ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2969 เคราะห์คู่รัก 3 / บทที่ 2970 เคราะห์คู่รัก 4
บทที่ 2969 เคราะห์คู่รัก 3
ฝู่เซี่ยวเทียนก็ไม่หวานชื่นแล้ว แถมยังตำหนิเล่ออิ๋งอิ๋งเพราะนางดื่มน้ำมากเกินไปอึกหนึ่ง ถึงขั้นที่เริ่มยักยอกอาหารน้ำดื่มในส่วนของนางแล้ว…
สภาพความเป็นอยู่อันโหดร้ายได้ฉีกกระชากเปลือกนอกของ ‘ความรัก’ ออกแล้ว เผยให้เห็นนิสัยแท้จริงของผู้คน
ในช่วงวันที่สาม คนทั้งสองที่รักใคร่กันเริ่มวางแผนต่อเสบียงอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัดของกันและกันแล้ว ถึงขั้นที่ลงไม้ลงมือกันใหญ่โต…
ตี้เฮ่าซ่อนอยู่ในที่ลับ มองสองคนนั้นที่ต่อสู้กันอย่างสะท้านสะเทือน จากนั้นก็ถามมังกรประทีปชมพูที่อยู่ข้างๆ “คนที่เข้ามาเหล่านี้ล้วนต่อสู้กันเช่นนี้หมดเลยหรือ?”
มังกรประทีปชมพูพยักหน้า ‘เป็นส่วนใหญ่ บ้างก็เร็วบ้างก็ช้า ทะเลทรายแห่งนี้ค่อนข้างพิกล ช่วงเวลาหิวกระหายของคนเหล่านี้ที่เข้ามาไม่ได้ขึ้นอยู่กับพลังยุทธ์ของพวกเขา แต่ขึ้นอยู่กับระดับความภักดีซื่อสัตย์ของทั้งสองฝ่าย หิวเร็วก็เผยโฉมหน้าเร็ว หิวช้าก็เผยโฉมหน้าช้า ข้าเคยเห็นคู่รักคู่หนึ่งที่อยู่ได้นานที่สุดได้ยินมาว่าคู่รักคู่นี้เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ระหว่างคนทั้งสองห่วงใยใส่ใจกันมากเป็นพิเศษ พวกเขายืนหยัดอยู่ได้ถึงหนึ่งเดือนเต็ม ชายผู้นั้นถึงขั้นที่เคยกรีดเฉือนเนื้อบนแขนของตนให้คนรักกินด้วย…อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วหญิงผู้นั้นก็สังหารคนรักของตน เพียงเพื่อจะดื่มเลือดของเขา…’
ตี้เฮ่าพูดไม่ออกเลย…
เขารู้สึกว่าที่นี่เป็นแหล่งพลังงานลบแห่งหนึ่ง ทำให้เขาเกิดเงามืดเกี่ยวกับความรักหนุ่มสาวในภายหน้าขึ้นมา
“จากนั้นล่ะ?” เขาถามอีก
‘ต่อมาหญิงผู้นั้นก็อาศัยเลือดเนื้อของคนรักประทังชีวิตต่อไปได้อีกสองวัน เมื่อผ่านไปสองวันนางก็ถูกแดดเผาจนตายทั้งเป็น ก่อนตายนางสำนึกเสียใจอย่างยิ่ง ร่ำไห้พร่ำเรียกชื่อฝ่ายชายอยู่ตลอด…’
“เลือดเนื้อจากคนรักของนางทำให้นางยืนหยัดได้แค่สองวันหรือ?” ตี้เฮ่าไม่ใคร่อยากเชื่อ
‘หลังจากนางสังหารชายคนนั้นแล้ว เลือดเนื้อของชายคนนั้นก็เปื่อยเน่าไปทันที นางกินเข้าไปได้มื้อเดียวก็ยากจะกินลงไปได้อีก’
