ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2577 ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง 3 / บทที่ 2578 ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง 4
- Home
- ลำนำบุปผาพิษ
- บทที่ 2577 ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง 3 / บทที่ 2578 ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง 4
บทที่ 2577 ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง 3
พ่อแม่ของเด็กคนนั้นเสมือนคลุ้มคลั่งไปแล้ว กระโจนเข้าไปในคลื่นทรายด้วยตัวเองเพื่อช่วยเหลือบุตรของตน ไม่สนใจความเป็นความตาย
เขาพลันสะท้านใจ นึกถึงตอนตนเยาว์วัยก็เคยตกอยู่ในอันตราย เพื่อช่วยเหลือเขาเสด็จพ่อของเขาแทบต้องเอาชีวิตไปทิ้งแล้ว…
ฉากในสมองซ้อนทับเข้ากับปัจจุบัน ศีรษะเขาร้อนวูบ สองมือพลิกสะบัด ดึงเด็กน้อยขึ้นมา จากนั้นก็ดึงพ่อแม่คู่นั้นขึ้นมาไว้บนที่ปลอดภัยด้วย
ตี้ฝูอีกอดอกมองเขา น้ำเสียงเรียบเฉยทว่าเยียบเย็น
“แปดสัตว์ร้ายจะทำลายที่นี่จนราบคาบ ถึงเจ้าจะช่วยพวกเขาก็ช่วยได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น!”
อวิ๋นเยียนหลีย่อมเข้าใจจุดนี้ดี แต่ว่า เขาไม่มีวิธีแก้ค่ายกลนี้จริงๆ
เขาเหลียวมองประชาชนรอบข้างรวมถึงลูกน้องที่เคยเสี่ยงชีวิตเพื่อเขา ในใจโศกหมอง ในที่สุดก็ส่ายหน้า
“ข…ข้าไม่มีวิธี ข้าไม่มีวิธีจริงๆ ข้าไม่นึกเลยว่าสัตว์ร้ายเหล่านี้จะปรากฏขึ้นจากกองเพลิง…”
นัยน์ตาเขาแดงฉาน เอ่ยมาถึงท่อนหลังเขาก็พูดไม่ออกแล้ว ในใจรับรู้ได้รางๆ แล้วว่าตนถูกหลอกใช้ ที่แท้ท่านเซียนที่คอยชี้แนะเขาในความฝันก็หลอกใช้เขา…
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด เพียงแต่ตี้ฝูอียังคงไม่ปล่อยเขาไป
“ท่านเซียนในความฝันของเจ้านอกจากถ่ายทอดการก่อผังดาวให้แล้วยังสอนอะไรบ้าง? เคยสอนเจ้าไหมว่าจะทำลายผังดาวอย่างไร?”
อวิ๋นเยียนหลีสติแตกแล้ว
“ผังดาวนั้นก่อขึ้นนานแล้ว! ข้าเพียงรับช่วงต่อมา เพียงรับหน้าที่โคจรมันเท่านั้น!”
อย่าว่าแต่อีกฝ่ายไม่เคยสอนวิธีทำลายให้เขาเลย ถึงขั้นที่ไม่เคยสอนการก่อค่ายกลอันใดให้เขาด้วยซ้ำ
มิเช่นนั้นหลังจากผังดาวของเมืองเล่อกั่วถูกตี้ฝูอีปรับแก้ไปแล้วในวันนั้น เขาคงทำให้ค่ายกลนั้นคืนสภาพไปนานแล้ว!
ไหนเลยจะยังเหลือหลักฐานเอาไว้ ให้ชาวบ้านนึกสงสัยเล่า?
เขายืนทึ่มทื่ออยู่ตรงนั้น รู้สึกว่าตนช่างน่าขัน อดไม่ได้ที่จะสิ้นหวังจนปัญญา
เขามองตี้ฝูอีที่อยู่ห่างจากเขาไปไม่กี่ก้าว พลันเชิดหน้าหัวเราะเสียงดัง
“ตี้ฝูอี ถึงแม้ข้าจะถูกหลอกใช้ แต่ดีร้ายอย่างไรหนนี้ก็สามารถลากเจ้าลงหลุมไปด้วยกันได้ นับว่าล้างแค้นให้เสด็จพ่อเสด็จแม่สำเร็จแล้ว!”
