ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2703 ความภักดี 3 / บทที่ 2704 ความภักดี 4
บทที่ 2703 ความภักดี 3
เมื่อมุกโลหิตเหล่านี้ร่วงลงบนขวดโหล ก็ซึมทะลุลงไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง ขวดโหลเหล่านี้ก็สั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อยราวกับมีชีวิต มีไอหมอกเริ่มลอยม้วนขึ้นมาด้านบน
ไอหมอกที่ผุดขึ้นมาจากโหลแต่ละใบมีสีสันแตกต่างกันไป แดงส้มเหลืองเขียวน้ำเงินครามม่วง เป็นสีรุ้งพอดี
รูปลักษณ์ของขวดโหลดูเก่าแก่เรียบง่าย ด้านบนมีลวดลายที่ซับซ้อนอยู่ ลวดลายเหล่านั้นคล้ายแมลงทว่ามิใช่แมลง คล้ายสัตว์ทว่ามิใช่สัตว์ ท่ามกลางไอหมอกสลัวเลือนราง ผังลวดลายเหล่านั้นบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปราวกับมีชีวิต สีสันก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป เดิมทีเป็นสีขาวน้ำนมเช่นเดียวกับขวดโหล แต่ต่อมาสีสันกลับแดงฉานขึ้นเรื่อยๆ…
เห็นได้ชัดว่าในโหลมีบางสิ่งอยู่ หยาดโลหิตที่ผุดออกมาจากปลายนิ้วของฟั่นเชียนซื่อเริ่มร้อยเรียงเป็นสาย แต่ละหยดพุ่งขึ้นไปในอากาศ ผสมรวมตัวเข้ากับไอหมอกเหล่านั้น ควบคู่ไปกับการประกอบพิธีของฟั่นเชียนซื่อ ขวดโหลเหล่านั้นค่อยๆ สั่นไหวอยู่ตรงนั้น มีเสียงร้องโหยหวนแว่วออกมาจากด้านใน ราวกับมีสัตว์ร้ายอันใดถูกคุมขังทรมานไว้ด้านใน ทว่าไม่อาจหลบหนีออกมาได้…
เสียงนั้นเสมือนภูตผีนับไม่ถ้วนร่ำไห้ ทำให้คนรู้สึกเสียวฟันขึ้นมา
ไอหมอกหนาขึ้นเรื่อยๆ ลวดลายเหล่านั้นที่อยู่บนขวดโหลก็สดใสขึ้นเรื่อยๆ ทีละนิดๆ บนผังลวดลายมีของเหลวหยดลงไปทีละหยดๆ ของเหลวนั้นเป็นสีชมพู ราวกับกลีบดอกท้อที่ผลิบานรับสายลมในเดือนสาม ดูน่ามองนัก
เห็นได้ชัดว่าฟั่นเชียนซื่อสิ้นเปลืองพลังจิตไปกับสิ่งนี้ยิ่ง ของเหลวเหล่านั้นเพิ่งรวมตัวกันได้ไม่กี่หยด บนหน้าผากของเขาก็มีเหงื่อซึมออกมาแล้ว
จวบจนเขารวบรวมปริมาณได้เต็มจอกสุราใบหนึ่ง เขาก็เหงื่อเปียกซึมอาภรณ์แล้ว
ตอนที่เขาเก็บพลัง ในที่สุดไอหมอกบนโหลเจ็ดใบนั้นก็สลายหายไป ลวดลายบนขวดโหลก็คล้ายมะเขือม่วงต้องเหมันต์ เหี่ยวเฉาไปทันที
เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง โหลเจ็ดใบนั้นก็สลายเป็นธุลีสูญสิ้นไป
เขาถือจอกของเหลวล้ำค่าถ้วยนั้น มุมปากเผยรอยยิ้มน้อยๆ ออกมาจางๆ…
เขาเปิดกลไกบางอย่าง มองเห็นกู้ซีจิ่วกับอูอู๋เหยียนต่างคนต่างนั่งอยู่ตรงนั้น เป็นสถานการณ์ที่ผู้ใดก็ไม่เปิดปากเอ่ยวาจา
สายตาเขาร่อนลงบนใบหน้าอูอู๋เหยียนก่อน ถอนหายใจเบาๆ
อูอู๋เหยียนเป็นสุนัขในสังกัดตัวหนึ่งที่ภักดีต่อเขาที่สุด เขาหักใจสละนางไม่ลงจริงๆ แต่ว่า…
สายตาเขาหันเหไปที่ใบหน้าของกู้ซีจิ่วต่อ นิ่งไปแวบหนึ่ง ดวงตาฉายแววเร่าร้อนและไม่ยินยอมแวบหนึ่ง
เพียรพยายามมาเนิ่นนานขนาดนี้แล้ว มองเห็นความสำเร็จใกล้เข้ามาแล้ว เขาไม่ยินยอมให้ล้มเหลวลงในขั้นสุดท้าย!