ตี้เฮ่านั่งไขว้ขาอยู่ตรงนั้น ใจเต้นนิดๆ
ในตอนแรก เขาหลงนึกว่าสตรีชุดขาวที่ทำให้ทะเลทรายแห่งนี้ร้อนระอุขึ้นเรื่อยน่าจะจำแลงมาจากเสี้ยวจิตหนึ่งหรือไม่ก็ความยึดติดของมารดาตน ทว่ายามนี้กลับนึกสงสัยแล้วว่าจะกลายร่างมาจากจิตมารของนางในชาติก่อน อาศัยความเคียดแค้นไอพยาบาทระหว่างคู่รักเป็นอาหารหล่อเลี้ยง ทำให้ทะเลทรายทั้งผืนนี้กลายเป็นมารร้าย…
เห็นทีว่าถ้าต้องการทำลายที่นี่ ก็ต้องกำจัดจิตมารตนนั้นก่อน ตนถึงจะมีความหวังในการหนีรอดออกไปได้
แต่หลายหมื่นปีมานี้จิตมารได้พัฒนาขึ้นจนแข็งแกร่งเกินคาดแล้ว ร้ายกาจยิ่งกว่ามารสวรรค์เสียอีก
หากว่าเป็นตัวเขาในช่วงสมบูรณ์พร้อม ทุ่มเทพลังอาคมทั้งหมดอาจจะสวดส่งนางได้ ทำให้นางกลายเป็นเถ้าธุลีสลายหายไป แต่ตอนนี้…
ตอนนี้ร่างกายเล็กจ้อยของเขาไม่มีทางต่อกรได้เลย!
ถึงแม้นี่จะเป็นจิตมารในชาติก่อนของมารดาเขา แต่ก็คงจะไม่รู้จักเขา ไม่มีทางเปิดใจรับเขาด้วย เช่นนี้จะทำอย่างไรดี?
กลัดกลุ้มเหลือเกิน!
ขณะที่เขาคิดหาหนทางออกไปอยู่ จู่ๆ มังกรประทีปชมพูที่อยู่ข้างกายก็ใช้กรงเล็บเกี่ยวแขนเสื้อเขา ‘มาแล้ว! ออกมาแล้ว!’
ตี้เฮ่าใจเต้นแวบหนึ่ง เงยหน้าขึ้น มองเห็นสตรีชุดขาวนางนั้นปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าอีกครั้ง…
ตี้เฮ่าถามมังกรประทีปทันที “ครั้งนี้ต้องดำดินไหม?”
มังกรประทีชมพูส่ายหน้า ‘ไม่ต้อง ครั้งนี้รับชมได้’
ด้วยเหตุนี้ ตี้เฮ่าจึงนั่งยองๆ ชมละครอยู่ตรงนั้น
คู่รักที่กำลังต่อสู้กันอย่างสะท้านสะเทือนคู่นั้นทันทีที่มองเห็นสตรีชุดขาวนางนี้ก็หยุดมือไม่สู้ต่อแล้ว!
เล่ออิ๋งอิ๋งร้องออกมา “ฮั่นป๋า! ฮั่นป๋าออกมาแล้ว!”
ตี้เฮ่าพูดไม่ออกเลย…
โง่เขลา! ถึงแม้สตรีชุดขาวนางนี้จะมิใช่เซียน แต่ก็คงมิใช่ฮั่นป๋ากระมัง?!
หากว่าเป็นฮั่นป๋า ตัวเขาตี้เฮ่าคงกำจัดนางได้นานแล้ว ไยจะต้องระหกระเหินมาจนถึงตอนนี้อีก?
ฝู่เซี่ยวเทียนถอนหายใจออกมา “ในที่สุดก็ล่อนางออกมาได้แล้ว!”
ตี้เฮ่าเลิกคิ้ว ที่แท้คู่รักคู่นี้แสร้งเล่นละครหรอกหรือ?
เขาชมเรื่องครื้นเครงต่อไป
สายตาของสตรีนางนั้นจับจ้องร่างของฝู่เซี่ยวเทียน “เจ้ารักนางจริงๆ น่ะหรือ? สามารถละทิ้งทุกสิ่งเพื่อนางได้หรือไม่?”
