ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2672 (2) ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว / บทที่ 2673 (1) ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว 2
- Home
- ลำนำบุปผาพิษ
- บทที่ 2672 (2) ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว / บทที่ 2673 (1) ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว 2
บทที่ 2672 (2) ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว
โลหิตนั้นแดงฉาน เสียดแทงนัยน์ตาคน
“จิ้งจอกน้อย!”
หัวใจเยี่ยนเฉินกระตุกวูบ ใบหน้าเผือดซีด ราวกับคนที่กระอักโลหิตคำนี้ออกมาเป็นตัวเขา
เขาประคองนางด้วยปลายนิ้วที่สั่นเทา
“เจ้าเป็นยังไงบ้าง?”
ทำไมถึงกระอักโลหิตได้เล่า? หรือว่า…หรือว่าจะเป็นผลตกค้างจากฝ่ามือนั้นของเขา?
เขารีบจับชีพจรให้นาง ผ่านไปครู่หนึ่ง นิ้วมือของเขากำแน่น อยากจะแทงตัวเองขึ้นมาวูบหนึ่ง!
เป็นผลตกค้างจากฝ่ามือนั้นของเขาจริงๆ ดูจากสภาพชีพจรของนางแล้วฝ่ามือนั้นของเขาแทบจะสะบั้นชีพจรหัวใจนางแล้ว!
กล่าวอีกนัยคือสะบั้นขาดไปแล้ว เพียงแต่ถูกคนฝืนเชื่อมเข้าหากันอีกครั้ง…
การฝืนเชื่อมชีพจรหัวใจเช่นนี้ย่อมอ่อนแอเป็นธรรมดา ถูกกระตุ้นนิดหน่อยก็เสี่ยงจะขาดออกอีกครั้งแล้ว! อาการบาดเจ็บเช่นนี้ต้องพักฟื้นอย่างน้อยครึ่งปีขึ้นไป ถึงมีความเป็นไปได้ที่จะหายขาด แต่นางอ่อนแอจนกลายเป็นเช่นนี้แล้ว ยังดื่มสุรามากขนาดนั้นอีก รนหาที่ตายชัดๆ…
ประหลาด แม้ว่ายามนั้นเขาจะลงมือด้วยความโกรธ แต่สุดท้ายแล้วเป็นเพราะนางเหมือนจิ้งจอกน้อยเกินไป จึงไม่ได้ลงมือถึงตายอย่างแท้จริง
เขาควบคุมพลังเอาไว้แล้วชัดๆ ทำไมถึงทำร้ายนางจนสาหัสขนาดนี้ได้?
ใช่แล้ว ตอนนั้นนางบอกว่าถูกทรมานเคี่ยวกรำอยู่เกือบเดือนถึงจะหนีออกมาได้ ตอนนั้นนางอาจจะอ่อนแอมากแล้ว ดังนั้นถึงได้บาดเจ็บหนักขนาดนี้
ในใจของเยี่ยนเฉินทั้งละอายทั้งเสียใจและเจ็บปวด อดไม่ได้ที่จะอ้าแขนโอบนางไว้ในอ้อมอก กอดเอาไว้แน่น น้ำเสียงแหบพร่าอย่างยิ่ง
“จิ้งจอกน้อย ขอโทษนะ…”
สีหน้าของหลานไว่หูซีดเซียวจนแทบจะโปร่งแสงแล้ว หลังกระอักโลหิตคำนี้ออกมานางก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อย
หอบหายใจอยู่ครู่หนึ่ง สายตาก็ร่อนลงบนหน้าเยี่ยนเฉิน หรี่ตามองเขาอยู่ครู่หนึ่ง
“เจ้า…เป็นใคร?”
เยี่ยนเฉินเงียบไป
เขาสูดหายใจเบาๆ เป็นเช่นเดียวกับในอดีตที่หลังจากนางเมามายจะจดจำเขาไม่ได้ จึงต้องแนะนำตัวเองอย่างเสียมิได้
“ข้าคือเยี่ยนเฉิน”
“เยี่ยนเฉิน…”
หลานไว่หูงึมงำประโยคหนึ่ง สุ้มเสียงราบเรียบ คล้ายจะไม่รู้สึกรู้สา
“เยี่ยนเฉินไหน?”