เขาจะไม่มีวันปล่อยให้หลุดรอดไปได้อีกแล้ว!
เขาก้าวออกไป…
….
ยามที่ฟั่นเชียนซื่อก้าวทะลุจอออกมาอีกครั้งราวกับซาดาโกะ[1] กู้ซีจิ่วไม่มีความประหลาดใจเลยสักนิด เพียงลอบตั้งท่าระวังขึ้นมา
อูอู๋เหยียนกลับถอนหายใจอย่างโล่งอก นายท่านออกมาแล้ว นางก็ไม่ต้องกลัวว่ากู้ซีจิ่วจะเล่นลวดลายใหม่อันใดแล้ว
“พวกเจ้าพูดคุยกันเป็นอย่างไรบ้าง? สำราญดีหรือไม่?” ฟั่นเชียนซื่อยิ้มน้อยๆ คล้ายจะสัพยอก
“ไม่เลวเจ้าค่ะ แม่นางกู้ยังเล่าเรื่องสัตว์เลี้ยงของนางให้ข้าน้อยฟังด้วย” อูอู๋เหยียนไม่ปิดบังฟั่นเชียนซื่อ
ฟั่นเชียนซื่อไม่แสดงสีหน้า ยิ้มน้อยๆ เช่นกัน “สัตว์เลี้ยงไม่กี่ตัวนั้นของซีจิ่วน่าสนุกยิ่งนักจริงๆ เพียงแต่ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่”
“ข้ามองพวกมันเป็นสหาย ไม่ได้เห็นพวกมันเป็นเครื่องมือ เหตุใดต้องสนใจด้วยว่ามีประโยชน์หรือไม่?” กู้ซีจิ่วหยักมุมปากโต้เขาไปประโยคหนึ่ง
ฟั่นเชียนซื่อส่ายหน้านิดๆ เอ่ยเสียงเรียบ “ซีจิ่ว จงจำวาจาหนึ่งเอาไว้ สัตว์เลี้ยงก็คือสัตว์เลี้ยง ต้องเลี้ยงตัวที่มีประโยชน์เท่านั้น ในเมื่อเลี้ยงแล้วก็ต้องทำให้พวกมันสยบเชื่องเชื่ออย่างสมบูรณ์ เช่นนี้พวกมันถึงจะเชื่อฟังคำสั่งอย่างแท้จริง เห็นเจ้าเป็นนายเหนือเป็นผู้ชี้นำ”
“โอ้ ดูเหมือนนี่จะเป็นแนวทางการสยบสัตว์ของท่านผู้สูงศักดิ์สินะ ช่างเลือดเย็นอย่างเหนือธรรมดาโดยแท้ เช่นนั้นหากว่าวันหนึ่งพวกมันบาดเจ็บสาหัสจนใช้ประโยชน์ไม่ได้เล่า? ท่านจะสังหารหรือทอดทิ้งมันไปอย่างไม่ลังเลเลยใช่ไหม?”
