ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2624 ล้างแค้น 2 / บทที่ 2625 ล้างแค้น 3
บทที่ 2624 ล้างแค้น 2
“เหล่าหวง แกบ้าไปแล้ว!”
ภายในยานรบ นายทหารกว่าสิบคนแทบจะกระชากคอเสื้อเหล่าหวงแล้ว
“ฉะ…ฉันไม่ได้…จู่ๆ มันก็ควบคุมไปเองอัตโนมัติ…”
เหล่าหวงแก้ตัวเหมือนเห็นผีก็มิปาน
“ผีหลอกแล้ว! เป็นผีหลอกจริงๆ!”
ตอนนี้ยานรบหยุดนิ่งอยู่บนถนนแล้ว ด้านนอกมีคนปีนขึ้นมาบนยานรบแล้วทุบประตูดังปึงปังอยู่ตรงนั้นแล้ว! น้ำเสียงที่เร่งร้อนรุนแรงนั้นบ่งบอกถึงความโกรธของคนที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้น…
ชัดเจนยิ่งนัก เป็นนายทหารที่เพิ่งรอดชีวิตมาได้ มาคิดบัญชีแล้ว!
เหล่าหวงลนลานนัก ถ้าเปิดประตูให้คนเข้ามาจะต้องถูกซ้อมตายแน่…
คนที่เหลือก็ไม่กล้าเหมือนกัน ถึงอย่างไรก็ชนสหายร่วมทัพตายไปหลายคน…
ระหว่างที่พวกเขาละล้าละลังเล็กน้อย จู่ๆ ยานรบลำนี้ก็สั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เกิดเสียงดังแซ่กเหินบินขึ้นมาอีกครั้งแล้ว!
คนที่อยู่นอกยานกรีดร้องร่วงหล่นลงไป
คนที่อยู่ในยานก็ไม่ได้รับผลดีอันใดเลย ถูกสะเทือนจนตัวปลิว ล้มกลิ้งอยู่ในยานปานลูกเต๋า
จวบจนพวกเขาฟกช้ำดำเขียว ไม่ง่ายเลยกว่าจะลุกขึ้นมาได้ ยานบินลำนี้ก็บินอยู่บนฟากฟ้าอีกครั้งแล้ว…
ผีหลอกแล้ว!
เหล่าหวงผู้ควบคุมยานรบก็เพิ่งจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาได้เช่นกัน แต่ปุ่มบนแผงกลับเด้งขึ้นๆ ลงๆ ราวกับมีใครกดปุ่มควบคุมอยู่ตรงนั้นไม่หยุด แต่ไม่เห็นใครอยู่บนแท่นควบคุมเลย…
“เทพศักดิ์สิทธิ์! ต้องเป็นเล่ห์กลของเทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้นแน่ๆ!”
เหล่าหวงร้องขึ้นมา
“เหลวไหล เธอถูกขังไว้ในตาข่ายใย Tencel[1] ไม่ใช่เหรอไง? แล้วจะออกมาได้ยังไง?”
“เปิดกล้องสิ! เปิดกล้องวงจรปิด!”
มีบางคนถลาเข้าไปที่หน้าแผงควบคุมเล็ก กดปุดหนึ่งบนนั้น
จอภาพภายในยานส่องวาบ ฉายแสงขึ้นมาอีกครั้ง บนจอภาพปรากฏห้องโดยสารแห่งนั้นที่คุมขังกู้ซีจิ่วเอาไว้ ที่นั่นเหลือเพียงตาข่ายผืนหนึ่ง แต่หญิงสาวในตาข่ายไม่รู้ไปไหนแล้ว…
“เป็นเธอ! เป็นเธอจริงๆ! เธอล่องหนได้!”
พวกเหล่าหวงแทบบ้าแล้ว
พากันคลำหาอาวุธคู่กายแล้วเหนี่ยวไกจ่อไปทางแผงควบคุม…
แสงเลเซอร์นับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่แผงควบคุมอย่างดุเดือด
เลเซอร์ที่ยิงออกมาจากปืนของพวกเขาถูกออกแบบมาเพื่อทำร้ายสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะ ไม่มีผลกับวัตถุธรรมดา เมื่อยิงถูกร่างของสิ่งมีชีวิต ก็จะยิงทะลุได้ทันที ถ้าไม่ใช้ยารักษาแบบเฉพาะทาง ปากแผลจะเน่าเปื่อยภายในหนึ่งชั่วโมง ถึงขั้นที่ทำให้มนุษย์ทั้งคนละลายเป็นน้ำเหลืองได้
แสงเลเซอร์ยิงประสานกันอย่างเนืองแน่น ครอบคลุมทุกซอกมุมที่เป็นจุดอับของแผงควบคุม เชื่อว่าถ้ามีคนยืนอยู่ตรงนั้น ต้องถูกยิงจนพรุนแน่นอน
หลังจากยิงไปห่าหนึ่งแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็หยุดยิ่ง จากนั้นก็มองกันอย่างแกมองฉัน ฉันมองแก
เทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้น…
น่าจะถูกยิงตายแล้วกระมัง? แต่แค่มองไม่เห็นตัวคนสินะ?
