู่เล็กน้อยจริงๆ
‘กู้ซีจิ่ว’ ที่อยู่ข้างกายตัวอ่อนนุ่ม มือน้อยๆ ที่กอบกุมอยู่ในฝ่ามือของเขาก็อบอุ่นดุจขนมแป้งกรอบ โฉมงานที่อยู่ข้างกายลมหายใจดุจกลิ่นกล้วยไม้
นี่เป็นความคาดหวังที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยบรรลุผลเลย ทำให้ทั้งตัวของเขาค่อนข้างเบาหวิวไปหมด
แน่นอน โฉมงามมิได้เต็มใจเอนซบร่างเขา และไม่ได้เต็มใจถูกเขากุมมือไว้ด้วย แต่เป็นเขาสกัดจุดบนร่างของนางไว้…
“ซีจิ่ว เจ้าดูสิทุกคนชื่นชมพวกเรามากเลยนะ คนมากมายล้วนชมว่าพวกเราเป็นคู่ฟ้าประทาน”
อวิ๋นเยียนหลีกระซิบกระซาบกับโฉมงามที่อยู่ข้างกาย ซ้ำยังบีบมือน้อยๆ ของอีกฝ่ายด้วย
คู่กับผีน่ะสิ!
คางคกบัดซบ ริอาจอยากกินเนื้อหงส์ฟ้า!
คุนเสวี่ยอี๋ถูกเขากุมมือจนแทบขนลุกไปทั้งร่างแล้ว เอ่ยแขวะอยู่ในใจ
ชีวิตของเขาในหนึ่งวันมานี้ค่อนข้างยากลำบาก เริ่มจากเช้าวันนี้ อวิ๋นเยียนหลีโผล่มาราวกับเห็ดที่งอกขึ้นในตำหนักทองของเขา พร่ำพูดถ้อยคำเลี่ยนเอียนบางส่วนกับเขา ทำเอาเขาขนลุกแล้วขนลุกอีก
พูดถ้อยคำเลี่ยนเอียนพวกนั้นจบได้ไม่เท่าไหร่ ก็ลากเขาออกมาเที่ยวเล่นกับเขา ซ้ำยังนั่งเคียงข้างกุมมือเช่นนี้อีก เห็นได้ชัดว่าคิดจะกระตุ้นผู้ใด…
“ซีจิ่ว เจ้ารู้ไหมว่าลูกน้องของตี้ฝูอีใครกันที่มีวิชาตัวเบาเลิศล้ำที่สุด?”
คุนเสวี่ยอี๋ทำหน้าตึงไม่แยแสเขา เขาย่อมรู้ดี แต่เขาไม่มีทางบอกเด็ดขาด!
“น่าจะมีใครเข้าเมืองมาแล้ว คิดจะขโมยงูพวกนั้นไป ผลคือไม่สำเร็จ เตลิดหนีไปแล้ว…วิชาตัวเบาของคนผู้นั้นค่อนข้างอยู่เหนือความคาดหมายของข้ายิ่งนัก ไม่น่าเชื่อว่าแหของข้าจะจับเขาไม่ได้…ซีจิ่ว หากมิใช่เพราะเจ้ายังอยู่ข้างกายข้า ข้าแทบจะนึกสงสัยแล้วว่าคนที่มาคือเจ้า ช่างคล้ายกับวิชาเคลื่อนย้ายนัก…”
คุนเสวี่ยอี๋ใจเต้นแวบหนึ่ง เขารู้ว่ากู้ซีจิ่วเข้าเมืองมาอีกครั้งแล้ว…
อวิ๋นเยียนหลีดึงเขาเข้าหาตัวอีกครั้ง คุนเสวี่ยอี๋แทบจะซุกอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว เขาร้องด่าแม่อยู่ในใจ ขณะที่พยายามจะหยัดกายขึ้น แขนของอวิ๋นเยียนหลีก็คล้องเอวเขาไว้แล้ว ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดอยู่ข้างหูเขา
“ซีจิ่ว พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันวิวาห์ของพวกเราแล้ว เจ้าดีใจไหม?”
คุนเสวี่ยอี๋อยากระเบิดอารมณ์แทบขาดใจแล้ว อยากจะเตะเขาลงไป!
เขาพยายามผลักเขาออกไป แทบจะเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้ว
“ยินดีกับน้องสาวเจ้าสิ!”
โชคดีที่กู้ซีจิ่วตัวจริงก็ปฏิเสธอวิ๋นเยียนหลีอย่างยิ่งเช่นกัน ดังนั้นการกระทำเหล่านี้ของคุนเสวี่ยอี๋จึงนับว่าเป็นปกติ ไม่ทำให้อวิ๋นเยียนหลีนึกสงสัย
เขาเข้าใกล้เขายิ่งกว่าเดิม
“ซีจิ่ว ข้าเริ่มตั้งตารอคืนเข้าหอของพวกเราแล้ว…”
….