————————————————————————————-
บทที่ 2704 ความภักดี 4
ฟั่นเชียนซื่อยิ้มแวบหนึ่ง ทว่าไม่ได้ปฏิเสธ “แน่นอน ในเมื่อไม่มีประโยชน์แล้วจะเก็บไว้ทำไมอีก?”
“แล้วถ้าหากมันเคยกระทำเรื่องราวมากมายให้ท่านล่ะ? เคยช่วยเหลือท่านไว้มากมายล่ะ?”
“เรื่องราวที่พวกมันทำให้ข้าคือหน้าที่อันพึงกระทำ ช่วยเหลือก็เช่นกัน ไม่อาจหักล้างอันใดได้ อย่างมากข้าก็จะให้พวกมันได้ตายสบายหน่อยเท่านั้น”
“เช่นนั้นกับลูกน้องของท่านเล่า? เป็นเช่นนี้เหมือนกันหรือ?”
ฟั่นเชียนซื่อยิ้มแล้ว “ซีจิ่ว เจ้าหลอกถามข้าเช่นนี้ คิดจะยุแยงให้ความสัมพันธ์นายบ่าวของอู๋เหยียนกับข้าร้าวฉานหรือ?” แล้วหันไปเอ่ยถามอูอู๋เหยียน “อู๋เหยียน เจ้าถูกนางยุแยงไปแล้วกระมัน?”
“นายท่านโปรดวางใจ นางยุแยงไม่ได้หรอกเจ้าคะ อู๋เหยียนจงรักภักดีต่อนายท่านอย่างแน่นอน!”
ฟั่นเชียนซื่อถามต่ออีกประโยคหนึ่ง “แล้วหากว่าข้าให้เจ้าไปตายล่ะ?”
“เช่นนั้นอู๋เหยียนก็จะสิ้นชีพอย่างสงบ จะไม่ขมวดคิ้วเลยสักนิด!” อูอู๋เหยียนเอ่ยเสียงดังหนักแน่น
สีหน้าฟันเชียนซื่อผ่อนคลาย ยื่นมือไปตบไหล่นาง “อู๋เหยียน ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าดีที่สุด ข้าจะตกรางวัลให้เจ้า” เขาตวัดแขนเสื้อ ปรากฏสุราจอกหนึ่งขึ้นกลางฝ่ามือ “มาเถอะ ข้ามอบสิ่งนี้ให้เจ้าเป็นรางวัล”
อูอู๋เหยียนก้มหัวเอ่ยขอบคุณแล้วรับมา จอกสุราขาวกระจ่างดั่งหยก แต่สุราในจอกกลับเป็นสีแดงอ่อนราวกับดอกท้อที่บานสะพรั่งในเดือนสาม มีกลิ่นหอมหวานจางๆ อย่างหนึ่งที่อธิบายไม่ถูกโชยออกมา
กลิ่นหอมนั้นทำให้ทารกในครรภ์ของนางเคลื่อนไหวคราหนึ่ง ตัวนางก็กลืนน้ำลายอึกหนึ่งเช่นกัน
นางไม่สงสัยในตัวฟั่นเชียนซื่อเลยสักนิด ในเมื่อตกรางวัลให้นาง นางย่อมดื่มได้
สุรานี้หอมหวนเกินไป นางหักใจดื่มรวดเดียวหมดไม่ได้ จึงจิบนิดๆ อึกหนึ่งก่อน
ในสุราแฝงกลิ่นคาวโลหิตชนิดหนึ่งเอาไว้ แต่หลังจากอูอู๋เหยียนจิบอึกนี้เข้าไป ก็รู้สึกแมลงตะกละถูกล่อออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว รู้สึกเพียงว่าสุราจอกนี้เลิศรสอย่างยิ่ง ความปรารถนาที่ไร้ซึ่งเหตุผุดขึ้นมาในหัวใจ
น้ำลายสายหนึ่งไหลย้อยออกมาจากมุมปากของนาง ไม่สนใจอะไรอีกต่อไป ยกจอกสุราชิดริมฝีปากอีกครั้ง หมายจะดื่มรวดเดียวหมด
‘ฟุ่บ!’ ไม่ทราบว่ากระแสดัชนีสีรุ้งสายหนึ่งพุ่งออกมาจากซอกมุมใด พุ่งตรงเข้าใส่จอกสุราในมือของนาง!