ตี้ฝูอีสะบัดแขนเสื้อเล็กน้อย เอ่ยอย่างเฉยเมย
“ความฝันนี้ของเจ้าช่างเลื่อนลอยเกินไปแล้ว! ค่ายกลเช่นนี้ไม่มีทางกักขังพวกเราได้ ที่ถูกกักขังไว้มีเพียงชาวเมืองนี้และลูกน้องพวกนี้ของเจ้าเท่านั้น”
อวิ๋นเยียนหลีตกตะลึง
ตี้ฝูอีจ้องเขาเขม็ง
“ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวที่สามารถช่วยเหลือชาวเมืองนี้ได้ เพียงแต่เจ้าจำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทน!”
“ค่าตอบแทนอันใด?”
“แขนข้างหนึ่งของเจ้า”
อวิ๋นเยียนหลีผงะไป
เจ้าวังน้อยฟังอยู่ด้านข้างตลอด ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้ว จึงกระโดดออกมาร้องขึ้นว่า
“นายท่าน อย่าไปฟังเขา! นี่คือกลลวงของเขา! คิดจะหลอกให้ท่านเสียทักษะยุทธ์ไป! ปองร้ายท่าน!”
ตี้ฝูอีไม่สนใจเจ้าวังน้อย
“อวิ๋นเยียนหลี เจ้ามีโอกาสเลือกเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว ข้าจะนับหนึ่งถึงสาม หากเจ้าไม่ตกลง ข้าก็จะพาแค่คนของตนจากไปเสีย! หนึ่ง!”
ไม่รอให้เขาได้นับสองออกมา อวิ๋นเยียนก็ยื่นแขนออกไปทันที
“ข้าตกลง!”
วาจานี้ของเขาเอ่ยออกมาด้วยวิธีพูดจาตามปกติ ผู้คนรอบข้างส่วนใหญ่ล้วนได้ยินกันทั่ว
เดิมทีทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอาฆาตเขา ปรารถนาจะสังหารเขาโดยเร็ว แต่ตอนนี้พอเห็นเขาทำเช่นนี้ ความโกรธแค้นอาฆาตในใจก็ลดทอนลงไปมาก…
สีหน้าเจ้าวังน้อยซีดขาว พลันยื่นแขนสองข้างของตนออกมา
“หากว่าจำเป็นต้องใช้แขนเป็นเครื่องสังเวยล่ะก็ ใช้ของข้าเถอะ! ใช้แขนทั้งสองของข้าแลกกับแขนหนึ่งของนายท่าน!”
อวิ๋นเยียนหลีตอบอย่างเฉยเมย
“จำเป็นต้องใช้ของข้าเท่านั้น ต่อให้เจ้าสละแขนขาทั้งสี่จนหมดก็ไม่มีประโยชน์!”
เจ้าวังน้อยพูดไม่ออกแล้ว
สุดท้ายก็ยังคงต้องใช้แขนของอวิ๋นเยียนหลี…
————————————————————————————-
บทที่ 2578 ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง 4
จะอย่างไรอวิ๋นเยียนหลีก็นึกไม่ถึงเลยว่า จะมีวันหนึ่งที่ตนฟังคำพูดของคู่แค้น สละแขนตนด้วยความเต็มใจ แถมยังเป็นการเสียสละที่น่าเวทนายิ่ง
ฟันแขนตนออกมา ใช้โลหิตสดๆ จากแขนถ่ายเทใส่กระถางใหญ่ทั้งแปด…
เนื่องจากสัตว์ร้ายทั้งแปดออกมาจากกระถางใหญ่ ดังนั้นพวกมันจึงให้ความสำคัญกับกระถางใหญ่ยิ่งนัก ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าใกล้
อวิ๋นเยียนหลีฟันแขนตนเองก็เจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวแล้ว ยังต้องมุดลอดไปมาระหว่างสัตว์ร้ายทั้งแปดอีก อันตรายอย่างยิ่ง
ตอนแรกเริ่ม เจ้าวังน้อยติดตามอยู่ข้างกายเขาเพื่อปัดป้องการโจมตีจากสัตว์ร้ายทั้งแปดให้เขา
แต่ถึงอย่างไรพลังยุทธ์ของนางก็มีขีดจำกัด ไม่ว่าจะเทียบกับสัตว์ร้ายตัวใด นางล้วนเป็นไก่อ่อนทั้งสิ้น เพิ่งเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายตัวแรกก็ถูกกรงเล็บฟาดปลิวออกไปแล้ว โชคดีที่อวิ๋นเยียนหลีต้านให้นางได้ทัน มิเช่นนั้นกรงเล็บนั้นคงฟาดนางตายไปแล้ว
แต่ถึงกระนั้น นางก็บาดเจ็บสาหัส กระอักเลือดออกมาทันที
นางฝืนลุกขึ้นมา ยังคิดจะติดตามอวิ๋นเยียนหลีต่อ ถูกอวิ๋นเยียนหลีโยนออกไป
“ไสหัวไป! ข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาคุ้มกัน!”
