ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2967 เคราะห์คู่รัก / บทที่ 2968 เคราะห์คู่รัก 2
บทที่ 2967 เคราะห์คู่รัก
ด้วยเหตุนี้ทะเลทรายแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่ต้องห้ามที่เอ่ยถึงแล้วผู้คนต่างหน้าถอดสีไปตามๆ กัน ไม่มีผู้ใดยินดีจะเข้ามา
ต่อมากษัตริย์ของโลกนี้พบว่ามีเพียงคู่รักที่เข้ามาได้ และถ้าเป็นคู่รักที่เคยตกทุกข์ได้ยากด้วยกันมาก่อนจะเข้ามาได้ง่ายดายที่สุด ดังนั้นต่อมากษัตริย์จึงออกราชโองการฉบับหนึ่งว่า ต่อให้เป็นคู่รักยอดฝีมือที่ไม่ได้รับความเห็นดีเห็นงามสักเพียงใด ขอเพียงเข้ามาตรวจสอบสถานที่แห่งนี้สักครา แล้วสามารถรอดชีวิตออกไปได้ กษัตริย์ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดงานวิวาห์ให้พวกเขาด้วยตัวเอง ให้พวกเขาได้กลายเป็นสามีภรรยากันอย่างเปิดเผยชอบธรรม ผู้ใดก็พรากพวกเขาออกจากกันไม่ได้อีก ซ้ำยังจะให้รางวัลเป็นคฤหาสน์งามแลเงินทองด้วย
และคู่ที่อยู่ตรงหน้านี้ก็อยู่ในสถานการณ์นี้ด้วย คู่นี้มีความสัมพันธ์เป็นศิษย์อาจารย์กัน
บุรุษเป็นอาจารย์ นามว่าฝู่เซี่ยวเทียน
สตรีเป็นลูกศิษย์ นามว่าเล่ออิ๋งอิ๋ง
ในทวีปนี้ความรักระหว่างศิษย์อาจารย์ถือเป็นเรื่องต้องห้าม อีกทั้งฝู่เซี่ยวเทียนก็มีภรรยาอยู่แล้ว
ภรรยาของเขาเป็นหญิงสาวจากตระกูลจอมเวทย์ตระกูลหนึ่ง และเป็นศิษย์น้องหญิงร่วมอาจารย์กับเขา เขาต้องการสืบทอดศาสตร์ลับที่เป็นมรดกตกทอดของบ้านฝ่ายหญิง จึงตามเกี้ยวพาศิษย์น้องหญิงอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดก็พิชิตใจศิษย์น้องหญิงได้ ครอบครองโฉมงามได้สำเร็จ กลายเป็นเขยขวัญของตระกูลนี้ ได้รับสิ่งที่ต้องการ
ฝู่เซี่ยวเทียนใช้ประโยชน์จากเส้นสายความสัมพันธ์ของฝ่ายหญิง กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพล เปิดสำนักรับศิษย์อย่างกว้างขวาง
เรื่องที่เขาชื่นชอบที่สุดก็คือทำดีต่อภรรยา แสดงความรักหวานชื่นต่อหน้าผู้อื่น ใช้ภาพลักษณ์ของชายผู้คลั่งรักท่องอยู่ในยุทธภพ เป็นคนที่ได้รับชื่อเสียงอันดีงามผู้หนึ่ง
แต่บางครั้งก็มีคนกล่าวบ้างเช่นกันว่าเขาเป็นพวกกินข้าวนิ่ม ได้ทุกอย่างมาเพียงเพราะอาศัยบารมีของบ้านภรรยา
นี่ทำให้ในใจของเขาอึดอัดคับข้องยิ่ง หน่ายแหนงภรรยา แอบไปมีสัมพันธ์สวาทกับศิษย์หญิงของตน
เพื่อจะสลัดภรรยาทิ้งอย่างราบรื่นและไม่ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของตัวเอง เขาจึงคิดแผนการหนึ่งขึ้นมา ปล่อยข่าวฉาวของภรรยาตนกับศิษย์ชายคนหนึ่งออกไป ปลุกปั่นให้เกิดกระแสอื้อฉาวขึ้นมาในยุทธภพ ภรรยาของเขากลายเป็นนางจิ้งจอกที่ถูกผู้คนเหยียดหยามด่าทอ…
