ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2699 ทุกคนล้วนมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น / บทที่ 2700 เป็นมือสังหาร เป็นตัวหมาก
- Home
- ลำนำบุปผาพิษ
- บทที่ 2699 ทุกคนล้วนมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น / บทที่ 2700 เป็นมือสังหาร เป็นตัวหมาก
บทที่ 2699 ทุกคนล้วนมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ร่างนี้ของนางน่าจะเป็นของหลานไว่หูกระมัง?
ไม่ง่ายเลยกว่าหลานไว่หูจะมีลูกได้ ดังนั้นจึงไม่อาจจะทำลายร่างนี้ได้ เธอยังคงต้องหาทางรักษาร่างนี้เอาไว้ในสภาพสมบูรณ์ จากนั้นก็ขับอูอู๋เหยียนคนนี้ออกไป ให้จิ้งจอกน้อยได้กลับสู่ร่างเดิม
เธอลอบกำมือ เธอยังไม่เคยเรียนรู้อาคมย้ายวิญญาณ ไม่สามารถสลับร่างให้หลานไว่หูได้ ยังต้องรอให้ตี้ฝูอีมาถึงก่อนถึงจะทำได้
ในสมองของเธอขบคิดไปสารพัด ในใจเริ่มใคร่ครวญแล้วว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนในการชิงตัว ‘หลานไว่หู’ หลบหนี
ผ่านไปสักพัก เธอก็ลอบส่ายหน้า ตอนนี้ภายในยานลำนี้ถูกฟั่นเชียนซื่อกางอาคมไว้แล้ว วิชาเคลื่อนย้ายของเธอใช้งานไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้นคือมองเห็นห้วงอวกาศอยู่ด้านนอก ยานลำนี้ออกจากทวีปซิงเยวี่ยแล้ว ต่อให้เธอเคลื่อนย้ายออกไป ก็ไม่สามารถกลับไปที่ทวีปซิงเยวี่ยได้ทันที ต้องเจอกับชั้นบรรยากาศก่อนแน่นอน ตัวเธอน่ะไม่เป็นไร แต่พลังยุทธ์ของหลานไว่หูไม่สูงพอ ทันทีที่ออกจากยานเกรงว่าคงขาดอากาศตายทันที อูอู๋เหยียนตายไปน่ะไม่สำคัญ แต่ในท้องนางยังมีลูกของจิ้งจอกน้อยอยู่…
ตอนนี้ทำได้เพียงว่ากันไปทีละขั้นแล้ว
ฟั่นเชียนซื่อมองนางแววตาไหวระริกนิดๆ ผ่านไปสักครู่ก็ยิ้มแวบหนึ่ง “ซีจิ่ว ถึงแม้นางจะไม่ใช่หลานไว่หูตัวจริง แต่สุดท้ายก็ยังครองสังขารของนางไว้อยู่ดี เจ้ายังเป็นสหายกับนางได้เหมือนเดิม นิสัยใจคอของอู๋เหยียนก็ไม่เลว เชื่อว่าต้องเข้ากับเจ้าได้แน่”
เมื่อกล่าวประโยคนี้จบ เขาพลันหมุนกายหายวับไป คาดว่าคงออกไปบังคับยานลำนี้ในห้องอื่นแล้ว
ภายในห้องโดยสารนี้เหลือเพียงอูอู๋เหยียนและกู้ซีจิ่ว
อูอู๋เหยียนมองกู้ซีจิ่วด้วยรอยยิ้ม คล้ายจะสื่อว่าข้าว่าง่ายยิ่งนัก “มิผิด ซีจิ่ว หากเจ้ารู้สึกค่อนข้างถูกชะตากับจิ้งจอกน้อย ต้องการให้นางอยู่ข้างกาย ข้าจะเลียนอย่างอุปนิสัยของนางไว้เหมือนเดิม”
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ แววตานางก็ใสซื่อขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนจิ้งจอกน้อยทุกประการ
กู้ซีจิ่วเอ่ยอย่างเฉยเมย “เจ้าเสแสร้งเป็นผู้อื่นอยู่ตลอดไม่เหนื่อยบ้างหรือ? เจ้าเอาตัวเองไปไว้ที่ไหนแล้ว?”
สีหน้าอูอู๋เหยียนแข็งทื่อไปแวบหนึ่ง หรี่ตาลงเล็กน้อย “อะไรนะ?”
“ทุกคนล้วนมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ผู้ใดก็แทนที่ไม่ได้” กู้ซีจิ่วนั่งอยู่ตรงนั้นมือหมุนถ้วยชาใบหนึ่ง “เจ้าควรเป็นตัวของตัวเอง!”
อูอู๋เหยียนชะงักไป…
ตัวเอง?