————————————————————————————-
บทที่ 2970 เคราะห์คู่รัก 4
ฝู่เซี่ยวเทียนชะงักไปแวบหนึ่ง มองสตรีนางนั้นลำคอเคลื่อนไหวเล็กน้อย “ใช่…” เสียงแหบพร่าเนื่องจากความกระหาย และไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่
เล่ออิ๋งอิ๋งเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งของโลกนี้ แต่เมื่อเทียบกับสตรีชุดขาวที่ดูแปลกประหลาดเบื้องหน้าหน้านี้แล้ว ดูด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลย
และถึงแม้สตรีชุดขาวนางนี้จะเย็นชา แต่บนร่างนางกลับมีบุคลิกพิเศษอย่างหนึ่ง บุคลิกนี้สามารถทำให้บุรุษที่พบเห็นเกิดความลุ่มหลงปรารถนาขึ้นมา…
สตรีชุดขาวนางนั้นยิ้มแวบหนึ่ง ถอนหายใจเบาๆ “ข้าเห็นเจ้าเป็นผู้มีความสามารถคนหนึ่ง คิดจะเปิดทางให้เจ้ารอดไปได้ ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมีคนในดวงใจแล้ว ทำให้ข้าลำบากใจอยู่บ้าง…”
เล่ออิ๋งอิ๋งเอ่ยด้วยความโกรธ “เจ้าลำบากใจอันใดกัน?! นังปีศาจ อย่าหมายว่าจะล่อลวงท่านอาจารย์ของข้าได้!” โผเข้าไปทันที โจมตีสตรีชุดขาวนางนั้นอย่างรุนแรง
วรยุทธ์ของนางก็เลิศล้ำเช่นกัน ถึงแม้จะหิวจนเรี่ยวแรงถดถอยลงไปไม่น้อย แต่พอลงมืออานุภาพก็น่าตกตะลึงยิ่ง! ลำแสงสีขาวนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่สตรีนางนั้นจากทุกทิศทุกทาง
สตรีชุดขาวนางนั้นกลับโบกแขนเสื้อเล็กน้อย ลำแสงสีขาวอันท่วมท้นนั้นก็แตกกระจายเป็นละอองแสง
ฝู่เซี่ยวเทียนหน้าเปลี่ยนสีแล้ว
เดิมทีเขาคิดจะลงมือ แต่ก็ชะงักค้างแข็งทื่อไป
วรยุทธ์ของสตรีชุดขาวนางนี้ไม่เพียงแต่แปลกประหลาดเท่านั้นแถมยังเลิศล้ำด้วย เขากับเล่ออิ๋งอิ๋งผนึกกำลังกันก็ไม่อาจต่อกรได้!
“ท่านผู้สูงศักดิ์เป็นผู้ใด? ต้องทำอย่างไรถึงจะปล่อยพวกเราไป?”
แพขนตาของสตรีชุดขาวนางนั้นสั่นไหวนิดๆ ถอนหายใจเบาๆ “ข้าไม่ชมชอบที่เจ้ามีคนในดวงใจแล้ว…”
ฝู่เซี่ยวเทียนหลุบตาลง “นี่…กลับทำให้ผู้อื่นลำบากใจ…”
เขาลอบส่งสัญญาณอย่างหนึ่งให้เล่ออิ๋งอิ๋ง ถึงอย่างไรเล่ออิ๋งอิ๋งก็ร่วมมือกับเขามานาน เข้าขากันยิ่ง ยามนี้จึงขยับเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขาอย่างเงียบเชียบ…
รอเพียงฝู่เซี่ยวเทียนส่งสัญญาณอีกครั้ง นางก็สามารถโจมตีประสานกับเขาได้แล้ว!
พวกเขาศิษย์อาจารย์ได้บำเพ็ญเคล็ดสอดประสานแขนงหนึ่ง เมื่อสำแดงออกมาจะทำให้พลังยุทธ์ของแต่ละคนเพิ่มสูงขึ้นเท่าหนึ่ง กล่าวได้ว่าใต้หล้านี้แทบไม่มีคนต่อกรได้แล้ว
เล่ออิ๋งอิ๋งมั่นใจว่า ขอเพียงพวกเขาสำแดงเคล็ดนี้ออกมา ก็สามารถสังหารสตรีนางนี้ได้!
