ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2821 กำไลมังกรแก้ว / บทที่ 2822 กำไลมังกรแก้ว 2
บทที่ 2821 กำไลมังกรแก้ว
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย สามมุมมองของเธอพังทลายแล้ว!
เอ่ยไปอย่างจริงใจว่า “เปิ่นจุนรู้สึกว่าเจ้าทำเช่นนี้ค่อนข้างเสียของอยู่บ้าง!”
ไม่นึกเลยว่านักบวชที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะเป็นจอมตะกละผู้หนึ่ง เสี่ยงภัยขโมยไข่มังกรประทีปเพื่อกินโดยเฉพาะ…
“ไม่ว่าจะเป็นสมบัติล้ำค่าอันใด ขอเพียงใช้ในส่วนที่เหมาะสมที่สุด ล้วนไม่เป็นนับว่าเสียของ” ตี้ฝูอีหมุนไข่ฟองนั้นในมือรอบหนึ่ง จากนั้นก็มองกู้ซีจิ่วด้วยสายตาวาววาม “อาหารจานไข่ ท่านทำเป็นกี่วิธี?”
กู้ซีจิ่วอึกอักอยู่บ้าง “…เรื่องนั้น…ข้าไม่เป็นเลยสักอย่าง…”
เธอค่อนข้างประหม่าอย่างที่พบเห็นได้ยากนัก เธอถือกำเนิดในฐานะเทพ ถึงแม้ว่าจะลืมเลือนเรื่องราวก่อนหลับใหลไปพอสมควรแล้ว แต่ไม่ว่าเธอจะไปไหนล้วนได้รับความเคารพเทิดทูนจากผู้คน ล้วนยื้อแย่งกันกำนัลสิ่งของให้เธอ อีกอย่างเธอตัดธัญญะไปนานแล้ว ต่อให้ไม่กินก็ไม่เป็นไร
แน่นอน เธอยังคงเดินทางไปลิ้มรสอาหารเลิศรสตามสถานที่ต่างๆ ในหกภพภูมิอยู่เสมอ มิใช่อื่นใดเลย เพียงเพื่อสนองความอยากของปากเท่านั้น เธอชอบรสชาติกิเลสเช่นนี้
หากว่าให้เธอไล่เลียงอาหารจานพิเศษต่างๆ ของหกภพภูมิ เธอสามารถไล่เรียงได้ปานนับสมบัติในบ้าน
แต่เธอไม่เคยลงครัวด้วยตัวเองเลยจริงๆ…
เธอมองดูเขา “เจ้าทำเป็นกี่อย่าง?”
ตี้ฝูอีชะงักไปแวบหนึ่ง “หนึ่งอย่าง!”
ทั้งสองคนต่างเจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า ในที่สุดก็ได้ทราบว่าล้วนเป็นผู้อ่อนด้อยในด้านงานครัวกันทั้งคู่…
ถึงแม้กู้ซีจิ่วก็สนใจใคร่รู้ในรสชาติของไข่มังกรประทีปยิ่งนัก แต่เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าจะทำกินอย่างไรช่างเป็นเรื่องที่จุกจิกเหลือเกิน ไข่ฟองนี้ไม่ธรรมดา ยังคงฟักออกมาเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณจะดีกว่า
ด้วยเหตุนี้เธอจึงคิดจะใช้กลยุทธ์ถ่วงเวลา “สิ่งที่ล้ำค่าถึงเพียงนี้ ควรตามหาพ่อครัวชั้นยอดเตรียมส่วนผสมให้ดีก่อน แล้วค่อยว่ากันเถอะ ไข่ฟองใหญ่ขนาดนี้ ไม่แน่ว่าอาจทำของดีได้สามสี่อย่าง…”
ตี้ฝูอีปฏิเสธอย่างทันควัน “ไม่ได้ จำเป็นต้องกินที่นี่ถึงจะได้ผลดี ต้มนั่นแหละ! ต้มแล้วรสชาติไม่เลวเลยจริงๆ สดใหม่ยิ่ง”
กู้ซีจิ่วเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถาม “…ข้าขอถามสักข้อ เจ้าเคยต้มไข่ชนิดนี้กี่ครั้งแล้ว?”