หลายปีมานี้นางเคยเป็นผู้คนมากมายนัก หญิงชายเด็กผู้ใหญ่ มหาโจรผู้กล้า พ่อค้าลูกจ้าง ขอเพียงนายท่านต้องการ นางก็ต้องเลียนแบบผู้อื่น พยายามลอกเลียนให้เหมือน จากนั้นก็เข้าแทนที่ ลอบทำงานให้นายท่าน
เรื่องที่นางทำมากที่สุดคือเลียนอย่างอุปนิสัยของผู้อื่น แล้วอุปนิสัยของตัวนางคืออะไรกัน? นางงงงันไปชั่วขณะ นางลืมไปแล้วว่านางควรจะเป็นแบบไหน…
กู้ซีจิ่วมองนาง “คงมิใช่ว่าแม้แต่ตัวเองเป็นอย่างไรเจ้าก็หลงลืมไปแล้วกระมัง?”
อูอู๋เหยียนเงียบงัน นางเม้มปากแน่น เอ่ยวาจาไม่ออกชั่วขณะ
กู้ซีจิ่วลุกขึ้นมา เดินวนรอบตัวนางหนึ่งรอบ “เจ้าจำรูปลักษณ์ดั้งเดิมของตนไม่ได้แล้ว เช่นนั้นเจ้าจำประวัติความเป็นมาของเจ้าได้ไหม?”
อูอู๋เหยียนยิ้มหยัน “เจ้าอย่าฝันว่าจะหลอกถามข้าได้!”
ความสับสนพลันผุดขึ้นมาในหัวใจ ที่มาของตนหรือ?
บางทีนางคงมีชีวิตอยู่มานานเกินไป เสแสร้งเป็นผู้อื่นมานานเกินไป ไม่น่าเชื่อว่านางจะหลงลืมไปแล้วว่าที่แท้ตนมาได้อย่างไรกัน
ถึงขั้นที่จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเริ่มรับใช้ฟั่นเชียนซื่อตั้งแต่เมื่อไหร่ คล้ายว่าจะคอยติดตามเขาในฐานะต่างๆ มาโดยตลอด
“ที่แท้แม้แต่ความเป็นมาของตัวเองเจ้าก็จำไม่ได้แล้ว เช่นนั้นก็คงไม่รู้จักพ่อแม่ของตนด้วยเป็นแน่” น้ำเสียงกู้ซีจิ่วเนิบนาบเรียบเฉย ทว่าเสมือนค้อนที่ทุบลงบนหัวใจของอูอู๋เหยียน
อูอู๋เหยียนหยักมุมปากแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างภาคภูมิ “พ่อแม่? ตัวข้ามีชีวิตมาเป็นหมื่นปีแล้ว ผู้ใดจะมีความอดทนจดจำสิ่งที่ไร้ความสำคัญเช่นนั้นได้เล่า? ข้าจดนายท่านเพียงคนเดียวก็พอแล้ว”
แววตากู้ซีจิ่ววูบไหวนิดๆ ไม่ว่าจะนานขนาดไหน ก็ไม่มีใครหลงลืมพ่อแม่ของตนไปได้ เว้นแต่นางจะกำพร้ามาแต่เล็ก!
และคุณสมบัติร่างกายแบบพิเศษของอูอู๋เหยียนก็ไม่เหมือนคนทั่วไปเลย หรือว่านางจะเป็นสิ่งที่ฟั่นเชียนซื่อสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ?!
————————————————————————————-
บทที่ 2700 เป็นมือสังหาร เป็นตัวหมาก
ด้วยความเก่งฉกาจของฟั่นเชียนซื่อ เขาสามารถทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้จริงๆ!
กู้ซีจิ่วหลุบตาลงเล็กน้อย จู่ๆ ก็เอ่ยถามประโยคหนึ่ง “แล้วหลงซือเย่เล่า?”
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นคำถามที่ธรรมดายิ่งนักประโยคหนึ่ง ทว่าอูอู๋เหยียนที่สุขุมเยือกเย็นมาโดยตลอดกลับหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย นิ่งไปแวบหนึ่ง ยิ้มหยัน “เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?”
“เจ้าไม่นึกถึงเขาหรือ?”