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เคยลงโทษติเตียนภรรยาเลย ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องหย่าขาด กลับพูดออกมาต่อหน้าสาธารณชนว่าการที่ภรรยานอกใจเป็นเพราะตัวเขาเองที่ไม่ดีพอ เป็นเพราะตนมัวยุ่งอยู่กับกิจธุระในยุทธภพเป็นเหตุให้ภรรยารู้สึกว่าถูกหมางเมิน ถึงได้กระทำเรื่องโง่เง่าไร้สติเช่นนี้ เขาขอร้องให้ทุกคนปล่อยผ่านเรื่องของภรรยาเขาไป อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลย
การที่เขากระทำเช่นนี้ ย่อมได้รับความรู้สึกดีจากผู้คนมากขึ้นไปอีก และรังเกียจเดียดฉันท์ภรรยาเขายิ่งกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ยามที่ภรรยาของเขาออกไปข้างนอกจึงถูกปาไข่เน่าใส่อยู่บ่อยครั้ง
ส่วนตัวเขาก็ดื่มเหล้าเมามายอยู่ทุกวัน บ้างก็เหม่อรับลมหลั่งน้ำตา…สรุปคือ ขายสภาพน่าเวทนาสารพัด สร้างภาพของบุรุษดีงามคนหนึ่งที่ถูกภรรยานอกใจโศกเศร้าเจ็บช้ำทว่าหักใจดุด่าทารุณไม่ลง ส่วนชื่อเสียงของภรรยาเขาก็เหม็นเน่าฉาวโฉ่จนไม่อาจฉาวโฉ่ไปมากกว่านี้ได้แล้ว สุดท้ายภรรยาของเขาทนรับข้อครหาทรยศนอกใจไม่ซื่อสัตย์ไม่ไหวจึงฆ่าตัวตายเสีย
เขาร่ำไห้อย่างร้าวระทมขณะกลบฝังภรรยา สั่งห้ามมิให้ผู้ใดว่าร้ายภรรยาของเขาอีกเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกเขาไล่ล่าสังหาร!
ถึงตอนนี้ ชื่อเสียงบุรุษดีงามของเขาจึงถูกคนยกย่องเชิดชูให้สูงขึ้นไปอีก ผู้คนกล่าวกันว่าเขาเป็นชายชาตรีที่กล้าทำกล้ารับมีรักมีคุณธรรม ไม่มีผู้ใดกล่าวว่าเขาเป็นพวกกินข้าวนิ่มอีกต่อไป
เส้นสายทรัพย์สินของบ้านภรรยาเขาล้วนตกเป็นของเขาทั้งหมดแล้ว นับว่าเขาก้าวไปถึงจุดสูงสุดในชีวิตแล้ว
เรื่องเดียวที่ทำให้เขาไม่พอใจคือเรื่องของเล่ออิ๋งอิ๋งศิษย์หญิงของเขา เรื่องชั่วช้าเหล่านี้ที่เขากระทำเป็นความคิดของนางไปกว่าครึ่ง
นางจริงจังกับเขาด้วยใจจริง ข้อเรียกร้องเพียงอย่างเดียวคือให้แต่งกับนาง มิเช่นนั้นเรื่องเหม็นเน่าของเขาจะถูกนางเอาไปโพนทะนาต่อสาธารณชน
เพื่อให้แต่งกับนางอย่างเปิดเผยชอบธรรมได้ ฝู่เซี่ยวเทียนถึงได้กัดฟันเสนอให้มาเยือนทะเลทราย
ยามอยู่ด้านนอกสองคนนี้ไม่กล้าแสดงความรักอย่างเปิดเผย ฝืนกักเก็บไว้เสมอมา ยามนี้พอมาถึงที่นี่แล้ว รอบข้างไร้ผู้คน เป็นสถานที่เหมาะสำหรับจะพลอดรักสนิทเสน่หาพอดี
ด้วยเหตุนี้ หลังจากสองคนนี้พูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ก็เริ่มพัวพันเคล้าคลอกันอีกครั้ง
————————————————————————————-
บทที่ 2968 เคราะห์คู่รัก 2
ผู้เป็นอาจารย์ไม่สำรวมสงวนท่าทีอีกต่อไป ผู้เป็นศิษย์ก็ปล่อยตัวปล่อยใจเช่นกัน เสียงครวญครางยามสุขสมแว่วไกลไปแปดลี้แล้ว!