สตรีชุดขาวนางนั้นคล้ายจะไม่รับรู้ถึงอันตรายเลย เงยหน้ามองนภา ถอนหายใจเบาๆ “หนาวเหลือเกิน! มองไม่เห็นดวงตะวันอีกแล้ว…”
เล่ออิ๋งอิ๋งหัวเราะหยันคราหนึ่ง สตรีชุดขาวนางนี้ตาบอดหรือไร? ดวงตะวันบนฟ้าใหญ่โตถึงเพียงนี้ก็ยังมองไม่เห็น!
ในที่สุดฝู่เซี่ยวเทียนก็ลงมือแล้ว
เกิดเสียงดัง ‘ซวบ!’ กระบี่ยาวในมือของฝู่เซี่ยวเทียนเสียบเข้าที่ทรวงอกของเล่ออิ๋งอิ๋ง...
เล่ออิ๋งอิ๋งเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ “อาจารย์…ท่าน…”
ฝู่เซี่ยวเทียนหลุบตาลง “อิ๋งอิ๋ง เจ้าบอกว่าสามารถบุกน้ำลุยไฟเพื่ออาจารย์ได้ สามารถสละทุกสิ่งเพื่ออาจารย์ได้ ตอนนี้ถึงเวลาสละชีวิตของเจ้าเพื่ออาจารย์แล้ว”
พวกเขาเป็นศิษย์อาจารย์กัน ย่อมทราบจุดอ่อนของกันและกันดี
ตำแหน่งที่ฝู่เซี่ยวเทียนแทงเป็นจุดอ่อนของเล่ออิ๋งอิ๋งพอดี เล่ออิ๋งอิ๋งค่อยๆ ทรุดลงไป “เจ้า…ที่แท้คนที่เจ้ารักที่สุดก็คือตัวเจ้าเอง…”
นางทรุดลงท่ามกลางผืนทราย ดวงตาเบิกกว้าง สูดลมหายใจเฮือกสุดท้ายเข้าไป
ฝู่เซี่ยวเทียนชักกระบี่ออกมา เงยหน้ามองไปที่สตรีชุดขาวนางนั้น เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “ตอนนี้ ข้าไม่มีคนในดวงใจแล้ว ไม่สิ ข้ารู้สึกว่าข้าชอบท่าน ต่อให้ท่านเป็นมารข้าก็ยังชอบ…”
สตรีชุดขาวนางนั้นกลับไม่มองเขาเลย ยังคงเงยหน้ามองนภา “หนาว! ข้าหนาวเหลือเกิน!”
แววตาฝู่เซี่ยวเทียนวูบไหว ลองก้าวเข้าไปก้าวหนึ่ง อ้าสองแขนออกท่าทางคล้ายจะโอบกอด “แม่นาง หากว่าหนาวเกินไป อ้อมกอดของข้าพเจ้าสามารถมอบความอบอุ่นให้ท่านได้….”
สตรีชุดขาวนางนั้นไม่ตอบสนอง
ฝู่เซี่ยวเทียนมีความกล้าขึ้นกว่าเดิม ก้าวเข้าไปอีกก้าว หมายจะใช้สองแขนโอบเอวบางของนาง…
ตี้เฮ่าขมวดคิ้ว ทว่ามังกรประทีปชมพูกลับทอดถอนใจ “จะถูกแช่แข็งอีกคนแล้ว ครั้งก่อนก็มีบุรุษหมายจะโอบกอดนาง มอบความอบอุ่นให้นางเช่นกัน ผลคือถูกแช่งแข็งจนกลายเป็นปะติมากรรมน้ำแข็งไปทันที พอดวงตะวันแผดเผา ก็ละลายเป็นน้ำ…”
เมื่อเห็นว่าแขนของฝู่เซี่ยวเทียนกำลังจะสัมผัสถูกบั้นเอวของสตรีนางนั้นแล้ว พลันเกิดเสียงดังฟุ่บ จู่ๆ ก็ปรากฏหนามสีเขียวสายหนึ่งกางกั้นอยู่เบื้องหน้าสตรีนางนั้น
อ้อมกอดนี้ของฝู่เซี่ยวเทียนหาได้โอบกอดโฉมงามไม่ กลับโอบกอดหนามแหลมเข้าไปเต็มรัก…
————————————————————————————-