เจ้าวังน้อยร่วงลงบนร่างลูกน้องที่ภักดีต่อตนคนหนึ่ง ไม่ได้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีก
เจ้าวังน้อยมองอวิ๋นเยียนหลีทั้งน้ำตา รู้ว่าถึงแม้เขาจะพูดจารุนแรงแต่ความจริงแล้วหวังดีต่อนาง…
แต่อวิ๋นเยียนหลีก็ตกอยู่ในอันตรายยิ่งขึ้น
เกือบถูกสัตว์ร้ายตะปบขบกัดให้ตายอยู่หลายครั้ง!
โชคดีที่วรยุทธ์เขาแกร่งกล้า มิเช่นนั้นเกรงว่าคงตกเป็นอาหารของสัตว์ร้ายสักตัวไปก่อนแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงได้รับบาดเจ็บอีก บนร่างมีบาดแผลชุ่มโลหิตเพิ่มมาอีกหลายรอย ดูน่าเวทนาอย่างยิ่ง
คุนเสวี่ยอี๋มองแล้วสงสารเขาจริงๆ พลันเหินกาย ร่อนลงข้างๆ อวิ๋นเยียนหลี ยื่นมือไปปัดคลื่นวารีพิษให้พ้นจากเขา
“พี่ชายมาปกป้องเจ้าแล้ว!”
ตอนนี้คุนเสวี่ยอี๋อยู่ในขั้นจินเซียน หลังจากต้านการโจมตีนี้ไว้ก็เซถอยไปหลายก้าว ถูกสะเทือนจนชาไปหมดทั้งตัว แทบจะกระอักโลหิตแล้ว
เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ไม่นึกว่าสัตว์ร้ายทั้งแปดจะร้ายกาจเช่นนี้!
ฝีมือเช่นนี้ อย่างน้อยก็น่าจะเป็นขั้นซ่างเสินขึ้นไปกระมัง?!
ไม่นึกเลยว่าร่างมายาแปดร่างจะร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้!
เขาเกิดความบ้าบิ่นขึ้นมาแล้ว พลันถอยหลังย่อกาย หมายจะกระโจนเข้าไปอีกครั้ง
‘คุนเสวี่ยอี๋ ถอยมา! ให้เขาไปเอง!’
เสียงของตี้ฝูอีแว่วเข้ามาในทันใด
คุนเสวี่ยอี๋ตะลึงไปแวบหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะมองตี้ฝูอีแวบหนึ่ง ส่งกระแสเสียงหาเขา
‘นายท่าน นี่ท่านล้างแค้นเป็นการส่วนตัวหรือ?’
ตี้ฝูอีมองเขาอย่างยิ้มมิเชิงยิ้มคราหนึ่ง
‘หืม?’
‘นายท่าน หากว่าต้องเป็นโลหิตของเขาเท่านั้นถึงจะแก้ค่ายกลนี้ได้ เช่นนั้นก็ต้องให้เขามีชีวิตอยู่สิงานนี้ถึงจะสำเร็จ หากว่าเขาถูกตะปบตายกลางทาง เกรงว่าภารกิจคงไม่สำเร็จกระมัง?’
‘วางใจเถอะ ต่อให้เขาตายกลางทาง ข้าก็แก้ค่ายกลนี้ได้’
น้ำเสียงตี้ฝูอีเรื่อยเฉื่อย
คุนเสวี่ยอี๋พูดไม่ออกแล้ว
เขาอึดอัดอยู่บ้าง
‘ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเหตุใดท่านยังให้เขา…องค์ราชัน คงมิใช่ท่านคิดจะหลอกให้เขาไปตายเท่านั้นกระมัง?’
‘ข้าเป็นคนน่าเบื่อเช่นนั้นหรือไง?’
‘เรื่องนี้…’
คุนเสวี่ยตะโกนอยู่ในใจ
‘องค์ราชัน ท่านก็เป็นคนเช่นนี้แหละ!’
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาหรอก
มองดูอวิ๋นเยียนหลีที่พยายามฝ่าฟันต่อไปอย่างสุดกำลัง ค่อนข้างรู้สึกเวทนาเขาอย่างน่าประหลาด…
โลหิตบนร่างอวิ๋นเยียนหลีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่าไปแล้วก็แปลก เขาสกัดจุดห้ามเลือดไปแล้วชัดๆ แต่เลือดยังคงไหลไหลออกมาจากแขนที่ขาดไม่หยุด…เลือดที่ไหลออกมามิใช่สีแดงสด แต่เป็นสีม่วงอมแดง ดูน่ามองยิ่งนัก