“คู่ชายหญิงเดรัจฉาน!” ตี้เฮ่าที่นอนเอนอยู่ด้านหลังเนินทรายวิจารณ์ออกมา
พลังยุทธ์ของชายหญิงคู่นี้สูงล้ำ ฝู่เซี่ยวเทียนบรรลุถึงระดับซ่างเสินแล้ว
ฝ่ายหญิงก็เป็นอัจฉริยะด้านคาถาอาคม อีกทั้งลอบดูดซับเอาพลังยุทธ์ของภรรยาฝู่เซี่ยวเทียนมาด้วย ใกล้จะบรรลุซ่างเสินแล้วเช่นกัน
บัดนี้สองคนนี้เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้แล้ว มิเช่นนั้นคงไม่กล้าเสนอตัวร้องขอมาสำรวจที่นี่เอง
ในมุมมองของพวกเขา ในเมื่อสามารถเข้ามาในทะเลทรายแห่งนี้ได้ เช่นนั้นย่อมสามารถออกไปได้เช่นกัน
พวกเขารู้สึกว่าในทะเลทรายแห่งนี้น่าจะมีสัตว์ร้ายที่ร้ายกาจยิ่งนักซุกซ่อนอยู่ตัวหนึ่งหรือมากกว่านั้น สัตว์ร้ายนี้คงเป็นฮั่นป๋า[1] ผู้ที่เข้ามาสำรวจเหล่านั้นอย่างแรกคือไม่คุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศ อย่างที่สองคือสู้ฮั่นป๋าไม่ไหว ดังนั้นจึงประสบเคราะห์สิ้นชีพ
ส่วนฝู่เซี่ยวเทียนยามเยาว์เติบใหญ่ขึ้นมาในทะเลทราย คุ้นเคยกับทะเลทรายเป็นอย่างยิ่ง และเคยกำจัดฮั่นป๋ามาแล้ว มีประสบการณ์พรั่งพร้อม
ดังนั้นเขาคิดว่าการเข้ามาในทะเลทรายประหลาดในครั้งนี้ไม่มีทางเกิดเหตุเหนือความคาดหมายขึ้นแน่นอน
เมื่อสองคนนี้เสพสมกันพอแล้ว ถึงได้ลุกขึ้นมาอย่างอิดออดอาลัย
“สถานที่ผีสางแห่งนี้ร้อนจะตายแล้ว! ทำให้ข้าหลั่งเหงื่อท่วมตัวแล้ว!” เล่ออิ๋งอิ๋งหงุดหงิด นางยังไม่เต็มใจจะลุกขึ้นมาเท่าไหร่ “อาจารย์ อย่างไรเสียขอเพียงเราอยู่ในสถานที่ผีสางแห่งนี้ได้หนึ่งวันก็นับว่าสำเร็จภารกิจแล้ว ไม่จำเป็นต้องสืบสาวต่อหรอก”
ฝู่เซี่ยวเทียนดึงนางขึ้นมา “ในเมื่อพวกเราเข้ามาแล้วยังคงต้องสำรวจดูให้ดีๆ หน่อย หากว่าจับฮั่นป๋าที่ก่ออาเพศตัวนั้นได้จริงๆ ออกไปก็ได้ความชอบอีกเรื่องหนึ่ง งานวิวาห์ของพวกเราก็จะได้รับการยอมรับจากผู้คนมากขึ้น เจ้าก็รู้นี่ หลังจากเปิดเผยเรื่องของพวกเราออกไป ก็มีคนบางส่วนซุบซิบนินทาข้าลับหลังแล้ว ถึงขั้นที่มีคนนึกสงสัยว่าการตายของเมิ่งเคอสวินเกี่ยวข้องกับพวกเรา”
“แต่ว่า ข้าหวาดกลัวอยู่บ้าง ถึงอย่างไรคนที่เข้ามาที่นี่ก็ยังไม่เคยมีใครออกไปได้เลย” เล่ออิ๋งอิ๋งเบะปาก
“วางใจเถอะ มีอาจารย์อยู่ ผีสางมารร้ายอันใดล้วนไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ อาจารย์จะปกป้องเจ้าให้ปลอดภัยแน่นอน…” ฝู่เซี่ยวเทียนเอ่ยคำหวาน เกลี้ยกล่อมจนในที่สุดสตรีนางนั้นก็รู้สึกดีขึ้นมา
ฝู่เซี่ยวเทียนเชี่ยวชาญการตะล่อมเด็กสาวๆ นัก เอาอกเอาใจยิ่ง
แถมข้าวของที่เขาจัดเตรียมมาก็ครบครันนัก น้ำหวาน อาหาร ร่มกระดาษเคลือบน้ำมัน
ร่มนั้นเป็นสีครามนภา ทั้งสองคนกางร่มสีครามนภาคันนี้ด้วยกัน เดินอยู่ท่ามกลางทะเลทราย ก็งดงามเจริญตาดุจภาพวาดฉากหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สองคนนี้หวานชื่นกันอยู่สองวันก็หวานชื่นต่อไปไม่ลงแล้ว!