ตี้ฝูอีชูสามนิ้วขึ้นส่ายไปมา “ก็ไม่กี่ครั้ง นับรวมครั้งนี้ด้วย ก็สามครั้งเท่านั้น ถึงอย่างไรก็เป็นสัตว์เทพ มีน้อยหายาก ล่ามากไม่ได้ ข้าไม่ชอบกินอาหารซ้ำซากเท่าไหร่ ไม่เคยเกินสามครั้ง อร่อยหน่อยก็กินเพียงสามครั้ง”
กู้ซีจิ่วตกตะลึง!
“นี่เจ้าปล้นรังมังกรประทีปหรือ? เท่าที่ข้ารู้ มังกรประทีปมีทายาทได้ยาก หนึ่งรังกำเนิดไข่เพียงหนึ่งฟอง หรือว่าในสมุทรโลกาจะมีมังกรประทีปมากมาย?”
ตี้ฝูอีส่ายหน้า “ก็ไม่มากนัก เท่าที่ข้ารู้มา ไม่ถึงร้อยตัวนะ ที่นั้นเป็นฐานหลักของมังกรประทีปจริงๆ”
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเกือบร้อยตัว!
กู้ซีจิ่วหลงนึกไปว่าสัตว์เทพประเภทนี้คงเหลืออยู่บนโลกเพียงสามสี่ตัวเท่านั้น!
ค่อยยังชั่ว ค่อยยังชั่ว! ถูกเขาขโมยไข่มาเพียงสามฟองก็ไม่นับว่าทำให้มังกรประทีปสูญพันธุ์
“ไข่มังกรประทีปนี้มีสรรพคุณเช่นใด?” กู้ซีจิ่วค่อนข้างสนใจใคร่รู้ ถึงแม้เธอจะแตกฉานด้านวิชาแพทย์ แต่ถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็หายากอย่างยิ่ง ต่อให้ผู้คนของหกภพภูมิบังเอิญมีโชคได้ไข่มาสักฟอง ก็คงจะฟูมฟักอย่างทะนุถนอมยิ่ง หรือไม่ก็นำมันมาใช้เป็นตัวยา
ตี้ฝูอีมองเธอแวบหนึ่ง เอ่ยตอบ “เดี๋ยวท่านก็ได้รู้สรรพคุณของมันเอง”
ไอ้เด็กตัวเหม็นคนนี้ อมพะนำอีกแล้ว!
กู้ซีจิ่วไม่ถามต่อแล้ว ต้มไข่เธอก็ช่วยไม่ได้ มองเห็นกลุ่มพายุโชยผ่านแดนน้ำแข็ง เธอก็อยากจะเข้าไปฝึกฝนสักหน่อย
ไม่นึกเลยว่าเพิ่งจะขยับตัวแวบเดียว ก็ถูกเขารั้งเอาไว้ “ตอนนี้ยังไม่ได้! ถ้าท่านเข้าไปตอนนี้ได้ถูกแช่แข็งเป็นรูปปั้นน้ำแข็งทันทีแน่”
กู้ซีจิ่วมองเขา “ข้าเพิ่งออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนั้นล้วนฝึกฝนอยู่ในกลุ่มพายุทุกวันเลยนะ”
“ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้น สถานที่แห่งนี้ทุกครั้งที่เข้ามาล้วนจะกลับไปเป็นศูนย์ ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”
กู้ซีจิ่วนึกถึงโอสถที่เขามอบให้ในตอนนั้น “เช่นนั้น…มอบยาลูกกลอนชนิดนั้นให้ข้าอีกเม็ดได้ไหม?”
