ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2837 เผชิญมรสุม 4 / บทที่ 2328 เผชิญมรสุม 5
บทที่ 2837 เผชิญมรสุม 4
บนตัวเธออย่างอื่นมีไม่มาก เพียงแต่มีเงินทองมากมาย ของจะแพงแค่ไหนเธอก็ซื้อไหว
เดิมทีเธอคิดจะซื้อเอง แต่ฟั่นเชียนซื่อต้องการหาเงินด้วยตัวเองมาซื้อให้ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อเธอ เพื่อฝึกฝนความสามารถในการอยู่ร่วมสังคมให้ศิษย์ กู้ซีจิ่วจึงตอบตกลง ให้เถ้าแก่ร้านเก็บกำไลคืนไปอย่างหักใจไม่ลงอยู่บ้าง อีกสองเดือนให้หลังเธอจะมาซื้ออีกครั้ง
เธอบอกกฏเกณฑ์สองข้อในการหาเงินของลูกศิษย์ ไม่อนุญาตให้ขโมย และไม่อนุญาตให้ปล้นชิง ต้องอาศัยความสามารถของตัวเองหาเงินเท่านั้น!
ฟั่นเชียนซื่ออุตสาหะทำงานอย่างหนักอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งของภพเซียนสองเดือนเต็ม ในที่สุดก็หาเงินได้เพียงพอ ถือถุงเงินมาซื้อกำไลวงนั้นกับอาจารย์อย่างเป็นสุขชื่นมื่น
ผลคือเนื่องจากเลยเวลามาหนึ่งวัน เถ้าแก่คนนั้นจึงนำกำไลข้อมือออกมาขายอีกครั้ง ต้องตาสาวน้อยแรกแย้มนางหนึ่งเข้า
ตอนที่พวกกู้ซีจิ่วศิษย์อาจารย์ไปถึง สตรีนางนั้นกำลังเล่นอย่างชมชอบจนวางมือไม่ลงอยู่ กำลังจะจ่ายเงินซื้อแล้ว
กำไลมีวงเดียว ลูกค้ามีสองคน ซ้ำยังเจรจาราคากันแล้วทั้งคู่ ล้วนผูกใจต่อกำไลวงนี้กันทั้งคู่ เถ้าแก่ร้านพลันหัวใส ให้พวกเขาเสนอราคากันเสียเลย ผู้ใดให้ราคาสูงกว่าก็ได้ไป
เงินที่ฟั่นเชียนซื่อพกมาไม่นับว่ามากนัก มากกว่าราคาเดิมเพียงเล็กน้อย หากว่าเสนอราคาประมูล มีความเป็นไปได้สูงที่จะแพ้
เขาทั้งโมโหทั้งโกรธา แถมสตรีนางนั้นยังแสดงสีหน้าหมิ่นแคลนเขาด้วย “คุณชายท่านนี้คงมิใช่ว่าแม้แต่เสนอราคาประมูลก็ยังมิกล้ากระมัง? ในเมื่อเป็นคนยากจน อย่าได้มาแย่งชิงกำไลนี้กับแม่นางอย่างข้าเลย กำไลวงนี้แม่นางอย่างข้าจองแล้ว!”
วาจานี้กระตุ้นให้ฟั่นเชียนซื่อโกรธจนหน้าดำหน้าแดง กำมือแน่น!
กู้ซีจิ่วที่อยู่ด้านข้างหน้าขรึมแล้ว เดิมทีเธอก็ใช่ว่าจะเสียกำไลวงนี้ไปไม่ได้ แต่สตรีนางนี้กลับมาโจมตีลูกศิษย์ของเธอแบบนี้…
เธอยิ้มเฉยเมยแวบหนึ่ง ตบตั๋วเงินปึกหนึ่งลงตู้วางสินค้า “ประมูลเถอะ!”