ตอนนี้ยานลอยนิ่งอยู่บนท้องฟ้าเหมือนเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าไปดู
จู่ๆ ก็มีเสียงแว่วขึ้นมาจากห้องนักบิน
“เรียกหนึ่งสามแปด เรียกหนึ่งสามแปด ได้ยินแล้วตอบด้วย!”
พวกเหล่าหวงเงยหน้าขึ้น ตกใจจนแทบฉี่ราดแล้ว!
มียานรบกว่าสิบลำลอยขึ้นมาแล้ว ล้อมยานรบของพวกเขาเอาไว้ใจกลาง ในบรรดานั้นมียานรบลำหนึ่งที่ใหญ่โตเป็นพิเศษ ใหญ่กว่ายานรบทั่วไปถึงสองเท่า!
“ผะ…ผู้พัน…”
เหล่าหวงขาสั่นไปหมดแล้ว
“แม่งเอ้ย เกิดอะไรขึ้น?!”
น้ำเสียงที่ดุดันแข็งกร้าวยิ่งนักสายหนึ่งแว่วเข้ามา เป็นผู้พันของพวกเขา และหนนี้ก็เป็นผู้พันที่เรียกพวกเขากลับมาส่งมอบภารกิจ
“ยานบินของพวกเราถูกควบคุม ตอนนี้เพิ่งชิงสิทธิ์ควบคุมกลับมาได้ครับ…”
“ถูกควบคุม? ถูกใครควบคุม?”
“ปะ…เป็นคนคนนั้น…เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกจับกุมคนนั้นครับ…”
“บัดซบ ในเมื่อจับได้แล้วทำไมถึงปล่อยให้เธอหลุดออกมาได้อีก! ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”
“น่าจะ…น่าจะถูก…ถูกยิงตายแล้วครับ…”
“สารเลว! ใครให้พวกแกยิงเธอกัน!”
ผู้พันคนนั้นโมโหแล้ว
“ศพล่ะ?!”
————————————————————————————-
บทที่ 2625 ล้างแค้น 3
“ศพยังหาไม่เจอครับท่าน พวกเรา…นี่พวกเราก็หากันอยู่…”
ผู้พันที่อยู่ทางนั้นร้องด่าด้วยความโกรธ
“ไอ้โง่!”
ขณะที่พวกเหล่าหวงทางฝั่งนี้กำลังจะไปคลำหาดูที่หน้าแผงควบคุม จู่ๆ ยานรบก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง! พุ่งไปด้านหน้ารุนแรงเสมือนบ้าคลั่ง ตรงเข้าชนยานรบที่ใหญ่ที่สุดลำนั้น!
“อ๊า…ไม่!”
พวกเหล่าหวงถูกสะเทือนจนล้มกลิ้งลงอีกครั้ง ร้องอุทานออกมา
“ไอ้เวร! พวกแกทำอะไร?! หยุดนะ!”
“หยุดให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
“ถ้าไม่หยุดก็ยิงปืนใหญ่ได้เลย!”
เสียงก่นด่าดังระงมไปทั่วห้องควบคุม…
เหล่าหวงโผเข้าหาแผงควบคุมอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น กลับคาดไม่ถึงว่ายังโผเข้าไปไม่ถึง ก็ถูกเขตแดนที่มองไม่เห็นดีดสะท้อน ชนเข้ากับผนังยานอย่างรุนแรง กระแทกจนเขาแทบจะสลบแล้ว!
คนอื่นเห็นท่าไม่ดีแล้ว พากันพุ่งเข้าหาแผงควบคุม คิดจะชิงสิทธิ์ควบคุมกลับมา ทำให้ยานรบที่บ้าคลั่งนี้หยุดลง…
แต่พวกเขาก็ถูกเขตแดนล่องหน ดีดสะท้อนกลับมาเหมือนกัน กระเด็นไปคนละทิศละทาง
“ยิงปืนใหญ่ซะ! แม่งเอ้ย ถ้าไม่หยุดจะยิงปืนใหญ่แล้วนะโว้ย!”
ไม่มีเสียงตอบรับจากฝั่งเหล่าหวง
“แม่งเอ้ย ยิงเลย! ยิงปืนใหญ่เลย!”