เขามองนัยน์ตาที่ใส่กระจ่างดั่งแก้วเคลือบ
“เยี่ยนเฉินสามีของเจ้า…”
หลานไว่หูเอียงคอ ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มนิดๆ น้ำเสียงแฝงความงุนงงไว้
“สามี…แต่ว่า เขาไม่ต้องการข้าแล้วนี่นา…”
ลำคอเยี่ยนเฉินตีบตัน จับมือนางไว้
“จิ้งจอกน้อย ข้าไม่เคยไม่ต้องการเจ้านะ ข้าแค่จำคนผิดเท่านั้น ต้องการเจ้าอยู่เสมอ…”
“จำคนผิด…”
หลานไว่หูยังคงเอ่ยงึมงำ ไม่ทราบเช่นกันว่าสร่างเมาแล้วหรือยังเลอะเลือน
“แต่ว่า…จะจำคนผิดได้ยังไงกัน…เขาเป็นสามีที่อยู่กับข้ามากว่าสองร้อยปีเลยนะ เขาพูดอยู่เสมอว่าต่อให้ถลกหนังข้าออกไปแล้วก็ยังคงจดจำกระดูกของข้าได้ แต่ข้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยชัดๆ เขากลับจำข้าไม่ได้แล้ว แถมยังตีข้าด้วย…เขาไม่ต้องการข้าแล้ว…”
ราวกับนางตกอยู่ในฝันร้าย เอ่ยพึมพำกับตัวเอง
หัวใจเยี่ยนเฉินดุจโดนมีดคว้าน กอดนางไว้
“เขาเป็นคนสารเลว! จิ้งจอกน้อย ขออภัยด้วย…”
“เมื่อก่อนข้าไม่ชอบทำเรื่องนั้นเลย แต่ว่าเขาชอบทำ…ข้าคล้อยตามเขา ข้ารู้ว่าเป็นเพราะเรื่องนี้ถึงทำให้เขาไม่มีความสุขอยู่บ้าง ข้าก็พยายามจะเอาชนะอุปสรรคในใจนี้อย่างสุดกำลังเช่นกัน…อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว แต่ว่าข้ามีลูก มีลูกแล้วก็ไม่อาจทำได้ นี่ไม่ใช่ว่าข้าตั้งใจหลบเลี่ยง เขาแยกห้องนอนกับข้า…เพราะเรื่องนี้เขาถึงเย็นชากับข้า…ไม่ค่อยสนใจข้า ข้าเสียใจมาก…”
เยี่ยนเฉินหลับตาลงนิดๆ เอ่ยด้วยเสียงแหบเครือ
“จิ้งจอกน้อย ข้าไม่ได้โกรธเจ้า ไม่ได้คิดจะหมางเมินเจ้า เพียงแค่…เพียงแค่กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้จนทำให้เจ้ารังเกียจ ดังนั้นถึงพยายามอยู่ห่างเจ้าสักหน่อย เลี่ยงไม่ให้ตนก่อเรื่องไม่ดีอันใดขึ้น ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเข้าใจผิด…”
หลานไว่หูยังคงหลับตาอยู่ ราวกับยังคงตกอยู่ในห้วงฝันร้าย
————————————————————————————-
บทที่ 2673 (1) ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว 2
หลานไว่หูยังคงหลับตาอยู่ ราวกับยังคงตกอยู่ในห้วงฝันร้าย
“เขาพาคนฝ่าออกไปหาเสบียง ข้ากลัวว่าเขาจะมีอันเป็นไป เลยแอบตามออกมา คิดจะช่วยเหลือเขา แต่ถูกคนจับไป…พวกเขาจับข้าไปที่ยานรบลำหนึ่ง มัดข้าไว้บนเสาแล้วแทะโลมข้า หยามเกียรติข้า…จากนั้นข้าก็เห็นเขา…มองเห็นเขาพุ่งผ่านยานรบลำนี้ไปอย่างรวดเร็ว ข้าร่ำไห้พยายามตะโกนเรียกสุดชีวิต อยากให้เขาได้ยิน อยากให้เขามองข้าสักแวบ แต่ไม่มีเลย…”
เยี่ยนเฉินพูดอะไรไม่ออกแล้ว
หัวใจเขากำลังหลั่งโลหิต รู้ว่านางกำลังพูดถึงเรื่องตอนที่เพิ่งถูกจับตัวไป ตอนนั้นเขาได้ยินเสียงร้องไห้ของหลานไว่หูอย่างเลือนรางจริงๆ ถึงได้ออกตามหา ผลก็คือ กลับไปพบหลานไว่หูตัวปลอมเข้า พากลับไปด้วย
“ตอนอยู่บนยานพวกเขาเกือบจะ…เกือบจะข่มเหงข้าแล้ว ข้ากำลังคิดหาทางตายแล้ว แต่ต่อมาจู่ๆ พวกเขาก็หยุดมือ เอาข้ากลับไปส่งที่แดนเผ่าจิ้งจอกคราม…พวกเขาบอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันกับข้าเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน บอกว่าข้าสมควรจะเข้าร่วมกับเผ่าพันธุ์ของตน บังคับให้ข้าบอกความลับเกี่ยวกับเขตแดนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์…ข้าไม่ยอมพูด พวกเขาเลยเอาข้าไปขังไว้ในคุกน้ำแข็งใต้ดินที่มืดจนมองไม่เห็นนิ้วมือด้วยซ้ำ…”
หัวใจเยี่ยนเฉินรวดร้าว จิ้งจอกน้อยกลัวความมืดความหนาวเป็นที่สุด แล้วคนชั่วเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะรู้จุดอ่อนของนาง ตอนนั้นนางต้องหวาดกลัวมากแน่นอน
“คุกน้ำแข็งใต้ดินหนาวมากเลย ข้าสวมชุดแพรโปร่งพยายามฝึกวรยุทธ์ก็ไม่อาจต้านทานความหนาวได้ ข้าเกือบโดนแช่แข็งแล้ว ข้าไม่กล้าร้องไห้ เพราะน้ำตาจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง…ทำให้ข้าเจ็บตา ในคุกน้ำแข็งแห่งนั้นยังมีเข็มที่ขยับได้เองด้วย ทุกๆ สองสามชั่วยามจะทิ่มแทงใส่ข้าหลายครั้ง ทิ่มจนข้าอยู่ไม่สู้ตาย…”
หลานไว่หูหดตัวเข้ามา ราวกับย้อนกลับไปอยู่ในพื้นที่มืดมิดแห่งนั้นอีกครั้ง เรียกฟ้าฟ้าไม่ขาน เรียกดินดินไม่สน
“ไอ้สารเลวพวกนั้น!”