ตั๋วเงินปึกนี้ของเธอเป็นเงินร้อยเท่าของราคากำไลวงนี้ ถ้าแก่คนนั้นมองจนดวงตาลุกวาวแล้ว! รีบมองไปทางแม่นางคนนั้นทันที
แม่นางคนนั้นหน้าเหลืองปานธุลีแล้ว นางไม่มีเงินติดตัวมากมายขนาดนี้! ย่อมไม่อาจเสนอราคาได้อีก เผยอปากนิดๆ เปล่งวาจาไม่ออกเลย
ฟั่นเชียนซื่อเชิดหน้าผยอง ยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง “แม่นางท่านนี้ที่แท้ก็ไม่กล้าแม้แต่จะประมูลสินะ ในเมื่อเป็นคนยากไร้ ก็อย่าได้มาแย่งชิงกำไลวงนี้กับคุณชายอย่างข้าเลย กำไลวงนี้ข้าจองแล้ว!”
ใบหน้าพริ้มเพราของแม่นางคนนั้นแดงก่ำ ทว่าอับจนหนทาง
เถ้าแก่ร้านได้รับตั๋วเงินปึกนี้ไปก็ยินดีปรีดายิ้มจนตาปิด นำกำไลวงนั้นมาห่อแล้วยื่นส่งให้กู้ซีจิ่ว “แม่นาง กำไลวงนี้เป็นของท่านแล้ว”
ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังจะรับมา มือข้างหนึ่งก็สอดเข้ามาในแนวขวาง รับห่อกำไลวงนั้นไว้ “ช้าก่อน”
มือข้างนั้นเรียวยาวดุจลำไผ่ ขาวกระจ่างปานหยก ข้อนิ้วงดงาม บนนิ้วโป้งยังสวมแหวนหยกสีเขียวครามวงหนึ่งไว้ด้วย
กู้ซีจิ่วเงยหน้าขึ้น มองเห็นหน้ากากภูตผีอันเป็นเอกลักษณ์ของเทียนโม่เวิ่นและดวงตาด้านหลังหน้ากากที่สุกสกาวดุจมีคลื่นแสงพร่างพราว
สายตากู้ซีจิ่ววนสำรวจใบหน้าเขารอบเดียวก็จำเขาได้แล้ว ชักมือกลับมาอย่างเงียบเชียบ ทำราวกับได้พบเขาเป็นครั้งแรก “ท่านผู้สูงศักดิ์มีอันใดจะกล่าวหรือ?”
เถ้าแก่ร้านยังคงจดจำท่านราชครูผู้นี้ได้ ถึงอย่างไรหน้ากากอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะชิ้นนี้ของเขาก็เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้า!
เถ้าแก่ร้านค่อนข้างประหม่า รีบคุกเข่าทำความเคารพเขา
คนผู้นี้ย่อมเป็นตี้ฝูอี เขากวาดตามองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง
นี่เป็นเผชิญหน้ากันตรงๆ ครั้งแรกของพวกเขาในรอบยี่สิบปี ท่าทางที่นางมองเขาราวกับมองคนแปลกหน้าก็มิปาน…
เขาละสายตาจากดวงหน้าของนาง หันเหไปที่ร่างสตรีนางนั้น “เยี่ยนชิง เกิดอะไรขึ้น?”
สตรีนางนั้นชะงักไปแวบหนึ่ง บอกเล่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้ออกมาอย่างฉาดฉาน
แน่นอน จากการบอกเล่าของนาง นางคือคนแรกที่ถูกใจกำลังวงนี้ก่อน ผลคือสามคนศิษย์อาจารย์นี้เข้ามาแย่ง…
ส่วนนางก็ไม่ได้พกเงินออกมามากมายปานนี้ จึงมีแต่ความพ่ายแพ้…
————————————————————————————-
บทที่ 2328 เผชิญมรสุม 5
ตี้ฝูอีฟังนางเล่าจนจบอย่างเงียบๆ ไม่เอ่ยสักคำ มองไปที่กู้ซีจิ่ว “ท่านจะว่าอย่างไร?”