“แปลกนะ ทำไมข้าต้องนึกถึงเขาล่ะ?” อูอู๋เหยียนย้อนถาม
“อ่อ ในเมื่อไม่นึกถึง เช่นนั้นอันที่จริงแล้วเขา…” กล่าวมาถึงตรงนี้กู้ซีจิ่วก็หยุดลง ยิ้มแวบหนึ่ง ไม่พูดต่อ พริ้มตาลงนิดๆ
อูอู๋เหยียนมองเธอแวบหนึ่ง ริมฝีปากแดงบิดเผยอนิดๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง มือเท้าศีรษะคล้ายจะงีบหลับ แพขนตาสั่นไหวเล็กน้อย
นางมีชีวิตมาหมื่นปีแล้ว อะไรบ้างที่ไม่เคยประสบ? คนเช่นใดบ้างที่ไม่เคยพบพาน? เป็นปาท่องโก๋แก่ที่ลื่นไหลอย่างยิ่งมานานแล้ว
กู้ซีจิ่วกำลังยั่วให้นางอยาก นางรู้ดียิ่งนัก ดังนั้นจึงไม่อยากหลงกลอีกฝ่าย
แต่รู้ก็ส่วนรู้ ทว่าในใจกลับคล้ายมีคนคนโยนหินก้อนหนึ่งใส่ผิวทะเลสาบที่ราบเรียบ ทำให้กระเพื่อมไหวเป็นวง
นางไร้อารมณ์ต่อความรู้สึกรักใคร่โดยกำเนิด ชั่วชีวิตนี้เคยครอบครองร่างกายมากมายข้องแวะกับบุรุษมานับไม่ถ้วนแล้ว แน่นอนว่าเคยประกอบกิจ เคยกระหนุงกระหนิงรักใคร่กันฉันท์คู่รัก แต่ไม่เคยหวั่นไหวเลย ยามที่สมควรลงมือก็ไม่ลังเลเลยสักนิด
ขอเพียงเป็นภารกิจที่ต้องปฏิบัติ นางสามารถลงมือฟันชายที่เพิ่งสัญญารักมั่นกับนางไปชั่วชีวิตให้แหลกเละได้โดยไม่กะพริบตาเลย เลือดเย็นดั่งเหล็กไหลที่หล่อให้อุ่นขึ้นไม่ได้
มีเพียงตอนที่อยู่กับหลงซือเย่ที่ทำให้ตัวนางเกิดความรู้สึกบางอย่างไม่อาจอธิบายให้กระจ่างได้ต่อเขา เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกหักใจจากเขาไม่ลง…
แน่นอน ความรู้สึกนี้คลุมเครือยิ่งนัก นางไม่เชื่อว่าตนเองจะหลงรักอีกฝ่าย แต่หลงซือเย่เป็นความอ่อนโยนที่ไม่อาจแตะต้องได้ในหัวใจที่เย็นชาของนางจริงๆ
ในอดีตหลังจากนางออกจากร่างของกู้ซีจิ่วแล้ว ก็ไปรับภารกิจอื่นต่อ ไปเป็นสายสืบที่ดาวจิ้งจอกครามเพิ่งได้กลับมาในช่วงนี้เหมือนกัน
หลังจากนางกลับมา ทวีปซิงเยวี่ยก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ผู้คนมากมายล้วนไม่อยู่แล้ว รวมถึงหลงซือเย่ด้วย
นางเคยลอบสืบหาข่าวคราว คนส่วนใหญ่บอกว่าพอเขาเขาฝ่าด่านเคราะห์ได้ก็หายตัวไปเลย บางคนก็บอกว่าเขากลายเป็นเซียนขึ้นสู่ดินแดนเบื้องบนแล้ว บางคนก็บอกว่าเขาถูกอัสนีด่านเคราะห์ผ่าจนแหลกเป็นจุณไปแล้ว แม้แต่ผมสักเส้นก็ไม่เหลืออยู่…
ทฤษฎีอย่างไรล้วนมีหมด แตกต่างหลากหลาย แต่ทฤษฎีของทุกคนล้วนไม่อาจพิสูจน์ได้ ดังนั้นสุดท้ายแล้วอูอู๋เหยียนก็ไม่ทราบว่าสรุปแล้วหลงซือเย่ลงเอยอย่างไรกันแน่
นางไม่เคยไปถามไถ่อีกเลย
นางคือลูกน้องของฟั่นเชียนซื่อ เป็นมือสังหาร เป็นตัวหมาก
นางเคารพบูชาเขา ยินดีให้เขาใช้งาน
ในมือของฟั่นเชียนซื่อมีเบี้ยสังหารอยู่นับไม่ถ้วน หลายปีมานี้ลูกน้องที่ถูกเขาทอดทิ้งมีไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
แต่สำหรับอูอู๋เหยียนไม่ว่าเขาจะแปลงฐานะเป็นอะไรก็พาเธอติดตามไปด้วย
เขาบอกนางว่า เป็นเบี้ยสังหารของเขาต้องไร้ใจไร้รัก ภักดีกับเจ้านายเท่านั้น ไม่อาจมีความรู้สึกส่วนตัวได้
นางทำได้ แถมยังทำได้ดีมากด้วย!
ในภายหลังต่อให้ในใจมีความรู้สึกประหลาดต่อหลงซือเย่อยู่บ้าง นางก็ไม่ได้เผยออกมา
กลับคาดไม่ถึงว่าวันนี้จู่ๆ กู้ซีจิ่วจะเอ่ยถึงเขาขึ้นมา
เงาร่างของหลงซือเย่แวบเข้ามาในสมองของนาง ไม่ได้พบกันมากว่าสองร้อยปีแล้ว นางไม่นึกเลยว่าตนจะยังคงจดจำได้แม่นยำนัก
อยากรู้ว่าเขาสบายดีไหม
เพียงแต่ นางไม่อาจถามได้ ถึงขั้นที่นางไม่อาจเผยความห่วงใยที่มีต่อหลงซือเย่ออกมาได้สักนิด มิเช่นนั้นฟั่นเชียนซื่อจะจัดการ ‘ห่วง’ ของนาง ทำให้ ‘ห่วง’ ของนางสูญสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง!
นางเหลือบมองกู้ซีจิ่วผ่านแพขนตาของตนแวบหนึ่ง กู้ซีจิ่วนั่งเฉยไม่รู้ร้อนอยู่ตรงนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นฝ่ายพูดออกมาเองเลย