นัยน์ตาเยี่ยนเฉินแดงก่ำแล้ว
“ทุกวันพวกเขาจะส่งคนมาถามข้าว่ายอมหรือยัง…ข้าไม่ยอม ข้าไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเขา ข้าเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์…ยุไม่ขึ้น ไม่มีทางขายสหาย…ข้าทุกข์ทรมานมาโดยตลอด รอคอยให้เยี่ยนเฉินมาช่วยข้า…ข้ารู้ว่าเขาไม่มีทางทิ้งข้า ต้องมาช่วยข้าแน่…”
นัยน์ตาเยี่ยนเฉินแดงก่ำยิ่งกว่าเดิมแล้ว
“ขอโทษนะ…”
หนึ่งเดือนนั้นเขาดูแลหลานไว่หูตัวปลอม รักถนอมประคองนางไว้กลางหัตถ์ ไหนเลยจะรู้ว่าคนที่เขาอยากรักอยากถนอมตัวจริงกำลังได้รับความทุกข์ทรมานอยู่ รอให้เขาไปช่วย…
“คนของพวกเขามักจะเกลี้ยกล่อมข้า บอกว่าพวกเขารู้ว่าข้าคือเผ่าพันธุ์เดียวกันกับพวกเขา บอกว่าเยี่ยนเฉินไม่ต้องการข้าแล้ว บอกว่าคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ก็ไม่ยอมรับข้าแล้วเหมือนกัน บอกว่าข้ามีแต่ต้องเชื่อฟังพวกเขาถึงจะมีหนทางรอด…แต่ข้าอยากกลับไป ข้ารู้สึกว่าเยี่ยนเฉินไม่มีทางทอดทิ้งข้า ข้าไม่ได้ทำเรื่องชั่วร้าย เขาไม่มีทางไม่ต้องการข้า ที่เยี่ยนเฉินไม่มาสักที ข้าคิดว่าเขาน่าจะถูกเหนี่ยวรั้งไว้จนมาไม่ได้ หรืออาจจะบาดเจ็บก็ได้…พวกเขาเคี่ยวกรำข้าอยู่หนึ่งเดือน ต่อมาก็ไม่สนใจข้าแล้ว คลายความระแวดระวังลง ข้าจึงฉวยโอกาสทุบยามคนหนึ่งแล้วหนีออกไป…”
“ข้าหนีออกมาจากแดนเผ่าจิ้งจอกคราม พยายามหนีไปยังสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์สุดชีวิต หลายวันนั้นข้าไม่ได้กินข้าวเลย หิวโหยอย่างยิ่ง ยังหนีไปไม่ถึงสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ก็หิวจนทนไม่ไหวแล้ว ข้าจับกระต่ายตัวหนึ่งได้ ข้าหิวจนคิดแต่จะกินเลือดมันเท่านั้น เดิมทีข้าคิดจะเอามันไปย่างแล้วค่อยกิน แต่ข้ารอไม่ไหวแล้ว…จากนั้นข้าก็พบเยี่ยนเฉิน…ได้เห็นเขาข้าดีใจนัก และคับข้องหมองใจยิ่ง อดไม่ได้ที่จะโผเข้าหาเขา แต่ว่า…แต่ว่าเขาผลักข้าออก สายตาที่มองข้าราวกับมองขยะ”
เยี่ยนเฉินหลับตา
“เขาสิถึงจะเป็นขยะ แม้แต่ภรรยาของตัวเองก็ยังแยกไม่ออก…”
หลานไว่หูยังคงพูดพร่ำต่อไป
“เขาบอกว่าข้าเป็นตัวปลอม บอกว่าภรรยาของเขาอยู่ข้างกายเขาตลอด ยังบอกว่ารักนางมากด้วย…ข้าโมโหมาก!”
————————————————————————————-