ฟั่นเชียนซื่อที่อยู่ด้านข้างเอ่ยด้วยความโกรธ “กำไลวงนี้เป็นอาจารย์ของข้าหมายตาเอาไว้ตั้งแต่สองเดือนก่อนแล้วชัดๆ และได้จ่ายค่ามัดจำแล้ว รอให้พวกเรามีเงินพอจะมารับไป เลยกำหนดมาเพียงครึ่งวัน เถ้าแก่ร้านคนนี้กลับนำกำไลออกมาขายให้ผู้อื่นแล้ว!”
“เลยกำหนดหนึ่งเค่อก็นับว่าเลยแล้ว! นับประสาอันใดกับครึ่งวันเล่า?” ตี้ฝูอีเอ่ยขัดเขาอย่างเยียบเย็น จากนั้นก็มองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง “ท่านไม่ได้สอนให้ศิษย์สุดที่รักของท่านรักษาคำพูดหรืออย่างไร?”
วาจานี้แฝงเจตนาสั่งสอนเอาไว้ยิ่งนัก กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วนิดๆ กล่าวอย่างเฉยเมย “ตอนพวกเรามาถึง แม่นางผู้นี้ยังไม่ได้จ่ายเงิน เป็นเถ้าแก่ที่เสนอให้ประมูล”
ตี้ฝูอีหัวเราเบาๆ “ประมูลรึ? แม้นางผู้นั้นให้ราคาเท่าใด”
ไม่รอให้กู้ซีจิ่วได้เปิดปาก เขาก็ล้วงไข่มุกราตรีพวงหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อตนแล้ว วางไว้บนตู้แสดงสินค้า ไข่มุกราตรีเจิดจ้าแยงตา หนึ่งเม็ดก็มีราคาเป็นสิบเท่าของกำไลวงนี้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไข่มุกราตรีพวงนี้ที่มีถึงหนึ่งร้อยแปดเม็ดเต็มๆ กระมัง? มูลค่าของยิ่งไม่อาจประเมินได้เลย
“ผู้ทรงสิทธิ์อย่างข้าขอประมูลด้วยมุกราตรีพวงนี้” น้ำเสียงตี้ฝูอีแผ่วหวิว เยียบเย็นปานวารี
เถ้าแก่ถูกลาภลอยก้อนนี้กระแทกจนมึนงงแล้ว! รีบมองไปที่กู้ซีจิ่วด้วยสายตามุ่งมาดปรารถนาอีกครั้ง…
กู้ซีจิ่วมองไข่มุกราตรีพวงนั้นจากนั้นก็มองกำไลวงนั้น รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าตี้ฝูอีน้ำเข้าสมองไปแล้ว…
เหตุผลที่เธออยากซื้อเป็นเพราะเธอมีเงินมาก ประกอบกับฟั่นเชียนซื่อทำงานอยู่สองเดือนเพื่อกำไลวงนี้ เธอรู้สึกว่าการทรยศต่อความตั้งใจของศิษย์ค่อนข้างผิดบาป ด้วยเหตุนี้ถึงได้ประมูลแข่งกับแม่นางคนนั้น…
แต่ตอนนี้ตี้ฝูอีจ่ายในราคาพันเท่าเพื่อแย่งชิง อีกทั้งดูเหมือนจะต้องเอาชนะให้ได้ แผ่รัศมีความเป็นเศรษฐีออกมา…
โดยทั่วไปแล้วมีแต่ยามอยู่ต่อหน้านางในดวงใจ บุรุษถึงจะออกหน้าแย่งชิงอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใดเลยกระมัง?