ผู้พันที่อยู่บนยานบังคับการมองยานรบลำเล็กที่พุ่งชนเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต เพลิงโทสะพวยพุ่งสูงสามพันจั้ง ในที่สุดก็มีคำสั่งให้ยิงปืนใหญ่
ส่วนพวกเหล่าหวงตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาอย่างลำบากลำบน สิ่งที่ได้เห็นคือปากกระบอกปืนใหญ่ของยานรบบัญชาการที่อยู่เบื้องหน้า…
และในเวลาเดียวกันนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นกู้ซีจิ่วที่เร้นกายมาตลอดแล้ว เธอสวมชุดขาวยืนอยู่หน้าแผงควบคุม หันกลับมาโบกมือให้พวกเขาเหล่านี้
“บ๊ายบาย”
นี่คือคำพูดสุดท้ายที่พวกเขาได้ยิน และเป็นฉากสุดท้ายที่พวกเขาได้เห็น
เนื่องจากวินาทีถัดมา ลำแสงสีขาวที่เจิดจ้าสายหนึ่งพุ่งออกมาจากปากปืนใหญ่ของยานรบบัญชาการตรงเข้าครอบคลุมยานรบลำเล็กที่พวกเขาโดยสารอยู่ทันที…
….
ผู้พันคนนั้นมองยานรบลำเล็กเบื้องหน้าที่ถูกระเบิดตูมจนแหลกเป็นจุณ ค่อยร่วงหล่นลงไป
สีหน้าเขาบึ้งตึง ในดวงตามีร่องรอยความเสียดายเล็กน้อย
เขาทราบถึงอานุภาพปืนใหญ่ของตนดี ปืนนี้ใหญ่ลูกนี้ไม่เพียงแต่สามารถกำจัดยานรบลำเล็กได้ในไม่กี่วินาทีเท่านั้น ยังทำให้ทุกชีวิตในยานรบลำเล็กสลายเป็นเถ้าถ่านด้วย แม้แต่เศษกระดูกก็หาไม่พบ
“น่าเสียดาย!”
เทพศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามขนาดนั้น เขาถึงขั้นที่ยังไม่ได้พบตัวจริงของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ…
ตอนนี้ยานบินของเขาบินออกห่างจากเมืองซิงเย้าหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว เขาสั่งการเจ้าหน้าที่ของยานรบลำอื่น
“กลับเมือง”
“ครับ!”
“ครับ!”
หลังจากได้รับคำสั่งยานรบยี่สิบลำที่ติดตามเขาออกมา ก็พากันตอบรับ เริ่มหักเลี้ยว เตรียมบินกลับไป…
“ผู้พัน ไม่ตามหาร่องรอยของเทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้นเหรอครับ?”
“หากับตูดน่ะสิ! ถูกระเบิดเป็นจุณไปนานแล้ว!”
ผู้พันอารมณ์ไม่ดี
รองเสนาธิการของเขาไม่กล้าส่งเสียงแล้ว กดปุ่มหลายปุ่มอย่างต่อเนื่อง ควบคุมยานบัญชาการให้หักเลี้ยวกลับเช่นกัน
“แม่งเอ้ย ไอ้ปัญญาอ่อนพวกนี้ แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวก็ดูแลไม่ได้! น่าเสียดายจริงๆ…”
ผู้พันคนนั้นสบถด่า สุ้มเสียงหงุดหงิดที่ไม่สมปรารถนา
“เสียดายอะไรเหรอ?”
พลันมีเสียงสตรีแว่วขึ้นข้างตัวเขา น้ำเสียงเย็นกระจ่างเสมือนสายลมพัดผ่านเนินเขา
ผู้พันหน้าเปลี่ยนสีแล้ว หันกลับไปทันที เห็นหญิงสาวชุดขาวคนหนึ่งยืนสง่าอยู่ไม่ห่างนัก
ห่วงหยกรวบเส้นผมที่ดำปานน้ำหมึกไว้ เนตรดุจดาราริมฝีปากแดงดั่งชาด เครื่องหน้างามพิสุทธิ์ รูปโฉมงดงามอย่างที่ยากจะพรรณนาได้ แต่รูปโฉมนั้นเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญกว่าคือรัศมีรอบกายเธอ ราวกับไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆ บรรยายออกมาเลย เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นเฉยๆ ก็ส่งผลกระทบมหาศาลต่อผู้คนแล้ว ทำให้คนเห็นแล้วทึ่มทื่อไปในชั่วพริบตา!
“ทะ…เทพศักดิ์สิทธิ์!”
ผู้พันเอ่ยโพล่งออกมา
————————————————————————————-
[1] Tencel ผลิตจากเซลลูโลสของเปลือกไม้ธรรมชาติ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติในการปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับร่างกายที่เปลี่ยนไปมา มีน้ำหนักเบา ถ่ายเทอากาศได้ดี เป็นเส้นใยเดียวที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาต่อจาก เส้นใยไนลอนและเส้นใยโพลีเอสเตอร์