พวกเขาหาฮั่นป๋าในตำนานเล่าขานไม่พบ และหาปากทางตอนขามานั้นไม่พบแล้วเช่นกัน!
ฝู่เซี่ยวเทียนกับเล่ออิ๋งอิ๋งใช้วิชาทำลายเขตแดนทั้งหมดที่รู้ออกมาแล้ว ปากทางเข้านั้นก็ยังคงไม่ปรากฏร่องรอยเลย
แสงตะวันของที่นี่ร้อนแรงเป็นพิเศษ สาดส่องจนสองคนนี้เหงื่อเปียกชุ่มหลังอยู่ทุกวัน ดวงหน้าขาวเนียนก็ถูกแดดเผาจนลอกเป็นชั้นแล้ว
ฝู่เซี่ยวเทียนผู้ช่างเอาใจก็ไม่เอาอกเอาใจเช่นนั้นแล้ว เขาเริ่มจำกัดอาหารน้ำดื่มอย่างเข้มงวด ไม่ยอมให้เล่ออิ๋งอิ๋งดื่มกินตามอำเภอใจแล้ว
ตี้เฮ่ามองจากท่าทางของคนทั้งสองแล้ว ถึงได้ทราบว่าทะเลทรายแห่งนี้ยังมีความสามารถพิเศษที่ทำให้เทพเซียนหวนสู่ร่างมนุษย์สามัญด้วย
กล่าวอีกอย่างคือ ต่อให้เป็นเทพเซียนที่อิ่มทิพย์ตัดธัญญะไปแล้วเมื่อเข้าสู่ทะเลทรายแห่งนี้ล้วนต้องดื่มกินขับถ่ายเหมือนมนุษย์ธรรมดา มิเช่นนั้นจะต้องหิวกระหายจนตายเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่ายามอยู่ด้านนอกสองคนนี้ตัดธัญญะไปแล้ว อาหารน้ำดื่มที่พกมาก็เป็นเพียงสิ่งที่ฝู่เซี่ยวเทียนใช้เอาอกเอาใจสร้างความหวานชื่นเท่านั้น ปริมาณย่อมไม่มากมายนัก
หลังจากมาถึงที่นี่แล้วพบว่าเกิดความหิวกระหายขึ้นมา ตอนที่ต้องการจะดื่มกินก็สายไปเสียแล้ว…
ระยะเวลาสองวัน ที่นี่ทำให้สองคนนี้เปลี่ยนแปลงไปมหาศาล เล่ออิ๋งอิ๋งไม่ยิ้มแล้ว ดวงหน้าพริ้มเพราหมองคล้ำ ริมฝีปากอิ่มเอิบเริ่มแห้งเป็นขุย
————————————————————————————-
[1] ฮั่นป๋า ตามตำนานจีนเชื่อกันว่าเป็นปีศาจที่มีอิทธิฤทธิ์ก่อให้เกิดภัยแล้ง เมื่อปรากฏตัวขึ้นที่ใดจะส่งผลให้พื้นที่นั้นเกิดความแห้งแล้งกันดาร