‘เพล้ง!’ จอกสุราหลุดมือร่วงลงพื้นแตกกระจาย สุรากระจายออกมา ไหลนองพื้น
นางเงยหน้าขึ้นทันที ถลึงตาใส่กู้ซีจิ่ว “สารเลว! เจ้าทำอะไร?!”
นางดูราวกับหมาป่าที่ถูกคนแย่งกระดูกติดเนื้อไปอย่างกะทันหัน นัยน์ตาแดงฉาน โผเข้าใส่กู้ซีจิ่วแล้ว!
สีหน้าฟั่นเชียนซื่อพลันแปรเปลี่ยนไปเช่นกัน เขาไม่นึกเลยว่ากู้ซีจิ่วจะลงมือในยามนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้ตั้งท่าระวังนาง
ประกอบกับนางลงมือว่องไวเกินไป ไม่น่าเชื่อเลยว่า ‘สุรา’ จอกนนี้จะหกไปเช่นนี้! หกไปแล้ว!
เพียงแต่ยามนี้เขาไม่สนใจจะลงโทษตัวต้นเหตุอย่างกู้ซีจิ่วแล้ว แต่ตวัดแขนเสื้อคราหนึ่ง มีลำแสงเข้าครอบคลุมสุราที่หกนอง…
ล้วนกล่าวกันว่าน้ำหกแล้วยากจะเก็บคืน แต่ฟั่นเชียนซื่อทำให้สุราที่หกนองพื้นกลับมาอยู่ในจอกสุราอีกใบหนึ่งได้อีกครั้งอย่างน่าตะลึง
เพียงแต่ ถึงอย่างไรก็เป็นของเหลว อีกทั้งพื้นยานใต้ฝ่าเท้าสร้างขึ้นจากวัสดุพิเศษ ถึงแม้จะทนทานยิ่ง แต่ก็ดูดซับน้ำได้ดียิ่งนัก
สุราที่ฟั่นเชียนซื่อกอบกู้คืนมาได้มีแค่สามในสี่ของปริมาณเดิม
กู้ซีจิ่วย่อมไม่ปล่อยให้อูอู๋เหยียนทำร้ายเธอได้ เงาร่างไหววูบวาบ หลบเลี่ยงการโจมตีของนาง เอ่ยเสียงเบา “สุรานั้นมีพิษ ดื่มไม่ได้!”
ร่างของอูอู๋เหยียนที่พุ่งเข้าโจมตีชะงักไปแวบหนึ่ง ถลึงตามองกู้ซีจิ่ว “เจ้าพูดเหลวไหลอันใด?! นายท่านไม่มีทางวางยาพิษข้า…”
กู้ซีจิ่วยิ้มเย็น “เป็นความจริง สุรานั้นคือสุราพิษจริงๆ!”
ถึงเธอจะมองไม่ออกว่าสุรานั้นกลั่นขึ้นจากวัตถุดิบใด แต่ได้กลิ่นคาวเหียนของโลหิตเจืออยู่ในกลิ่นหอมของสุรา จากนั้นก็เห็นว่าพอดื่มเข้าไปแล้วอูอู๋เหยียนที่ควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดีเสมอมาก็เริ่มน้ำลายไหล เห็นได้ชัดว่าผิดปกติแล้ว…
————————————————————————————-
[1] ซาดาโกะ คือชื่อตัวละครในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง The ring เป็นวิญญาณพยาบาทที่เผยแพร่คำสาปมรณะผ่านเทปวิดีโอ