————————————————————————————-
บทที่ 2822 กำไลมังกรแก้ว 2
ตี้ฝูอีกอดอก “สิ่งนั้นล้ำค่าดั่งทอง ไม่มอบให้ผู้อื่นง่ายๆ ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนท่านเคยบอกไว้ ระหว่างพวกเราเป็นไทต่อกันแล้ว คล้ายว่าข้าจะไม่ได้ติดค้างอันใดพระองค์เจ้าแล้ว”
กู้ซีจิ่วถูกตอกหน้าจนผงะไปแวบหนึ่ง ที่เขาพูดดูคล้ายจะมีเหตุผล
เธอหันไปมองกลุ่มพายุไอวิญญาณแต่ละกลุ่มก้อนบนทุ่งน้ำแข็ง อาลัยอยู่บ้าง
ตัวเธอในตอนนี้เสมือนเฝ้าเขาสมบัติอยู่ทว่าเข้าไปไม่ได้…
“ข้าสามารถทำการแลกเปลี่ยนกับเจ้าได้ ทางข้ามีสมบัติวิเศษอยู่บ้าง เจ้าดูเอาเถิดว่าประสงค์สิ่งใด” กู้ซีจิ่วเปิดช่องมิติของตนเองออกอย่างใจกว้าง หยิบสมบัติวิเศษอันล้ำค่ากว่าสิบชนิดออกมาอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างล้วนเป็นของล้ำค่าหายากบนโลกหล้า
ตี้ฝูอีกวาดตามองแวบหนึ่ง “สมบัติของพระองค์เจ้ามีไม่น้อยเลยจริงๆ น่าเสียดายที่ข้าไม่พึงใจเลย และไม่คิดจะแลกเปลี่ยนด้วย”
กู้ซีจิ่วกำมืออยู่ในแขนเสื้อ พลันตัดสินใจ หยิบกำไลคู่หนึ่งที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของช่องมิติออกมา
กำไลวงนั้นเป็นสีรุ้งพร่างพราว แฝงไอมงคลเอาไว้ ทันทีที่หยิบออกมา ก็ราวกับมีแสงฉัพพรรณรังสีโอบล้อมตัวคนไว้
“เปิ่นจุนจะใช้กำไลนี้แลกเปลี่ยนกับเจ้า” ด้วยเกรงว่าเขาจะไม่รู้จักคุณค่า เธอจึงอธิบายให้เขาฟังอีกครั้ง “กำไลวงนี้เป็นกำไลหยกคู่ที่ควบรวมขึ้นมาเองตามธรรมชาติในใจกลางปฐพีใต้บรรพตปู้โจว[1] เป็นสมบัติของฟ้าดิน มีจิตวิญญาณแล้ว สามารถแปลงเป็นมังกรแก้วปกป้องนายได้…”
เธอดีดนิ้วใส่กำไลคู่นั้นทีหนึ่ง กำไลคู่นั้นสั่นไหวคราหนึ่ง จำแลงเป็นมังกรแก้วสองตัวทันที หนึ่งเหลืองหนึ่งขาว เหลืองอร่ามดุจทอง ขาวพิสุทธิ์ดุจหิมะ ส่ายหัวสะบัดหางเหินวนรอบกายกู้ซีจิ่ว ทั้งงดงามทั้งน่าเอ็นดู ทำให้คนเห็นแล้วอยากจะลูบดู
ทว่าตี้ฝูอีกลับไม่สนใจเลย “เครื่องประดับของเด็กสาว หรูหรางดงาม แต่ใช้งานจริงไม่ได้”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้นสูง “นี่หาใช่เครื่องประดับของเด็กสาวทั่วไปไม่ เห็นมังกรแก้วคู่นี้หรือไม่? พวกมันเลือกนายเป็นตั้งแต่กำเนิด ตามหาเนื้อคู่ของผู้เป็นนายได้ วนเวียนมุ่งหา เจ้าอายุยังน้อย วันหน้าก็ต้องเลือกเฟ้นภรรยา มีกำไลคู่นี้อยู่ วันหน้าเจ้าก็จะสะดวกขึ้นมาก”
ครั้งนี้ในที่สุดตี้ฝูอีก็สนใจขึ้นมาบ้างแล้ว “พวกมันช่วยเจ้านายตามหาคู่ครองได้เหรอ? เช่นนั้นเหตุใดไม่ช่วยตามหาให้พระองค์เจ้าหน่อยเล่า?”