สายตากู้ซีจิ่ววนรอบกายของสตรีนางนั้นแวบหนึ่ง รูปโฉมของสตรีนางนี้ยังคงงดงามยิ่ง
เรือนร่างอรชร ตาหงส์เรียวเฉี่ยว สิ่งที่ไหลวนอยู่ในดวงตาคือความรักใคร่ลุ่มหลง
บางทีสตรีนางนี้อาจจะเป็นนางในดวงใจของเขากระมัง? ดังนั้นเขาจึงทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้…
กู้ซีจิ่วค่อนข้างรู้สึกผิดต่อเขาอยู่เสมอ ในเมื่อเขาแย่งชิงเพื่อนางในดวงใจ เช่นนั้นเธอก็ไม่แย่งกับเขาแล้ว
ดังนั้นเธอจึงเก็บตั๋วเงินของตัวเองกลับมาอย่างว่องไว “ข้าไม่เอาแล้ว กำไลวงนี้เป็นของท่านผู้สูงศักดิ์แล้ว”
ฟั่นเชียนซื่อไม่พอใจ “อาจารย์ ท่านชื่นชอบกำไลวงนี้ถึงเพียงนี้ชัดๆ…”
กู้ซีจิ่วโบกมือ “ไม่ต้องพูดมาก แค่ของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น อาจารย์ใช่ว่าจะขาดมันไม่ได้นี่”
คล้ายเธอจะนึกอะไรขึ้นได้ “ใช่แล้ว อันที่จริงอาจารย์ถูกใจกำไลชาดวงหนึ่งในร้านข้างๆ ด้วย เนื่องจากอาจารย์จองวงนี้ไว้แล้วถึงได้ไม่ซื้อวงนั้นอีก อันที่จริงแล้วอาจารย์ชอบวงนั้นมากกว่า…”
ดวงตาฟั่นเชียนซื่อเปล่งประกายแล้ว “เช่นนั้นยังจะรออะไรอีกล่ะขอรับ? พวกเราไปกันเถิด!”
สามคนศิษย์อาจารย์พูดคุยยิ้มหัวแล้วเดินจากไป
เถ้าแก่ร้านคนนั้นขายกำไลข้อมือวงเดียวในราคาของสินค้าทั้งร้านของเขา เขาจึงดีใจจนแทบจะบินแล้ว!
เก็บไข่มุกราตรีพวงนั้นมา หยิบห่อกำไลวงนั้นยื่นส่งให้ตี้ฝูอี “ท่านราชครู กำไลวงนี้เป็นของท่านแล้วขอรับ”
ตี้ฝูอียืนสง่าอยู่ตรงนั้น ไม่เอ่ยวาจา
เถ้าแก่ร้านเกิดรู้สึกหลอนขึ้นมา ท่านราชครูผู้นี้ประมูลได้สำเร็จแล้วชัดๆ แต่กลิ่นอายบนร่างกลับคล้ายว่าจะเยียบเย็นยิ่งกว่าเดิม
สตรีนางนั้นกลับดวงตาเป็นประกายใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติยินดี “ขอบพระคุณท่านราชครูที่ออกหน้าให้เยี่ยนชิง”
ยื่นมือน้อยๆ ออกไปหาเขา รอคอยด้วยสีหน้าเขินอาย “ท่านราชครูจะช่วยสวมให้เยี่ยนชิงด้วยตัวเองได้หรือไม่เจ้าคะ?” จากนั้นก็เหล่มองแหวนที่อยู่บนนิ้วโป้งของเขาแวบหนึ่ง “ท่านราชครู เหตุผลที่เยี่ยนชิงชอบกำไลวงนี้ เป็นเพราะสีสันของมันคล้ายกับแหวนของท่านยิ่งนัก…”
สีหน้าตี้ฝูอีเยียบเย็นนิดๆ หมุนกลิ้งกำไลวงนั้นอยู่ในฝ่ามือ “ผู้ทรงสิทธิ์อย่างข้าบอกตอนไหนว่าจะซื้อให้เจ้า?”