กู้ซีจิ่วผงะไป หลุดยิ้ม “ข้าคือเทพผู้สร้างโลกนะ ไม่เหมาะจะข้องแวะกับการครองคู่วิวาห์”
ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว “เพราะเหตุใดเทพผู้สร้างโลกถึงไม่เหมาะจะวิวาห์?”
“เทพผู้สร้างโลกสรรค์สร้างสรรพสิ่งโลกา ต้องมีความรักอันยิ่งใหญ่มิใช่ความรักอันหยุมหยิม ไม่เหมาะจะมีความรู้สึกส่วนตัวมาพัวพัน เลี่ยงไม่ให้หลงสู่ภวังค์รักหนุ่มสาว ไม่อาจตัดสินอย่างเสมอภาพเป็นธรรมได้”
ดวงตาของตี้ฝูอีมองไปที่นาง “ความหมายของท่านคือเป็นเทพผู้ทรงสิทธิ์ไม่อาจมีความรู้สึกส่วนตัวใดๆ ได้?”
“แน่นอน!”
“ผู้ใดกำหนด?”
“นี่…”
“ท่านคือเทพผู้สร้างโลก จุดเริ่มต้นของสรรพสิ่งในโลกหล้าล้วนเกิดขึ้นจากการรังสรรค์ของพระองค์เจ้า คาดว่ากฏเกณฑ์ก็น่าจะเป็นพระองค์เจ้าที่บัญญัติขึ้นกระมัง? หากว่าไม่เหมาะสม คิดจะถอดถอนก็ง่ายดายนัก”
“มันไม่เหมาะสมตรงไหนกัน?”
“พระองค์เจ้า สัมพันธ์ระหว่างชายหญิงก็คือความรู้สึก เช่นนั้นพระองค์เจ้ามีสหายมีลูกศิษย์ อีกทั้งพระองค์เจ้ายังมีจิตเมตตา ไม่เพียงแต่ห่วงใยใส่ใจศิษย์ แม้แต่สาวใช้ก็ยังเอื้ออาทร นี่เห็นได้ว่าพระองค์เจ้ามิได้ไร้ความรู้สึก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเหตุใดต้องแบ่งแยกกักกันสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเล่า?”
กู้ซีจิ่วถูกเขาถามอย่างตรงไปตรงมา เธอหลุบตาลงนิดๆ ย้อนคิดดูเล็กน้อย จดจำได้รางๆ ว่าในอดีตเมื่อเนิ่นนานมาแล้วเทพบนโลกใบนี้มิได้มีเพียงตัวเอง เพียงแต่วันเวลาผ่านมาเนิ่นนานเกินไป เทพก็มีการเสื่อมสูญหรือช่วงที่ประสบเคราะห์ดับขันธ์ไปเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นตัวเธอ…
ดังนั้นไม่ว่าจะมีหรือไม่มีกฏเกณฑ์นี้ เธอล้วนไม่จำเป็นต้องตามหาคนรักคู่ครองอันใดอยู่แล้ว…
แน่นอน เหตุผลข้อนี้ไม่อาจบอกได้
เธอก็ไม่อยากอธิบายให้มากความเช่นกัน เพียงยิ้มแวบหนึ่ง ในสุ้มเสียงเจือความมากประสบการณ์เอาไว้เล็กน้อย “หนุ่มน้อย เจ้าหลงประเด็นแล้ว! เปิ่นจุนต้องการใช้กำไลคู่นี้แลกกับโอสถของเจ้า มิใช่มาถกถามในหัวข้อที่ว่าเปิ่นจุนวิวาห์ได้หรือไม่”
————————————————————————————-
[1] บรรพตปู้โจว เป็นชื่อของหุบเขาที่มีบันทึกอยู่ในคัมภีร์ซานไห่จิง เป็นเสาบรรพตค้ำผืนฟ้าด้านทิศตะวันตก